รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 501 หมัดเดียวล้ม



บทที่ 501 หมัดเดียวล้ม

คณบดีโหยวแค่ลังเลประเดี๋ยวเดียว แค่ประเดี๋ยวเดียว จาก นั้นเขาก็ชวยหนักกว่าเดิม

เฮือก..

ได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานส่งมาจากด้านบน ยังไม่เห็น ฉินหลั่งยกเท้า คณบดีโหยวก็ลอยไปบนอากาศ ปลิวไป หลายเมตร แล้วก็ร่วงลงพื้นอย่างแรง แล้วกลิ้งไปอีกหลาย เมตร

“มึงกล้าลงมือกับกหรือ? ถึงกล้า..” คณบดีโหยวกระ เสือกกระสนลุกขึ้นจากพื้น โกรธจนควบคุมตนเองไม่ได้ นี่มัน คือการดูถูกเขาต่อหน้าสังคมชั้นสูงของเมืองเย็นจีน จะให้ทน ได้อย่างไรกัน? หน้าของพวกปัญญาชนนั้นบางมาก

ไม่สนใจความเจ็บปวดบนกาย คณบดีโหยวที่เสื้อผ้ายับ ยู่ยี่แล้วคว้าเก้าอี้พุ่งออกไป..

“คณบดีโหยว หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ” ด้านข้างมีเสียงตวาด นุ่มๆ ดังเข้ามา เห็นเป็นเมิ่งลี่ลี่รีบเดินเข้ามา รองเท้าส้นสูงสี แดงเดินกระทบพื้นเดินอย่างมีท่ามีทาง “คณบดีโหยว คน อย่างคุณไม่เหมาะไปสู้กับใครหรอก หยุดมือเถอะ ไม่เช่นนั้น จะทุเรศมากกว่านี้”
คณบดีโหยวโม โหจนต้องมองบน กับฟันถอนหายใจ รู้สึก ว่าคำพูดของประธานเมิงน่าจะมีปัญหา สรุปว่าจะอยู่ฝั่งไหน กันแน่? เริ่มรู้สึกแปลกๆ

ตอนนี้เมิ่งลี่ลี่ก็มีสีหน้าที่ดีมาก เอาแป้งพับปัดแก้ม คิ้วตาดู มีชีวิตชีวา แล้วพูดว่า “พวกเราเป็นปัญญาชน อย่าทำตัว เถื่อนแบบนั้นได้ไหม?”

คำพูดนี้แสดงให้เห็นชัดว่าเข้าข้างคณบดีโหยว แต่คำพูด ของเมิ่งลี่ลี่นั้นดูนุ่มนวล ไม่มีพลังอะไรเลย ตอนที่พูดคำว่า ทำตัวเถื่อน น้ำเสียงก็ดูมีความสุข ราวกับชื่นชมความป่า เถื่อน

คณบดีโหยวเอาเก้าอี้โยนไปข้างๆ แล้วเช็ดเหล้าบน ใบหน้า จากนั้นถอยหลังไปด้วยความเกลียด

เมิ่งลี่ลี่ก็ใส่ส้นสูงเดินนวยนาดไปข้างหน้า แล้วพูดกับฉิน หลั่งว่า “คุณชายท่านนี้ คุณมาต่อยตีคณบดีโหยวของพวก เราต่อหน้าคนตั้งมากมาย รบกวนแขกของฉัน ฉันก็จะไม่ โทษคุณอย่างไร้เหตุผล”

“แต่ว่า คุณเองก็ต้องใช้เหตุผลด้วยใช่ไหมล่ะ? คุณบอก มาหน่อยสิว่ามาหาเรื่องที่นี่ทำไมกัน? พวกเราต้องการ เหตุผล! ”

ฉินหล่งก็จ้องมองเมิ่งลี่ลี่เขม็ง สายตาเฉียบคม ปากก็พูด ว่า “พูดไปสองไพเบี้ย ให้เมิ่งเหมิงเหมิงใสหัวออกมา”
เมิ่งสี่สี่ถูกฉินหลั่งจ้องมองเสียจนสับสนเล็กน้อย เก็บ สายตาของตนเองไปเล็กน้อย เพื่อหลบสายตาของฉินหลั่ง ในใจก็เริ่มโกรธแล้ว ที่ฝั่งตรงข้ามด่านั้น คือน้องชายแท้ๆ ของตนเอง

“ตระกูลเมิ่งของเราไปหาเรื่องคุณตอนไหน? แล้วจะมาหา เหมิงเหมิงทำไมกัน?” เมิ่งลี่ลี่กล่าว พร้อมกับพยายามเชิด หน้าพูดอย่างผู้ดีไว้

ฉินหลั่งก็ไม่อยากพูดมากต่อไป แต่กลับไปหาตัวเมิ่งเหมิง เหมิงในห้องโถงแทน

“ถึงเป็นใครกันวะ?”

