รวยชั่วข้ามคืน?

บทที่ 119 มีข้อสงสัยมากมาย



บทที่ 119 มีข้อสงสัยมากมาย
“มีที่ไหนกัน ไม่ใช่หรอก” สังเช่นเอ๋อนึกไปถึงที่ตลาดกลางคืน ที่ มีหญิงชราเข้าใจผิดคิดว่าเธอและฉินหลั่งเป็นคู่รักกัน ก็รู้สึกไม่ สบายใจ ต่อให้เธอจะแน่ใจว่าเชือกสีแดงเส้นนี้คือเชือกสีแดงที่หญิง ชราใส่ให้แก่เธอ แต่ก็ไม่อยากจะยอมรับอยู่ดี
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร?” โจวซินดึงมือของสังเล่นเอ๋อมา แล้วใช้ เส้นหนึ่งพันเข้าที่นิ้วชี้ของสังเล่นเอ๋อ: “เธอดูนี่ รอยผูกนี้เห็นอยู่ชัดๆว่า เคยพันอยู่ที่นิ้วของเธอ เส้นนี้มีรอยผูกค่อนข้างใหญ่ คือเส้นที่ฉินหลั่ง เคยสวมมาก่อน
สังเช่นเอ๋อเหลือบมองเชือกแดงที่อยู่บนมือ ในใจก็ยังไม่อยาก ยอมรับ
“พี่ชาย ฉันอยากจะถามคุณหน่อย ทําไมเชือกแดงสองเส้นนี้ถึง มาอยู่บนรถได้?” มือของโจวซินถือเชือกสีแดงอยู่ แล้วจึงหันไปถาม ชายหนุ่ม
“ไม่รู้เหมือนกัน” ชายหนุ่มรีบแย่งเชือกสีแดงที่อยู่ในมือของโจว ซิน จากที่พวกโจวซินพูดคุยกัน เขาก็พอจะฟังออกว่า เชือกแดงทั้ง สองเส้นนี้ เป็นของคุณชายใหญ่ คงจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้คุณชาย ใหญ่ไม่ทันได้ระวังจึงทําตกเอาไว้ ในเมื่อเป็นของของคุณชายใหญ่ ก็ จะต้องเก็บรักษาไว้ให้เป็นอย่างดี ถ้าหากคุณชายใหญ่ถามหาขึ้นมา แล้วพวกเขาทําหายไปแล้ว เช่นนี้ใครจะรับผิดชอบความผิดนี้ไหว?
“โอ๊ย” เป็นเพราะชายหนุ่มแย่งไปเร็วเกินไป มือของโจวซินจึงถูก บาด โจวซินมองดูชายหนุ่มที่รีบเก็บเชือกแดงอย่างเรียบร้อย ในใจก็ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสงสัย เห็นชัดๆว่านี่คือเชือกแดงของฉัน หลั่ง แล้วทําไมเขาจะต้องรีบร้อนขนาดนี้ด้วย? หรือว่า…โจวซิน เหลือบตา
“เส้นเอ่อ ครั้งนี้โชคดีที่ได้คุณโข่งมาช่วยเหลือพวกเราไว้ ไม่เช่น นั้นพวกเราคงจะแย่แน่ๆ เฮ้อ ฉันดูฉินหลั่งคนนั้นผิดไปจริงๆ หวงเกอ ให้เขามาคอยดูแลพวกเรา แต่ว่า เหมือนกับที่เธอพูดไม่มีผิด เวลาที่เกิดเรื่อง เขาก็หายหัวไปก่อนใคร!”
