รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 207 สภาวะที่ยากลำบากของพิธีเปิด



บทที่ 207 สภาวะที่ยากลำบากของพิธีเปิด

เมื่อกี้ทุกคนไม่ได้สนใจพวกฉินหลั่งทั้งสามคน ตอนนี้พอเถียนซิงชื้ออกมาแล้ว ถึงได้พบว่า ผู้หญิงผม สั้นนั้นมีใบหน้าขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ ก็เริ่มซุบซิบกัน ทันที แต่ว่าส่วนใหญ่ก็ต่างเป็นนักศึกษา ก็เลยมีการ ศึกษาอยู่บ้าง ไม่ได้ไล่เธอออกไปเพราะว่าหน้าตาเธอ ขี้เหร่หรอก

“คุณชายหม่า รีบไล่ทั้งสามคนนี้ออกไปเร็วค่ะ พวกมันไม่เคารพพวกเรา!” เถียนซิงกอดแขนหม่าหยาง ไว้พร้อมกับพูด

“ทุกคนฟังฉันนะ ทั้งสามคนนี้ต่างก็ไม่ใช่คนดี อะไร ผู้ชายคนนี้ เมื่อสองวันก่อนลูบมือแฟนของฉันที่

ร้านอาหาร ตอนนั้นถูกฉันจับไว้ได้ ส่วนผู้หญิงคนนี้ เมื่อ กี้ทุกคนก็ได้ยินแฟนฉันบอกแล้ว ว่าได้เรียนถึง มหาวิทยาลัยเจียงหนาน แต่กลับมาตกอยู่กับไอ้เด็ก ทุเรศคนนี้ หมายความว่าเธอไม่ได้มีความทะเยอทะยาน อะไรเลย! พวกมันทั้งสามคนสมคบคิดกัน การที่ได้มาอยู่ ห้องเดียวกับคนแบบนี้ ฉันยังรู้สึกละอายใจเลย” หม่า หยางพูดเสียงดัง

คนอื่นๆพอได้ยินสิ่งที่หม่าหยางพูด ก็มีบางคนที่ โดนปลุกปั่น

“แม่เจ้า ดูเสื้อผ้าเด็กคนนี้สิ ฉันก็นึกว่าเขาจะเป็น นักศึกษาที่ดี เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ที่แท้ก็แอบจับ มือผู้หญิงสวยๆยังงั้นเหรอ!”
“ผู้หญิงคนนี้เองก็เหมือนกัน หน้าตาก็สละสลวย ทำไมถึงมาอยู่กับผู้ชายกากเดนแบบนี้ล่ะ? จะลดชั้นตัว เองหรือว่ายังไงกัน”

“ศีลเสมอกัน คำพูดนี้มันตรงจริงๆด้วย”

ฉินหลั่งขมวดคิ้วเข้าด้วยกันแล้วพูดว่า “พวกคุณ อย่าไปฟังคำพูดของพวกเขา ผมกับพวกเขามีเรื่องขัด แย้งกันนิดหน่อย พวกเขาจงใจจับผิดผม!”

“ตดหมาเอ้ย แล้วนายกล้าพูดไหมว่าวันนั้นนาย ไม่ได้จับมือฉัน?”เถียนซิงพูด

“ที่ฉันจับมือเธอก็เพราะว่า ….”ฉินหลั่งกำลังจะ อธิบายให้ชัดเจน แต่ว่าคำพูดของเขาก็โดนหม่าหยาง ขัดไว้ก่อน “ทุกคนก็ได้ยินแล้วนะ ไอ้เด็กเวรนี่มันยอมรับ เอง ตอนนี้ฉันแนะนำว่าให้ไล่ทั้งสามคนนี้ออกไป ทุกคน คิดว่าไง?”

“แต่ว่าพวกเราไม่มีสิทธิไล่พวกเขาออกไป” มี ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา

“ห์ ทุกคนฟังฉันนะ จะไล่พวกมันออกไปไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย พวกมันเป็นใครกัน เป็นพวก ยาจกที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดของสังคม พวกนายลืมไป แล้วเหรอว่า ครอบครัวของฉันเป็นผู้สนับสนุนกีฬาเอเชีย นเกมส์ ให้ฉันไปพูดกับผู้อำนวยการจางนิดหน่อย ไอ้ เรื่องตดหมาอะไรพวกนี้ก็จะหายไปแล้ว แล้วอีกอย่างฉัน ก็รับปากเลยว่า ถ้าเกิดว่าใครเป็นคนลงมือคนแรก ฉันจะให้รางวัลใหมื่นหยวน ใครผลักพวกมันออกนอกประตูไป ได้ ฉันจะให้อีก1หมื่น!” หม่าหยางยิ้มพร้อมกับพูดออก มา

“จริงเหรอ?” ชายร่างอ้วนหัวร้อนลุกขึ้นยืนอย่าง ตื่นเต้น พอคิดว่าคนแรกจะได้เงิน1หมื่นหยวน ก็ตะโกน ออกมาอย่างแข็งขัน “ฉันเอง!”

