รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 202 พวกเราดีกันเถอะ



บทที่ 202 พวกเราดีกันเถอะ

“คุณชาย..”คนอื่นๆรีบเข้ามาพยุงคุณชายลู่

ทันที “โรคโลหิตจางกำเริบอีกแล้วเหรอครับ? สองคนนี้ จะจัดการยังไง? หรือว่าให้พวกเรามัดพวกมันไว้ แล้วก็ ให้พวกมันคุกเข่าอยู่ที่พื้นแล้วเรียกเราว่าพ่อ สุดท้ายก็ โยนมันลงแม่น้ำไปแล้วก็จบ….”

“หุบปาก!”

คุณชายลูกตะคอกออกมาด้วยความโกรธ เขารีบ ยื่นมือไปปิดปากคนที่พูดอยู่นั้น หลังจากนั้นก็สะบัดมือ ของคนอื่นออก แล้วก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าหยูหมิงอ ย่างรวดเร็ว แล้วก็โค้งคำนับต่ำมาก พร้อมกับยื่นมือออก มาตบปากตัวเองสองครั้ง พร้อมกับกล่าวด้วยความกลัว และกังวล “คุณชายหยู ขอโทษด้วยครับ สิ่งที่ผมพูดกับ คุณไปเมื่อกี้ผมด่าตัวเอง ผมมันคนโง่…”

ท่าทางของคุณชายลู่แบบนี้ทำให้ทุกคนตกใจ พวกเขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่า หนุ่มวัยรุ่นคนนี้เป็นใคร กันแน่ ถึงทำให้คุณชายลู่หวาดกลัวจนเป็นขนาดนี้ได้

“ลูกน้องนายไม่ได้บอกให้นายจัดการฉันงั้นเห รอ?”หยูหมิงพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา

“ต่อให้ผมยืมความกล้ามาอีกสิบเท่า ผมก็ไม่กล้า แตะคุณชายหยูแม้แต่ปลายนิ้วหรอกครับ”คุณชายลูตอบ อย่างสั่นๆ พร้อมกับหันไปมองลูกน้องเขาทั้ง 20กว่าคน นั้น พร้อมกับขมวดคิ้วแล้วกระซิบว่า “พวกแกได้เจอคุณชายของตระกูลหยูแห่งหลินอานแล้ว ยังจะมัวงง อะไรกันอยู่อีก!”

คุณชายตระกูลหยู! ลูกน้องของคุณชายลู๋พร้อม กับคนที่มุงดูอยู่รอบๆก็ต่างตกใจ ทุกคนต่างก็อุทานว่า “คุณพระ” “ฉันก็ว่าทำไมถึงได้มีออร่าขนาดนี้ ที่แท้ก็คือ คุณชายหยูนี่เอง” “จะบอกว่าทั้งหลินอานเป็นของเขาก็ ไม่เกินไปหรอกนะ” “คุณชายลู่เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายห ยูก็เป็นแค่กากเดนแค่นั้นเอง”

ฉินหลั่งตกใจ ที่แท้คนๆนี้ก็คือคุณชายแห่ง ครอบครัวตระกูลอันดับหนึ่งของหลินอานนี่เอง มิน่าล่ะ ถึงได้ดูมีพลังอำนาจขนาดนี้ ตอนนี้เขาเองก็ถึงได้เข้าใจ แล้ว ว่าทำไมพอหลงเย็นได้ยินชื่อนี้ ถึงได้กลัวขนาดนี้ ที่แท้เขาก็คือคู่หมั้นของเธอนั่นเอง

ลูกน้อง20กว่าคนก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม แล้วก็ คำนับหยูหมิง พร้อมกับพูดพร้อมกันว่า “คุณชายหยู สวัสดีครับ!”