สีหน้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามโจวซินเปลี่ยนไป “ฉันก็บอกเธอแล้วไงว่า หากเขาพึ่งได้จริงๆ แม่หมูก็คงจะปืน ต้นไม้ได้เหมือนกัน” สังเล่นเอ่อเกลียดฉินหลั่งมาก เอาแต่พูดอยู่ตลอด ว่าหวงเกอให้เขามาดูแลตนเอง แต่ตอนที่ตนเองมีเรื่อง เขากลับไม่รู้ไป อยู่ไหน? เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่เกือบจะถูกสองพ่อลุกตระกูลหม่าทํา มิดีมิร้าย สังเล่นเอ๋อก็ยิ่งเกลียดฉินหลั่ง
ชายหนุ่มหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ อยากฟังสิ่งที่พวกเธอพูดอีกต่อไป
“เล่นเอ๋อ ก่อนหน้านี้หญิงชรายังคิดว่าเธอกับฉินหลั่งเป็นคู่รักกัน เลย เธอพูดความจริงกับฉันเดี๋ยวนี้ ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับฉินหลั่ง?”
ถึงแม้โจวซินจะพูดกับสังเล่นเอ๋อ แต่เธอก็แอบสังเกตปฏิกิริยา ของชายหนุ่มตลอด “โจวซิน เธอยังจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทําไม!”
สังเล่นเอ๋อมีท่าทีละอายใจเป็นอย่างมาก เธอดึงมอของโจวซิน เมื่อนึกถึงท่าทางของฉินหลั่งก็ก็รู้สึกโมโห. “ก็เขานั่นแหละ ที่พุ่งเข้าไป ในธนาคารซิตี้แบงก์แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ซ้ํายังชนหัวของฉันอีก ตอน ที่ตระกูลของพวกเราเกิดเรื่อง เขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ได้แต่ยืน อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ปัญหาของตระกูลคุณจะต้องแก้ไขได้แน่นอน ” แต่ตนเองกลับไม่สามารถดําเนินการใดๆได้จริง ทําได้แค่ปากเก่งไป อย่างนั้น เวลาที่ต้องการเขา แม้แต่เงาก็หาไม่เจอ แล้วฉันจะไปรู้สึกดี กับเขาได้อย่างไร? ขอพูดอะไรหยาบๆสักหน่อยเถอะ ในสายตาฉัน แล้ว แม้แต่ขอทานข้างถนนยังแข็งแกร่งกว่าเขาเลย…”
ตอนนี้เอง ชายหนุ่มรีบหันหน้ากลับมา แล้วหันไปมองสังเล่นเอ๋ อด้วยสายตาเย็นชา ซ้ํายังกําหมัดแน่น
“พี่ชายท่านนี้ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” สังเช่นเอ๋อตกใจ รีบถาม ด้วยความไม่สบายใจ แต่ชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไร
“โจวซิน เธอว่าผู้หญิงที่ปกติคนอื่นๆ จะมาชอบคนประเภทฉิน หลั่งได้อย่างไรกัน…” สังเล่นเอ๋อยังคงพูดกับโจวซินต่อ แต่ตอนนี้โจวซินกลับพูดตัดบทเธอ แล้วรีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
ไม่นานรถก็ขับมาถึงมหาวิทยาลัยจีนหลิง โจวซินและสังเล่นเอ๋ อกล่าวขอบคุณชายหนุ่มรูปร่างกํายําที่อยู่บนรถเหล่านั้นครั้งแล้วครั้ง เล่า มิหนําซ้ําก่อนที่พวกเขาจะกลับไป ยังขอให้พวกเขาช่วยแสดง ความขอบคุณต่อคุณโข่งแทนด้วย เมื่อเห็นรถขับออกไปไกล โจวซิน และสังเล่นเอ่อจึงเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัย
“ถ้าไม่ใช่เพราะนายฉินหลั่งนั่นตามไปด้วยแล้วล่ะก็ วันนี้พวกเรา ก็คงจะไม่ต้องซวยแบบนี้แน่ๆ ” สังเล่นเอ๋อกุมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง ของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้ไม่มีอันตรายแล้ว เธอจึงโยนสาเหตุทุกอย่าง ไปไว้ที่ฉินหลั่งทั้งหมดด้วยความเคยชิน
โจวซินที่นั่งอยู่ข้างๆรําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอด เมื่อได้ยิน สังเล่นเอ๋อกําลังบ่นฉินหลั่งอีก ก็เบะปากออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“เล่นเอ๋อ เธอนี่นะ” โจวซินถอนหายใจอีกหนึ่งครั้งแล้วพูดว่า: “หรือว่าเมื่อกี้เธอไม่สังเกตเห็นอะไรบ้างเลยหรืออย่างไร?”
