บทที่ 179 ข้าวโพดในความทรงจำ
ไหนละ ? จ่ายผ่านมือถือก็ได้นะ 1000หยวนเงิน ไม่พอสินะ ? “เห็นฉินหลั่งยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น หม่าหยาง พูดเย้ยหยัน
“เงินของฉันโดนอายัดไว้ ตอนนี้เอาออกมาไม่ ได้” ฉินหลั่งเอ่ยพูด สายตาที่มองไปยังหลงหลิงเต็มไป ด้วยคำขอโทษ
“คุณพระ ไอ้หมอนี้ต้องใช้บริการฮวาเปย(ยืมเงิน ในAlipay) จนไม่มีเงินคืนแน่ ถึงได้โดนอายัดไว้แล้ว”
“คนที่ใช้ชีวิตโดยพึ่งพาบริการฮวาเปย นายมี คุณสมบัติอะไรมาเทียบกับคุณชายหม่า”
เมื่อเห็นแววตาของหลงหลิงที่มีท่าทางที่สงสัย ฉินหลั่งก็ร้อนใจอย่างมาก พร้อมพูดว่า: “ฉันไม่ได้พูด โกหก ในบัตรของฉันมีเงินเยอะมาก ก็แค่…ก็แค่โดน อายัดไว้เท่านั้น….
“โอเคโอเค ฉันเชื่อนาย ในบัตรของนายโดน อายัดไว้เท่านั้นเอง ในบัตรของนายมีเงินเยอะมาก” หม่า หยางพูดพร้อมยิ้มเบาๆ เมื่อเขาพูดจบ คนอื่นต่างก็พากัน หัวเราะฮาๆออกมา ตามคำประชดของเขาที่มีต่อฉินหลั่ง
ฉินหลั่งไม่สนใจท่าทีของพวกเขา เมื่อเขาเห็นหลงหลิง แววตาของหลงหลิงส่องระยิบระยับ ค่อยๆ เคลื่อนสายตาอย่างช้าๆ ในใจของฉันหลั่งดึงเครียดมาก หลงหลินก็คงคิดว่าตัวเองพูดโกหกแล้วเช่นกัน
“อยากจะจีบคุณหลง อย่างน้อยก็ต้องทำให้คุณ หลงกินข้าวจนอิ่มท้อง ฉันดูสารรูปของนายแล้ว สุดจะ ทนได้ นายสามารถทำให้คุณหลงกินข้าวจนอิ่มท้องได้ ไหม ? ” หม่าหยางพูดเย้ยหยัน
“ผมทำได้ ทำได้แน่นอน ไม่จำเป็นต้องให้คุณมา เตือนผม” ฉินหลั่งพูดออกมาด้วยความโกรธ
“ดี ! ในเมื่อนายพูดว่าทำได้งั้นตอนนี้นายก็เลี้ยง ข้าวคุณหลง คุณหลงยังกินได้ไม่เยอะพอดีเลย นาย เลี้ยงข้าวไหวไหม ?” หม่าหยางยิ้มอย่างชั่วร้ายมองไป ที่ฉินหลัง : “ถ้าหากว่าเลี้ยงไม่ไหวละก็ ก็เชิญตัวนายเอง ออกไปจากที่นี้เลย”
“ฉัน..ฉัน” ฉินหลั่งแตะๆลูบๆไปที่กระเป๋า กางเกงโดยไม่รู้ตัว ในกระเป๋ากางเกงของเขามีเพียง 10 หยวนเท่านั้น ที่โล่ว่ายโล่ก็กินอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าควร จะพูดอะไร
“เชิญออกไปเถอะ” หม่าหยางเห็นท่าทางที่ขี้ ขลาดของฉินหลั่ง ยื่นมือออกผายไปที่ประตู ส่ง สัญญาณให้ฉินหลั่งออกไป
“ฉันเลี้ยงไหว ! ” ฉินหลั่งพูดออกมาเสียงดัง ไม่ อยากแสดงท่าทางที่ไร้ความสามารถต่อหน้าหลงหลิ งอีก เขาอยากจะพิสูจน์ตัวเอง ฉินหลั่งมองไปยังหลงหลิง พูด : “คุณรอผมที่นี่ เดี๋ยวผมกลับมา ผมจะให้คุณ ได้กินของดีแน่นอน !”
