บทที่ 204 ทำประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
“คุณชายซุน นายรู้เรื่องของคุณหลงละเอียดดี เหมือนกันนิ ฮ่าๆๆ” คนรอบๆหัวเราะเยาะเย้ยซุนเจี้ยน “นี่ยังต้องพูดอีกเหรอ คุณชายซุนเป็นเป็นคนที่
ตามจีบหลงหลิงคนแรกนี่เนอะ” แล้วก็มีลูกเศรษฐีคน หนึ่งพูดต่อ ทันใดนั้นก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นที่ห้อง ประชุม
“พวกนายอย่ามาหัวเราะฉันนะ อานซิน หลัวจื้อ หลังจากนั้นพวกนายก็ตามจีบคุณหลงหลิงด้วย เหมือกไม่ใช่เหรอ จริงๆเลยซุนเจี้ยนพูดกับหยูหมิ งอีกครั้งว่า “คุณหลงนั้นจีบยากมาก เริ่มจากผม หลังจาก นั้นพวกเราอีก 5-6คนก็ต่างพากันจีบคุณหลงหลิง แต่ว่า เธอไม่เอาใครทั้งนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าสเปคผู้ชายของ เธอเป็นยังไงกันแน่
หยูหมิงพยักหน้า เมื่อวานหลังจากที่ได้อยู่กับ หลงหลิงนั้น เขาก็พบว่า หลงหลิงนั้นเย็นชากับเขาเล็ก น้อย ไม่ใช่คนที่จะจีบได้ง่ายๆ
คุณชายหยู นายคงไม่ได้ชอบคุณหลงหลิง หรอกใช่ไหม?ซุนเจี้ยนเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
“คุณชายซุน สมองนายเป็นสนิมทำยังไงกัน คุณ ชายหยูหมั้นกับหลงเย็น คุณหญิงรองของตระกูลหลง แล้ว เดี๋ยววันที่ 15 กันยาก็จะแต่งงานแล้ว หลงหลิงเป็น
พี่สาวของคุณหลงเย็น แล้วคุณชายหยูจะไปชอบคุณหลงหลิงได้ยังไงกัน?” ลูกเศรษฐีคนหนึ่งหัวเราะออกมา คนอื่นก็แค่รู้สึกว่าคุณชายหยูรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับหลง หลิงเท่านั้นเอง
“ถ้าฉันชอบหลงหลิงแล้วมันจะทำไมกันล่ะ?”หยู หมิงยิ้มบางๆ ทันใดนั้นก็พูดออกมา
คนอื่นๆพอได้ยินคำพูดของหยูหมิง ก็ประหลาด ใจ แล้วก็คลี่ยิ้มออกมาทันที
“ใช่สิ คุณชายหนูยังไม่ได้แต่งงานเลยจะรักใคร ก็เป็นสิทธิของคุณชายหยู”
“คุณชายหยูตระกูลก็มั่งคั่ง ถึงแม้ว่าจะอยากได้ ทั้งพี่ทั้งน้อง แล้วมันจะทำไมกันล่ะ?”
“ไม่ผิด คนอย่างคุณชายหยูเนี่ย จะมีเมียสามคน สนมสี่คนก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? เงินของคุณชายห ยูจะเลี้ยงคนรักหลายร้อยคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
พอหม่าหยางได้ยินว่าหยูหมิงอยากจะจีบหลงหลิ งอย่างที่คิด ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา ทันใดนั้นก็พูดออกมาเสียง ดังว่า “คุณชายหยู ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะตามจีบหลง หลิงล่ะก็ บางทีฉันอาจจะพอมีวิธีบางอย่างอยู่นะ”
สายตาของหยูหมิงและคนอื่นๆก็มารวมอยู่ที่หม่า หยางในทันที
“คุณชายหม่า นายอย่ามาขี้โม้ไปหน่อยเลย ฉันจำ ได้ว่านายก็เคยจีบคุณหลงเหมือนกัน แต่ว่าแม้แต่ข้าวมื้อเดียวยังไม่ทันได้กินด้วยกันเลย ก็ถูกคุณหลงปฏิเสธซะ แล้ว เหมือนกับว่าตอนนั้นที่มีไอ้ขี้แพ้คนหนึ่งสารภาพรัก กับคุณหลง แต่ว่าสถานการณ์ของนายยังแย่กว่าไอ้ขี้แพ้ นั่นซะอีก”
ซุนเจี้ยนพูดอย่างเหยียดหยาม ในห้องวีไอพีนี้ นอกจากตำแหน่งของหยูหมิงที่จะอยู่เหนือกว่าทุกคน เยอะ อำนาจของคนอื่นๆก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก คุณชายหม่าคนหนึ่งก็อยู่ในระดับกลางๆสำหรับพวกเขา เท่านั้น ซุนเจี้ยนคิดว่าหม่าหยางจะแย่งโอกาสในการ ประจบประแจงหยูหมิง เพื่อที่จะปรับตำแหน่งของตัวเอง ในแวดวงนี้ ปกติแล้วเขากับหม่าหยางก็ไม่ค่อยชอบหน้า กันเท่าไหร่นัก เลยพูดอย่างเยาะเย้ย
หม่าหยางยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันโดนปฏิเสธมา แล้วมันหมายความว่าคุณชายหยูก็จะโดนเหมือกันยังงั้น เหรอ? คุณชายซุน นายหมายความว่าแบบนี้รึเปล่า?”