“สังเกตเห็นอะไร?” สังเล่นเอ๋อยังรู้สึกสงสัยอย่างมาก: “เธอ หมายถึงรถมาเซราติคันนั้นหรือ ก็นั่งสบายดีนะ อีกหน่อยหากมีเงิน ฉันก็จะให้สามีในอนาคตของฉันซื้อให้สักหนึ่งคัน…”
“ไม่ใช่…” โจวซินรู้สึกหมดคําพูดกับสังเช่นเอ๋อ เธอลูบหน้า ผาก: “หรือเธอไม่รู้สึกเลยหรือว่า การที่เชือกแดงของเธอกับฉินหลั่ง ทั้งสองเส้นไปอยู่ในรถมันเป็นเรื่องที่น่าแปลก?”
“นั่นมันมีอะไรน่าแปลกกันล่ะ…” สังเช่นเอ่อบิดมุมเสื้อ แล้วพูด เบาๆ เธอไม่อยากจะได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับด้ายแดงอีกแล้ว เมื่อคิดถึง ตอนที่หญิงชรานําด้ายแดงทั้งสองเส้นสวมให้เธอและฉินหลั่ง นายฉิน หลั่งนั้นมีท่าที่”หน้าไม่อาย” เลย สังเล่นเอ๋อรู้สึกโมโหอยู่ในใจ
“เธอไม่สังเกตหรือว่าเวลาที่พวกเราพูดถึงฉินหลั่ง ก็ดูเหมือนว่า พวกเขากําลังพยายามเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่?” เมื่อโจวซินพูดเช่นนี้ สังเล่นเอ๋อเองก็ลองนึกย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าจะเหมือนที่โจวซินพูด ไม่มีผิด เธอหันไปมองโจวซิน โจวซินพูดต่อ: “ตอนที่พวกเรานินทาฉิน หลั่ง ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามพวกเราคนนั้น ก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ อีกทั้งเธอจพได้ไหมว่าฉันเคยถามเขาว่าคุณชายที่สั่งให้ พวกเขามาช่วยพวกเราคือใคร ชายหนุ่มคนนั้นก็เกือบจะหลุดปากออก มา หากนําเรื่องพวกนี้มาปะติดปะต่อกัน เธอยังคิดไม่ออกอีกหรือ?”
“เธอหมายความว่า…” ตอนนี้สังเช่นเอ๋อเข้าใจความหมายที่โจว ซินต้องการจะพูดแล้ว เพียงแต่เธอนึกปฏิเสธในหัวของเธออย่าง รวดเร็วโดยทันที: “จะเป็นไปได้อย่างไร เธออย่าเดาส่งเดชเลย ฉิน หลั่งจะเป็นคุณชายของพวกเขาไปได้อย่างไรกัน? เขาก็เป็นแค่คนที่ ไร้ความรับผิดชอบก็เท่านั้น”
“เล่นเอ๋อ เธออย่าหลอกตัวเองอีกเลย ฉันรู้ว่าเธอเองก็กําลังสงสัย เหมือนกัน” โจวซินหันมองสังเล่นเอ่อที่ทั้งกําลังครุ่นคิดและกําลังโมโห ฉินหลั่งไปด้วยในเวลาเดียวกัน จึงพอจะเดาออกได้ว่าในใจของเธอ กําลังคิดอะไรอยู่
“จริงๆแล้วในใจของฉันก็มีข้อสงสัยมากมาย เห็นอยู่ชัดๆว่าฉัน หลั่งเป็นแค่นักเรียนธรรมดาๆในโรงเรียนของพวกเรา แล้วจะเป็น คุณชายไปได้อย่างไรกัน อีกทั้งยังสามารถสั่งคนใหญ่คนโตอย่างโข่ง สิ่งเสียนได้อีก?” โจวซินครุ่นคิดแล้วพูดว่า: “แต่ถ้าหากฉินหลั่งใช่จริงๆ เวลาใช้ชีวิตปกติ ก็น่าจะเผยพิรุธออกมาบ้าง ดังนั้นในเวลาปกติพวก เราก็พยายามสังเกตเขาให้ดีๆ คิดว่าไม่นานน่าจะสามารถรับรู้ถึงฐานะ ที่แท้จริงขิงเขาได้…”