เมื่อพูดจบ ฉินหลั่งก็หันไปทางหม่าหยางอีก : “นายจะพาเธอไปไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา ฉันจะเลี้ยง อาหารที่ดีที่สุดให้กับเธอ”
พูดจบ ฉินหลั่งก็หันหลังวิ่งออกจากโล่ว่ายโล่ไป แล้ว
เขาล้วงมือถือออกมา กดโทรศัพท์โทรหาโข่งลิ่ง เสียนทันที ตอนนี้เขาขอเพียงแค่ให้โข่งลิ่งยกเลิกข้อ ห้ามตระกูลของเขาก่อน เขาถึงจะสามารถเลี้ยงอาหารที่ ดีที่สุดให้กับหลงหลิงได้
“ตู๊ดตู๊ด” โทรศัพท์สายไม่ว่างตลอดเลย ฉินหลั่ง โทรไปแล้วสามรอบ โข่งลิ่งเสียนก็ไม่รับสายเขาเลย ฉิน หลั่งก็โทรหาเงินวันเชียน, กูเจี๊ยนหมิงอีก แต่สุดท้าย แล้วก็เหมือนกับขิงลิ่งเสียนเลย ไม่มีใครรับสาย
ก่อนหน้านี้โข่งลิ่งเสียนก็พูดกับเขาชัดเจนแล้ว ตราบใดที่เขายังคงตามหาจงยู่ ตระกูลก็ไม่อนุญาตให้ เขาใช้ทรัพยากรของตระกูลแม้แต่สตางค์เดียว กฎของ ตระกูลฉินช่างเข้มงวดเหลือเกิน พูดตามจริงพวกเขาก็ เป็นคนตัวเล็กๆที่ทำงานให้กับตระกูลฉินเท่านั้น จะกล้า ท้าทายคำสั่งของตระกูลได้อย่างไร
“ตบ” ฉินหลั่งกระแทกหมัดเข้าไปที่กำแพงอย่าง แรง ข้อต่อของนิ้วมือทั้งห้าต่างก็มีเลือดออกมาแล้ว แต่ ความเจ็บปวดที่มือเป็นเพียง 1/10ของความเจ็บปวดในใจเขา
แล้วควรจะทำอย่างไรดี ? ฉินหลั่งไม่อยากให้จงยู่ ผิดหวังในตัวเองอีกแล้ว แต่ความเป็นจริงมันช่างโหด ร้ายอย่างนี้
ฉินหลั่งเดินออกไปบริเวณโล่ว่ายโล่ ในใจทั้ง สับสนทั้งกังวล เขาหยิบเงิน 10 หยวนในกระเป๋า กางเกงออกมา ในใจขมขืน คุณชายใหญ่ของตระกูล อันดับหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ 10 หยวน !
ข้าวโพดอ่อนๆ…..ข้าวโพดอ่อนๆ…..” ทันใด นั้นฉินหลั่งก็ได้ยินเสียงที่เลือนราง น้ำเสียงนี้เป็น สำเนียงของคนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฉินหลั่ง เดินเลี้ยวตามเสียงไปยังถนนแคบๆสายหนึ่ง อยู่ห่าง ออกไปประมาณ20เมตร เขาเห็นผู้หญิงวัยกลางคนสวม เสื้อผ้าเรียบง่าย นั่งอยู่ทางเท้า มีกองข้าวโพดสีเขียวๆ วางอยู่ข้างๆเธอ
ผู้หญิงวัยกลางคนผิดสีดำคล้ำ เพราะว่าฝนตก ปรอย ๆ ผู้คนสัญจรไปมาบนถนนจึงน้อยมาก เสื้อผ้าของ เธอก็เปียกโชกหมดแล้ว แต่เธอก็ยังคงนั่งเรียกลูกค้าอยู่ ตรงนั้น
ฉินหลั่งอดไม่ได้ที่จะคิดถึงใครบางคน แม่ของจง
อู่ช่าง หลง
ตอนแรกที่ช่ายหนงมาที่จีนหลิง ตอนที่ฉินหลั่ง ช่วยเธอขายห้องที่จื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ เคยคุยกับเธอมา แล้วครั้งหนึ่ง
