รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 190 ฉันจะดีกับเขาทำไม



บทที่ 190 ฉันจะดีกับเขาทำไม

ฉาวหนิงจัดท่าทางให้เข้าที่จากนั้นก็ซัดหมัดไป หาฉินหลั่ง ครั้งนี้ฉินหลั่งไม่ได้เป็นเมื่อครั้งแรก เขารู้ว่า ตัวเองไม่สามารถรับมือกับหมัดของอีกฝ่ายได้ เขาจึง ถอยหลัง เมื่อเห็นจังหวะที่ฉาวหนิงดึงหมัดกลับไป เขา จึงก้าวเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล “ผัวะ” หมัดซัดลง ไปที่อกของฉาวหนิง

การที่ครั้งนี้ฉินหลั่งต่อยโดนฉาวหนิง เพราะว่า ครั้งนี้ฉาวหนิงเข้ามาใกล้เกินไป บวกกับการที่เขา ประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป เดิมที่ฉาวหนิงกะจะจัดการกับฉิน หลั่งอย่างรวดเร็ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะโดนต่อย แถมยังต่อ หน้าคนเยอะขนาดนี้ โดยเฉพาะต้องมาอับอายต่อหน้า หลงหลิง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาโกรธขนาดไหน

“ไอ้เลวเอ๊ย” ฉาวหนิงอดไม่ได้ที่จะพูดคำหยาบ ออกมา จนทำให้คนต่างพากันอึ้ง ในมหาวิทยาลัยเจียง หนาน ฉาวหนิงเป็นสุภาพบุรุษ เคยเห็นเขาหยาบคาย ที่ไหนกันล่ะ

ฉาวหนิงเอี้ยวตัวเล็กน้อย เขาทำท่าเตรียมตอน เล่นเทควันโด จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาฉินหลั่งที่ละก้าว ฉินหลั่งรู้ว่าเขาคือนักกีฬาเยาวชน จึงไม่กล้าผลีผลาม และค่อยๆ ก้าวถอยหลัง

“เอี้ย!” เมื่ออยู่ห่างจากฉินหลั่ง 1.5 เมตร เขาก็ เปล่งเสียงออกมา เขายืนเท้าซ้ายไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ยกเท้าขวาขึ้นสูง ทันใดนั้นเองเท้าขวาของเขาก็ไปอยู่ตรงหน้าผากของฉันหลัง ดูเหมือนว่าเขาจะถบ ลงไปที่หน้าผากของฉินหลั่ง

จู่ๆ ฉาวหนิงก็รู้สึกว่าขาที่ควรจะยันอยู่บนพื้นถูก ยกขึ้น ทำให้ตัวของเขาหงายหลังไป

ที่แท้ฉินหลั่งใช้โอกาสที่ฉาวหนิงกำลังยกเท้า ก้าวเข้าไปแล้วใช้มือกับไหล่ค้ำเท้าของฉาวหนิงเอาไว้ จากนั้นก็ยึดเอวผลักไปข้างหลัง ทำให้จัดการกับการ จู่โจมของฉาวหนิงได้

ยังโชคดีที่ฉาวหนิงมีทักษะ เขาก้าวถอยหลังไป แต่ไม่ล้ม เขาอยู่ห่างจากฉินหลั่งประมาณ 5-6 เมตร ฉาว หนิงพุ่งเข้าไปหาฉินหลั่งทันที เขากระโดดยกขาตัวตั้ง ตรงแล้วถีบไปที่ฉินหลั่งราวกับลูกธนู มันคือท่ากระโดด เตะสูงของเทควันโด

นี่คือท่าถนัดของฉาวหนิง นี่คือท่าไม้ตายของเขา ในการแข่งขันกีฬาเยาวชน ทำให้เขาได้คะแนนสำคัญ จากท่านี้ เมื่ออีกฝ่ายโดนเขาเตะ ต้องลัมไปกองกับพื้น สักพัก มีนักกีฬาคนหนึ่งโดนเขาเตะจนเฮดการ์ดหลุด การเตะครั้งนี้ ฉาวหนิงต้องการให้ฉาวหนิงได้

