รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 592 โน้มน้าว



บทที่ 592 โน้มน้าว

ดูเหมือนผู้คนที่มาร้านยาล้วนแต่ได้กระจายข่าวจากหนึ่ง เป็นสิบ จากเป็นร้อยและยังมีการแนะนำให้กับคนไข้รายใหม่ คนอื่น งานยุ่งจนแทบจะไม่มีเวลาพัก

แต่ว่าบนใบหน้าของอิงจิ้งหลินยังคงเต็มไปด้วยความดีใจ ฉัน รู้สึกว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไม่ใช่การเสแสร้งแต่ เป็นการยิ้มออกมาจากใจ

มันก็ไม่น่าแปลกใจถ้าพูดจากอีกมุมหนึ่ง จะมีใครรู้ถึงความ เศร้าโศกและเจ็บปวดของนักบ้าง บางครั้งยังไม่รู้ทำงาน สุจริตแล้วใช้อย่างสบายใจได้เลย

การรวมกลุ่มของทั้งสามแปลกประหลาด เมื่อก่อนเกลียดเข้าไส้จนถึงกระดูกหรือดูถูกมาก แต่ตอนนี้กลับมายอม เป็นนักการภารโรงของฉินหลั่งด้วยความเต็มใจ

ภาพแห่งความสุขแบบนี้ทำให้เหวินรู้สึกซาบซึ้งมาก บนใบหน้าของหลิงเต็มไปด้วยความพึงพอใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสถึงความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ที่ช่วย เหลือผู้อื่น ไม่ใช่การทำลายล้างผู้อื่นหรือทำให้ครอบครัวผู้อื่น แตกแยก

เกรงว่าถึงแม้ค่าคอมมิชชั่นจะได้ไม่กี่ตังค์ แต่เธอรู้สึกว่ามันมี ความหมายมากกว่าเงินหลายร้อย………
ในตอนที่ใกล้พลบค่ำฉันหลังปิดประตูสั่งให้คนไข้พรุ่งนี้ค่อย มาใหม่ วันนี้เขาตรวจคนไข้ไปเกือบจะหนึ่งร้อยคนถ้ายังคงฝัน ตรวจต่อไปเรื่อยๆเกรงว่าคงจะเหนื่อยจนขาดใจตายแน่นอน

คนไข้ก็เข้าใจว่าเฉินหลั่งเหนื่อย ดังนั้นหลังจากที่รับบัตรคิว เติมแยกย้ายกันกลับบ้าน

“วันนี้ได้รับคำปรึกษาหนึ่งหมื่นหยวน

หลังจากที่ปิดร้านสวีซีเหวินก็พูดออกมาด้วยความดีใจ “กิจการของเราถือว่าเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว

ฉินหลั่งเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วบิดขี้เกียจ “หนึ่งหมื่นหยวนหมอ แปดคนนั้นไม่ได้เลย พวกเขาตรวจคนไข้แค่สิบคนก็ปาไปหนึ่ง หมั่นแล้ว!”

“ก็นั่นมันไม่เหมือนกัน

สวี่เหวินนับเงินเหมือนกับเป็นนักบัญชี

“พอเถอะไม่ต้องพูดแล้ว มากินข้าวกันเถอะ”

อิงจิ้งหลิงเดินออกมาจากหลังสวนพร้อมกับรอยยิ้มที่สงบบน ใบหน้า “ตอนแรกก็กะว่าจะทำอาหารมื้อใหญ่เพื่อฉลอง แต่ว่า วันนี้งานยุ่งเกินไปก็เลยไม่ทันได้ไปซื้อวัตถุดิบ

“ฉันแต่ทำต้มตุ๋นไก่หนึ่งตัวแล้วก็ผัดเบคอนหนึ่งจานกับน้ำซุป ผักโขมหนึ่งถ้วย”

อิงจึงหลิงเรียกทั้งสองมากินข้าว “พวกคุณสองคนเหนื่อยมาทั้งวันรีบมากินข้าวเติมพลังเร็ว”

“ขอบคุณพี่สาว!”

ฉินหลั่งยิ้มพร้อมกับลุกขึ้นคิดจะเดินไปกินข้าวที่สวนด้านหลัง แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นก่อน

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมารับสายหลังจากนั้นก็มีเสียงของหมู่ เหม่ยเฉินพูดขึ้นด้วยความระมัดระวัง “พี่ใหญ่ฉิน คืนนี้ออกมา เลี้ยงฉลองกัน ฉันปิดบริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังได้แล้ว…….