ซุนเจี้ยนรีบโบกมือทันที แล้วก็พูดกับหยูหมิงว่า “คุณชายหยู ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเลยนะ!” “ถ้าไม่ใช่นายก็หุบปากไปซะ ทำไมต้องพูดอะไร
ให้มันมากมายขนาดนั้น!”หม่าหยางพูดอย่างเย็นชา ซุน เจี๊ยนอยากจะระเบิดอารมณ์ใส่หม่าหยางจริงๆ แต่ว่าอยู่ที่ งานเลี้ยงต้อนรับหยูหมิ่งนั้นมันก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่า ไหร่ ก็เลยพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้
“คุณชายหม่า นายบอกว่านายมีวิธีที่จะช่วยให้ฉัน จีบคุณหลงหลิงได้ มันคือวิธีอะไรกัน?” สายตาของหยูห มิงเป็นประกายเล็กน้อย
หม่าหยางหยิบไดอารี่ของจงยู่ออกมาจากอกของ ตัวเอง ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “คุณชายหยู ถ้าเกิดว่ามีสิ่งนี้ นายก็สามารถตามจีบคุณหลงหลิงได้แล้ว”
ทุกคนต่างก็มองไปที่สมุดที่หม่าหยางหยิบออก มา แล้วก็ต่างพากันลูบหัวของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะเอาสมุด เล่มหนึ่งไปตามจีบคุณหลงหลิงได้ยังไงกัน
หยูหมิงรับสมุดเล่มนั้นไป มองไปมองมาก็ยังไม่ เข้าใจ แล้วก็มองไปที่หม่าหยางด้วยความสงสัย
“คุณชายหยู ฉันสงสัยว่าคุณหลงหลิงก็คือตัว ละครเอกในไดอารี่เล่มนี้จงยู่แต่ว่าคุณหลงหลิงก็แค่ สูญเสียความทรงจำเท่านั้นเอง” หม่าหยางพูด
“อ้อ…”หยูหมิงแสดงท่าทางเป็นการบอกว่าให้ หม่าหยางพูดต่อได้
“เมื่อกี้นายก็ได้ยิน ว่าฉันเคยจีบคุณหลงหลิง ตอนนี้มีไอ้ขี้แพ้ข้างถนนคนหนึ่ง เอาแต่เรียกคุณหลง หลิงว่า จงยู่หลังจากนั้นที่โล่ว่ายโล่ฉันกับมันได้ทำ อาหารให้คุณหลงทาน พอคุณหลงได้กินข้าวโพดที่มัน ทำ ก็น้ำตาไหลลงมา นายลองดูสิว่าวันที่ 17 เมษายนใน ไดอารี่เล่มนี้เขียนว่าอะไร”
หยูหมิงเปิดไดอารี่เล่มนั้นไปวันที่ 17 เมษายน ก็ เห็นว่าในนั้นเขียนไว้ว่า :
” วันนี้ฉันนึกถึงสมัยเด็กๆอีกแล้ว เพราะว่า ข้าวโพด กับ แฮมเบอร์เกอร์ ” ทำให้แม่ต้องเสียใจ ตอนนี้ พอฉันได้กินข้าวโพด น้ำตาก็จะไหล….”