“อืม” ส่งเส่นเอ๋อเห็นสายตาที่แสดงถึงการถามของโจวซินพุ่งมา ที่เธอ เธอจึงทําได้เพียงแค่พยักหน้า ในใจของเธอรู้สึกสงสัย แต่ก็ไม่ อยากที่จะเชื่อว่าฉินหลั่งยังมีอีกฐานะหนึ่งที่อาจทําให้คนต้องตกใจ แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในหอนอนของผู้หญิงด้วยกัน
มาเซราติขับกลับไปที่โข่งสิ่งเสียน ชายหนุ่มรูปร่างกํายําสอง สามคนเดินเข้าไปในสํานักงานของโข่งสิ่งเสียน ฉินหลั่งและโข่งสิ่ง เสียนกําลังนั่งอยู่ในสํานักงาน พวกเขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นมาล่วง หน้าทางโทรศัพท์แล้วว่าพาตัวสังเล่นเอ๋อและโจวซินกลับไปส่งยัง มหาวิทยาลัยจีนหลิงอย่างปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
“ทําได้ไม่เลว” ฉินหลั่งเดินเข้าไปหาชายหนุ่มรูปร่างกํายําสอง สามคนนั้น แล้วตบไหล่พวกเขาเบาๆ โข่งสิ่งเสียนที่ยืนอยู่ด้านหลังก้ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“คุณชายใหญ่ชมเกินไปแล้ว การได้รับใช้คุณชายใหญ่ ถือว่า เป็นวาสนาของพวกเรา!” ชายหนุ่มคนหนึ่งโค้งคํานับแล้วพูดกับฉัน หลั่ง แล้วเขาจึงนําเชือกแดงสองเส้นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ใช้สองมือ ยื่นให้กับฉินหลั่ง: “คุณชายใหญ่ทําเชือกแดงนี่หล่นอยู่ในรถ ผมจึง เก็บเอามาให้”
“ดี…ดี” ฉินหลั่งเห็นด้ายแดง ก็คลําดูกระเป๋าเสื้อที่ว่างเปล่าจึงนึก ขึ้นได้ แล้วจึงยิ้มอย่างเฉยเมย จากนั้นจึงนําด้ายแดงทั้งสองเส้นมาถือ ไว้ในมือ
“คุณโข่ง เรื่องที่ผมสั่งให้คุณทํา ขอให้คุณสนใจมากสักหน่อย นี่ ก็สายมากแล้ว ผมขอตัวกลับก่อน” ฉินหลั่งหันมองโข่งสิ่งเสียนแล้ว พูด เรื่องที่เขาพูดถึงก็คือการตามหาจงยู่
“ครับ ผมจะพยายามตามหาอย่างสุดความสามารถ ขอให้ คุณชายใหญ่วางใจได้ ผมจะให้รถส่งคุณกลับไป…” โข่งสิ่งเสียนยืน ขึ้นพูดแล้วโค้งคํานับ ตอนนี้เอง ฉินหลั่งก็เดินไปถึงด้านนอกแล้ว แล้ว ก็ค่อยหันกลับมา: “ไม่ต้องแล้ว ผมกลับไปเองจะดีกว่า” ฉินหลั่งเดินไป เรียกรถที่ถนน หลังจากผ่านเหตุการณ์ของหม่าเก๋อ นี่ก็เป็นเวลาสี่ทุ่ม แล้ว ฉินหลั่งอยากจะกลับไปพักผ่อนที่วิลล่าเต็มที่
ตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ของฉินหลั่งดังขึ้น “ผู้จัดการผับโอวโล่ หยูจิ้ง” เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ ฉินหลั่งก็รู้สึก ประหลาดใจ จึงรีบรับสายในทันที