คนอื่นๆตระหนักได้ว่าชายร่างอ้วนจะได้ เงิน1หมื่นหยวน ก็รีบลุกขึ้นแล้วก็แข่งกันตะโกนทันที

“ฉันเอง!”

“ฉันด้วย !”

“ฉันทำเอง”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น พวกวัยรุ่นประมาณ10คนก็ พุ่งเข้ามาหาพวกฉินหลั่ง

“พวกนายจะทำอะไร! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!” หลินจู ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ผู้โยวตกใจกลัว เธอจับมือฉินหลั่งไว้ แล้วก็ กระซิบด้วยสายตาที่หวาดกลัว “ฉินหลั่ง ทำยังไงดี”

ฉินหลั่งรีบเอาตัวบังผู้หญิงทั้งสองคนไว้ แล้วก็ หยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งขึ้นมา แกว่งไปแกว่งมาใส่ผู้คนที่กำลัง พุ่งเข้ามา กั้นให้พวกเขาอยู่ห่างออกไปสองเมตร

ฉินหลั่งดูสถานการณ์ปัจจุบัน ก็เห็นว่าพวกเขาไม่ สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว ถ้าเกิดว่าปล่อยให้วัยรุ่น ทั้ง10คนนี้เข้ามา ไม่แน่ว่ามันอาจจะฉวยโอกาสนี้กับพวกผู้หญิงด้วยก็ได้ ก็เลยตะโกนออกมาว่า “พวกนาย หลีกไป พวกเราจะออกไปเอง!”

“ฉินหลั่งนะฉินหลั่ง ตอนนี้ไม่เก่งแล้วยังงั้นเหรอ? ตอนนี้อยากจะออกไปเองแล้วเหรอ นายนี่มันแค่หมาตัว หนึ่งเท่านั้นเองจริงๆ!” เถียนซิงยิ้มอย่างพอใจ แล้วก็ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ในโทรศัพท์นั้นเป็นภาพที่เธอไลฟ์ สดเมื่อกี้นี้ แล้วก็หันไปพูดกับผู้โยวอย่างภาคภูมิใจ “ผู้ โยว เห็นแล้วใช่ไหม คืนนี้ทั้งเอเชีย ไม่สิ ทั้งโลกนี้ได้ เห็นฉันแล้ว แต่ว่าต่อให้เธอได้เรียนมหาลัยชื่อดังอย่าง มหาวิทยาลัยเจียงหนาน แต่กลับเป็นได้แค่อาสาสมัคร ตัวเล็กๆเท่านั้น จนถึงตาย เธอก็ทำไม่ได้เท่าฉันในวันนี้ หรอก! เธอคงจะอายจนจะตายแล้วล่ะสิ!”

หม่าหยางเองก็ยิ้มเยาะเหมือนกัน “ยาจก ตอนนี้ อยากออกไปเองงั้นเหรอ? ฉันไม่ให้หรอก ฟังเอาไว้นะ ใครโยนพวกมันออกไปได้ ฉันจะเพิ่มจำนวนให้ฉัน ให้5หมื่น สิ่งที่ฉันไม่เคยขาดเลยก็คือเงิน!”

5หมื่น !

พอได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของคนอื่นก็เป็นสีแดง อีกครั้ง ฉินหลั่งจะโบกเก้าอี้อีกก็ไม่มีประโยชน์แล้ว วัยรุ่น พวกนี้พุ่งเข้าหาฉินหลั่งอย่าคึกคัก

ฉินหลั่งเห็นว่ายังไงก็ต้องถูกพวกนั้นลากออกไป อย่างไม่มีทางเลี่ยง ก็ปาเก้าอี้ทั้ง แล้วก็หันหลังให้ผู้โย วกับหลินจู ปกป้องพวกเธอไว้ด้านหลังของตัวเอง พยายามอย่างมากที่สุดที่จะไม่ให้พวกเธอได้รับบาดเจ็บ
ทันใดนั้นประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออก แล้วก็มี เสียงที่เข้มงวดเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “พวกเธอทำอะไร กัน!”

