บทที่ 117 ขึ้นรถกลับกลายเป็นจุดจบ
“เหอะเหอะ สังเล่นเอ๋อ แกยังจําฉันได้อีกเหรอ?” เขาหันมายิ้มให้ สังเล่นเอ๋ออย่างดุร้าย
“แกคิดจะทําอะไร? รีบเปิดประตูรถเดี๋ยวนี้นะ!” สังเช่นเอ๋อขมวด คิ้ว แล้วใช้แรงเพื่อที่จะเปิดประตูรถ แต่ประตูถูกล็อกอย่างแน่นหนา เธอจึงหันไปด่าหม่าเบื่อ
ก่อนหน้านี้ประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิง ชื่อหยินจังเป็นคนช่วย เหลือจัดการปัญหาที่หม่าเก่อเป็นคนนํามาให้ตระกูลของเธอ นี่ทําให้ สังเล่นเอ๋อมีความมั่นใจอย่างมาก เธอจึงได้แข็งข้อกับหม่าเบื่อมาโดย ตลอด
“เพี้ยะ!”
หม่าเก๋อตบหน้าสังเล่นเอ๋อ เขาบีบคางของสังเช่นเอ๋อเอาไว้ และ กัดฟันพูดด้วยความโกรธว่า: “จนป่านนี้แล้ว แกยังจะมาเสแสร้งต่อ หน้าฉันอีก! แกคิดว่าแกเป็นใคร ฉันแค่จับแกโยนลงแม่น้ําก็พอแล้ว แค่นี้แกจะทําอะไรได้?”
หม่าเก่อเหวี่ยงสังเล่นเอ๋ออย่างแรงด้วยความเหี้ยมโหด คอของ สังเส้นเอ่อบิด มีเลือดสดๆ ไหลออกมาจากปากของเธอ
“เส้นเอ๋อ” โจวซินรีบประคองสังเล่นเอ๋อไว้ ตอนนี้ เธอรู้สึกเป็น ห่วงอย่างมาก เธอรู้สึกมาตลอดว่าหม่าเก่อจะต้องคิดทําอะไรกับพวก เธอสักอย่าง
“แกไม่กลัวว่าประธานชื่อจะมาจัดการกับตระกูลของพวกแกหรือ อย่างไร!” ในใจของสั่งเส้นเอ๋อรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว แต่ตอนนี้เอไม่ สามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ มิเช่นนั้นหม่าเก๋อจะยิ่งได้ใจ เช่นนั้น ไม่เป็นการดีต่อพวกเธอเอง สังเล่นเอ๋อแค่อยากจะใช้ประธานชื่อมาขู่ ให้หม่าเก่อกลัว เพื่อที่จะรักษาความปลอดภัยของพวกเธอเอาไว้ก่อน
“ห์” หม่าเก่อหัวเราะเยาะเบาๆ เขามองดูสังเส้นเอ่ออย่างผ่านๆ:
“ดูๆไปแล้วตระกูลของพวกแกคงไม่ได้ไปมาหาสู่กับประธานชื่อบ่อย นักล่ะสิ”
“เอ่อ..แกหมายความว่าอย่างไร?” สังเล่นเอ๋อถามด้วยความ ประหลดใจ
หม่าเก่อส่ายหน้าแล้วหัวเราะเยาะ ถึงแม้ครั้งก่อนตระกูลของเขา จะขอโทษตระกูลของสังเล่นเอ๋อไปแล้ว แต่ประธานชื่อก็ไม่เคยที่จะ ปล่อยตระกูลของเขา ในเวลานี้ ประธานชื่อเพิ่มแรงกดดันในทุกๆด้าน ให้แก่บริษัทเทียนซีกรุ๊ปของตระกูลเขา พูดได้ว่าต้องการที่จะให้ธุรกิจ ของตระกูลเขาตกอยู่ในขั้นวิกฤตและมีรายได้ที่ลดลง ถ้ายังดําเนิน การต่อในสถานการณ์เช่นนี้ บริษัทของตระกูลเขาก็คงยากที่จะ ดําเนินกิจการต่อไป
ในความเป็นจริง เป็นเพราะประธานชื่อคาดเดาความมหายของ โข่งสิ่งเสียนผิดไป ดังนั้นในภายหลังจึงได้โจมตีธุรกิจของตระกูลหม่า เกือมาโดยตลอด
