บทที่ 329 ผลตรวจ DNA (2)
บทที่ 329 ผลตรวจ DNA (2)
เมื่อเห็นปฏิกิริยาเธอ เย่ซือเฉินยิ่งยิ้มกว้างขึ้น ดูท่า ก่อน หน้านี้เธอไม่ได้รู้สึกตัว
ฉะนั้น ตอนที่เธอฝันเธอก็คิดถึงเขา รู้สึกดีจริง ๆ เลย!!
เวินลั่วฉิงลุกขึ้นยืน เย่ซือเฉินก็ลุกตาม แต่เมื่อเขายืนขึ้น มา ก็ล้มลงไปบนพื้นทันที
“เย่ซือเฉิน นายเป็นอะไรไป?” เวินลั่วฉิงตกใจ เพราะไม่ ได้เปิดไฟ ตอนที่เย่ซือเฉินล้มลงก็ทำโทรศัพท์หล่นลงพื้น ไปด้วย ทำให้เธอมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอคิดว่าเย่ซือเฉินเป็นลมกะทันหัน
ขณะนั้น เธอไม่รู้ตัวว่าน้ำเสียงตัวเองฟังดูเป็นห่วงและ กังวลใจ
แต่เย่ซือเฉินฟังออก
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ขาชาน่ะ” เย่ซือเฉินนั่งอยู่บนพื้น แต่ ในใจกลับรู้สึกดีมาก ๆ ตอนนี้เธอเริ่มกังวลเรื่องเขาแล้ว?
ที่จริงเขารู้ดีว่าเขานั่งนิ่งไม่เปลี่ยนท่าเลย ยังไงขาก็ต้อง เหน็บชาแน่นอน และเขาก็เดาได้ว่าถ้าลุกขึ้นยืนกะทันหัน จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น
ดังนั้น เมื่อกี้ที่เขาล้มเป็นเพราะเขาตั้งใจ เขาอยากดูว่า เธอจะมีอาการยังไงเป็นห่วงเขาไหม?
อืม ผลลัพธ์ไม่เลว
เวินลั่วฉิงเป็นคนฉลาดหลักแหลมมาก เธอเข้าใจได้ทันที เพราะเธอนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาเป็นเวลานาน จึงทำให้ ขาเขาเหน็บชา
แต่เวิน วฉิงไม่ได้คิดมากถึงเรื่องอื่น
ที่จริงบางครั้งเงินลั่วฉิงก็ไร้เดียงสามาก
“เดี๋ยวฉันนวดให้นายเอง” เวิน วฉิงกดเปิดสวิสซ์ไฟที่ อยู่ใกล้พวกเขาที่สุด เมื่อเห็นเขานั่งอยู่ที่พื้น ขยับขาไม่ ได้ เธอก็คุกเข่าลง ช่วยนวดให้เขา
แต่งงานกันมาตั้งนาน คุณชายสามเย่เพิ่งได้รับการดูแล แบบนี้เป็นครั้งแรก เขารู้สึกสุขใจมากเหลือเกิน
เห็นท่าทางตั้งใจและอ่อนโยนของเธอ เย่ซือเฉินรู้สึกพอใจมาก ๆ
แต่เงินลั่วฉิงช่วยนวดขาอ่อนให้เขา ทำให้กระตุ้นความ รู้สึกบางอย่างของเขาไม่หยุด แต่เขาก็อดกลั้นเอาไว้
ในขณะนั้นเอง ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก แล้วเลขา หลี่ก็เดินเข้ามา
เลขาหลี่ที่เพิ่งทำงานเสร็จกำลังจะกลับออกไปแต่เห็น ไฟห้องประชุมเปิดอยู่ แต่ไม่เห็นคน (เพราะเย่ซือเฉินกำ ลังนั่งอยู่ที่พื้น เวินลั่วฉิงก็คุกเข่าอยู่ แล้วโดนโต๊ะบังไว้ พอดี)
ดังนั้น เลขาหลี่จึงเดินเข้ามาเพื่อเปิดไฟ
แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าจะเห็นอะไรแบบนี้
ท่านประธานนั่งอยู่บนพื้น คุณผู้หญิงกำลังคุกเข่าอยู่ตรง หน้าท่านประธาน มือของคุณผู้หญิงกำลังนวดคลึงอยู่ ระหว่างขาอ่อนของประธาน
แต่ท่านประธานในขณะนี้กำลังฝืนข่มอารมณ์เอาไว้อยู่ ท่าทีที่ฝืนอารมณ์ไว้อย่างนั้นผู้ชายด้วยกันดูออก
ท่านประธานช่างรู้จักเล่นจริง ๆ เลย แถมยังกล้าเล่นอีกด้วย นี่มันห้องประชุมเลยนะ
ทันใดนั้น เลขาหลี่ก็อยากจะทำให้ตัวเองตาบอดเสีย เหลือเกิน
เมื่อเลขาหลีได้สติ ก็ไม่ได้พูดอะไร รีบหมุนตัวอย่างเร็ว แล้วออกจากห้องประชุมไปอย่างว่องไว
“ทำไมเลขาหลี่อยู่ ๆ ก็วิ่งล่ะ ฉันอยากให้เขาเข้ามาช่วย กันสักหน่อย” เป็นลั่วฉิงเห็นหลังไว ๆ ของเลขาหลี่ก็สงสัย
เย่ซือเฉินเห็นท่าทางน่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ออก
เธอความรู้สึกช้าในเรื่องความรัก เรื่องทำนองนี้เธอก็ช้า มาก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเลขาหลี่ถึงได้วิ่งออกไปโดย ไม่พูดอะไร
สาวน้อยคนนี้บางครั้งก็น่ารักมากจังเลย
เธอเริ่มปิดกั้นเขาน้อยลงแล้ว ปิดกั้นน้อยลงก็ หมายความว่าเธอเชื่อใจเขามากขึ้นแล้ว นี่ถือว่าเป็น นิมิตรหมายที่ดี