พอได้ยินเสียงนั้น ทุกคนก็ตกใจแล้วก็พาหันหยุด ทันที มองไปที่คนที่เข้ามาใหม่

ก็เห็นว่าชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ ตรงหน้าทุกคน มีฝ้าเป็นชั้น ๆ บนใบหน้าของเขา แล้วก็ พูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด “ให้พวกเธอมาทำงานให้เอ เชียนเกมส์ ไม่ใช่ให้พวกเธอมาเล่นอยู่ที่นี่! ทุกคน อย่า ให้ฉันให้คะแนนสอบตกไหม?”

ชายวัยกลางคนๆนี้ก็คือจางจื้อจุนหัวหน้าโดยตรง ของเยาวชนกลุ่มนี้ในภารกิจเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เขายัง เป็นสมาชิกคนสำคัญของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กีฬาเอเชียนเกมส์ รับผิดชอบงานอาสาสมัครรักษาความ ปลอดภัยและบุคลากรต่างชาติอื่น ๆ

นั่นก็เป็นเหตุผลที่กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้จะกลัวเขามาก ไม่ใช่เพราะว่าจางจื้อจุนจะหักเงินพวกเขา แต่ว่าสิ่งที่ สำคัญมากกว่านั้นก็คือจางจื้อจุนมีอำนาจอยู่ในมือ ผล งานของพวกเขาในภารกิจเอเชียนเกมส์นี้ได้รับการ ประเมินโดยจางจื้อจุน สุดท้ายถ้าเกิดว่าเขาให้คะแนนว่า ขาดคุณสมบัติ ก็จะไม่สามารถรับรางวัลและสิทธิพิเศษ จากมหาลัยได้ การทำงานหนักกว่าหนึ่งเดือนนี้ก็จะไร้ ประโยชน์

“ผู้อำนวยการจาง พวกเราก็แค่เล่นกันนิดหน่อย เท่านั้นเองครับ ก็วัยรุ่นน่ะเนาะ” หม่าหยางเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจางจื้อจุนแล้วก็พูดอย่างเกรงใจ

“คุณชายหม่าเองก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอครับ สวัสดี!”

จางจื้อจุนทักทายอย่างไม่ต่ำต้อยแต่ก็ไม่ได้สูงส่ง แล้วก็พูดกับพวกวัยรุ่นกลุ่มนี้ว่า “ตอนนี้มีเหตุฉุกเฉินใน พิธีเปิด เดี๋ยวกษัตริย์แห่งบรูไนจะกล่าวสุนทรพจน์ แต่ว่า ล่ามกับเกิดซวยขึ้น เพราะว่าเหตุผลบางอย่างก็เลยไม่ สามารถมาที่นี่ได้ ขณะนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับ นักเรียนที่สามารถพูดภาษามลายูได้ พวกเธอมีใครพูด ได้บ้างไหม?”

พอได้ยินจางจื้อจุนพูดแบบนั้น หลินจูก็อึ้งไป หลังจากก็พึมพำเสียงเบาว่า “กษัตริย์มาแล้ว แล้วพระ ราชินีก็มาเหมือนกันไหม….”

“หลินจู เธอพูดอะไรนะ”ฉินหลั่งกับผู้โยวได้ยิน หลินจูพูดกับตัวเอง ก็ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่

“ไม่มีอะไร” หลินจูพูด

นักศึกษาคนอื่นต่างมองหน้ากัน ภาษามลายูเป็น ภาษาเฉพาะ ใครจะไปพูดได้กันล่ะ?

“ไม่มีใครเลยเหรอ?” จางจื้อจุนถามเสียงดัง แต่ ว่าก็ไม่มีใครตอบ จางจื้อจุนเปิดกลุ่มแชทของคณะ กรรมการผู้จัดการหลัก แล้วก็ส่งข้อความไปในกลุ่มว่า “กลุ่มอาสาสมัครก็ไม่มี”

เขาเลื่อนขึ้นและข้อความทั้งหมดจากหัวหน้างาน คนอื่น ๆ ก็คือ “ไม่มี”
จางจื้อจุนกดปิดโทรศัพท์ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถ้า เกิดว่าหาล่ามไม่ได้ ก็นับได้ว่าเป็นการไลฟ์สดอุบัติเหตุ ครั้งใหญ่ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราและบรูไน เฮ้อจะทำยัง ไงดี?”