พ่อของหม่าเก่อนามว่าหม่าวันถัง เห็นว่าสถานการณ์ที่แย่ลงยาก ที่จะย้อนกลับ จึงใช้ความเด็ดขาด ตัดสินใจถอนทรัพย์สินทางธุรกิจ ของครอบครัวออกจากจีนหลิง แล้วกระจายไปเก็บไว้ยังที่ต่างๆ
ที่หม่าเก๋อหัวเราะเป็นเพราะว่า เขากับพ่อเดามาตลอดว่า ประธาน ชื่อยื่นมาเข้ามาช่วยตระกูลเส้นเอ๋อ เป็นเพียงแค่”ความบังเอิญ” ตอนนี้ เมื่อพบกับสังเล่นเอ๋อจึงได้รู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องที่ประธานชื่อโจมตีธุรกิจ ของตระกูลเขาเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากตระกูลของสังเล่นเอ๋อและ ประธานชื่อมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรื่องสําคัญขนาดนี้มีหรือที่เขา จะไม่บอกตระกูลของเธอ? นี่พอจะอธิบายได้ว่า การคาดเดาของพวก เขานั้นถูกต้อง
“แกหัวเราะอะไร!” สังเล่นเอ๋อรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ตัวเองยก เรื่องประธานชื่อขึ้นมาพูด แต่ทําไมกลับถูกหม่าเก่อเห็นเป็นเพียงเรื่อง ตลก
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ต่อให้ประธานชื่อมาด้วยตัวเอง แล้วจะมี อะไรให้น่ากลัวอย่างนั้นหรือ?” ตอนนี้หม่าเก๋อยังจะกลัวประธานชื่ออีก ทําไม พ่อของเขาตัดสินใจที่จะย้ายออกไปเติบโตนอกเมืองจีนหลิงแล้ว ประธานชื่อเป็นประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิงแล้วยังไง? เขาจะ สามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งทุกที่ได้หรืออย่างไร?
“เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน ฉันจะโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้ ให้เขาบอก ประธานชื่อให้จัดการกับตระกูลของพวกแก…” สังเช่นเอ๋อยังคงไม่ เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หม่าเก่อตบหน้าสั่งเส้นเอ่ออีกครั้งอย่างไร้ความปราณี สังเช่นเอ๋อ ถูกตบจนล้มคว่ําลงไปบนเบาะ โจวซินรีบประคองเธอขึ้นมา
“นังสารเลว หากแกยังจะพูดมากอีก ฉันจะตีแกให้ตาย” หม่าเบื่อ หันไปด่าสังเล่นเอ๋ออย่างโหดร้าย
สังเล่นเอ๋อไม่กล้าพูดอะไรอีก โจวซินเองก็พอจะรู้สึกได้ถึง อันตรายอย่างมาก เธอนึกขึ้นมาในใจว่า รถที่เธอขึ้นมานั่งคันนี้เป็นรถ ที่กําหนดความตายเอาไว้แล้ว
“ห์” เมื่อเห็นว่าสังเช่นเอ่อชื่อฟังแล้ว หม่าเกือก็ยิ้มออกมาด้วย ความภูมิใจ ดวงตาคู่นั่นของเขามองดูสังเล่นเอ๋อและโจวซินโดยไม่ หลบสายตาเลยแม้แต่น้อย ส่องประกายแห่งความชั่วร้ายออกมา จาก นั่นจึงหันหลังกลับแล้วขับรถออกไป….