ช่ายหนงพูดกับเขาว่า ตอนเด็กๆเพื่อส่งจงยู่เรียน เธออยู่ที่บ้านก็ทำพวกการเกษตรเป็นหลายอย่าง มักจะ ทั้งจงยู่ไว้ที่บ้านคนเดียว ตอนนั้นจงยู่ไม่รู้เรื่องอะไร เธอ ได้ยินเพื่อนคนอื่นๆพูดกัน พ่อแม่ของพวกเขาพาไปกิน แฮมเบอร์เกอร์ที่เคเอฟซี พวกเขาบอกว่าแฮมเบอร์เกอร์ อร่อยมากๆ จงยู่ไม่เคยได้กิน เธอกลับมาที่บ้าน พู ดกับช่ายหนงว่า เธออยากจะกินแฮมเบอร์เกอร์ ให้ช่าย หนงไปซื้อให้เธอ
ช่ายหนิงผู้หญิงคนเดียวเลี้ยงดูจงยู่มาไม่ง่ายเลย ทีเดียว จะมีเงินสำรองไปซื้อแฮมเบอร์เกอร์ได้ยังไงกัน แต่เธอก็รู้สึกผิดกับจงยู่ หลังจากนั้นก็ซื้อให้จงยู่แล้ว
จงยู่ได้กินแล้ว เป็นเหมือนกับที่เพื่อนพูดไว้ไม่มี ผิด อร่อยมากเลย หลังจากนั้นทุกๆสัปดาห์เธอจะให้ชาย หนิงซื้อให้เธอกิน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ด้านนอกมีฝนตก จงยู่ตาม อาจารย์ในชั้นเรียนเข้าเมืองเพื่อเยี่ยมชมสุสานวีรบุรุษผู้ สละชีพเพื่อชาติ ถึงจะเห็นแม่ตัวเองนั่งอยู่ข้างถนน เรียก เสียงแล้วเสียงเล่า “ข้าวโพดอ่อนๆ …ข้าวโพดอ่อนๆ…
ได้ยินอาจารย์พูดว่าข้าวโพดอ่อนฝักละ 1 หยวน แต่แฮมเบอร์เกอร์กลับว่า 8หยวนต่อหนึ่งชิ้น จงยู่ก็ ร้องไห้แล้ว เธอวิ่งไปที่ข้างกายของชายหนง กอดช่าย หนงไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือ สุดท้ายแล้วก็ช่วยกันขาย ข้าวโพดกับช่ายหนงแล้ว
หลังจากนั้น จงยู่ก็ไม่รู้สึกว่าแฮมเบอร์เกอร์อร่อย อีกต่อไปแล้ว เพราะในนั้นห่อหุ้มด้วยความยากลำบากและน้ำเหงื่อของแม่ เธอรู้สึกว่าข้าวโพดต่างหากที่เป็น อาหารที่อร่อยที่สุด บางครั้งเธอกินข้าวโพดอยู่ ก็อดไม่ ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
คิดมาถึงตรงนี้ ฉินหลังก็เดินไปที่หญิงสาววัย กลางคนแล้ว
“ข้าวโพดอ่อน เพิ่งจะเก็บมาสดๆใหม่ๆ หวาน อร่อย” เพียงแค่ได้ยินเสียงเท้าเดิน ยังไม่ได้หันหน้าไป ทางฉินหลั่ง ผู้หญิงวัยกลางคนก็พูดแนะนำเลย
เมื่อเห็นผมเผ้าและเสื้อผ้าที่เปียกโชก ฉินหลั่ง ปวดใจอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนงในตอนนั้นก็คงเป็นแบบนี้ใช่ ไหม
สุดท้ายแล้ว ฉินหลั่งใช้เงิน 10หยวนซื้อข้าวโพด 11ฝักที่เหลืออยู่ของผู้หญิงวัยกลางคนแล้ว เห็นผู้หญิง วัยกลางคนเดินไปอย่างมีความสุข ในใจของฉินหลั่งก็ ค่อยๆรู้สึกปลื้มใจ
ฉินหลั่งถือข้าวโพด เดินกลับมายังโลว่ายโล่แล้ว
ไอ้หมอนี่กลับมาแล้ว ? ”
“ยืมเงินได้ละ ? แม้ว่าจะยืมเงินมา แต่ที่โล่ว่ายโล่ ก็กินอะไรดีดีไม่ได้มากหรอกนะ 2300หยวนคือธรรมดา
สุดนะ”
“ที่เขาถือมาคือข้าวโพด ไอ้หมอนี้คิดจะทำอะไร
กันแน่ ?”