ท่ามกลางนั้นไอ้ผมทองกับพวกทั้งสี่คนก็กลัวจน ใจสั่น เหงื่อออกเต็มหน้าผากและฝ่ามือไปหมด

“ไอ้ผมทอง ! พวกมึงถึงสามคนมานี่เดี๋ยวนี้!” คุณชายลู่ขมวดคิ้ว แล้วก็ตะโกนเรียกพวกไอ้ผมทอง เขา แทบรอไม่ไหวที่จะฆ่าไอ้ทั้งสี่คนนั้นตอนนี้เลย

“ครับ…..”ไอ้ผมทองกับพรรคพวกทั้งสี่คนตอบ

ด้วยเสียงสั่น ไอ้ผมทองกลัวจนฉีราด น้ำอุ่นๆไหลลง

มาระหว่างขาของเขา
ทั้งสี่คนขยับเข้ามาอยู่ตรงหน้าหยูหมิงอย่างยาก

ลำบาก

“พลัก”

คุณชายลูตรบหน้าทุกคนอย่างไม่เกรงใจ ตบพวก นั้นจนหูเกือบหนวก คุณชายลู่เดินไปด้านหลังของทั้งสี่ คนนั้น แล้วก็เตะเข่าของพวกเขา “พลักๆๆๆ” เสียงดังขึ้น สี่ครั้ง ทั้งสี่คนก็คุกเข่าลงบนพื้น

“ขอโทษคุณชายหยูเดี๋ยวนี้!”คุณชายลู่ตะคอก

“ครับๆ….”ไอ้ผมทองกับพวกทั้งสี่คนซื่อบื้อไป หมดแล้ว พวกนั้นโค้งคำนับหยูหมิงในทันที “คุณชายหยู ผมผิดไปแล้ว ผมไม่มีตาเอง ผมขอกราบล่ะครับ ให้อภัย ผมเถอะ..”

“คุณชายหยู พวกเราผิดไปแล้ว…

“พวกเราเป็นคนโง่…”

“ขอร้องคุณให้อภัยพวกเราเถอะครับ…”

“แล้วพวกแกไม่พูดกับเพื่อนท่านนั้นด้วยเหรอ?” คุณชายหยูเหลือบมองไปที่ฉินหลัง แล้วก็พูดนิ่งๆ

“รีบไปขอโทษคุณชายบ้านรวยคนนั้นเดี๋ยวนี้” คุณชายลู่เตะไปที่พวกไอ้ผมทองทั้งสี่คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ ที่พื้น แล้วก็ตำหนิ

ไอ้ผมทองจะกล้าพูดว่าคับแค้นใจได้ยังไงกัน รีบ คลานไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉินหลั่ง แล้วก็คุกเข่าเหมือนกับที่ทำกับคุณชายหยูเมื่อกี้นี้ ท่าทางเหมือนกำลังจะ ร้องไห้อยู่แล้ว พร้อมกับพูดว่า “คุณชายบ้านรวย ก่อน หน้านี้ผมผิดเอง ผมมันเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่น ผมต้อง ขอโทษคุณด้วย ผมสมควรตาย ผมมันไม่ใช่คน..”

“ผมไม่คู่ควรแม้กระทั่งให้คุณยกรองเท้าขึ้นมา ด้วยซ้ำ…

“เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณแล้วผมยังมีค่าน้อยกว่าลมตด ด้วยซ้ำ”

“เพื่อนคนนั้น นายรู้สึกว่าแบบนี้โอเคไหม?” คุณ ชายหยูมองหน้าฉินหลั่งพลางถามพร้อมกับยิ้มบางๆ

“โอเคแล้วครับ” ฉินหลังพยักหน้าและตอบ

“โอเค พวกแกไสหัวไปได้ละ!” คุณชายหยู โบกมือให้คุณชายลู่ แล้วก็ตำหนิออกมา

“ครับ คุณชายหยู สบายใจได้เลยครับ กลับไปผม จะต้องสั่งสอนไอ้พวกลูกน้องโง่เง่าเต่าตุ่นที่ไม่รู้จักที่ต่ำ ที่สูงของผมให้ได้เลย ถ้ายังงั้นผมไปก่อนนะครับ ไว้เจอ กันใหม่ครับคุณชายหยู” พอคุณชายลู่ได้ยินว่าคุณชายห ยูยอมปล่อยตัวเองไป หัวใจเป็นที่เกือบจะวายก็ปล่อย วางลงได้ เขาพยักหน้าบอกลาคุณชายหยู แล้วก็นำลูก น้องของตัวเอง ขึ้นรถแล้วกลับออกไป