“ฮัลโหล..ฮัลโหล สังเล่นเอ๋อ …” ฉินหลังตะโกนเรียกใน โทรศัพท์เสียงดัง แต่เสียงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์เป็นเสียงที่ถูกตัด สายไป
“หม่าเก๋อ” ฉินหลั่งเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ถ้าสังเล่นเอ๋อกับ โจวซินตกอยู่ในเงื้อมมือของหม่าเก่อจริง นั่นแทบไม่กล้าคิดถึงจุดจบ เลย
เขามาถึงห้องตรวจสอบที่รับผิดชอบดูแลตลาดกลางคืนในทันที เขารีบเปิดดูกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ที่กําลังปฏิบัติหน้าที่ได้ยินว่า เพื่อนของเขาหายไป ก็รีบเปิดภาพวงจรปิดในขณะที่เกิดเหตุให้ฉัน หลั่งดูในทันที
ฉินหลั่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เห็นสังเล่นเอ๋อและโจวซินกําลัง ประคองคนตาบอดที่ตนเองชนล้มลงเมื่อก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งรู้สึกตกใจ เป็นอย่างมาก นี้แสดงให้เห็นว่าหม่าเก่อวางแผนมาอย่างดีแล้ว ดูจากสิ่งนี้ ก็พอจะรู้ได้ว่าที่เขาทําเช่นนี้ต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่ธรรมดาแน่ ถ้า หากไม่รีบช่วยพวกเธอออกมาให้เร็วที่สุด จุดจบคงจะไม่ดีแน่ๆ
เมื่อตระหนักได้ถึงความร้ายแรงและความเร่งด่วนของ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉินหลั่งก็รีบออกมาจากห้องตรวจสอบ แล้วรีบ โทรศัพท์หาโข่งสิ่งเสียน เพราะการที่ให้โข่งสิ่งเสียนมาจัดการเป็นวิธี ที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วที่สุด
“คุณชายใหญ่ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ ผมจะโทรหาหม่าวั่นถัง เดี๋ยวนี้ รับรองว่าเขาจะไม่กล้าแตะต้องเพื่อนคุณอย่างแน่นอน “โข่ง สิ่งเสียนได้ยินฉินหลั่งพูดด้วยความร้อนใจเช่นนี้ จึงพูดปลอบใจฉิน หลั่งก่อน
“ดี” ในเมื่อโข่งสิ่งเสียนพูดเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าคงไม่ใช่เรื่อง ใหญ่ เขาจะต้องจัดการได้อย่างเหมาะสมแน่นอน ฉินหลั่งจึงค่อย เบาใจลง แล้วจึงวางโทรศัพท์
ยังไม่ทันถึง 10 นาที โข่งลิ่งเสียนก็โทรศัพท์มาอีกครั้ง
“คุณชายใหญ่ โทรศัพท์ของหม่าวั่นถังโทรไม่ติด อีกอย่างผม ได้ยินมาว่า เขาจะโอนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกไปไว้ที่อื่น ครั้งก่อน เราใช้ประธานสหพันธ์ธุรกิจจีนหลิง ชื่อหยินจังในการเตือนเขา ดูๆไป แล้วการเคลื่อนไหวของเขาในช่วงนี้ดูจะผิดปกติ นี่อาจจะเป็นการแก้ แค้นที่พวกเขาจะทํากับสังเล่นเอ๋อก่อนที่จะจากจีนหลิงไป ถ้าหากเป็น เช่นนี้จริง เรื่องคงจะวุ่นวายแน่…” น้ําเสียงของโขงลิ่งเสียนดูจริงจัง ขึ้นมาก
“ตอนนี้คุณอยู่ที่จีนหลิงใช่ไหม? ผมจะไปหาคุณที่นั่น” เมื่อฟัง โข่งสิ่งเสียนที่พูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ก็ทําให้ฉินหลั่งรู้สึกกังวลขึ้นมา อีกครั้ง เอาอยากจะไปหาโข่งสิ่งเสียนด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ํา มาเดิน เล่นเป็นเพื่อนพวกโจวซิคืนนี้ หวงเกอเป็นคนขอร้องตน ถ้าหากพวก เธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ แล้วฉินหลั่งจะมีหน้าไปพบหวงเกออีกได้ อย่างไร
“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบส่งคนไปรับคุณเดี๋ยวนี้ ผมเองก็จะพยายาม อย่างเร็วที่สุดที่หาตามหาเบาะแสของเพื่อนคุณ…”
ผ่านไป 20 นาที ก็มีรถมาเซราติlevanteสีดํา มาจอดที่ตรงหน้า ฉินหลั่ง ฉินหลั่งเข้าไปนั่งตรงที่ของโข่งสิ่งเสียน
ในเวลาเดียวกัน หม่าเก่อก็ขับรถไปจอดอยู่ด้านหน้าโรงแรม เล็กๆแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองจีนหลิง เสียง “เอี้ยด” ดังขึ้น เขาจอด รถแล้ว
หม่าเก่อลงจากรถ แล้วเปิดประตูรถ ลากคอสังเล่นเอ๋อออกมา ก่อน แล้วใช้เชือกมัดข้ามือของเธอเอาไว้ จากนั้นจึงลากโจวซินลงมา แล้วมัดแบบเดียวกันที่ข้อมือของเธอ “ปัง” จากนั้นก็ปิดประตู เขาจิก ผมลองทั้งสองคน แล้วผลักพวกเธอให้เดินเข้าไปในโรงแรม
เจ้าของโรงแรมเป็นคนสนิทของตระกูลเขา ทักทายกันเรียบร้อย แล้ว ถึงแม้จะมีคนอื่นเห็นเข้า แล้วใครจะกล้ายุ่ง?
