บทที่ 413 ช่วงเวลาที่ขุ่นเคืองใครบ้างไม่เคยเห็น พวกสถุน
ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้นมอง เพื่อมองใบหน้าที่กำลัง “น่า
เวทนา” ของจ้าวซิง
เขาย่อมมองออกว่าอีกฝ่ายกำลังเสแสร้ง ทว่าก็แค่ข้าว มื้อเดียว เขาก็ขี้เกียจจะคิดบัญชีอะไรมากมาย
“ได้ ไปเถอะ กินข้าวเสร็จก็จดชื่อในบัญชีฉันไว้แล้ว กัน” ฉินหลั่งพูด
“อาจารย์ฉิน หลายวันมานี้พวกเราหิวจะตาย ก็เลยขึ้น มาที่ชั้นสองเพื่อมาหาของอร่อยกิน” จ้าวซิงเริ่มพูดในสิ่งที่ ตนเองออกอุบายเอาไว้ ด้านข้างเขายังมีนักเรียนห้องหก อีกหลายคนอยู่ด้วย
“ไปเถอะ” ฉินหลั่งก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
พวกนักเรียนกลุ่มนั้นยิ้มทันที จากนั้นก็มีนักเรียนห้อง หกกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาจากด้านนอก
“อาจารย์ฉินใจดีจัง เลี้ยงข้าวพวกเขาไม่เลี้ยง พวกเราด้วยล่ะ”
นักเรียนหญิงหลายคนเริ่มแสดงที่ทางออดอ้อน แถม ทำท่าทางหิวจะตายจะไม่แรงจะเดินแล้ว
“ใช่ หลายวันมานี้เงินค่าข้าวของพวกเราชักหน้าไม่ถึง หลังแล้ว แถมตอนเช้ากระโดดตบไปตั้งพันครั้งจนหมดแรงแล้วเนี่ย…”
“อาจารย์ฉิน ทำอะไรก็ต้องยุติธรรมนะ เลี้ยงแค่พวก เขามันไม่ดีนะ?”
กลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้รายล้อมรอบตัวฉินหลั่งพร้อมทั้ง เรียกร้องกันไม่หยุดหย่อน
ฉินหลั่งถือตะเกียบค้างเอาไว้ จากนั้นก็กวาดตามอง พวก “คนชนชั้นสูง” เหล่านี้แทน ทำไมช่วงนี้ตนเองกินข้าว ยังต้องหาเรื่องด้วย
เขาแค่กวาดตามอง ก็เห็นว่าอึ้งย้งกับจินหู่ไม่อยู่ด้วย คนอื่นๆ ในห้องหกเริ่มออกอุบายอีกครั้ง
“พวกนายไม่มีเงินเหรอ?” ฉินหลั่งเอ่ยปากถาม ทุกคนในห้องหกต่างพยักหน้าตามๆ กัน
“อืม!”
“เพื่อนๆ ห้องหก พวกแกคงไม่เข้าใจฉินหลั่งมั้ง ตอนที่ เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยแค่กินข้าวมื้อเดียวอีกมื้อยัง ไม่มีปัญหากินเลย ขนาดยื่นขอเบี้ยยังชีพยังทำมาแล้วเลย แบบนี้ อย่าทำให้คนจนลำบากใจเลย เดือนหนึ่งเงินเดือน แค่ไม่กี่พันหยวน แค่เงินเฟื้องหนึ่งยังยากลำบากใจเลยที่ จะแบ่งมา ฉันเลี้ยงข้าวพวกนายเอง ไม่งั้นไปรอกินข้าว ของเขาคืนนี้คงปวดท้องจนนอนไม่หลับแน่.. จูจี้เหวิน เดินเข้ามาหาพร้อมทั้งเริ่มฟื้นตะเข็บทับถมฉินหลั่ง
ฉินหลั่งมองการแสดงของจูจี้เหวินอย่างเงียบๆ ที่แท้ ความคิดบ้าบอของเขายังไม่จบจนต้องพูดมันออกมาอีก
“สงสัยพวกนายคงไม่รู้มั้ง ตอนที่ฉินหลั่งเรียนอยู่ มหาวิทยาลัยนั้นทำไมถึงถูกแฟนสาวทิ้ง ก็เพราะว่าไม่มี ตังค์ในกระเป๋าไง คิดเอานะว่าเขาจนมากขนาดนั้น ขนาด แฟนสาวตนเองยังไม่มีปัญหาเลี้ยงเลย กัดก้อนเกลือกิน จนถึงขนาดนั้นแหละ…”
“แกรวยมากหรือไง?” ฉินหลั่งเลิกคิ้วถาม ไอ้หมอนี้จำ เรื่องเขาตอนนั้นได้อย่างแม่นยำ
“มีสิ! อย่างน้อยก็มีเงินมากกว่านายตั้งเยอะ!” จูจี้เหวิน พูดตามปกติ การที่ไม่มีเงินใช้จ่ายถือว่าเป็นข้อเสียของฉิน หลั่ง เขาจะดูว่าฉินหลั่งจะทนได้สักกี่น้ำ เรื่องอื่นไม่รู้แต่ เรื่องไม่มีเงินนี้เป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่อยากจะพูด!