“ฉันขอร้องล่ะ….…….หมู่เหม่ยเฉินพูดแกมขอร้อง

ฉินหลั่งไม่อยากไปแต่ภายใต้การยืนกรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าของ หลู่เหม่ยเฉิน เขาจึงได้แต่สั่งงานอิงจึงหญิงไม่กี่คำแล้วขับรถมุ่ง หน้าตรงไปที่สถานที่นัดพบ

สถานที่จัดงานเลี้ยง ในคืนนี้เป็นไนท์คลับระดับล่างที่เรียกว่า สไตล์อเมริกาเหนือ ฉันหลังเดินตามพนักงานเข้าไปในห้องงาน เลี้ยงที่จองเอาไว้และพบว่าตัวเองมาเร็วเกินไป

ตอนนี้มีผู้คนแค่สิบกว่าคน

แต่ว่าไม่นานเขาก็ต้องตกตะลึง ฉินหลั่งมองเห็นหนชิงชิง

หยูนชิงชิงสวมชุดกระโปรงยาว เธอนั่งอยู่มุมด้านหลังอ่าน นิตยสารอย่างเงียบๆ

รอยยิ้มที่เบาบาง แสงไฟกำลังดี หยูนชิงชิงในตอนนี้ให้ความ

รู้สึกถึงความสง่างาม
ฉินหลั่งรู้สึกอึ้งเล็กน้อย

“หยูน งง !”

ไม่นานเขาก็ตั้งสติได้แล้วเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ “เธอกำลัง ทำอะไรอยู่เหรอ?”

“เถ้าแก่ฉิน ไม่สิ พี่ใหญ่ฉัน!

เมื่อได้ยินเสียงของฉินหลังหยูนซิงซึ่งก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นก็โบกมือด้วยความดีใจ “นายมาได้ยังไงเนี่ย?”

“ฉันถูกเชิญมาร่วมฉลอง” ฉินหลั่งยิ้มแล้วยิ้มอีกหลังจากนั้นก็ ถามกลับ แล้วเธอล่ะ?”

เขามีความสัมพันธ์ไมตรีกับหลู่เหม่ยเงินมาร่วมฉลองที่นี่ถือว่า เป็นเรื่องปกติ แต่การที่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังถูกปิดแล้ว หยูนชิงชิงมาปรากฏตัวที่นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ

หยูนชิงชิงและหลู่เหม่ยเงินเป็นพวกเดียวกัน?

“บริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังมีปัญหานิดหน่อย ฉันรู้จักกับ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทนี้ทั้งนั้นเลยอยากจะมาขอร้องให้เขา ปล่อยบริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังสักครั้ง

“เธอมาจัดการเรื่องนี้?”

ฉินหลังขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอมีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูล เมิงเหรอ?”

“ถึงได้ยอมช่วยเหลือขนาดนี้?
“บริษัทอุตสาหกรรมไวน์บาหวังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ถึง ชีวิต ถ้าหากเธอไม่ระวังอาจจะสร้างปัญหาให้กับตัวเองได้

“ตอนนี้เธอเป็นถึงดาราระดับแนวหน้ามีชื่อเสียงมากมาย มา พัวพันกับเรื่องพวกนี้มันจะลำบากไม่ใช่น้อย

หยุนซึ่งชิงก้มหน้าเล็กน้อย เพิ่งกับฉันมีความสัมพันธ์ที่ดี ฉันคิดว่าช่วยได้แค่ไหนก็ช่วย

“เติ้งลี่?” ฉินหลั่งนึกถึงผู้หญิงที่ลั่นไกปืนในงานเลี้ยงคนนั้น

รู้สึกไม่ประทับใจมากนักเอะอะก็จะลงไม้ลงมือ

ฉินหลั่งขอน้ำผลไม้จากพนักงานเสิร์ฟ “เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง หรอกปล่อยให้เมิงลี่ลี่เป็นคนจัดการเองดีกว่า”

“พี่ใหญ่ฉิน แต่ฉันก็ยังอยากลองดู

“ตอนที่ฉันเพิ่งเข้าสู่วงการเพิ่งลี่คอยสนับสนุนฉันอยู่เบื้อง

หลัง ยังไงฉันก็ต้องตอบแทน

หยูนชิงชิงพูดอย่างลังเล “เติ้งลี่ลี่ไม่ได้เป็นคนประเภทเหมือน หมาเลี้ยง มีอำนาจนิดหน่อยก็รังแกผู้อื่น เธอ ให้เกียรติฉันมา โดยตลอด พวกเราคงจะถือว่าเป็นเพื่อนกันมั้ง ครั้งนี้ฉันอยากจะ ทําอะไรบ้างเพื่อที่จะชดเชยที่เธอเคยช่วยเหลือ

ในใจของเธอคัดค้านการมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท อุตสาหกรรมไวน์ป้าหวัง แต่เม็งลีลี่โทรศัพท์มาขอร้องให้เธอช่วย ด้วยตัวเอง เธอจึงได้แต่ทำเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์
“ซึม? เรื่องของหม่าเลี้ยงดูเหมือนจะไม่มีวี่แววอะไรเลย ตอนนี้ฉินหลั่งนึกถึงไอ้อ้วน วนหาที่ตายคนนั้นขึ้นมา

หน้าของหยูนชิงชิงดูดขาว หันมองรอบๆ ด้วยความกังวล แล้วพูดเสียงเบา “ฉันได้ไปตรวจสอบแล้ว ทางหม่าเลี้ยงตำรวจ ระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย……..

