รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 220 การประลองฝีมือกำลังภายในครั้งแรก



บทที่ 220 การประลองฝีมือกำลังภายในครั้งแรก

หยูหมิงก็เคยได้ยินจากปากหม่าหยาง เคยพูดชื่อ ฉินหลั่งอยู่หลายครั้งแล้ว ว่าเคยตามจีบหลงหลิง แถม ยังยกหลงหลิงให้เป็นนางฟ้าเทพธิดาเลยเชียว

ฉินหลังยังคิดลมๆ แล้งๆ จีบหลงหลิงอีกเหรอ? คุณคุณชายหยูก็จะให้ฉันหลั่งในความทรงจำของหลง หลิงเลวทรามต่ำช้าที่สุด!

“อะไรนะ!” ฉินหลั่งตกตะลึง ต่อหน้าหลงหลิงมา พูดว่าตนเองเป็นแมงดาขายตัว แล้วจะให้หลงหลิงมอง ตนเองเป็นยังไง? ฉินหลั่งรีบใช้มือปฏิเสธทันควัน “ไม่มี คุณชายหยู คุณกำลังพูดเรื่องอะไร!”

เพราะว่าครั้งนั้นที่กินบาร์บีคิวด้วยกัน ฉินหลังมี ความทรงจำดีๆ ให้หยูหมิงมาก แล้วทำไมเขาถึงได้มาใส่ ร้ายป้ายสีโยนขี้ใส่ตนเองล่ะ? ฉินหลั่งทั้งตกใจและ สงสัยอยู่ในใจ

“เปล่า? งั้นผู้หญิงที่อยู่ในห้องพักคนนั้นเป็นใคร กัน?” หยูหมิงพูด

“นั่นคือ…นั่นคือ…” ฉินหลั่งคิดว่าตนเองอยู่ใน ห้องพักกับจูชุยส่วยสองต่อสองก็เพื่อจะฝึกวิทยายุทธ์ เท่านั้นเอง ตนเองยังไม่เคยแสดงอาการล่วงล้ำเกินเลย สักนิด! ทว่าเมื่อบุคคลภายนอกมองมาก็เป็นแบบนี้ทุก ราย!
“พูดไม่ออกงั้นสิ ในใจคิดเรื่องไม่ดีอีกละสิ?” คุณ ชายหยูพูดอย่างเย็นชา

ฉินหลั่งเหลือบตามองใบหน้าหลงหลิงที่เริ่ม เคร่งขรึมลง ในแววตาที่มองมาที่ตนเองมีแต่ความโกรธ เคืองอยู่ เห็นได้ชัดว่าเชื่อคำพูดของหยูหมิง

ฉินหลั่งร้อนใจ พร้อมทั้งพูดเสียงดัง “เปล่า ฉัน กับเธอไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าทั้งนั้น!”

“หมกอยู่แต่ในห้องพักเดียวกันแล้วบอกไม่มีเรื่อง อย่างว่า งั้นไปเรียกผู้หญิงคนนั้นออกมา ถามเดี๋ยวก็รู้ เรื่องเอง พวกแกอยู่ในห้องพักหัวเราะต่อกระซิกกันทุก วัน!” คุณชายหยูตะคอกใส่ “เปาถุง แกไปเอาผู้หญิงที่อยู่ ในห้องนั้นเรียกลงมา!”

“ครับ!” เปาถุงรับคำสั่งจากนั้นก็เดินขึ้นไปด้าน บนเพื่อไปเรียกคน

ฉินหลั่งคิดในใจ ตอนนี้จชุยส่วยกำลังใส่ชุดนอน แล้วนั่งฝึกวิทยายุทธ์อยู่บนเตียง ถ้าให้คนอื่นเห็นแล้ว เรื่องอัปรีย์จัญไรที่โยนมาให้ตนเอง ไม่ใช่ความผิดแต่จะ อธิบายไปก็ยากแก่ทำให้คนเชื่อจนกลายมาเป็นความ เรื่องจริงไปแทน ยิ่งถ้าให้หลงหลิงไปเห็นแล้วด้วย ความเข้าใจผิดระหว่างพวกเขามันคงหนักกว่าเดิมไปอีก ในเวลานั้นในใจของฉินหลั่งก็เกิดความคิดขึ้นมา ไม่ สามารถให้พวกเขาเข้าไปในห้องพักของจูชุยส่วยได้

แล้วเห็นว่าเปาถุงเดินไปทางลิฟต์ ฉินหลั่งก็เอา มือกั้นเอาไว้ แล้วพูดว่า “เชิญกลับไปเถอะ ห้องพักของฉันไม่สะดวกให้คนอื่นเข้าไปยุ่มย่าม!”