“เข้าไป!” หม่าเก่อผลักทั้งสองคนเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สังเช่น เอ๋อและโจวซินล้มลงไปกองอยู่ที่พื้นห้อง หม่าเก่อปิดประตู
ไม่ง่ายที่โจวซินและสังเล่นเอ๋อจะลุกยืนขึ้นมา ตอนนี้พวกเธอ เห็นแล้วว่า ตรงกลางห้องมีชายแก่อีกคนอยู่ด้วย รูปร่างหน้าตาเหมือน กับหม่าเกือในอีก 30 ปีให้หลัง
“พ่อ แล้ววันนี้ก็มาถึง เดิมที่ตั้งใจจะไปจับตัวสูงเช่นเอ๋อ คิดไม่ ถึงว่าจะได้ของแถมเพิ่มมาอีกคน ดูๆไปแล้วคงจะไม่ต่างกับสังเล่นเอ๋ อมากนัก” หม่าเก่อเดินไปข้างๆหม่าวั่นถังผู้เป็นพ่อ หันไปมองโจวซิน และสังเล่นเอ๋อแล้วหัวเราะเบาๆ
“อย่างนั้นก็ดีเลย พวกเราก็หนึ่งต่อหนึ่ง พอเล่นเบื่อแล้ว ก็ค่อย สลับกันเล่น แบบนี้ถึงจะสนุก!” หม่าวั่นถังลูบคาง ท่าทางตื่นกระหาย ของสองพ่อลูก เหมือนถอดแบบกันออกมาอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อมองดูสองพ่อลูกนี่ สังเช่นเอ๋อและโจวซินก็รู้สึกตกใจเป็น อย่างมาก พวกเธอวิ่งเข้าไปหลบที่มุมห้องอย่างหวาดกลัว เหมือนกับ หนูนาสองตัวที่กําลังโดนงูพิษจ้องอยู่
“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที! ช่วยพวกเราด้วย..” โจวซินตะโกน เสียงดัง สังเล่นเอ๋อเองก็ตะโกนออกมาด้วยเช่นกัน
“พวกนังแพศยา! ตะโกนให้ดังๆอีกสิ!” หม่าเก่อเดินพุ่งเข้าไปหาทั้งสองคน แล้วตบปากสังเล่นเอ๋อ จากนั้นจึงตบปากของโจวซิน! ตอน นี้พวกของโจวซินไม่กล้าปริปากร้องอีกต่อไป
“ลูกชาย แกตีพวกเธอทําไม ให้พวกเธอร้องนะดีแล้ว” หม่าวั่นถัง กลับยิ้ม เขายังคงนั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง แล้วมองดูสังเล่นเอ๋อและโจว ซินที่กําลังมองดูเขาด้วยความโกรธแค้น: “พวกเธอตะโกนแล้วจะมีคน มาช่วยพวกเธออย่างนั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันเปิดห้องที่ในเมือง ไม่ดีกว่าหรือ จะเสียเวลาถ่อมาถึงที่นี่ทําไมกัน ?”
“ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ ต่อให้ฉันเปิดประตู ให้คนอื่นๆเห็นพวก เธอร้องตะโกนอยู่ที่กลางห้อง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้ามายุ่ง เธอเชื่อไหม ล่ะ?” หม่าวันถังเหมือนกําลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ฟังดูไร้สาระ
ใจของโจวซินและสังเล่นเอ๋อเหมือนจะค่อยๆห่อเหี่ยวลง ตอนนี้ พวกเธอรู้สึกสิ้นหวัง ขาของสังเล่นเอ๋ออ่อนแรง แทบจะล้มลงไปกอง อยู่ที่พื้น
“ที” หม่าวั่นถังหัวเราะเบาๆ เขาเหลือบไปมองหม่าเก่อ: “แกอย่า มัวยืนนิ่งอยู่ รีบไปอาบน้ําได้แล้ว พวกเราจะได้เริ่มกัน”
หม่าเก่อขานรับ หันไปมองสังเล่นเอ๋อแล้วแสยะยิ้ม จากนั้นจึง เข้าห้องน้ําไป เสียงน้ําไหลดังขึ้น
พวกแกจะทําอะไร?” โจวซินถามด้วยน้ําเสียงที่สั่นเครือ “หา?” หม่าวั่นถังแสดงท่าทีแปลกใจออกมา แล้วถามกลับไปว่า: “ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ในห้องด้วยกัน แล้วพวกเธอคิดว่าจะทําอะไรล่ะ เล่นหมากรุกอย่างนั้นหรือ?”