“ได้ ฉันกล้าที่จะเลี้ยงนักเรียนห้อง6/6ของฉันกินข้าว งั้นแกจะเลี้ยงใคร?” ฉินหลั่งถามกลับ
“ขอแค่แกกล้าเลี้ยงข้าวห้อง6/6 งั้นวันนี้ฉันจะเลี้ยง นักเรียนที่นั่งอยู่ชั้นหนึ่งกินข้าวทั้งชั้น!” จูจี้เหวินตะโกน เสียงดังลั่น เพื่อดึงดูดสายตาทุกคนที่อยู่ในโรงอาหาร
ไอ้คนจนไม่มีเงินจะกิน กล้าหยิ่งผยองต่อหน้าเขาจูจี้ เหวิน!
ไม่ยอมอ่อนข้อแถมยังปากดีอีก!
จูจี้เหวินหันหลังไปมองภายในโรงอาหาร เพื่อ ประมาณผู้คนที่นั่งอยู่ในโรงอาหารชั้นหนึ่งมีประมาณเจ็ด แปดร้อยคนได้ คนละหนึ่งร้อยหยวน ก็เจ็ดถึงแปดหมิ่น หยวน สำหรับจูจี้เหวินแล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่ทำให้ ความจองหองของฉินหลั่งมันลดน้อยลงไป ไม่ว่าจะจ่ายมากมายเพียงใด เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก
“อีกอย่าง แกกล้าเพิ่มเงื่อนไขไหมล่ะ?!” จูจี้เหวินอวด รวย พร้อมทั้งโชว์อำนาจบารมี
“เงื่อนไขอะไรเพิ่มอีก?” ฉินหลั่งถามกลับ
“แกกล้าเลี้ยงนักเรียนห้องหกสามมื้อ ฉันก็จะเลี้ยงข้าว คนที่ชั้นหนึ่งสามมื้อ แกกล้าเลี้ยงสิบมื้อ ฉันก็จะเลี้ยงสิบ มื้อ แกกล้าเลี้ยงหนึ่งร้อยมือ ฉันก็กล้าเลี้ยงข้าวร้อยมื้อ เป็นไงฉินหลั่ง?” จูจี้เหวินพูดอย่างดูถูกดูแคลน เพราะว่า เขารู้สถานภาพทางบ้านของฉินหลั่งดี ก็เป็นเพื่อน มหาวิทยาลัยมาด้วยกันนี่1
เขาย่อมรู้ดีว่าฉินหลั่งไม่กล้า ฉินหลั่งเพิ่งจะเข้ามา ทำงานได้ไม่นาน แถมไม่มีเส้นสายหนุนหลังอีก หัวเดียว กระเทียมลีบ จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาเสมอภาคกับ เขา?!
ก็แค่อยากให้คนอย่างแกฉินหลั่งพ่ายแพ้ราบคาบ ให้ แกรู้ถึงความร้ายกาจของคุณชายอย่างฉัน!
มุมปากจูจี้เหวินกระตุกรอยยิ้มอันแสนเย็นชา!
นี่มันเป็นการอวดรวยชัดๆ เลยเนี่ย? แล้วฉินหลั่งจะทำ ยังได้?! พลันนึกถึงใบหน้าจูจี้เหวินในปีนั้นที่แย่งแฟนสาว ของฉินหลั่งมาใช้การใช้เงินเป็นตัวหลอกล่อมา
ทว่าสิ่งที่ทำให้จูจี้เหวินแปลกใจก็คือ
“ได้ แกไปเรียกคนมา พวกเราขึ้นไปบนตึกกัน!” ฉิน หลั่งสนุกสนานมาก ขนาดที่หัวคิ้วยังไม่ได้คลายออกจากกันด้วยซ้ำ
จูจี้เหวินยังไม่ทันเรียกใครเลย จ้าวซิงกับเฉินเหมิง เลี่ยงก็เริ่มตะโกนแหกปากแล้ว
พวกเขาไม่สนด้วยซ้ำว่าใครจะแพ้หรือใครจะชนะ ถึง อย่างไรก็ก่อเรื่องวุ่นวายยิ่งมากขึ้นไปเรื่อยมันดีมาก เพราะมีข้าวฟรีให้กัน ยังไม่รีบลงมืออีก?
สีหน้าโอ้อวดของจูจี้เหวิน ถือว่าใช้โอกาสในการกด ฉินหลั่งให้จมดิน จอมปลอม ฉันให้แกโกหกหน้าด้านไป เดี๋ยวก็โป๊ะแตกแล้วมั้ง เดี๋ยวก็ตายคามือกูเอง! ทุกคนเดินเคียงบ่าเคียงไหล่เดินขึ้นชั้นสอง จากนั้นก็
เรียกเจ้าของร้านออกมา เจ้าของร้านรีบตอบรับทันควัน
“นักเรียนทุกคน นักเรียน อย่ารีบร้อน…”
“ฉันเลี้ยงข้าวห้องหกกี่มื้อ แกก็เลี้ยงตามฉันใช่ไหม?”