เปาถุงส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างขัดใจ แล้วพูด ว่า “ไม่สะดวก เริ่มตั้งแต่วันนี้ก่อนแล้วก็จะสะดวกเอง เรียกอื่นางผู้หญิงที่แกเอามาพลอดรักเรียกลงมา ฉันจะ เอาหญิงชายชั่วช้าอย่างพวกแก ส่งไปนอนในคุก!”

เปาถุงรู้ว่าคุณชายซุนเกลียดฉินหลั่งเข้าไส้วันนี้ เลยจงใจมาหาเรื่องกับเขา ดังนั้นเลยไม่ต้องเกรงใจเขา เลย พูดไป ก็ปัดมือที่ฉินหลั่งยื่นออกมาขวางทางให้ออก ไป เพื่อที่จะได้เดินขึ้นลิฟต์

ฉินหลั่งโมโหเดือดดาลอยู่ในใจ คนคนนี้ก็ช่าง ทำตัวร้ายกาจเกินควรไปไหม? เลยไม่พูดให้เปลือง น้ำลาย เลยยืนมือขวาออกมาจับที่หัวไหล่ของเปาถุง เปาถุงรู้สึกเหมือนมีเหยี่ยวกำลังคว้าตนเองเอาไว้เขา โมโหจัดพร้อมทั้งพูดว่า “ไอ้เวรขี้แพ้ ถึงรนหาที่ตายหรือ ไง?”

จากนั้นสีหน้าของเปาถุงก็ดูดันทันที แล้วหันตัว กลับมา คิดว่าจะต่อยฉินหลั่งให้คะมำล้มกองไปบนพื้น

แต่ว่าเขายังไม่ทันหันกลับมาหาฉินหลั่งเลย พลันรู้สึกว่าร่างกายเหมือนสูญเสียการทรงตัวทันที เพราะว่าตนเองถูกฉินหลั่งอุ้มพาดบ่าแทน จากนั้นฉิน หลังก็ใช้แรงโยนเข้าลง เสียงหล่นดังทุ้มๆ เปาถุงถูก โยนลงมาด้านล่าง จนกระดูกหักไปสองซี!

“แกไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฉินหลั่งถามอย่างปกติ เขาไม่คิดเลยว่า ตนเองจะลงมือได้ร้ายกาจเช่นนี้ เมื่อเห็นเปาถุงที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน ในใจรู้สึกไม่ค่อยสบายใจไปด้วย

“ไอ้หยา” เปาถุงหล่นไปกองอยู่กับพื้น แถม ตนเองยังลุกไม่ได้อีก จนคุณชายหมูให้ลูกน้องสองคน เข้ามาช่วยประคองให้เปาถุงลุกขึ้น แล้วส่งตัวไปโรง พยาบาลทันที

ในใจหยูหมิงรู้ทันทีว่า ไอ้ขี้หมาฉินหลั่งมันเก่ง จริงๆ

เปาถุงเป็นบอดี้การ์ดที่เขาเลือกมาโดยเฉพาะ แต่ กลับมาโดนฉินหลั่งออกแรงแค่หมดเดียวก็พ่ายแพ้ไม่ เป็นท่า ยังดีที่ว่าวันนี้เขาพาผู้มากฝีมือมาด้วยอีกสองคน

หยูหมิงพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หมอนี่ ถึงเป็นแมงดา ขายตัวก็ไม่ถูกแล้ว ตอนนี้ยังมาทำร้ายบอดี้การ์ดของกู อีก วันนี้กจะสั่งสอนเมิงให้หลาบจำ แล้วค่อยเอาตัวถึง ไปสถานีตำรวจ!”