สายตาของจางจื๊อจุนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทีวีบน ผนัง เห็นภาพในทีวี มีภาพราชาแห่งบรูไนฉายอยู่ ประมาณ 4-5วินาที เห็นชายคนหนึ่งในวัย 40 ปีสวม หมวกทรงกลมสีขาวและดำนั่งอยู่บนแท่น มีที่นั่งว่างๆอยู่ ข้างๆเขา ด้านบนนั้นมีป้ายแปะไว้ว่า “ราชินีแห่งบรูไน”

หลินจูใจเต้น แล้วก็ถามเสียงดัง “ราชินีบรูไนไม่ ได้มาเหรอคะ?”

จางจื้อจุนตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น”เดิมที ราชินีควรจะมาด้วย แต่ว่าวันนี้ท่านไม่ได้เข้าร่วม”

สีหน้าของหลินจูเต็มไปด้วยความดีใจ คว้าฉิน หลั่งมาและกระซิบที่หูของเขา “นายบอกไปว่านายพูด ภาษามลายูได้!”

“หา…”ฉินหลังอึ้งไป แต่ว่าพอเห็นสีหน้าที่ดีใจ ของหลินจู ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องที่ในจัตุรัสตอนบ่าย หลินจูพูดภาษามลายูได้จริงๆ เขาคิดไม่ออกว่าหลินจู ต้องการจะทำอะไรกันแน่ ก็ยกมือขึ้นแล้วพูดเสียงดังว่า “ผู้อำนวยการจาง ผมพูดภาษามลายูได้ครับ!”

ทุกคนต่างก็มองมาที่ฉินหลั่ง ใบหน้าของจางจื้อ จนดูมีความสุขขึ้นทันที เขาพูดว่า “จริงเหรอ นายออกมานี่ ในไม่ช้าก็ถึงคราวที่กษัตริย์แห่งบรูไนจะออกมาพูด แล้ว ไม่ทันแล้ว มากับฉันเดี๋ยวนี้เ”

ฉินหลั่งดึงมือหลินจู ผู้โยวแล้วก็เดินไปหาจางจื้อ

จัน

“ผู้อำนวยการจางคะ ไอ้เด็กนี่มันหลอกคุณ ฉัน เป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่ากับเขา เขาพูดไม่ได้เลยแม้แต่นิด เดียวค่ะ!” เถียนซิงพูดอย่างเย็นชา

คนอื่นๆคิดว่าที่ฉินหลั่งยอมรับว่าตัวเองพูดภาษา มลายูได้ ก็เพราะว่าอยากจะหาข้ออ้างให้หนีออกไปจาก ที่นี่ได้เท่านั้น ถ้าเกิดว่าฉันหลั่งออกไปแล้ว แล้วพวกเขา จะได้เงินจากคุณชายหม่าได้ยังไงกันล่ะ? ทันใดนั้นคน อื่นๆก็เริ่มชี้ไปที่ฉินหลัง

“ผู้อำนวยการจาง เขาทำไม่ได้ครับ”

“ถ้าเกิดว่าเขาทำได้ ผมจะกินขี้ในไลฟ์สดเลย”

“เขาเป็นแค่ยาจก ตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้ง 26 ตัวยังจำไม่ได้เลย แล้วจะมาบอกว่าพูดภาษามลายูได้ ให้เขาไปไม่ได้นะ!”

จางจื้อจุนมองไปที่รูปร่างหน้าตาและเสื้อผ้าของ ฉินหลั่ง ก็รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก แต่ว่าใน สถานการณ์ตอนนี้ ก็ทำได้แค่ให้เขาลองดู กษัตริย์แห่ง บรูไนยังนำผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสองสามคน มาบอกให้ พวกเขาทราบ พวกลูกน้องขมวดคิ้ว “คุณไปกับผม!”
ฉินหลั่งลากหลินชูกับผู้โยวไปด้วย ภายใต้การนำ ของจางจื้อจุน พวกเขาก็มาที่สำนักงานของคณะ กรรมการหลัก หัวหน้าผู้กำกับหน้ามุ่ย พอเห็นว่าจางจื๊อ จนพาคนที่สามารถพูดภาษามลายูมาได้ ก็ดีใจทันที ดึง ฉินหลังมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนบรูไน ให้ฉินหลั่งพูดกับ พวกเขา