ฉินหลังให้หลงเย็นยืนอยู่ที่เดิม แล้วตัวเองก็เดิน ไปหาหยูหมิง ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณนะครับคุณชายหยู”

“ไม่เป็นไร ยังไงซะนายก็เป็นเพื่อนของคุณหลงพวกนายกินอิ่มกันยัง เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”หยูหมิงคลี่ยิ้ม พร้อมกับถาม

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเรายังมีธุระอีกหน่อย งั้นไม่รบกวนเวลาพวกคุณแล้ว ลาก่อนนะครับ” ฉินหลั่ง คิดว่าถ้าเกิดว่าคุณชายหยูจำหลงเย็นได้ต้องแย่แน่ๆ พอ พูดจบ ก็พยักหน้าเป็นการบอกลาหยูหมิงกับหลงหลิง แล้วก็พาหลงเย็นออกมา

ฉินหลั่งกับหลงเย็นเรียกรถแท็กซี่ พอขึ้นแล้ว หลงเย็นถึงได้ถอดเสื้อของฉินหลั่งออก สีหน้าของเธอดู ว่างเปล่าเล็กน้อย

“คุณชายหยูท่านนั้นไม่เลวเลยนะ” ฉินหลั่งคลี่ยิ้ม พร้อมกับพูดออกมา

“ใช่ ไม่เลวเลย” หลงเย็นพูดอย่างใจลอย “ฉิน หลัง แฟนนายเป็นคนแบบไหนกันเหรอ?”

“เธอเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จากหมู่บ้าน ภูเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ว่าเป็นคนใจดีมาก” ฉินหลั่งพูดอย่างครุ่นคิด

หลงเย็นมองฉินหลั่งอย่างเหม่อลอย แล้วก็พูด เบาๆว่า “บางทีฉันก็คิดคำถามหนึ่งขึ้นมา ถ้าเกิดว่าฉัน ไม่ใช่คุณผู้หญิงของตระกูลหลง แต่ว่าเป็นแค่สาวชาว ดอยเหมือนกับจงยู่ ถ้ายังงั้นมันจะดีแค่ไหนกัน ถ้าอย่าง นั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องคิดถึงธุรกิจของครอบครัว ฉันก็จะ สามารถปล่อยมือแล้วก็ไปไล่ตามความสุขของตัวเองได้ แต่ว่า..”
พอพูดแบบนี้สีหน้าของหลงเย็นก็ดูเศร้าลง เธอ กลับพูดต่อไม่ได้แล้ว ตอนที่มองไปที่ฉินหลั่งอีกครั้งนั้น ท่าทางของเธอก็เหมือนคนจะร้องไห้ เธอพูดช้าๆว่า “ฉัน ขอถามอะไรนายหนึ่งอย่าง มีตอนไหนบ้างไหม ที่นาย เคยนึกถึงฉันเหมือนกับที่นึกถึงจงยู่บ้าง?”

ฉินหลั่งมองใบหน้าเล็กๆของหลงเย็น แสงไฟ ด้านนอกส่องผ่านกระจกเข้ามาตลอดเวลา มีเสน่ห์และ ไม่มีที่สิ้นสุด เขาอดไม่ได้ที่จะใจอ่อน และพูดอย่าง ควบคุมตัวเองไม่ได้ “แน่นอน”

ทันทีที่ฉินหลั่งพูดคำว่า “แน่นอนออกมา น้ำตาที่ คลอเบ้าของหลงเยันอยู่นั้นก็หยดลงมาทันที เธอยิ้มอีก ครั้ง แล้วก็โผเข้าไปในอ้อมแขนของฉินหลั่ง สะอื้น พร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณ….ขอบคุณนะ….พอได้ยินนาย พูดแบบนี้ ฉันชอบมากเลย….