“ฉอเส้าอี้ รบกวนคุณช่วงลงมือสั่งสอนไอ้เด็กเวร ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงคนนี้ที!” หยูหมิงพูดเสียงดังลั่น

จากนั้น ชื่อเส้าอี้ที่ยืนข้างๆ ก็ค่อยๆ เดินย่างกาย เข้ามาหา

คนที่อยู่โดยรอบต่างคอยจับกลุ่มมองดู ตอนที่ฉี่ อเส้าอี้เดินเข้ามานั้น กล้ามเนื้อที่เป็นลอนนูนชัดและรอย แผลเป็นที่น่ากลัวมันทำให้คนที่อยู่รอบข้างต่างตกใจไป ตามกัน

“คนคนนี้กำยำล่ำสันมากเลย”
“แม่งเอ๊ย ดูแขนของเขาสิ ใหญ่กว่าต้นขาของฉัน

อีก”

“รอยแผลเป็นเยอะขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นคนดร้าย เด็กนั้นเสียท่าแล้ว” คนที่อยู่รอบๆ ท่าทางเหมือนเจ้าของกิจการอยู่

หลายคน พร้อมทั้งจำชื่อเส้าอี้ได้ ต่างตกใจกันเป็นแถว จากนั้นก็พูดคุยกระซิบกับคนที่อยู่รอบๆ อย่างเบาเสียง ด้วยความสนุกสนาน

“คนนั้นเป็นเจ้าพ่อวงการมวยลับๆ ของมณฑลเจ้อ เจียงนี้”

“ไม่ผิดหรอก เดือนที่แล้วฉันยังไปดูสโมสรมวย แถมยังพนันเงินด้วยซ้ำที่เมืองหลินอานอยู่เลย ตอนนั้น ฉือเส้าอี้กำลังลงแข่งกับริชาร์ดนักแข่งแชมป์มิดเดิ้ลเวต จากวงการWB0ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อเส้าอี้เพิ่งจะ ออกหมัดไปได้หกท่า ก็สามารถน็อคคู่ต่อสู้ไปได้แล้ว!”

“ใช่สิ ตอนนี้เขาชนะติดต่อกันแล้วสี่สิบเอ็ดครั้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นนักชกในวงการใต้ดิน ทว่าเขาเป็นบุคคล ที่มีชื่อเสียงมากที่ทำให้วงการนักมวยต่างขนพองสยอง เกล้าไปตามๆ กัน!”

ฉินหลั่งมองมาทางฉื่อเส้าอี้ เขาสามารถจดจำสิ่ง ที่จูชุยส่วยได้สอนวิชา “เทียนหนานเทียนเป่ย” เอาไว้ พลังแววตาที่มองออกมามีพลังมากมาย เมื่อเห็นว่าฉือเส้ าอี้ลงเท้าเดินอย่างแข็งแกร่ง ท่าทางการเดินมีการแกว่งแขนเล็กน้อย ต่างแฝงความรู้สึกอยากฆ่าเอาไว้ พลันใน ใจเขาคิดว่า “คนคนนี้พลังความสามารถเก่งกล้ามาก!”

ฉือเส้าอี้เดินมาถึงตรงหน้าฉินหลั่ง จากนั้นก็ พิจารณาฉินหลั่งอยู่รอบหนึ่ง แล้วยิ้มให้พร้อมพูดอย่าง เย็นชา “ไอ้เด็กน้อย ตอนนี้แกยังสามารถคุกเข่ากับพื้น คุกเข่าโขกหัวคำนับให้คุณชายหยูกับฉันสิบครั้ง เพื่อ ประหยัดเวลาในการที่ฉันจะต้องลงมือกับแก!”

ฉือเส้าอี้พูดให้ตนเองเสียหายต่อหน้าหลงหลิง แบบนี้ ฉินหลั่งจะไม่โกรธแค้นได้อย่างไร เลยพูดกลับ ทันควัน “แกคุกเข่าโขกหัวคำนับให้ฉันสิบครั้ง ฉันก็จะ ปล่อยแกไป!”

ฉือเส้าอี้เริ่มโกรธ พร้อมทั้งตะคอกใส่ “ไอ้เด็กเวร กูคิดว่าถึงคงเหนื่อยหน่ายกับการใช้ชีวิตแล้ว!” แล้วหัน ไปพูดกับหยูหมิง “คุณชายหยู ถ้าฉันเผลอพลาดทำไอ้ เวรนี่ตาย คุณชายช่วยเป็นธุระจัดการให้ฉันด้วย!”

หยูหมิงพูดทันควัน “พูดได้ดี พูดได้ดี..