ความคิดของหยูหมิงทำงานทันที เขาคิดอยู่ใน หัว ใบหน้าก็เก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ มองหน้าหม่าหยาง แล้วพูดว่า “คุณชายหม่า มานั่งกับฉันนี่มา ฉันต้อง ขอบคุณนายจริงๆ”
“ครับ….”หม่าหยางรู้สึกดีใจ แล้วก็ขยับไปนั่ง ข้างๆหยูหมิง พูดคุยหัวเราะดื่มเหล้ากับหยูหมิง คนอื่น เห็นว่าหม่าหยางได้สนิทกับหยูหมิงมากขึ้นไปอีกขั้น หนึ่งเพราะว่าไดอารี่เล่มนั้น ก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก
“นายคิดว่าฉันควรจะจีบหลงหลิงยังไงดี?” หยูห มิงถาม
“ในไดอารี่เล่มนั้นจงยู่มีแฟนที่ชื่อว่าฉินหลั่ง ขอ แค่คุณชายหยูทำเรื่องที่จงยู่เคยทำกับฉินหลั่งกับคุณ หลงหลิงอีกครั้งหนึ่ง ฉันคิดว่าคุณหลงก็ต้องตกหลุมรัก คุณชายหยูเหมือนกับที่จงยู่ตกหลุมรักฉินหลั่งนั่นแหละ” หม่าหยางยิ้มอย่างสบายๆ
“อืม พอดี ฉันเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน” คุณชาย หยุปรบมือด้วยความยินดี แล้วก็ละสายตามา นึกถึงตอน ที่หลงหลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน เหมือนกับ ว่าฉาวหนิงก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเจียงหนานเหมือนกัน ก็เลยโบกมือเรียกฉาวหนิง “ฉาวหนิง มานี่หน่อย”
วันที่สอง หลงหลิงได้รับโทรศัพท์จากหยูหมิง บอกว่าเขาจะมาหาเธอที่มหาวิทยาลัยเจียงหนาน หลง หลิงไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จนถึง10โมง เธอก็มาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย ก็เจอกับหยูหมิงที่นั่น
หลงหลิงรู้สึกแปลกใจ วันนี้หยูหมิงนั้นแต่งตัว ธรรมดามาก ไม่ค่อยต่างจากฉินหลังเท่าไหร่เลย เขาไม่ ได้ขับรถมา แต่ว่าปั่นจักรยานมาแทน ไม่ได้มีออร่าของ ความเป็นคุณชายแห่งครอบครัวอันดับหนึ่งของหลิน อานเลยแม้แต่นิดเดียว มองดูเหมือนกับพวกขี้แพ้คน หนึ่งเท่านั้น
“คุณชายหยูคุณ….” หลงหลิงลูบหัวตัวเอง แล้วก็ ถามด้วยความประหลาดใจ
“อ้อ ผมรู้สึกว่าในฐานะนายทุน ผมควรสัมผัสกับ ความยากลำบากของคนชั้นแรงงานบ้าง ยังไงเงินของ ผมก็มาจากประชากรทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ผมก็เลยตัดสินใจ ว่า ช่วงนี้จะใช้ชีวิตเป็นยาจกคนหนึ่ง” คุณชายหยูยิ้ม พร้อมกับพูดออกมา
“อ้อ แบบนี้นี่เอง…” หลงหลิงงงงวย ในใจก็คิดว่า งานอดิเรกที่คุณชายหยูสนใจนี่ช่างพิเศษจริงๆ หลังจาก นั้น หลงหลิงก็พาหยูหมิงเดินรอบๆมหาวิทยาลัยเจียง หนาน ดูวิวทิวทัศน์ของมหาลัย
เวลาผ่านไปแป๊บเดียวก็จะ”โมงแล้ว หยูหมิงพูด ว่า “หลงหลิง พวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารมหาลัยคุณ ดีไหม? ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเงินติดตัวเยอะเาไหร่ เพราะ ฉะนั้นคุณอย่าถือสาเลยนะ”
หลงหลิงพาหยูหมิงมาที่โรงอาหารส่วนตัวของ มหาวิทยาลัยเจียงหนาน “สื่อเทียนอีหยู” มีหลายคนกำลังต่อแถวรอซื้ออาหารอยู่
“คุณเป็นผู้หญิง นั่งรอเถอะ เดี๋ยวผมไปซื้ออาหาร มาให้เอง” หนูหมิงให้หลงหลิงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้ว ตัวเองก็ไปต่อแถว ตอนนี้เอง ก็มีผู้หญิงสามคนเดินเข้ามาจากด้าน
นอก พอเข้ามาแล้วก็พูดเสียงดังว่า “นี่ ทำไมคนที่แต่ง
ตัวเหมือนยาจกแบบนั้นเข้ามากินข้าวที่ “สือเทียนอีห
ยูได้ล่ะ?”