เลือด

เขากำลังกระโดดอยู่ในอากาศ ฉินหลั่งสไลด์เข่า ลงกับพื้นจนไปอยู่ใต้ตัวของฉาวหนิง ฉาวหนิงตกใจจน หน้าเปลี่ยนสี ฉินหลั่งเล็งที่กันของฉาวหนิง จากนั้นก็ เตะลงไปที่กันของเขา ฉาวหนิงเสียการทรงตัวล้มลง แล้วกลิ้งลงไปกับพื้น
ที่แท้ฉันหลังใช้ท่าที่คุณยายสอนให้ ในช่วงที่ฉัน หลังฝึกฝน เขามักจะโยนเปลือกแตงโมขึ้นไปในอากาศ แล้วก็โยนมีดหรือยิงธนูให้โดนเปลือกแตงโม ความ สามารถในการสังเกตและคาดเดาของฉินหลั่งก้าวหน้า ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้จะเป็นท่าไม้ตายของฉาวหนิง แต่การจู่โจม ใช้เวลานาน ทำให้ฉินหลั่งมีเวลาคาดเดา เขามองออก ว่าฉาวหนิงจะจู่โจมอย่างไร เขาจึงขยับร่างกายโดย อัตโนมัติ นี่เป็นเพียงการจู่โจมเพียงครั้งเดียวก็สามารถ จัดการกับท่าไม้ตายของฉาวหนิงได้

“คุณชายฉาว”

“คุณชายฉาว เป็นยังไงบ้าง”

“รีบประคองคุณชายฉาวขึ้นมา”

ทุกคนล้อมฉาวหนิงเอาไว้แล้วประคองเขาขึ้นมา หลงหลิงก็เดินเข้าไปถามอาการของฉาวหนิงเช่นกัน

“ฉันไม่เป็นไร แค่ไม่สะเพร่าไปหน่อย” ถึงแม้ฉาว หนิงจะโดนฉินหลั่งเล่นงาน แต่เขาก็ไม่ยอมรับว่าฉิน หลังเหนือกว่าเขา

“ฉาวหนิง ตอนนี้ฉันสามารถเป็นนักเต้นในการ แสดงนี้ได้หรือยังล่ะ” ฉินหลั่งถามอย่างภาคภูมิใจ ก่อน หน้านี้ฉาวหนิงบอกว่าขอแค่ทำให้เขาล้มลง ก็จะ สามารถร่วมการแสดงนี้ได้
“ฤย ตอนนี้แกยังอยากแสดงอีกเหรอ ไสหัวไป

ซะ”

“คุณชายฉาว ให้ผมเรียกคนสาขาพละมาช่วยคุณ จัดการกับไอ้หมอนี่ไหมครับ”

ทุกคนต่างพากันฉินหลั่งด้วยสายตาหงุดหงิด ฉิน หลั่งเห็นสายตาที่หลงหลิงมองมา แววตาของเธอมี ความไม่เข้าใจและตำหนิ ชายหนุ่มเจ็บปวดหัวใจ

“ให้ไอ้หมอนี่เป็นคู่เต้นในการแสดงของเราก็ได้” ฉาวหนิงแสยะยิ้มแล้วมองฉินหลั่ง จากนั้นก็พูดกับผู้ กำกับ พูดจบ หลงหลิงก็ประคองเขาไปอีกด้าน

เขาไม่อยากให้ฉันหลั่งร่วมแสดงด้วย แต่ก่อน หน้านี้เขาพูดออกไปแบบนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าหลงหลิง ฉาวหนิงต้องรักษามาดไว้

ทุกคนค่อยๆ พากันแยกย้าย แต่ฉินหลั่งไม่เป็นที่ ชื่นชอบของพวกเขา คิดว่าฉันหลั่งเป็นคนที่ชอบใช้ กำลัง ผู้กำกับตะโกนให้ฉินหลั่งออกจากเวที

ฉินหลั่งคร้านจะทะเลาะกับเขา จึงเดินไปหลังเวที แล้วไปหาเก้าอี้นั่ง

ฉาวหนิงก็นั่งอยู่ไม่ไกล โดยมีหลงหลิงนั่งอยู่ ข้างๆ เธอถามเขาว่ายังเจ็บไหมแล้วทายาที่แผลให้เขา

ฉินหลั่งปวดใจเมื่อได้เห็นภาพนั้น ตัวเขาเองก็ โดนฉาวหนิงทำร้ายเหมือนกัน แต่หลงหลิงกับดูแลแค่ฉาวหนิง โดยมันหันมามองเขาเลยสักนิด ไม่ต้องพูดถึง เรื่องมาทายาหรือมาถามไถ่อาการของเขา

ฉินหลั่งนั่งรออยู่บนเก้าอี้อยู่นานจนกระทั่งหลง หลิงประคองฉาวหนิงออกไป เธอไม่มาถามเขาสักคำ ฉินหลั่งสงสัยว่าทำไมตัวเองต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อแลก กับการได้มาเป็นคู่เต้น

วันต่อมาคือวันอังคาร ช่วงบ่ายไม่มีเรียน เดิมที ต้องไปซ้อมการแสดงที่หอประชุม แต่เพราะฉาวหนิ งบาดเจ็บจึงไม่สามารถซ้อมได้ พวกที่ทำการแสดงจึงไม่ ต้องไป