โจวซินรู้สึกสมองว่างเปล่า เธออ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว ใจของสัง เล่นเอ๋อเต้นแรง “ตึก”… “ตึก” “ตึก” เหมือนนับเวลาถอยหลังสู่ความ ตายอย่างไรอย่างนั้น
เสียงน้ําไหลหยุดลง หัวใจของโจวซินและสังเช่นเอ่อลงหล่นไป อยู่ที่ตาตุ่ม
หม่าเกือพันผ้าขนหนูไว้ที่ช่วงล่างหนึ่งผืน แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ด ผมที่เปียกอยู่เดินออกมา กล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขามีหยดน้ําเกาะ อยู่ หม่าวั่นถังเองก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเอง
“ไม่นะ ฉันขอร้องพวกคุณอย่าทําแบบนี้…” สังเล่นเอ๋อรู้ดีว่า หากผ่านไปอีกสิบนาที เธอคงจะไม่อาจรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ได้อีก ต่อไป เธอคุกเข่าลงที่พื้น แล้วหันไปคํานับหม่าเก่อ: “ขอร้องพวกคุณ ปล่อยฉันไปเถอะ เมื่อก่อนฉันไม่ดีเอง ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ปล่อยฉันไป เถอะ….”
“ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ หากก่อนหน้านี้มีอะไรที่พวกเราทําผิด ไป พวกเราจะใช้วิธีอื่นในการชดใช้ให้พวกคุณ การลงโทษแบบนี้ มัน…” ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่โจวซินเองก็หันไปอ้อนวอนหม่า เก่อสองพ่อลูกเช่นกัน
“เหอะ ตอนนี้เพิ่งมานึกเสียใจ แกยังจําได้ไหม ก่อนหน้านี้ที่อยู่ หน้าผับโอวโล่ แกเคยดูถูกฉันยังไง? ตอนนั้นฉันสาบานกับตัวเองแล้ว ว่า ฉันจะต้องเอาความอัปยศอดสูนั่นส่งคืนให้แก่แกเป็นสองเท่าให้ ได้!” พูดพลาง หม่าเบื่อก็โยนผ้าขนหนูลงบนพื้น จ้องมองสังเล่นเอ๋อ แล้วเดินเข้าไปหา
“อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา…” สังเล่นเอ๋อถอยหลัง แต่ด้านหลัง ของเธอนั้นเป็นกําแพง
มือขวาของหม่าเกือบีบอยู่ที่คางของสังเล่นเอ๋อ เขาจับสังเช่นเอ๋อ พิ่งที่กําแพง เหมือนงูพิษที่กําลังแลบลิ้นออกมาเพื่อสัมผัสถึงรสชาติ ค่อยๆใกล้เข้าไปที่ใบหน้าของสังเล่นเอ๋อทุกทีๆ และมีรอยยิ้มเผยอยู่ที่ มุมปาก
สังเล่นเอ๋อตกใจจนปิดตาลง ตอนนี้เธอเหมือนแกะที่กําลังจะถูก
ฆ่า….
ตอนที่หม่าวั่นถังกําลังจะเดินเข้าไปหาโจวซิน เสียงโทรศัพท์ก็ดัง ขึ้น “กึ่ง กึ่ง…”
หม่าวั่นถังหันไปมองโทรศัพท์ด้วยความประหลาดใจ เขากําชับ เจ้าของโรงแรมเอาไว้แล้วว่า คืนนี้ตนเองจะทําธุระ ดังนั้นไม่มีทางที่ โรงแรมจะโทรศัพท์หาตนเองแน่นอน ถ้าหากมีเรื่องที่ต้องการจะหา เขา ก็น่าจะมาเคาะประตู
โทรศัพท์สายนี้ไม่ใช่โรงแรมเป็นผู้โทรมา แล้วใครโทรมาล่ะ? โทรศัพท์นี่โทรได้เฉพาะสายภายในโรงแรมเท่านั้นนี่….
สุดท้ายหม่าวั่นถังก็เดินไปที่โทรศัพท์ เขาค่อยๆยกหูโทรศัพท์ ขึ้น ไม่มีเสียงพูด อีกฝ่ายถอนหายใจเบาๆก่อน จากนั้นจึงพูดว่า: “ผม คือโข่งสิ่งเสียน ไม่ว่าตอนนี้คุณกําลังจะทําอะไรกับคุณหนูโจวซิน ขอ ให้หยุดเดี๋ยวนี้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