บทที่ 485 เจ้าหญิงนิทรา

“หมอคนข้างๆนั้นชื่อว่าจางหลีเย่ว เป็นหมอรับผิดชอบของชุ นอวี่” พูดแล้วจงยู่มองไปที่หมอที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวผม น้อยๆ

“ที่เหลือคือเพื่อนของฉันเองจงยู่แนะนำ

ฉินหลั่งพยักหน้า”รู้แล้ว”

เขามองหญิงสาวที่ชื่อเหลิ่งสีหน้าดูป่วยมาก ปาก เริ่มม่วง เหมือนร่างกายไม่ดีมาตลอด อีกอย่างทั้งตัวก็บวม น้ำด้วย เรื่องนี้ที่จริงก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก รักษาได้

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉินรู้สึกที่สุด เหลิ่งซุนอวี่ทักทาย พวกเขาเสร็จแล้ว สายตาก็มองไปทางอื่น บางครั้งก็ชอบมอง ไปรอบๆห้อง เหมือนร่างกายพร้อมจะหลับตลอดเวลา

และถ้าหลับไป เหลิ่งอวี่สมองทุกอย่างก็จะถูกแช่แข็ง ทั้งหมด ในทางการแพทย์เรียกว่าเจ้าหญิงนิทรา

ดูถึงแค่นี้ เหลิ่งเซียนชีวก็พูดจบพอดี หันไปยิ้มให้กับจง ยู่”หนูจง นี่แฟนของเธอเหรอ?”

จงยู่พูด” คุณอาชีว เขาชื่อฉินหลั่งค่ะ”

เหลิ่งเชียนชีวใบหน้าดูแล้วก็คือผู้ชายที่มีคลาสและอำนาจน่าเกรงขาม แต่เสียงกลับอ่อนโยนมาก”คุณฉิน สวัสดี ดึกขนาดนี้แล้วยังเรียกคุณมาอีก ต้องขออภัยจริงๆ”

ฉินหลั่งยิ้มพูดว่า”คุณเหลิ่งสวัสดีครับ ไม่ต้องเกรงใจ หรอกครับ”

“ผมได้ยินว่าก่อนหน้านี้จงยู่ได้โรคแปลกๆมา คุณรักษา เธอจนหายได้สินะ? ตอนนี้อาการป่วยของลูกสาวแย่ลงทุก วัน ดังนั้นผมจึงตามหาคนเก่งทุกสารทิศ หวังว่าคุณจะพูดวิธี การรักษาของคุณออกมาได้ พวกเราจะรับมาพิจารณาพิเศษ” เหลิ่งเชียนชีวพูดอย่างถ่อมตัว และแสดงให้เห็นว่าเคารพฉิน หลั่งมาก

แต่ฉินหลั่งเข้าใจสถานการณ์ของเหลิ่งเชียนชีวดี หมอน่า จะบอกข่าวที่เหลิ่งซุนอวี่กำลังจะเป็นเจ้าหญิงนิทราให้กับเขา ทราบแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาถึงได้ตามหาหมอไปทั่ว วิธีอะไรก็ แล้วแต่ต้องลองดูทั้งหมด

“คุณเหลิ่ง ผมดูลูกสาวของคุณหน่อยได้ไหม?”

ฉินหลั่งเพื่อรักษาเวลา ก็ถามคำถามออกไปทันที

เหลิ่งเชียนชีวรีบยื่นมือพูดว่า”คุณฉิน เชิญเลย”

ฉินหลั่งรีบเดินไปใกล้เหลิ่งชุนอรี่ หวังอยากจะสำรวจการ เปลี่ยนแปลงร่างกายของเธอ

และในตอนนี้จางหลีเย่วก็มองอยู่ข้างๆ ขวางทางฉินหลั่งไว้พูดว่า “คุณเหลิง เขาเป็นใคร?”