ในตอนนั้นเอง มีวัยรุ่นคนหนึ่งพุ่งเข้ามา และก็คือเมิ่งเหมิง เหมิงที่อยู่ในงาน บอกว่าตนเองมีพรรคพวกผู้ชายมากมาย

“กล้ามาท้าคุณชายอย่างกูหรือ?” พูดไป วัยรุ่นคนนั้นก็ หยิบมีดพกออกมา เอาปลายมีชี้ไปทางฉินหลั่ง

“คุณชายเมิ่งอย่างกูไม่อยากจะไปสนใจคนอย่างถึงหรอก ถึงก็ยังด้นทุรัง แต่ชาติเสืออย่างกูไม่อาจปล่อยมึงไปได้ วันนี้ กูต้องจัดการให้..*

คำว่า ตาย ยังไม่ได้พูดออกมาจากปาก แขนของชายหนุ่ม ไม่มีความรู้สึก มีดพกลอยหลุดมือไป แล้วมีดก็ไปอยู่ในมือ ของฉินหลั่ง ยังไม่ทันได้เห็นฉินหลั่งลงมืออะไร มีพกเล่มนั้นก็แทงเข้ากลางอกของ ไอ้ขายชาติเสือ คนนั้น แทงไปครึ่งด้าม

มีด

ห้ะ?

คนอื่นๆ ก็ถอยหลังไปโดยสัญชาตญาณ ดวงตาก็เผย ความกลัวเหลือคณาออกมา จากนั้นฉินหลั่งก็เดินขึ้นหน้าไป ดึงมีดพกออกจากหน้าอกของฝ่ายตรงข้าม เลือดก็พุ่งกระฉูด ออกมา ตามมาด้วยเสียงร้องของคนอื่นๆ จากนั้น สถานการณ์ก็วุ่นวายไปหมด

พอมีดพกถูกดึงออก ชายผู้มีฉายาว่าชาติเสือก็ล้มลงกับ พื้น แขกขากระตุกไปหลายที จากนั้นก็นิ่งไป อาการสาหัสไม่ น้อย

ทั้งโหด ทั้งไว ทั้งบ้าระห่ำ ลงมือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ฉินหลั่งโยนมีดพกนั้นไป แล้วพูดเบาๆ ว่า “ไอ้เมิ่งเหมิงเห

มิงคนนี้ ขี้ขลาดขนาดนี้ ยังเป็นพี่ใหญ่ได้อีกหรือ?”

พูดไป ก็ลากเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง

ทั้งในห้องงานเลี้ยงก็เงียบกริบ ต่างถอยไปรวมตัวกันอยู่ ฝั่งหนึ่ง แล้วมองใบหน้านิ่งๆ ของฉินหลั่งตรงกลางห้องโถง

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ราวกับได้ฟังเพลงอะไรเรียบๆ สัก

เพลง

เติมที คนพวกเดียวกับเมิ่งเหมิงๆ บอกว่าจะไปตามคนมาฆ่าฉินหลั่งเสีย หรือไม่ก็จับฉินหลั่ง ไอ้พวกกระจอกพวกนั้น ตอนนี้เงียบกริบไปเลย ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

แต่ว่าพวกเขาตกใจก็ถือว่าตกใจอยู่ แต่ในใจก็คิดดูถูก กันว่า “กระจอกก็กระจอกสิวะ พอคุยกันไม่ได้ก็แทงแม่งเลย นอกจากแทงคนจะให้ทำอะไรได้อีกวะ? แทงคนอื่นก็คือจุดที่ พวกเขาภูมิใจ”

เส้นผมของคณบดี โหยวยุ่งเหยิงมาปกปิดหน้าผาก โมโห ตะโกนว่า “อะไรกันวะเนี่ย! นี่มันอะไรกัน!

เฮ้อ..

แต่คณบดีโหยวก็รู้สึกเจ็บที่ใบหน้ามากๆ มีอะไรบางอย่าง มาดีที่ปากเขา ฟันหักไปหลายซี่ พออ้าปาก เลือดก็ไหลเต็ม ปาก

แต่ฉินหลั่งก็ยังไม่ได้ขยับตัวเลยนี่ ใครเป็นทำ? คุณบดี โหยวปิดปากตนเอง ดูน่าอนาถเสียไม่มี แล้วก็รีบไปคว้า กระดาษทิชชูทางด้านข้าง แล้วไปหาฟันตนเองที่ร่วงไป

ส่วนเมิ่งเหมิงเหมิงก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว เหมือนจะไม่เห็น เงาเขาในห้องโถงแล้ว เหมือนจะทำตัวเป็นเต่าหดหัวไปเสีย แล้ว

เมิ่งสี่ลี่เห็นเรื่องทั้งหมดมันบานปลายมาเร็วขนาดนี้ มี เพียงตัวเธอเองที่ต้องควบคุมสถานการณ์ไว้ ว่าแล้วก็เดินหน้าไปตะโกนด้วยเสียงนิ่มๆ ว่า “ฉินหลั่ง คุณคิดจะทำอะไร กันแน่?”