หลงหลิงกำลังสงสัยว่าพวกเธอกำลังพูดถึงใคร กัน ก็เห็นว่าผู้หญิงสามคนนั้นเดินไปข้างๆหยูหมิง แล้วก็ กอดอกพร้อมกับมองหน้าเขาแล้วยิ้มเยาะ “ไอ้ยาจก ฉัน ว่านายน่าจะเป็นนักศึกษาที่จนที่สุดในมหาวิทยาลัยเจียง หนานเลยสินะ? นายยังมากินข้าวที่สือเทียนอีหยู”ได้ ด้วยงั้นเหรอ…”
“ใช่ นายควรจะไปกินข้าวที่โรงอาหารสิ มันคือที่ๆ นายควรจะไป”
“ฉันจำเขาได้ เขาเป็นนักเรียนที่ยากจนที่สุดใน ภาควิชาชีววิทยา ได้ทุนการศึกษาจากมหาลัยทุกปี”
หลงหลิงขมวดคิ้วแน่น ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไป หยุดอยู่ตรงหน้าผู้หญิงพวกนั้น “พวกเธอจะเกินไปแล้ว นะ รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร…”
หลงหลิงกำลังจะบอกตัวตนของหยูหมิง แต่ว่าห ยูหมิงดึงมือเธอไว้ก่อน แล้วก็ส่งสายตาเป็นนัยว่าให้เธอหยุด หลงหลิงกัดฟัน ไม่ได้พูดต่อ
“คุณหลง คุณอย่าไปเห็นใจพวกยาจกแบบนี้เลย ฉันว่านะเขาก็แค่อยากจะหลอกใช้ความเห็นใจจากคุณ เพื่อใกล้ชิดคุณเท่านั้นเอง” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมา ตอนนี้เอง ก็ถึงคิวหยูหมิงซื้อข้าวแล้ว หยูหมิงพูด
กับเจ้าของร้านว่า “ผมขออาหารทะเลสองจาน แล้วก็
น้ำแร่ Evian สองขวดครับ”
พอหยูหมิงพูดจบ ผู้หญิงทั้งสามคนนั้นก็เข้ามา ล้อมรอบเขาแล้วก็พูดจาถากถาง
“ไอ้ยาจก กินสองจานไม่กลัวกินจนตายเลยเห รอ!”
“ทุกคนรีบมาดูเร็ว แต่งตัวเหมือนกับขายของ แผงลอยอยู่ข้างถนน เขาต้องเป็นนักศึกษาที่ได้ทุนจาก มหาวิทยาลัยเจียงหนานแน่นอน พวกเธอมาดูสิ เอาเงิน ทุนมาทำอะไรงั้นเหรอ? อาหารทะเล น้ำแร่Evian ของ พวกนี้พวกเราจะกินยังต้องคิดเลย แต่ว่าไอ้ยาจกคนนี้สั่ง โดยที่แทบไม่ได้กระพริบตาด้วยซ้ำ คนแบบนี้ควรให้มัน ออกจากมหาวิทยาลัยไป เอาเขาไปโพสต์ลง อินเตอร์เน็ต ให้เขาได้รับการล้างบาปบนอินเตอร์เน็ต!”
นักเรียนคนอื่น ๆ ที่กินข้าวอยู่รอบ ๆ ก็พยักหน้า และกระซิบ
“คนๆนี้จริงๆ เอาเงินทุนมาใช้อย่างมีความสุข”
“จนแบบนี้แล้วยังไม่รู้จักขยันอีก”
“เฮ้อ ชีวิตก็น่าจะจนไปตลอดชีวิตนั่นแหละ”
ไม่ผ่านอาหารทะเลของหยูหมิงก็เสร็จแล้ว หยูห มิงรับถุงพลาสติกมาจ่ายเงิน เตรียมจะออกจากที่นี่
“ยาจนคนนี้จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเกินไปแล้ว โดนซักทีซิ!” ผู้หญิงคนนั้นพูดแล้วก็จะยกเท้าเตะกันของ หยูหมิง จู่ๆหยูหมิงก็เหลือบไปมองผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิง คนนั้นอดใจสั่นไม่ได้ เธอเซและก็เกือบจะล้มลว
หยูหมิงกับหลงหลิงออกมาจากโรงอาหารแล้ว
ผู้หญิงทั้งสามคนนั้นก็เดินออกมาจากโรงอาหาร แล้วก็รีบวิ่งไปที่สนามหญ้าข้างโรงอาหาร ตรงกลางมี ต้นทับทิมอยู่ แล้วก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ คนนั้นก็คือ ฉาวหนิง