หลงเย็นก็แนบอยู่ในอ้อมแขนของฉินหลั่งอยู่ แบบนี้ จนแท็กซี่กลับมาถึงชุมชนหมิงซื่อ หลงเย็นถึงได้ ยอมปล่อยอย่างไม่เต็มใจ ลงจากรถ หลังจากนั้นก็พูดกับ ฉินหลั่งทั้งน้ำตาว่า “ลาก่อน” หลังจากนั้นก็วิ่งกลับ เข้าไปในชุมชนโดยที่ไม่หันหน้ากลับมาอีก

ฉินหลั่งกลับไปที่มหาวิทยาลัยเจียงหนานด้วย จิตใจที่สับสน คนที่หอพักเห็นเขาเป็นคุณชายบ้านรวย ไม่ว่าฉินหลั่งจะอธิบายขนาดไหนก็ไม่มีประโยค เขาก็ เลยไม่อธิบายแล้ว คืนนี้ก็เลยนอนหลับไปแบบนี้”

วันที่สอง ฉินหลั่งตื่นขึ้นมาแต่เช้า แล้วก็เอา ไดอารี่ของจงยู่ที่วางไว้ข้างหมอนตลอดใส่ในกระเป๋าเพราะว่าเรื่องของหลงเย็น หลงหลิงก็เลยยิ่งเข้าใจเขา ผิดไปมากกว่าเดิม ฉินหลั่งอยากจะให้เธอได้เห็นไดอารี่ ของตัวเองเมื่อก่อน น่าจะสามารถแก้ไขความเข้าใจผิด ระหว่างพวกเขาได้ ทำให้เธอนึกอะไรขึ้นได้

ตอนเช้าหลังจากเรียนเสร็จ เพื่อนร่วมชั้นที่ตอน แรกเอาแต่เยาะเย้ยเขา ก็ล้อมรอบตัวเขาแล้วก็เดินไป พร้อมกัน ฉินหลั่งรู้ว่าคนพวกนี้เห็นเขาเป็นทายาท คนรวย ก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเขา วิ่งหนีออกมาไม่กี่ร้อย เมตร ในที่สุดก็สามารถสลัดพวกประจบสอพลอทิ้งได้ แล้ว

ฉินหลั่งเตรียมจะไปห้องเรียนของหลงหลิง แล้ว โทรศัพท์เขาก็ดัง เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย ฉินหลั่งขมวดคิ้ว เข้าหากัน แล้วก็รับสาย

“ฉินหลั่ง ฉันเองเถียนซิง” ปลายสายมีเสียงของ เถียนซิงดังลอดเข้ามา

ฉินหลั่งตกใจ ผ่านไปหลายวินาทีถึงได้เอ่ยปาก ถาม “มีธุระอะไรรึเปล่า?”

พอนึกถึงสิ่งที่เถียนซิงเคยทำมาก่อนหน้านี้ ฉิน หลั่งเกลียดเธอมากๆ

“ขอโทษ เมื่อก่อนฉันผิดไปแล้ว ฉันอยากจะ อธิบายกับนาย นายให้โอกาสฉันหน่อยได้ไหม?” น้ำ เสียงของเถียนซิงดูจริงใจมาก

ฉินหลั่งอึ้งไป เขาไม่คิดเลยว่าที่เถียนซิงโทรมา ก็เพื่อที่ต้องการจะปรับความเข้าใจกับเขา
“นายไม่อยากจะสนใจฉันแล้วใช่ไหม เรื่องเมื่อ ก่อนที่ฉันเคยทำทำให้นายเกลียดฉันมากเลยใช่ไหม? ขอโทษนะ ฉันรู้สึกผิดไปแล้ว นายให้โอกาสฉันหน่อยนะ เห็นแก่เรื่องที่ฉันเคยช่วยนายตอนมอปลายก็ได้ โอเค ไหม?” เถียนซิงพูดอย่างจริงจัง