“อย่า..” หลงหลิงพูดกับหยูหมิงอย่างเบาเสียง ห ยูหมิงยิ้มให้เล็กน้อย “ไม่เป็นไร ก็แค่สั่งสอนเขาเท่านั้น แหละ” ทว่าในใจคิดว่าทางที่ดีที่สุดฉือเส้าอี้ควรจัดการ ฆ่าฉินหลั่งให้ตายไปซะ!

“ดี หมัดเดียวของฉันก็สามารถจัดการไอ้เด็กปาก ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมได้!” ฉือเส้าอี้หัวเราะอย่างเย็นชาออก มา พลางยกมือขวาขึ้นมาต่อยไปทางฉินหลั่ง!

หมัดนี้ เป็นหมัดที่มีแต่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ของอเส้าอี้ แล้วยังเพิ่มความหนักหน่วงของแรงไปด้วย รู้สึก ได้ทันทีว่ากล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ ของเขาใกล้จะระเบิดอยู่ แล้ว! คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกันยกใหญ่ ในใจ ต่างหวาดกลัวหมัดที่ชกออกไป เพราะคิดว่าชีวิตฉินหลั่ง อันน้อยนิดของยากที่จะรักษาตัวให้รอดชีวิตไปได้

ทว่าฉินหลั่งไหวตัวทัน! พร้อมทั้งนึกถึงวิชา “เทียนหนานเทียนเป่ย” ที่จชุยส่วยช่วยแกะวิชามาตั้ง หลายวันมานี้ ท่านอาจารย์ได้อบรมสั่งสอนไว้แล้ว ศัตรู ตัวฉกาจใช้แรงและความเร็วทำร้ายอย่าไปกลัว ขอแค่ เพียงหาวิธีที่เขาออกหมัด จากนั้นก็เอาความสามารถ ของตนเองออกแรงจนทำให้หยุดศัตรูตัวใหญ่จน สามารถชนะได้!

วิชา เทียนหนานเทียนเป่ย ” อีกทั้งยังเป็นศาสตร์ ที่ครอบคลุมหลากหลายวิชาเข้าด้วยกัน มีทั้งศิลปะการ ต่อสู้ด้วยหมัด วิธีการออกแรงเตะที่ขา การออกแรงเตะที่ ขา การหลบหลีก การรับหมัดเป็นต้น ฉินหลั่งใช้กลยุทธ์ นี้ออกหมัดที่ชื่อว่า “แกล้งทำดี” อย่างทันที มือขวาคว้า แขนฉือเส้าอี้เอาไว้ มือสั่นเล็กน้อย ร่างกายของฉื่อเส้าอี้ เซเล็กน้อย

ท่านี้ไม่ใช่การออกหมัดต่อสู้ ประเด็นสำคัญคือให้ ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถทำร้ายตนเองได้

ฉือเส้าอื้ออกหมัดมาทางฉินหลั่งสี่ถึงห้าหมัด ด้วยความโกรธแค้นดั่งเสือร้ายที่เพิ่งลงจากดอย ทุก หมัดที่ปล่อยออกมาต่างทำให้คนที่กำลังมุงดูอยู่นั้นส่ง เสียงตกใจ ฉื่อเส้าอี้เป็นเจ้าพ่อวงการนักมวยในวงการใต้ดิน เพราะฉะนั้นก็ออกแรงหมัดเลยไม่เหมือนใคร!

ทุกการออกหมัดของเขาฉินหลั่งยังคงใช้กลยุทธ์ วิธี “แกล้งทำดี” ไปเรื่อย ทุกครั้งที่ฉอเส้าอื้ออกหมัดมา ทางฉินหลั่ง ฉินหลั่งมักจะใช้กลวิธีในการเข้าไปใกล้ตัว เขา ตอนที่แขนของเขากำลังพุ่งออกหมัดมาหรือว่าใช้ มือในการใช้แรงหรือว่าเมื่อหมัดมาใกล้แค่ชิดตัว หรือว่า ทั้งติดตัวหรือว่ามาเป็นชุด มักจะทำให้หมัดของเขา เปลี่ยนทิศทางไป หมัดนั้นก็เลยไม่มากระทบตัวฉินหลั่ง

ฉือเส้าอี้เริ่มร้อนรน พร้อมทั้งตะคอกใส่ฉินหลั่ง ด้วยความเดือดดาล “ไอ้หมอนี่ ถึงต่อยท่าผีห่าซานตาน อะไร มีปัญญาก็เอาแรงมาสู้ตรงๆ เลยสักครั้ง หยุดมา วุ่นวายใช้เทคนิคบ้าบอกับแขนกูสักที กูจะทำให้ถึงรู้ว่า จึงมันก็แค่ตัวเรือดดีๆ นี่เอง!”