“อยู่ที่ไหน?” ให้นายมาช่วยเวลาที่มีเวลา นายนี่เยี่ยมจริงๆ ไม่ เคยมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้มีเวลาไหม มาช่วยที่ผับหน่อย” เสียงที่ฟังดูค่อนข้างรําคาญของหยูจิ้งดังออกมาจากโทรศัพท์ ฉินหลั่ง ยังได้ยินอีกว่ามีเสียงดังออกมาจากทางด้านที่เธออยู่
“อ้อ ขอโทษด้วย พอดีช่วงนี้ผมยุ่งกับการเรียน คืนนี้ผมไม่มีธุระ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ฉินหลั่งคิดว่าที่ผับโอวโล่คงจะยุ่งน่าดู หยูจิ้งถึงได้ โทรศัพท์หาตนเอง ถึงแม้ก่อนหน้านี้ตนเองจะกลายเป็นพนักงานของ ผัวโอวโล่อย่างงงๆ แต่ในเมื่อตนเองเคยตกปากรับคําไปแล้ว ว่าหากมี เวลาจะไปช่วยที่ผับ ดังนั้นเข้าจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
“ดี ถ้าอย่างนั้นเธอรีบมาเลย”
ฉินหลั่งวางสายโทรศัพท์ แล้วให้คนขับรถเปลี่ยนเส้นทาง ให้ไป ส่งเขาที่ผับโอวโล่แทน
ไม่นาน ฉินหลั่งก็มาถึงผับโอวโล่ เหมือนกับที่ฉินหลั่งคิดเอาไว้ไม่มีผิด อาจจะเป็นเพราะอยู่ในช่วง ฤดูจบการศึกษา วันนี้คนในผับจึงค่อนข้างมากเป็นพิเศษ ฉินหลั่งจะ เดินเข้าไปในผับยังรู้สึกยากลําบาก
“พี่หยู ผมมาแล้ว” มันไม่ง่ายเลย ในที่สุดฉินหลั่งก็หาหยูจิ้งที่ กําลังชนแก้วกับบรรดาแขกในร้านเจอจนได้ จึงได้ตะโกนพูดกับเธอ เสียงดังว่า แต่เป็นเพราะบรรยากาศวุ่นวายภายในผับตอนนี้ จึงฟังสิ่งที่ เขาพูดไม่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
“อย่ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่ รีบไปเอาชุดที่หัวหน้างานมาใส่ แล้วรีบไป ต้อนรับแขก” หยูจึงสั่งฉินหลั่งเสียงดัง แล้วก็เดินไปชนแก้วกับแขกต่อ
ฉินหลั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เริ่มทํางาน เป็นงานเสิร์ฟเหล้าให้กับ แขก เป็นงานเสิร์ฟกับแกล้มให้กับแขก และรับผิดชอบการส่งแขก ตลอดทั้งคืน ฉินหลั่งเดินไปเดินมาอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่ว่าตรงไหนก็ สามารถมองเห็นเขาได้ทุกที่ ในบรรดาหนักงานเขาถือว่าเป็นคนที่ คล่องแคล่วที่สุด
เป็นเพราะแขกส่วนใหญ่เป็นนักเรียน ดังนั้นหลังจากเที่ยงคืน บรรดาแขกก็ค่อยๆทยอยกลับอย่างรวดเร็ว รอจนกระทั่งเวลาเที่ยงคืน สี่สิบนาที แขกคนสุดท้ายของผับก็กลับไป คนในผับต่างรู้สึกโล่งใจ
“ทุกคนเริ่มเก็บกวาดกันเถอะ แล้วเดี๋ยวอย่าเพิ่งรีบกลับกันล่ะ เจ้าของร้านจะมาดูทุกคน คงรบกวนเวลาของพวกเธอไม่มากหรอก ตามนี้นะ เริ่มเก็บกวาดกันได้” หยูจึงพูดกับพนักงานเสิร์ฟและบาร์เท นเดอร์ที่อยู่ในผับ