“ให้คุณรอนานแล้ว” ฉินหลั่งพูดไปทางหลงหลิง ที่นั่งอยู่
ไปตั้งนาน นายไปเก็บข้าวโพดที่แปลงมาเอง หรอกเหรอ ที่นายจะเลี้ยงคุณหลงคงไม่ใช่อันนี้หรอก นะ ? ” หม่าหยางพูดพร้อมชี้ไปยังข้าวโพดในมือของฉิน หลั่ง
“นายไม่ต้องมายุ่ง ขอเพียงแค่คุณหลงชอบก็ พอแล้ว ผู้จัดการครับ ผมขอยืมหม้อของคุณหน่อยได้ ไหม ?” ฉินหลั่งพูดถามผู้จัดการล้อบบี้
“ให้เขาใช้ ในเมื่อเขาไปเก็บข้าวโพดมาตั้งไกล ขนาดนี้ ให้เขาได้ยอมแพ้ไปเลยก็ดี” หม่าหยางพูด แล้ว หันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นกับหลงหลิง: “คุณหลงยัง กินไม่อิ่มแน่ๆ บังเอิญผมก็รู้เรื่องอาหารนิดหน่อย เดี๋ยว ผมจะแสดงฝีมือให้คุณหลงนะ”
พูดจบ หม่าหยางและฉินหลั่งเดินเข้าครัวของโล ว่ายโล่ไปพร้อมกัน ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็ออกมา ในเวลาไล่เลี่ยกัน ในมือต่างก็ถือออกมาคนละจานวาง ตรงหน้าของหลงหลิง ในจานของฉินหลังคือข้าวโพด ต้มสองฝัก แต่ในจานของหม่าหยางคือกุ้งผัดซอส
“โอ้แม่เจ้า เขาเลี้ยงข้าวโพดคุณหลงจริงๆเห รอ ! นี้ก็เป็นการไม่ให้เกียรติคุณหลงเกินไปแล้ว”
“คิดไม่ถึงว่าคุณชายหม่ารูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ฝีมือการทำอาหารจะดีขนาดนี้ กุ้งผัดซอสจานนี้หอมมาก
เลยจริงๆ”
ไอ้หมอนี้น่าอายชะมัด ข้าวโพดต้มยังจะกล้าให้ คุณหลงกิน”
“คุณหลง ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณก่อน ผมคิด ไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่จะให้คุณรอนานขนาดนี้ แล้วเอา ข้าวโพดไม่กี่ฝึกมาให้คุณ ถ้าหากว่าคุณไม่อยากกินของ ของเขา งั้นก็ไม่ต้องกินก็พอแล้ว กุ้งผัดซอสจากนี้ของ ผมก็ไม่เลวนะ คุณลองชิมดูได้” หม่าหยางพูดไปพลาง ยิ้มไปพลาง เขาเคยสอบถามมาตั้งนานแล้ว หลงหลิง ชอบรสจืด ชอบกินกุ้งมากที่สุด
หลงหลิงเอ่ยพูดอืมออกมาเบาๆ แต่กลับไม่ได้ มองไปที่ฉินหลั่งแม้แต่แวบเดียว ในใจของเธอก็รู้สึกว่า ฉินหลั่งไม่ได้จริงจังกับเธอเลย
หลงหลิงหยิบช้อนขึ้นมา ตักกุ้งและขึ้นฉ่าย ใส่
เข้าไปในปากพร้อมเคี้ยวอย่างช้าๆ กลื่นมันลงไป พูด
พร้อมยิ้มกับหม่าหยางว่า : “ฝีมือการทำอาหารของคุณดี
มากจริงๆ ฉันชอบมาก”
คำชมนี้ทำให้หม่าหยางดีอกดีใจอย่างมาก รู้สึก ทั้งตัวเหมือนสูดผงสีขาวอย่างเย็นสบายๆยังไงอย่างนั้น หม่าหยางพูดอย่างถ่อมตัว “คุณหลงชมเกินไปแล้ว คุณ รู้สึกว่าดี ผมก็ดีใจกว่าอะไรทั้งสิ้น”
“โย หม่าหยางปากหวานจริงๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ ชอบผู้ชายที่เอาอกเอาใจเก่งอย่างนี้แหละ”
“ดูแล้วคุณชายบ้านรวย5-6คนจากหลินอานต่างก็คว้าคุณหลงมาไม่ได้ โดนหยางหม่าคว้ามาได้แล้ว”
“จริงด้วย ถ้าตระกูลหม่าแต่งงานดองกับหระกูล หลงแล้ว ความแข็งแกร่งนี้คาดว่าจะสามารถตัดความ สัมพันธ์กับตระกูลหยูได้เลย”