ฉินหลั่งพูดกับจูจี้เหวิน “ใช่ พูดต่อหน้าทุกคนเนี่ยแหละ แกเสียใจภายหลัง แล้วสิ?!” จู้จี้เหวินยิ้มเย็นชาใส่
“ตอนนี้แกอยากจะข้อร้องฉันแล้วสิว่าให้ฉันปล่อยแก ไปสักครั้ง ไม่งั้นจิตวิญญาณของแกก็จะได้รับผลกระทบ จนบาดเจ็บสาหัสเหมือนตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย!” จูจี้เหวิน พูดจาเยาะเย้ยถากถาง
ฉันมั่นใจว่าฉินหลั่งแค่เลี้ยงข้าวห้ามื้อกับรับสภาพไม่ ไหวแล้ว คงต้องยอมแพ้ง่ายๆ แน่
จูเจี้เหวินมั่นใจเต็มร้อย
“ได้ เจ้าของร้านก็อยู่ที่นี่ พวกนายทุกคนก็ฟังให้ดี ฉัน จะประกาศแล้ว นักเรียนห้องหกทับหก สามารถสั่งอาหาร ชั้นสองได้ทุกอย่าง วันละสามมื้อ ตลอดทั้งสามเดือน ค่า อาหารทั้งหมดฉันจ่ายเอง!”
“ฮ่าๆ แซ่เฉินเอ๋ย อย่าทำปากแข็งไปหน่อยเลย พูด ออกมาเปลืองน้ำลายเปล่าๆ! แกต้องดูด้วยว่าในกระเป๋า สตางค์ของแกยังมีเงินพอซื้อข้าวกี่มื้อค่อยตัดสินใจดีกว่า ไหม! ทุกคนฟังเข้าใจแล้วนะ?! ถึงเวลานั้นเขาคงไม่มีเงิน มาจ่ายได้ จนถึงกับม้วนเสื่อแอบหนีออกไปแทน!”
จูจี้เหวินวิเคราะห์ในความเชื่อมั่นของตนเองเป็นอย่าง มาก!
“เถ้าแก่ รวมยอดมาทั้งหมดเลยว่าเท่าไหร่?” ฉินหลั่ง หันกลับไปถาม
“ทั้งหมดก็ 713,000” หลังจากที่เจ้าของร้านคิดเงิน อย่างไวปานจรวด ก็กล่าวขึ้นมา
“หืม! ตั้งเจ็ดแสนกว่าเลยนะ!” จูจี้เหวินเริ่มแสดงละคร เยาะเย้ยใส่ “แกมีเงินเจ็ดแสนกว่าด้วยเหรอ???” ท่าทีการ แสดงออกเช่นนั้นก็เหมือนกับคำถามที่ว่าคนงานมีเมียได้ ด้วยเหรอ???
ฟิ้ว!
บัตรเครดิตใบหนึ่งถูกโยนออกไป!
“รูดบัตร!” ฉินหลั่งจ้องมองจูจี้เหวินพร้อมทั้งแสยะยิ้ม ให้อย่างเย็นชาใส่!
จูจี้เหวินตะลึงไปชั่วครู่! พลันตะคอกใส่ทันที
“แกนี่มันช่างแกล้งโกหกตีหน้าตายได้อีก! เอาบัตร เครดิตออกมาก็คิดว่าสามารถหลอกสายตาทุกคนได้แล้ว สิ? ก็แค่อยากให้ฉันตกใจเล่นว่างั้นสิ?!” จูจี้เหวินแสยะยิ้ม
ให้!
“ตั้ง!”
ทางฝั่งเจ้าของร้านเอาบัตรออกไปรูด ก็มีใบเสร็จออก มาหนึ่งแผ่น
จูจี้เหวินประหลาดใจอยู่มาก พร้อมทั้งรีบเอาใบเสร็จ ใบเล็กๆ นั่นเอามาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน
“จริงเหรอเนี่ย? เจ็ดแสนกว่าเลยเหรอ?” จูจี้เหวินไม่ อยากจะเชื่อ
เขาจำได้ดีว่าฉินหลั่งแทบจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินนี่หน่า แล้วเงินพวกนี้เอามาจากไหนกัน?
“เป็นไปไม่ได้!”
ไม่ใช่ว่าแกไปทำงานpart-timeข้างนอกเพื่อเอามาเป็น ค่าเทอมหรอกเหรอ? มันเพิ่งจบมาได้ไม่กี่วันเอง?!
ไม่ใช่ว่าไปเป็นบอดี้การ์ด ของนักเรียนบางคนไม่ใช่เห
รอ?!
จูจี้เหวินเริ่มมีอาการสับสน.
“เฮ้ย! อาจารย์ จู คุณอย่าเพิ่งตกตะลึงอยู่นั่นแหละ ถึง ตาคุณแล้ว เถ้าแก่คิดตังค์สิ คนแปดร้อยคนมันรวมแล้ว เท่าไหร่?” เฉินเหมิงเลี่ยงถามทันที
“คิดไว้แล้ว ทั้งหมดมัน21ล้าน6แสน!” เจ้าของร้านมอง
มาทางจูจี้เหวิน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