ฉินหลั่งเองก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เขารับผิดชอบตรวจสอบเครื่องปั่นน้ํา แข็ง รวมถึงแหล่งจ่ายไฟสําหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ายังอยู่ในสภาพดี ไหม
รอจนกระทั่งทุกคนทํางานเสร็จ วัยรุ่นสิบกว่าคนก็นั่งอยู่ในผับพูดคุยกัน ลูบขาที่เมื่อยล้า
ด้านนอกมีเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดังขึ้นมา หลังจาก นั้น ก็มีคนที่ค่อนข้างมีเสน่ห์มากเดินเข้ามา ทั้งตัวของเธอมีเสน่ห์ของ สาวใหญ่เปล่งประกายออกมา แม้เพียงแค่เดินก็สามารถทําให้คนรู้สึก เหมือนตกอยู่ในภวังค์ นี่คือเจ้าของผับโอวโล่อู่ยี่หยวน
วัยรุ่นสิบกว่าคนเห็นเจ้าของร้านเดินเข้ามา เพื่อที่จะแสดงความ เคารพจึงต่างลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้ อู่ยี่หยวนโบกมืออย่างเป็นมิตร: “นั่ง ลงเถอะ ทุกคนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี เสี่ยวจิ้ง เอา มาการิตามาให้ทุกคนคนละแก้ว”
“ค่ะ” หยูจึงกลักมือเรียกฉินหลั่งและพนักงานเสิร์ฟอีกคน: “พวก เธอสองคนไปรินเหล้า”
ฉินหลั่งและพนักงานเสิร์ฟอีกคนขานรับ จึงเข้าไปที่บาร์แล้วใน มาการิตามาสิบกว่าแก้ว แต่ละคนใช้ถาดแบ่งไปคนละครึ่ง แล้วเดินไป หาทุกคน เป็นเพราะฉินหลั่งยังถือถาดได้ไม่คล่องนัก มือหนึ่งสั่น แก้ว เจ็ดแปดแก้ว”เพล้ง” หล่นลงไปแตกอยู่ที่พื้น
ทุกคนล้วนหันไปมองฉินหลั่งด้วยสายตา “หมดคําจะพูด” “ไม่ได้ เรื่อง” ทําให้ฉินหลั่นรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไร เธอเก็บกวาดตรงนี้เสียก่อน แล้วค่อยไปยกออกมา ใหม่” เมื่ออู่ยี่หยวนเห็นฉินหลั่ง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงพูดกับฉัน หลั่งเบาๆทันที ทําเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ครับ” ฉินหลั่งขานรับ แล้วทําตามที่อู่ยี่หยวนบอก เมื่อทําความ สะอาดพื้นเสร็จแล้ว ก็ไปยกแก้วเหล้าออกมาใหม่ ครั้งนี้จะไม่ให้เกิด เรื่องผิดพลาดขึ้นอีก
ฉินหลั่งหาที่นั่งแล้วนั่งลง เขาเองก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ใน เวลาเดียวกันก็มองดูอู่ยี่หยวนผู้สง่างามที่นั่งอยู่ด้านหน้ากลุ่มคน ในใจ ทั้งรู้สึกตื่นเต้นและนับถือ แค่ประโยคง่ายๆของเธอประโยคเดียวก็ สามารถทําให้เขาคลายความเขินอายไปได้ ไม่เสียแรงที่เป็นถึง เจ้าของผับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