พูดจบ ก็ตวาดเสียงดัง พลันหมัดหนึ่งก็พุ่งมาทาง ร่างกายของฉินหลังทันที

ฉือเส้าอี้ไม่หยุดต่อยเลย หลังจากที่ผ่านการ ทดสอบมาหลายครั้งแล้ว ฉินหลังก็เข้าใจการออกหมัด ของเขา เขาเลยให้วิชา “แกล้งทำดี” เพื่อเปลี่ยนทิศทาง หมัดอีกครั้ง การทำแบบนี้ พลังของหมัดฉือเส้าอี้ไม่ได้ ลดน้อยลงเลย แต่ว่ามันเปลี่ยนทิศทางไป หมัดไปชน เข้ากับเสาต้นหนึ่งของโรงแรม

เสาต้นนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง80เซนติเมตร เคลือบ ด้วยหิน หมัดของชื่อเส้าอี้ต่อยเข้าไปอย่างจัง เลยมี เสียง “ปีก” ดังขึ้น หินที่แตกละเอียดออกมาเป็นผงและ เป็นแผ่นนั้น หล่นลงบนพื้น จนเห็นเสาปูนที่มีแต่โครงเหล็ก!

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจจนขวัญหนี ดีฝ่อ ต่างอ้าปากค้างกันทั้งนั้น ต่างคิดว่าถ้าหมัดนี้มัน สัมผัสกับเนื้อตัวของคน แล้วผลลัพธ์ได้มาจะเป็นยังไง!

กำปั้นของม่อเส้าอี้มีแต่เลือดไหลนอง เขาโดน

ฉินหลั่งยั่วโมโหจนโกรธจัด เดิมที่เขาเป็นผู้ชายที่

หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ทว่าเวลานี้กลายเป็นเหมือน

คนจ้องจะกินเลือดกินเนื้อ น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ฉินหลั่งมองมาทางฉื่อเส้าอี้แล้วพูดว่า “ได้ ฉันจะ ลงมือกับแกสักครั้งอย่างจริงๆจังๆสักที ดูสิใครกันที่เป็น ตัวเรือด!”

พูดไป ฉินหลั่งก็พุ่งหมัดเข้าหาฉือเส้าอี้ทันที!

ฉือเส้าอี้ได้แต่หัวเราะอย่างเย็นชา “งั้นดี ไอ้ขี้แพ้ กูจะต่อยให้หัวถึงระเบิดเลย!” ในใจคิดว่า ก็ชกออกไป ทันที ชกไปทางใบหน้าของฉินหลั่ง!

ฉินหลั่งคิดในใจว่า “มาได้ถูกเวลาพอดี” เลย ออกท่า “ละลานตา” ออกไป มือขวาชนเข้ากับข้อมือของ ฉือเส้าอี้ เพื่อให้กำปั้นของเขาต่อยไปในอากาศแทน จากนั้นก็จับข้อมือของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ หักมือเขาลงครึ่งหนึ่งจนมีเสียงดังขึ้นจนได้ยินเสียง “กรอบ กรอบ แกร๊บ” ดังขึ้นมาหลายครั้ง จากนั้นก็มีเสียง ฉือเส้าอี้ร้องโอดโอยอย่างทรมานอยู่หลายครั้ง ข้อ มือขวาของเขาและข้อแขนขอเขาหักไปเรียบร้อยแล้ว

ฉินหลังใช้เท้าถีบไปที่ท้องน้อยของเขา ฉือเส้าอี้งอตัวกับพื้น พลันมีเสียง “ผลัก” ดังขึ้น จากนั้นร่างกาย ตัวโตก็นอนกองอยู่กับพื้น

ฉือเส้าอี้ที่กำลังนอนแผละอยู่ที่พื้น ร้องโอดโอย ด้วยความเจ็บปวดทรมาน “แขน..ของ ฉัน…โอ๊ย…แขน….ของฉัน…รีบพา..ฉันไปส่งโรง พยาบาล”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจพร้อมทั้งหวาด กลัวตอนที่มองมาทางฉื่อเส้าอี้และฉินหลั่ง แถมไม่กล้า ส่งเสียงออกมา พวกเขาคิดว่าฉินหลั่งคงโดนฉือเส้าอี้ ต่อยจนใบหน้ามีแต่เลือด แล้วคุกลงไปคุกเข่าร้องขอ ชีวิต แต่ไม่คิดเลยว่าจะเห็นภาพนี้แทน!