“ก็ได้ ฉันจะปรับความเข้าใจกับเธอ” ปฏิกิริยา โต้ตอบฉินหลั่ง เหมือนกับว่าไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่นิด เดียว

“ดีจังเลย ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องรับปากฉัน ถ้ายัง งั้นตอนเที่ยงนี้พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ ฉันเลี้ยงเอง กินที่เฉียนเฉิงหยวนแล้วกันเนอะ ไม่เจอกันไม่เลิก บาย” หลังจากพูดจบ เถียนซิงก็ตัดสายไป

พอนึกถึงเรื่องที่เถียนซิงเป็นคนอยากจะปรับ ความเข้าใจกับตัวเองก่อน ฉินหลั่งก็รู้สึกดีใจมาก ยังไง เมื่อตอนมัธยม เถียนซิงก็เป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่ดี ที่สุดในชั้นเรียนของเขา

ฉินหลั่งเห็นว่าตอนนี้ก็เป็นเวลา11โมงแล้ว ก็เลย เดินทางไปที่เฉียนเฉิงหยวน

ตอนที่ใกล้จะถึงเฉียนเฉิงหยวนนั้น ฉินหลังก็เห็น ว่าเถียนชิงรอเขาอยู่ที่หน้าประตูอยู่แล้ว พอเห็นฉินหลั่ง เถียนซิงก็ยิ้มต้อนรับ

“นายมาแล้ว” เถียนซิงเดินเข้าไปหาฉินหลั่ง แล้ว

ก็ยิ้มหวานให้เขา แตกต่างจากภาพในศูนย์กีฬาโอลิมปิก

ก่อนหน้านี้อย่างมาก วันนี้เธอมัดผมหางม้า เหมือนกับตอนมัธยม ทำให้ฉินหลั่งใจเต้น ย้อนหลับไปนึกถึงช่วง เวลาดีๆเมื่อตอนมัธยมของเขา

“อืม หัวหน้าห้อง” ฉินหลั่งยิ้ม ในใจเขาก็มีความ รู้สึกสงสัย ไม่รู้ว่าเถียนซิงไปเจออะไรมา ถึงได้อยากจะ มาคืนดีกับเขา แต่ไม่ว่าจะยังไง เถียนซิงในตอนนี้นั้น กลับไปอ่อนโยนและใจดีเหมือนตอนมัธยม เถียนซิงที่ กระตือรือร้นที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่น หัวหน้าห้องที่เขา เคารพมากที่สุด

“นายยังสะพายกระเป๋าเป้อยู่อีกเหรอ เดี๋ยวฉัน สะพายให้ พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ ฉันคิดว่านายน่าจะิว แล้ว”เถียนซิงพูด แล้วก็ถอดกระเป๋าเป้ของฉินหลั่ง เอา มาถือไว้ พร้อมกับเดินเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกับฉิน หลัง

ฉินหลั่งกับเถียนซิงนั่งลงที่โต๊ะอาหาร เถียนซิง สั่งอาหาร4-5อย่าง ตอนนี้ถูกนำมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะแล้ว เมื่อกี้เถียนซิงใช้คำพูดที่มีพิธีรีตองกับฉินหลั่งอยู่ตั้งนาน ทำให้ฉินหลั่งรู้สึกเหมือนกับว่าเถียนซิงได้กลับไปเป็น เหมือนหัวหน้าห้องเมื่อตอนสมัยมัธยมอีกครั้งแล้ว เขา รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