เมื่อคืนฉินหลั่งให้รูมเมททายาให้ เขาเบื่อๆ เลย มาเดินเล่นในมหาวิทยาลัย ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่เขา ก็ได้รับสายของผู้โยว ผู้โยวบอกว่าอยากให้เขาไปใน เมืองเป็นเพื่อนเธอ ฉินหลั่งไม่มีอะไรทำพอดีจึงตอบ ตกลงไปกับเธอ

ฉินหลั่งเห็นผู้โยวที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย วันนี้

เธอสวมชุดยืนทั้งตัว ดูทะมัดทะแมงมาก “วันนี้นายไปสวนกีฬาโอลิมปิกกับฉัน ฉันจะไป

สมัครเป็นอาสาสมัคร” ผู้โยวเอ่ยขึ้น

“อาสาสมัคร?” ฉินหลั่งสงสัยจึงถามขึ้น

“ใช่แล้ว หลินอานเอเชียนเกมใกล้จะเริ่มแล้ว ฉัน เห็นในเว็บไซต์ว่าเขาเปิดรับสมัครอาสาสมัครภาษาต่าง ประเทศ ได้เงิน ได้ประสบการณ์แถมยังได้ใบ ประกาศนียบัตรด้วย ไปครั้งเดียวได้ประโยชน์ทั้งสามทาง ทำไมฉันจะไม่ไปล่ะ” ผู้โยวเอ่ยขึ้น ฐานะทางบ้าน ของเธออยู่ในระดับสามัญทั่วไป ต้องใช้ความพยายาม ของตัวเองเพื่อแลกมากับอนาคตที่สดใส

“โอเคงั้นวันนี้ฉันเป็นผู้พิทักษ์หญิงงาม รีบไปกัน เถอะ” ฉินหลั่งยิ้มบางๆ แล้วเรียกรถแท็กซี่ ทั้งสองมุ่ง หน้าไปยังสวนกีฬาโอลิมปิก

เมื่อมาถึงสวนกีฬาโอลิมปิก พวกเขาใช้ประโยชน์ จากแผนที่ในมือถือ ไม่นานทั้งสองก็เจอสถานที่รับสมัคร มันอยู่ในโรงยิมขนาดใหญ่ในสวนกีฬาโอลิมปิก ขณะนี้มี คนมาสมัครร้อยกว่าคน มีโต๊ะวางเรียงกันอยู่ในโรงยิม คนที่อยู่ใกล้ประตูด้านหนึ่งคือผู้สมัคร ส่วนข้างในคือเจ้า หน้าที่รับสมัคร

ฉินหลั่งไปเข้าห้องน้ำ ส่วนผู้โยวยืนต่อแถวรอ สมัคร

“ผู้โยว เธอมานี้” จู่ๆ ผู้โยวก็โดนดึงแขน เธอจำได้

ว่าเป็นเสียงของเถียนซิงแล้วก็เป็นเธอจริงๆ ผู้โยวโดน เถียนซิงลากไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นที่โรงแรมเคมปินสกี้ ทั้งสอง คนยังไม่เคยติดต่อกันเลย เถียนซิงรู้สึกขายหน้าจึงไม่

กล้าติดต่อผู้โยว ส่วนผู้โยวกลัวเถียนซิงลำบากใจ บวก

กับเปิดเทอม เธอจึงไม่ได้ติดต่อกับเถียนซิง

“เธอมากับฉินหลั่ง เธอกับเขาอยู่ด้วยกันเหรอ” ครั้งนี้เถียนซิงก็มาสมัครเป็นอาสาสมัครเช่นกัน เพราะ เธอคิดว่าการที่มาเป็นอาสาสมัครอาจจะได้เจอลูกคนรวย เมื่อเธอเห็นฉินหลังกับ ผู้โยว แต่เพราะเรื่องครั้ง ก่อนทำให้เธอหลบหน้าฉันหลั่ง เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา

เมื่อกี้เธอเห็นฉินหลั่งไปเข้าห้องน้ำ จึงรีบเข้ามา ถามผู้โยวว่าตกลงแล้วพวกเขาเป็นอะไรกัน

เรื่องที่โรงแรมครั้งก่อน โข่งลิ่งเสียนกับหญิงวัย กลางคนหน้าตาสะสวยช่วยฉินหลั่งเอาไว้ พวกเขาเป็น อะไรกับฉินหลั่ง หรือว่าฉันหลั่งจะไม่ใช่คนจน แต่เป็น คุณชายแห่งตระกูลใดตระกูลหนึ่ง

สองสามวันมานี้เถียนซิงเอาแต่คิดเรื่องนี้ เธอไป เสิร์ชดูประวัติของโข่งลิ่งเสียน เขาเก่งและมีอิทธิพล มาก อีกทั้งผู้หญิงที่มากับเขาเหมือนจะเก่งและมีอิทธิพล มากกว่าเขา สองคนนี้ออกโรงช่วยฉินหลั่ง แท้จริงแล้ว ฉินหลั่งเป็นใครกันแน่

“เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่ให้เขามาเป็นเพื่อนนะ ฉันกับเขาเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกัน” ผู้โยวเอ่ยขึ้น

“เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย? เขาเรียนที่ มหาวิทยาลัยจีนหลิงไม่ใช่เหรอ เธอจะเป็นเพื่อนร่วม มหาวิทยาลัยกับเขาได้ยังไงกัน” เถียนซิงถามขึ้นอย่าง ไม่เข้าใจ

“เขาบอกว่าผู้หญิงคนที่เจอที่โรงแรมครั้งก่อน เป็นคนช่วยเขาโอนผลการเรียนมาที่มหาวิทยาลัยเจียง หนาน” ผู้โยวเอ่ยขึ้น

“อ๋อ ใช่สิ ฉันอยากถามเธอเรื่องนี้พอดีเลย ฉิน หลั่งเป็นอะไรกับโข่งสิ่งเสียนแล้วก็ผู้หญิงคนนั้นด้วยฉินหลั่งไม่ใช่คนจนใช่ไหม เขามื่อะไรปิดบังพวกเราอยู่ ใช่ไหม” เถียนซิงถามขึ้น นี่เป็นเรื่องที่เธอกังวลมาก เธอ คิดไปแม้กระทั่งว่าถ้าฉินหลั่งเป็นทายาทของตระกูล คนรวย บางทีเธออาจจะไม่ไปยุ่งเรื่องสอบเข้า มหาวิทยาลัยของเขาและยอมไล่ตามเขาด้วย

“เธอไม่ต้องคิดไร้สาระ ฉินหลั่งบอกฉันแล้วว่า โข่งลิ่งเสียนกับผู้หญิงคนนั้นแค่มาช่วยเหลือเขาเท่านั้น จริงๆ แล้วสองคนนั้นมาซื้อแพนเค้กจีนที่เขาขายแล้ว รู้สึกว่าอร่อย อีกทั้งยังรู้สึกว่าชีวิตของเขาระหกระเหิน ครั้งก่อนที่เจอกันที่โรงแรมเป็นเรื่องบังเอิญ ทั้งสองคน จึงช่วยเขาเอาไว้ ฉินหลั่งไม่ได้เป็นลูกคนรวยหรอก” ผู้ โย่วเอ่ยขึ้น

“หะ? แล้วฉินหลั่งจะติดต่อกับโข่งลิ่งเสียนอีก ไหม แล้วเขาให้เงินช่วยเหลือฉินหลังหรือเปล่า คนพวก นี้ใจกว้างต้องให้เงินเยอะแน่” เถียนซิงถามขึ้น

“เขาไม่ได้ให้เงินช่วยเหลือ แค่เจอกันโดย บังเอิญเท่านั้น โข่งลิ่งเสียนเป็นใครทำไมต้องมาเสีย เวลากับฉินหลั่งด้วยล่ะ เธอคิดเยอะไปแล้ว” ผู้โยวส่าย หัวแล้วพูดขึ้น

“งั้นฉินหลั่งก็ยังเป็นคนจนสินะ” เถียนซิงพูด เมื่อ ได้ยินว่าฉินหลั่งไม่ได้เป็นอย่างที่เธอจินตนาการเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเศร้าใจดี

“เถียนซิง อย่าพูดแบบนี้สิ พวกเราเป็นเพื่อนเก่า กันนะ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขาด้วย เดี๋ยวเขากลับมาเธอก็ดีกับเขาสิ” ผู้โยวพูดพลางจับมือของเถียนซิง

“ดีงั้นเหรอ ห์ ผู้โยวเธอพูดง่ายเกินไป วันนั้นเธอ ไปกลับไปก่อน เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นยังไงบ้างฉันใช้ มือหยิบข้าวกัน กินซุปจากหม้อซุป น้ำซุปไหลลงมาที่ คางแล้วเลอะเต็มเสื้อ เปียกไปถึงเสื้อในเลย ตัวฉันเต็ม ไปด้วยกลิ่นอาหาร แถมยังโดนหลี่ย่าวเวยด่าว่าเป็นคน โง่ โดนเขาถีบออกมาจากบ้าน วันนั้นฉันยิ่งกว่าหมาเสีย อีก ทั้งหมดนี่มันก็เพราะฉินหลั่งทั้งนั้น! ไอ้เลวนั่นมัน ทำลายการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉัน ตอนนี้ยังมา ทำร้ายฉันอีก ฉันจะดีกับเขาไปทำไมฉันเกลียดจนอยาก จะเลาะหนังเขาออกมา!”

ตอนที่เถียนซิงพูด ดวงตาของเธอแดงกำและ

น้ำตาคลอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