“เขาเป็นหมอที่เพื่อนของลูกสาวฉันพามา เขาชื่อว่าฉิน หลั่ง” เหลิ่งเชียนชีวแนะนำให้กับหมอจางหลีเย่ว

“คุณฉิน แนะนำให้อีกที เขาชื่อหมอจาง จางหลีเย่ว รับผิด ชอบรักษาและคอยตรวจดูอาการของลูกสาวผม”

“อาการป่วยของลูกสาวผม หมอจางรู้ดีที่สุก มีอะไรที่ไม่ เข้าใจก็สามารถถามเขาได้”

ฉินหลั่งทักทายจางหลีเย่วอย่างมีมารยาท”หมอจาง สวัสดี”

และจางหลีเย่วกลับอึ้ง นึกไม่ออกว่าได้ยินชื่อฉินหลั่งมา จากไหน แต่ได้ยินว่าฉินหลั่งมาเพื่อดูอาการป่วยของเหลิ่งชุ นอวี่ สีหน้าของจางหลีเย่วเปลี่ยนไปทันที “คุณฉิน ผมอยาก ถามคุณว่า คุณจบโรงเรียนแพทย์จากไหนมา และทำงานที่ โรงพยาบาลไหน?”

ฉินหลั่งอึ้ง พูดอย่างเรียบเฉยว่า”ฉันไม่เคยเรียนการ แพทย์ แต่ฉันมีความเชี่ยวชาญการรักษาทางการแพทย์บาง อย่างมากกว่า”

ฉินหลั่งเพื่อลดหย่อนเวลา ก็พูดออกไปตามตรงเลย

“ไม่เคยเรียนหมอ?”

“จากนั้นก็เชี่ยวชาญเลย?”
“พูดไร้สาระอะไรกัน!”

สีหน้าของจางหลีเย่วบึ้งตึงทันที”การแพทย์เป็นศาสตร์ ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด หากไม่ได้ศึกษามาอย่างดี ก็บอกว่าตัวเองมี ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ นายไม่มีความรับผิดชอบ เลยนะ ขอถามหน่อย นายมีใบประกอบวิชาชีพหมอหรือ เปล่า?”

“ไม่มี” ฉินหลั่งแสยะยิ้มเล็กน้อย ในใจคิดว่าหมอจางช่าง อวดรู้จริงๆ เวลาไหนแล้วยังรักษากฎพวกนี้อยู่อีก

“ใบประกอบวิชาชีพหมอก็ไม่มี! ฉันรู้อยู่แล้วนายต้องไม่มี แน่ คนอย่างนายน่ะเป็นแค่หมอเถื่อน! นายรู้ไหมว่าที่นี่น่ะคือ ที่ไหน?! เป็นโรงพยาบาลรักษาส่วนตัว โรงพยาบาลเย็นจีนที่ มีการรักษาเครื่องมือแพทย์ที่ดีที่สุด! อยากจะมาหลอกก็ดู สถานที่บ้างนะ!”

จางหลีเย่วเห็นได้ชัดว่าดูตื่นเต้นมาก แม้จะทำให้เสียงเบา ที่สุดแล้วก็ตาม แต่เสียงก็ยังค่อนข้างสูงมาก จนสีหน้า อาการออก

“คุณเหลิ่ง ผมบอกแล้วไง ใครมาก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก อาการป่วยของลูกสาวคุณช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ ไม่นานก็จะ เสียสติไป ไม่ว่าโรงพยาบาลไหนก็ไม่มีทางรักษาได้ เป้า หมายของพวกเราก็เพื่ออยากหลอกเงินคุณเท่านั้น และผมที่ เป็นหมอของโรงพยาบาลนี้ ไม่มีความคิดอื่นเลย แต่ว่าตามหลักความเป็นจริงแล้ว สามารถรักษาชีวิตลูกสาวคุณไว้ได้ เป็นขั้นสุดของการแพทย์แล้ว” จางหลีเย่วพูดมาเยอะแยะ ก็เพื่อไม่ให้ฉินหลั่งรักษาเหลิ่งชุ

นอวี่ สายตาเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูก และยัง

มองเขาเหมือนศัตรูอีกด้วย

แต่เขาลือไปแล้วว่าตอนนี้เหลิ่งซุนอวี่กำลังนอนอยู่บน เตียง ตอนนี้เหลิ่งซุนอวี่ก็มีสติดีครบถ้วน ได้ยินคำว่าเจ้า นิทรา ก็ตกใจจนหน้าซีดเผือดไปทันที ร่างกายสั่นเทาโดย ไม่รู้ตัว ต่อมาเหงื่อก็ไหลออกเต็มหน้า และตัวหดบนเตียง

และจางหลีเย่วยังคงพูดไม่หยุด”คุณเหลิง ผมขอพูดตาม ตรงนะ หมอนอกแผนอย่างฉินหลั่งเนี้ยไม่มีทางรักษาได้ หรอก เขามาแล้วมีแต่ทำให้ชุนอวี่เป็นอันตรายต่อชีวิตเสีย มากกว่า!”

“หมอจางคุณไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ หมอที่หนูจงยู่ แนะนำมา มีวิธีรักษาของเขาเอง” เหลิ่งเซียนชีวดูจะใจเย็น มาก ไม่ได้หมดความเชื่อใจฉินหลั่งกับจงยู่ เพราะคำพูดของ จางหลีเย่ว

ติดๆๆ…

ทันใดนั้น สัญญาณเตือนของเครื่องมือก็ดังขึ้น เครื่องมือที่ เชื่อมต่อกับร่างกายเหลิ่งซุนอวี่ก็มีแสงสีแดงกะพริบขึ้น ใน ห้องผู้ป่วยทุกคนก็ต่างตกใจกันหมด บางคนถึงกับร้องขึ้นมาว่า”ซุนอวี่ ซุนอวี่เป็นอะไรไป!?”

เหลิ่งเขียนชีวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เห็นลูกสาวกัดฟันแน่น หลับตาสนิท ร่างกายหดเป็นลูกกลม อาจจะสลบไปแล้ว

ด้านนอกก็มีพยาบาลสองคนวิ่งเข้ามา รีบตรวจสอบ ร่างกายให้กับผู้ป่วย และยังเริ่มเติมออกซิเจนให้กับเหลิ่งชุ นอวี่ วัดอุณหภูมิ

ไม่ถึงสิบนาที โรงพยาบาลรักษาส่วนตัวก็มีข้อสรุปมาว่า เหลิ่งชุนอวไม่ได้สลบทั่วไป แต่เป็นเพราะตกใจอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงทำให้สมองเกิดความผิดปกติ สุดท้ายทำให้สลบไป ในที่สุด กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

เป็นเหมือนกับที่ฉินหลั่งคิดไว้ไม่มีผิด แต่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ คาดไว้

พอเห็นหน้าตาของจางหลีเย่ว ฉินหลั่งคิดในใจว่าหมอไร้ ประโยชน์ ก็คือจางหลีเย่วนั่นแหละ ตะโกนเสียงดังกระตุ้น ทำให้เหลิ่งซุนอวี่ต้องสลบไป ทำให้อาการป่วยเกิดขึ้นอย่าง ฉับพลัน

และเหลิ่งเชียนชีว สีหน้ากลับดูน่ากลัวมาก แต่ก็ยังคงตั้ง สติได้ อาจจะเตรียมใจไว้นานแล้ว

บรรยากาศกดดันมาก ในตอนที่จางหลีเย่วไปๆมาๆตรวจ สอบสารพัดให้กับเหลิ่งขุนอวี่ พอเขาเดินมาถึงข้างฉินหลั่งทันใดนั้นฉินหลั่งก็ได้กลิ่นพิเศษแปลกๆ เขาเงยหน้าขึ้น สบตากับอีกฝ่าย สายตาดูจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่ ฉินหลั่งรีบเดินไปข้างเหลิ่งซุนอวี่ แค่จับข้อมือของเธอ

เบาๆ ก็เดินไปข้างๆทันที

สายตาของเหลิ่งเชียนชีวเศร้าสลด ดูแล้วคุณฉินก็ช่วย ลูกสาวตัวเองไม่ได้ ก็ไม่แปลก เจ้าหญิงนิทราเป็นการรักษาที่ ยากที่สุดของโลกการแพทย์ การจะมีปาฏิหาริย์ขึ้นก็เป็น ความหวังที่น้อยมาก

และจางหลีเย่วก็ทำสีหน้าดูถูก เหมือนรู้สึกว่าฉินหลั่งไปจับ ซีพจรก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทำท่าไปเท่านั้นเอง