“หัวหน้าห้อง ทำไมเธอถึงคิดได้เหรอ” ฉินหลั่ง

ถาม

“หลายวันมานี้ฉันเอาแต่ฝันถึงตอนที่สอบเข้ามหา ลัย แล้วก็จะสะดุ้งตื่นทุกครั้ง ฉันคิดว่าวันนั้นปากกาของ ฉันหมึกหมด ก็เลยทำให้ฉันสอบตก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ นายเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็นึกถึงเรื่องพวกนั้นที่ฉันเคยทำกับนาย ฉันก็รู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก ฉินหลั่ง ฉันขอโทษนะ! ” เถียนซิงกล่าวอย่างเศร้าสลด แล้วก็กัม หน้าลงช้าๆ

“ช่างเถอะเรื่องที่เป็นอดีตไปแล้วก็ปล่อยให้มัน เป็นอดีตไป ฉันก็ไม่ได้จำมาใส่ใจอะไรหรอก ยังไงเธอก็ คือหัวหน้าห้องของฉัน ” ฉินหลั่งเห็นว่าสีหน้าของเถียน ซิงดูทุกข์ใจ ในใจเขาก็ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่

“ขอบคุณนะ นายยังคงใจกว้างเหมือนตอนมัธยม เลย!” ความอับอายในดวงตาของเถียนซิงหายไปแล้ว เธอยิ้มแล้วก็มองฉินหลั่งพร้อมกับพูดว่า “ฉินหลั่ง จำได้ ไหมว่าตอนมัธยมฉันเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบ บางครั้งที่ อาการป่วยกำเริบ ต้องมีใครมาคอยถูมือฉัน อย่างน้อย ก็20นาที คนอื่นไม่ชอบเหนื่อย ก็เลยไม่มีใครถูให้ฉัน เลย มีแต่นายเท่านั้นที่อดทนทำให้ฉัน จนบางครั้งที่ถูมือ ให้ฉันเสร็จแล้ว นายก็ปวดแขนจนเขียนหนังสือไม่ได้ ด้วยซ้ำ …”

“ฉันจำได้”ฉินหลั่งยิ้มพร้อมกับตอบ

“ถ้ายังงั้นตอนนี้นายช่วยถูให้ฉันหน่อยได้ไหม? ฉันรู้สึกว่าตอนนี้มือของฉันเริ่มกระตุกอีกแล้ว” พอพูดจบ เถียนซิงก็ยืนมือไปหาฉินหลั่ง

“อ้อ…”ฉินหลั่งอึ้งเล็กน้อย ตอนนั้นพวกเขาเป็น เด็กมัธยมปลาย ถูกนิดถูหน่อยก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่ ว่าตอนนี้เป็นผู้ใหญ่ที่สละสลวยแล้ว ถ้าเกิดว่าให้ตัวเอง ถูมือเธอ มันก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“โถ่…”เถียนซิงเรียกเบาๆ “ฉินหลั่ง รีบถูให้ฉัน หน่อยเร็ว มือฉันกระตุกอีกแล้วนะ”

“อ้อ…ก็ได้” ฉินหลั่งเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของ เถียนซิง แล้วเขายังจะมัวลังเลอีกได้ยังไงกันล่ะ เขาจับ มือของเถียนซิงไว้ แล้วก็รีบช่วยนวดๆถูๆให้เธอ

หลังจากถูไปได้สองครั้ง ฉินหลั่งก็เผลอมุ่งความ สนใจไปที่มือที่อ่อนนุ่มของเถียนซิง ก็เห็นว่ามือของเธอ ช่างเนียนและนุ่มชุ่มชื้นราวกับหยกขาว ความหอมนวล แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของเถียนซิงอีกครั้ง ฉิน หลั่งรู้สึกว่าพอถูมือเถียนซิงไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเหลาะแหละ แต่ว่าเรื่องนี้มันก็ค่อนข้างเร่งด่วน ตั้งสติ แล้วก็ถูต่อไป

“แม่งเอ้ย ไอ้ยาจก นี่รนหาที่ตายใช่ไหม?” ทันใด นั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังของฉิน หลัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