ฉันหลังพยักหน้า ดูเหมือนเรื่องนี้หมาเลี้ยงจะสมควรโดน

“เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอก

ฉินหลั่งสายหัวเล็กน้อย “เธอน่ะยังเด็กเกินไป

เขาย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจการที่หยูนชิงชิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จะทําให้เกิดความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และมันต้องส่งผลเสียต่อห ยูนชิงชิงอย่างแน่นอน

เพียงแค่หยูนชิงชิงยื่นมือเข้ามายุ่งกับครั้งนี้ คนอื่นก็จะตัดสิ นว่าหยูนซิงซึ่งเป็นคนของตระกูลเพิ่งทันที พูดอย่างตรงไปตรงมา เลยก็คือหยูนซึ่งซึ่งไม่สามารถมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เป็นเพราะฉินหลั่งรู้จักหยุนชิงชิงจึงห้ามปรามเธอ ไม่อย่างนั้น ด้วยสถานะทูตอันดับหนึ่งของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ของเขามา หนุนหลังให้กับหลู่เหม่ยเฉิน หยูนชิงชิงต้องจบไม่สวยแน่

หยูนชิงชิงเริ่มมีความลังเลขึ้นมาบ้างแล้ว เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ เฉลียวฉลาดสามารถสัมผัสได้ว่าฉันหลังไม่อยากให้เธอมีส่วน เกี่ยวข้อง ส่วนเธอก็รู้สึกเชื่อมั่นในตัวของจีนหลังอย่างแปลก ประหลาด
หยูนชิงซึ่งยังไม่ทันได้ตอบกลับ ประตูห้องของงานเลี้ยงก็ถูก ผลักออกอย่างแรง

มีกลุ่มคนชายหญิงสิบกว่าคนที่แต่งตัวดูดีเดินเข้ามา คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดคือชายหนุ่มที่ร่างสูงใหญ่และผู้หญิงที่

เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

คนที่อยู่ด้านหน้าสวมชุดสูทรองเท้าหนังคนที่อยู่ด้านหลัง ประดับด้วยเพชรพลอย

หยูนชิงชิงรีบหันไปพูดกับฉินหลั่งเสียงเบา “คนที่ฉันต้องการ พบมาแล้ว หงชวนผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัท อุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน

“ส่วนผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างคือซุนหงอี้ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและ พัฒนาของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหมยเงินและเป็นเภสัชกร อันดับหนึ่งด้วย”

เธอพูดต่อ “ผู้จัดการเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท อุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเงิน คำพูดของคนตระกูลในเย็นจีน ถือว่ามีอิทธิพลต่อบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเงินมาก

ชายหนุ่มร่างใหญ่กวาดสายตามองดูรอบๆ หลังจากนั้น สายตาของเขาก็มองมาที่หยืนชิงชิงด้วยความเป็นประกาย

“คุณซุปเปอร์สตาร์หยุน คุณมาด้วยเหรอ?”
เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ซุนหง และคนอื่นๆ นั่งลงที่โต๊ะหลัก ส่วนตัวเขาเดินตรงมาที่หยูนชิงชิงและฉินหลัง

หยูนขึงซึงยิ้มแห้งๆหลังจากนั้นก็ลุกขึ้นมาทักทายเขา “สวัสดี ผู้จัดการ

ฉันหลังก็โค้งคำนับเล็กน้อยเป็นมารยาท

“เมื่อก่อนผมเชิญคุณไปทานข้าวดื่มไวน์คุณมักจะบอกว่าไม่มี เวลา แล้วทําไมคนนี้ถึงมีเวลาว่างได้ล่ะ?”

“โกหกและทำร้ายความรู้สึกผมแบบนี้มันจะดูแย่เกินไปหรือ

เปล่า?

ผู้จัดการ ไม่ได้มองฉินหลั่งแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ สิ่งที่เขาทำ เพียงแค่ยิ้มให้กับหนูนชิงชิงด้วยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดหลัง จากนั้นก็นั่งลงข้างๆของหนูนชิงชิง

หยูนชิงชิงขยับตัวออกห่างเล็กน้อยเหมือนไม่อยากเข้าใกล้ หงชวนมากเกินไป

ผู้จัดการจี้ตลกแล้ว ฉันไม่ได้โกหกคุณแต่เมื่อก่อนมันงานยุ่ง จริงๆ

หยูนชิงชิงพูดอธิบาย “หากตอนนั้นพูดไม่เหมาะสมต้องขอให้ ผู้จัดการให้อภัยด้วย

“ให้อภัย…… สหรับคุณ แน่นอนผมให้อภัยอยู่แล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