“อ้อ ผมพูดไม่ได้..” ฉินหลั่งยิ้มอย่าเก้อเขินพร้อม กับพูด

“อะไรนะ นาย!” หัวหน้าผู้กำกับโกรธมากจนจมูก เบี้ยว

ฉินหลั่งรีบพูดว่า “อย่าพึ่งโมโหครับ ผมพูดไม่ได้ แต่ว่ามีคนพูดได้!” ระหว่างที่พูดนั้น ก็ดึงหลินจูขึ้นมา ด้านหน้า

หลินจูและชาวบรูไนทั้งสองคนก็สนทนากันอย่าง ลื่นไหล หัวหน้าผู้กำกับกับจางจื๊อจุนเห็นดังนั้นก็ถอน หายใจยาวออกมา แล้วก็ยิ้มกว้าง

หลินจูมองหัวหน้าผู้กำกับแล้วพูดว่า “ให้ฉันแปล ให้น่ะได้ค่ะ แต่ว่าฉันไม่สามารถออกหน้ากล้องได้ ให้ เขาอยู่หน้าเวที แล้วฉันเสแสร้งทำเป็นมาสคอตแล้วคอย บอกเขา ได้ไหมคะ?”

“ได้” หัวหน้าผู้กำกับคิด ผู้หญิงคนนี้ก็หน้าตาไม่ ค่อยดี ได้ออกทีวีก็น่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วิธีการของเธอ ช่วยแก้ปัญหาของเขาได้พอดี

“ผู้กำกับครับ ผมเห็นว่าด้านข้างยังต้องการล่ามภาษาอังกฤษอีกด้วย ให้เพื่อนของผมรับหน้าที่นี้ได้ไหม ครับ?”ฉินหลั่งพูดกับผู้กำกับ จู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่า มันจะมี คนพูดอยู่บนหน้าจอทีวี แล้วด้านข้างก็จะมีคนคอยแปล เป็นภาษาอังกฤษ นึกถึงคำพูดที่เถียนซิงถากถางฝู้โย วก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งก็มีความคิดที่อยากให้เปรียบเทียบ กัน ให้เถียนชิงได้เห็น ว่าใครอยู่สูงกว่าใครกันแน่

“เอ่อ….งั้นก็ได้” ผู้กำกับกัดฟันแล้วรับปาก แล้วก็ รีบให้ฉินหลั่งกับผู้โยวไปแต่งหน้า

ไม่นาน ฉินหลั่งกับผู้โยวก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้า เสร็จแล้ว และหลินจูก็สวมชุดมาสคอต มาสคอตเป็น การ์ตูนเสือของจีนตอนใต้ สวมหมวกคลุมศีรษะฟูฟ่อง ไม่มีใครจำได้แน่นอน

อีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่กษัตริย์บรูไนจะขึ้นกล่าว ปราศรัยแล้ว ผู้กำกับให้คนพาพวกฉินหลั่งไปยัง ตำแหน่งที่กษัตริย์บรูไนอยู่ ระหว่างทางที่ฉินหลั่งถูกพา ไปยังตำแหน่งนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะผงะ

แท่นนี้เต็มไปด้วยคนดัง มีทั้ง “ประธานกีฬา โอลิมปิกเอเชีย” “ทูตพิเศษของญี่ปุ่น” “กรมการ %3D เลขานุการมณฑลเจ้อเจียง” “ผู้อำนวยการสหพันธ์ ฮ่องกงมาเก๊าและไต้หวัน” “นักธุรกิจชื่อดังโห้เจิ้นถึง”.

ถึงแม้ว่าบรูไนจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ว่ายังไงเขา ก็เป็นประมุขที่สูงที่สุดของประเทศ ดังนั้นตำแหน่งก็เลย อยู่ตรงกลาง คนที่นั่งอยู่ข้างๆเขานั่นก็คือคนที่สำคัญ มากที่สุด -ผู้นำประเทศจีน
ฉินหลั่งยืนอยู่ข้างผู้นำทั้งสอง ก็รู้สึกตื่นเต้นเป็น พิเศษ ดูรูปลักษณ์อันสง่างามของผู้นำ ก็รู้สึกเหมือนอยู่ ในภวังค์ เหมือนความฝัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็น ความจริง

ได้ฟังพิธีกรอาวุโสที่อยู่บนเวทีกล่าวว่า “ต่อไป ขอกราบเรียนเชิญกษัตริย์แห่งบรูไน คุณฮัสซานัลขึ้น กล่าวปราศรัย!”

ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ทั้งสนามก็ส่งเสียงปรบ มือกึกก้อง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