หยูหมิงรีบให้ลูกน้องสองคนไปดึงตัวฉื่อเส้าอี้ ออกไป เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ฉินหลั่ง ไม่คิดเลยว่า อเส้าอี้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้กับเขา

“หยูหมิง พวกเราไปกันเถอะ!” หลงหลิงไม่เคย เห็นภาพที่แสนทารุณแบบนี้มาก่อนเลย เลยอยากจะไป จากที่นี่ตอนนี้เลย

หยูหมิงก็ไม่ได้สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ ได้แต่มอง ฉินหลั่งด้วยสายตาเย็นชา ความเกลียดชังที่อยู่ในแวว ตาไม่สามารถเปล่งแสงเป็นธนูได้ เขาเลยเอาความ อาฆาตแค้น แล้วพูดเสียงต่ำ “รอเดี๋ยวนะ เพื่อน มหาวิทยาลัยของคุณคนนี้ มาเป็นแมงดาขายตัวใน โรงแรม แถมยังมาทำร้ายคนของฉันอีก จะให้ไปอย่างนี้ ฉันหยูหมิงยังมีความน่ายำเกรงอยู่ในเมืองหลินอานได้ อีกเหรอ?”
จากนั้นก็ตะโกนดังลั่น “ท่านเหลียง ถึงตาคุณ แล้ว! รบกวนคุณช่วยสั่งสอนไอ้เด็กเวรจองหองคนนี้ที่!”

“ครับ!” เหลียงกั๋วเฉียงกำกำปั้นหนึ่งข้างทำท่า เคารพมองทางหยูหมิง จากนั้นก็เดินมาทางด้านหน้า ของฉินหลั่ง แล้วพูดว่า “ไม่คิดเลยว่าหลินอานยังมีบุรุษ หนุ่มงามที่มากด้วยฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้เช่นนี้อยู่ด้วย ฉันอาศัยอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่นาน เลยไม่รู้ ข่าวคราวที่เกิดขึ้นเลย”

ถึงแม้ว่าเหลียงกั๋วเฉียงจะช่วยเหลือหยูหมิงใน การต่อสู้เพื่อเงินก็ตาม แต่ว่าเขาก็เป็นปรมาจารย์ในด้าน ศิลปะการต่อสู้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเห็นว่า ฉินหลั่งที่เป็นดาวดวงใหม่ในวงการศิลปะการต่อสู้ เขาก็ ย่อมยินดีอยู่ในใจน้ำเสียงที่สื่อสารออกมามีแต่ความ เกรงใจ

“ท่านก็ชมเกินไปแล้ว ผู้น้อยมีวรยุทธ์เพียงเล็ก น้อย ไม่คู่ควรกับการพูดถึงด้วยซ้ำ” ฉินหลั่งก็พูดอย่าง เกรงใจเช่นกัน

เหลียงกั๋วเฉียงพูดอีกครั้ง “ฉันชื่อเหลียงกั๋วเฉียง เป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงแม้ว่าฉันจะชอบแก ที่เป็นเด็กมากความสามารถเช่นนี้ก็ตาม แต่ว่าคุณชายห ยูเป็นเจ้านายของฉัน ต่อแต่นี้ฉันจะต้องลงมือ แกก็ควร ระวังให้ดี ถ้าสู้กันจนมีอวัยวะส่วนใดบาดเจ็บจนพิการ หรือว่าเสียชีวิตก็ตาม ฉันขอโทษแกไว้ก่อนเลย!”

ฉินหลั่งตกใจทันที ในใจคิดว่าเหลียงกั๋วเฉียงเป็น คนที่เปิดเผยอย่างจริงใจเสียจริง เขาเองก็ไม่มีทางหนีอีกแล้ว จึงได้แต่ตอบตกลงอย่างหนักแน่น “ขอบคุณ ท่านที่คอยตักเตือน อีกเดี๋ยวถ้าผมเกิดโชคช่วยชนะท่าน ในยกหลังๆ ก็รบกวนท่านโปรดอภัยให้กระผมด้วย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