“อร่อยคุณก็กินเยอะๆนะข้าวโพดสองฝักนั่นไป ต้องกินแล้ว” หม่าหยางพูดกล่าว
หลงหลิงยิ้มเบาๆ แล้วหยิบข้าวโพดขึ้นมา แม้ว่า ในใจของเธอไม่อยากกินข้าวโพดสองฝักนี้ที่ฉินหลั่งเอา มา แต่เธอก็รู้สึกว่าควรจะลองชิมดูสักหน่อย ถึงอย่างไร ฉินหลั่งก็ใช้เวลาในการเตรียมไม่น้อยเลย
หลงหลิงค่อยๆกัดข้าวโพดหนึ่งคำเบาๆ ข้าวโพด นี้ทั้งหวานมากทั้งเผ็ดมาก หลงหลิงค่อยๆเคี้ยวอย่าง ละเอียด
“คุณหลง ไม่อร่อยก็ไม่ต้องกินแล้วครับ ข้าวโพด นี้ของเขาไม่รู้ว่าเก็บมาจากที่ไหน ไม่แน่ว่าอาจจะมียาฆ่า แมลงก็ได้นะ” หม่าหย่างพูดเตือนอยู่ข้างๆ
หลงหลิงเหมือนว่าไม่ได้ยินยังไงอย่างนั้น กัดไป อีกคำหนึ่งแล้ว ต่อมาด้วยคำที่สอง คำที่สาม…หลงหลิ งกินหมดแล้วหนึ่งฝัก เธอกินต่อไปเรื่อยๆ แววตาที่ใส แจ๋วเหมือนน้ำทันใดนั้นก็หลั่งไหลลงมาแล้วสองหยด
ผู้คนที่เห็นภาพฉากนี้ ต่างก็มองหน้ากัน ไม่รู้ว่า หลงหลิงเป็นอะไรไปแล้ว
“คุณหลง คุณเป็นอะไรไป” หม่าหยางพูดถาม ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น เขารู้สึกแปลกใจ ก็แค่กินข้าวโพด หนึ่งฝักทำไมถึงได้ร้องไห้
“ไม่รู้ ตอนที่ฉันกินข้าวโพดนี้ ฉันรู้สึกเศร้าใจมาก ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันทำอะไรผิดไปยังไงอย่างนั้น น้ำตา ไหลโดยไม่ทันรู้ตัว…..” หลงหลิงวางข้าวโพดลง ใช้มือ เช็ดๆน้ำตา
“คุณหลง อาหารสองจานนั้นคุณชอบจาน ไหน ? ” คนที่ยืนมุงดูอยู่รีบพูดถามขึ้น
“นี้ยังต้องถามอีกเหรอ ? ข้าวโพดฝักจะเปรียบ เทียบกับกุ้งผัดซอสของคุณชายหม่าได้อย่างไรกัน”
“คุณชายหม่าดีกว่าทุกอย่างโอเคไหม”
“ข้าวโพดฝักของไอ้หมอนี่ยังจะมาทำให้คุณหลง ร้องไห้อีก ฉันอยากจะให้เขารีบไสหัวไปจริงๆ !”
“ฉันชอบ….” ฟังที่หลงหลิงเอ่ยปากพูดแล้ว คน อื่นต่างก็พากันรูดปากเงียบ ฟังอย่างเงียบๆ หลงหลิงม องไปยังข้าวโพด: “ฉันชอบข้าวโพดนี้”
“อะไรนะ คุณหลง คุณชอบกิน..ข้าวโพด ? มัน อร่อยกว่า…กุ้งผัดซอสของผมจริงๆเหรอ ? ” หม่าหยาง มองที่ไปหลงหลิงด้วยความเหลือเชื่อ ให้คิดยังไงเขาก็ คิดไม่ออก ก็แค่ข้าวโพดธรรมดาเท่านั้น ทำไมถึงได้ อร่อยกว่าอาหารที่เขาผัดได้ละ ?
คนอื่นต่างก็ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเหมือนกัน วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ คิดไม่ออกว่าตกลงแล้วมัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“จงยู่ คุณจำได้แล้วจริงๆ แม่ของคุณเคยพูด อาหารที่คุณชอบมากที่สุดคือข้าวโพด เพราะข้าวโพด เคยทำให้คุณรู้สึกเสียใจมากก่อน ตอนนี้คุณยังไม่ ยอมรับว่า คุณคือจงยู่เหรอ ? ” เมื่อฉินหลั่งเห็นหลงหลิง รู้สึกว่าข้าวโพดอร่อยกว่าอย่างที่คิดไว้ เขาก็ยิ่งมั่นใจ หลงหลิงคนนี้ก็คือจงยู่
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