ฉินหลั่งก็ไม่ได้มองเธอ แต่พูดไปทางฝั่งขั้น2ว่า “เมิ่งเหมิง เหมิง ถึงอย่างไรแกก็เป็นถึงคุณชายที่คอยชี้นิ้วสั่งนุ่นสั่งนี้ ทำไมถึงทำตัวเป็นเต่าหดหัวอยู่บนชั้น2 ไม่กล้าลงมาด้วยเล่า แกดูถูกคนไม่มีอารยธรรมอย่างพวกเราหรือไงกัน? ทำไม หรือ? กลัวหรือไง?”

พอพูดออก ทุกคนก็หันไปมองชั้นสอง เห็นเงาของเมิ่งเห มิงเหมิงเคลื่อนไหวที่ระเบียง ผ่านไป30วินาที เสียงของเมิ่ง เหมิงเหมิงก็ตั้งขึ้น

“ไม่ธรรมดาเลย ไม่เลว แทงคนต่อหน้าคนอื่น ถึงเป็นพวก กระจอกที่ไม่เหมือนใครจริงๆ”

เขาเดินลงมาจากบันได สีหน้าเป็นธรรมชาติ เหมือนว่าจะ เพิ่งหายจากอาการตกใจ

“อืม ค่อยดูเหมือนลูกผู้ชายหน่อย ทำอะไรลงไปก็ต้อง พร้อมยอมรับมัน ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะดูถูกเอาได้ ” ฉินหลั่งนั่ง บนเก้าอี้ แล้วก็ร่อนแก้วไวน์ที่มีไวน์สีแดงอมม่วง

เพิ่งเหมิงเหมิงก็หน้าแดงก่ำ ความจริงเมื่อครู่อยากจะหนี ไปเสีย แต่จะทิ้งพี่สาวและพรรคพวกของตนเองไป เมื่อครู่ ตนเองก็พูดเรื่องของฉินหลั่งต่อหน้าทุกคน ก็จะกลายเป็นตัว ตลกของสายตาทุกคนไปเสียแล้ว
เพิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนรักษาหน้าตาของตนเอง เพื่อหน้าตา ของตัวเอง ล่าบากแค่ไหนเขาก็ยอม

พอมาถึงห้องโถงงานเลี้ยง เมิ่งเหมิงเหมิงก็กวาดสายตา ไป เห็นแต่ชายชาติเสือที่เหลือเพียงลมหายใจเดียวสุดท้าย ก็โบกๆ มือ แล้วพวกลูกน้องรักษาความปลอดภัยก็มาหาม ชายชาติเสือออกไป นอกจากนั้น เขาก็ยังวางแผนส่งข่าวให้ กับอาสามของตนเอง

เขารู้ว่ายอดฝีมือขนาดนี้ก็สามารถถูกฉินหลั่งเล่นงานจน ตายทั้งเป็น ถ้าเปรียบการต่อสู้ ฉินหลั่งก็มีพลังมากกว่า แต่ ต่อให้เก่งแล้วจะทำไม?

เขามีอิทธิพลในเมืองเย็นจีน มีคนมากมายยอมทำงานให้ เขา การต่อสู้เป็นเพียงตัวเลือกที่ไร้ค่าเท่านั้น ขอเพียงเขาไม่ เลือกมัน ให้คนอื่นไปออกหน้าแทนก็พอแล้ว

เขาไม่เชื่อว่าวันนี้ฉินหลั่งจะรอดพ้นไปได้ เพื่อหน้าตาชื่อ เสียงของเขาเอง จะต้อง เขาจะต้องยืนหยัดสู้หน้าไปก่อน

เพิ่งเหมิงเหมิงหยิบบุหรี่ซิการ์ออกมาเป็นครั้งแรก ใช้ไม้ ขีดยาวๆ จุดมัน แล้วสะบัดดับไม้ขีด ตูดเข้าไปแรงๆ แล้วพูด

ภายใต้ควันบุหรี่ว่า

“บุกมาที่ห้องโถงใหญ่ฟูก้วยของโรงแรมซีเอ่อคนเดียว ทำลายประตู แทงคนอื่น ใช้กำลัง อำมหิต ฉินหลั่ง กูตบมือ ให้มีงเลย ไม่ธรรมดาจริงๆ มีฝีมือ มีความกล้า”
“เพียงแต่ว่ามันก็ไม่มีอะไรมาก ลูกน้องถูกว่าร้อยคน พร้อมออกมาเสมอ เก่งไม่แพ้ถึงเลย”

“แต่ละปี พวกมันแทงไปหลายร้อยคน กูก็ขี้เกียจไปนับ สรุปว่า ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล”

“คนที่สู้ได้ ในโลกนี้มีมากมาย พวกลูกน้อง บอดี้การ์ด ผู้ คุ้มกัน ทั้งหมดก็ทำเพื่อปากท้องทั้งนั้นไม่ใช่หรือ มือเปื้อน เลือดกันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?”

“ถามหน่อย ถึงมาเทียบกูได้หรือ?” เมิ่งเหมิงเหมิงดูบุหรี่ ซิการ์เฮือกใหญ่ ใบหน้าเคลิ้มลอยเสียไม่มี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