“ทำได้ไม่เลวเลย!” ฉาวหนิงโอนเงินจาก โทรศัพท์ให้ผู้หญิงทั้งสามคนนั้นหมื่นหนึ่ง
“ขอบคุณค่ะคุณชายฉาว ขอบคุณค่ะ….” ผู้หญิง คนนั้นเอาแต่โค้งคำนับขอบคุณ “คุณชายฉาวคะ ทำไม ถึงให้พวกเราไปถากถางเขาล่ะคะ? คุณหลงดูปกป้อง ยาจกคนนั้นมากอยู่นะคะ พวกเรากลัวจะตายอยู่แล้ว
“เพราะว่าในไดอารี่เขียนไว้แบบนี้” ฉาวหนิงพูด นิ่งๆ
“อะไรนะ? ไดอารี่ ความหมายของคุณคือ…” ผู้ หญิงทั้งสามคนนั้นไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเธอเห็นว่าฉาวหนิงไม่ได้พูดอะไร ก็เลยไม่พูดเรื่องนี้อีก ผู้ หญิงคนเมื่อกี้ที่อยากเตะหยูหมิงในโรงอาหารนั้นเอ่ย ปากถามว่า “ใช่ส่ คุณชายฉาว ไอ้ยาจกคนนั้นคือใครกัน แน่คะเขาหน้าตาดีมากเลยนะ เมื่อกี้พอจ้องหน้าฉัน ฉัน ตกใจจนแทบล้มลงไปกองที่พื้นแหนะ”
“ก่อนหน้านี้กลัวว่าพวกเธอจะเป็นกังวล ก็เลยไม่ ได้บอก งั้นตอนนี้บอกก็แล้วกัน แต่ว่าพวกเธอต้องเก็บ ความลับไว้นะ ไม่ยังงั้นผมที่ตามมามันจะต้องร้ายแรง แน่นอน” ฉาวหนิงเห็นว่าหญิงสาวทั้งสามคนมองมาที่ตัว เองด้วยสายตาที่จริงจัง ก็เลยกระซิบพร้อมพูดว่า “เขาก็ คือคุณชายแห่งครอบครัวอันดับหนึ่งในหลินอาน-หยูห์ มิ่ง คุณชายหยูหมิงไง!”
“อะไรนะ!” ในหัวของผู้หญิงพวกนั้นมีเสียงดัง “พืบ” หน้าซีดลงเหมือนกับฝุ่นในทันที ขาทั้งสองข้าง อ่อนแรง เกือบจะล้มลงที่พื้น
หยูหมิงกับหลงหลิงเดินอยู่บนทางใน มหาวิทยาลัยเจียงหนาน
“เพราะว่าผมอยากจะสัมผัสกับชีวิตของพวกคน ยาจกจริงๆว่าเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเมื่อกี้ก็เลยห้ามคุณ ไว้ คุณไม่ได้โกรธใช่ไหม?” หยูหมิงเอ่ยปากถาม
“คุณชายหยู คุณพูดตลดแล้ว ฉันไม่ได้โกรธ” ตอนนี้เองหลงหลิงกลับรู้สึกว่า หยูหมิงคนนี้ช่างมีความ อดทนมาก ในใจเธอก็รู้สึกชื่นชมเขาขึ้นมา
“ถ้ายังงั้นก็ดีแล้ว พวกเราไปกินข้าวที่ทะเลสาบเทียมกันดีไหม ตรงนั้นวิวไม่เลวเลย” หยูหมิงยิ้มพร้อม กับพูด หลงหลิงพยักหน้า แล้วทั้งสองคนก็ไปกินข้าวที่ ทะเลสาบเทียมกัน
หยูหมิงวางข้าวลงบนหิน แล้วก็เสนอให้หลงหลิง เดินรอบๆทะเลสาบด้วยกัน ชมทิวทัศน์ริมทะเลสาบ ตอน ที่เดินอยู่ริมทะเลสาบนั้น หยูหมิงก็สังเกตเห็นว่ามี กระดาษสีฟ้าแผ่นหนึ่งอยู่บนสนามหญ้า นี่คือเขา สัญลักษณ์ที่เขาบอกให้ฉาวหนิงทำไว้ให้
“หลงหลิง ที่นี่สวยมากจริงๆนะ..” อยู่ดีๆหยูหมิง พาหลงหลิงไปตรงสนามหญ้าบริเวณนั้น หลงหลิงลื่น แล้วก็ร้องออกมา ทันใดนั้นก็มีเสียง “ซูม” เธอตกลงไป ในทะเลสาบนั้น
“ช่วยด้วย..”หลงหลิงพ่นน้ำ พร้อมกับร้องออก มาเสียงดัง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