ณ เมือง A
หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง เสี่ยวหูก็ได้ผลตรวจ DNA ของเย่ซือเฉินมา คุณหญิงจี้หาคนคอยช่วย ดังนั้นจึงได้ ผลตรวจไวไม่แพ้กัน
แต่ยังไงคุณหญิงจี้ก็ช้ากว่าโรงพยาบาลตี้อีหลายชั่วโมง ขณะที่รอผลตรวจทางนั้นออกมา เสี่ยวหูก็ได้เอาผลตรวจ สองฉบับสลับกัน
ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“ลูกพี่ครับ ทำตามที่ลูกพี่สั่งเรียบร้อยแล้ว ได้เอาผล ตรวจของคุณชายสามเย่เปลี่ยนสลับไปแล้ว ส่วนข้อมูล ของเย่โป๋เหวินก็จัดการเรียบร้อยแล้ว รับรองได้ว่าไม่มี ทางทําให้อีกฝ่ายพบพิรุธแน่” เมื่อเสี่ยวหูทํางานเสร็จก็ กลับไปรายงานความเรียบร้อยให้ถังหลินฟัง
เสี่ยวหู่หยุดพูด จากนั้นก็เอาผล DNA ในมือยื่นให้ถัง หลิน
ฉบับนี้คือของเด็กถังจื่อไม่
ถังหลินรับมา แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเปิดออก เมื่อ เห็นข้อมูลที่ออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง…
ทำไมเขารู้สึกคุ้นตากับข้อมูลพวกนี้นัก?! ถังหลินอยากดู ให้ละเอียด
“ถังหลิน นายออกมานี่ นายท่าเกินไปแล้วนะ” แต่ทันใด นั้น ก็มีเสียงผู้หญิงดังออกมาจากด้านนอก
“ลูกพี่ เจ้าแม่มาหาถึงที่แล้ว” เสี่ยวหูตัวสั่นเทา
กล้าด่าลูกพี่แบบนี้ เกรงว่าจะมีแค่ท่านนี้แหละ
ฐานะไม่ธรรมดา อารมณ์ดุเดือด
ถังหลินเลิกคิ้วขึ้น หันไปมองเสี่ยวหู สีหน้าไม่แสดงท่าที อะไร แต่ไม่ได้กลับไปมองข้อมูลในมืออย่างละเอียด ได้ แต่เอาข้อมูลนั้นเก็บใส่ลิ้นชัก
จากนั้น ผู้หญิงท่าทางร้อนรนก็เดินเข้ามา
เสี่ยวหูหลบหลีกไปอย่างว่องไว
“ถังหลิน นายหมายความว่ายังไง? ทำไมงานครั้งนี้ไม่ให้ ฉันไปทำ?” กู้หนานจ้องเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ แต่คิ้วนั้นให้อารมณ์ความรู้สึกต่างออกไป
ถังหลินไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เงยขึ้นมามองไปทางเธอ สายตาเย็นชาเหมือนอย่างปกติ ดูไม่ออกถึงอารมณ์ ความรู้สึกใด ๆ
“นายมองฉันทําไม? นายพูดออกมาสิ” กู้หนานที่ถูกเขา มองแบบนี้ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อารมณ์เธออ่อนลงเล็ก น้อย น้ำเสียงก็ต่ำลงพอสมควร
เธอกลัวถังหลิน กลัวจริง ๆ แต่เธอมาที่นี่ก็เพื่อถังหลิน ฉะนั้น เธอถอยกลับไม่ได้
“ครั้งนี้ทำไมไม่ยอมให้ฉันไป? ฉันต้องการเหตุผล” กู้ หนานถามซ้ำอีกรอบ นี่เป็นเหตุผลที่เธอมาหาเขาในวันนี้ และนี่เป็นข้ออ้างที่เหมาะสมที่สุด
“จำเป็นต้องทำงาน” ถังหลินเอ่ยปาก ตอบกลับออกมา อย่างเรียบ ๆ จากนั้นก็หลุบตาลง เริ่มดูเอกสารตรงหน้า
“จําเป็นต้องทำงานอะไร นายเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิง เลย ดูถูกฉันงั้นเหรอ” กู้หนานเห็นท่าทีของถังหลินในตอนนี้ ในใจยิ่งโกรธขึ้นมา แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอระเบิดออกมา ไม่ได้
ครั้งนี้ ถังหลินไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา และไม่ได้เอ่ย พูดอะไร ไม่สนใจเธอไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยสักนิด
ถังหลิน นายทำอย่างนี้มันไม่ยุติธรรมกับฉัน” กู้หนานเคยถูกปฏิบัติอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน น้ำเสียงเธอแฝงไป ด้วยความผิดหวังเสียใจ
“ฉันจัดการอย่างนี้ ถ้าหากเธอไม่เห็นด้วย สามารถไป ร้องเรียนกับเบื้องบนได้” ถังหลินยังคงไม่เงยหน้า น้ำ เสียงนั้นฟังดูเย็นชา
“นาย…” กู้หนานอึ้งไป สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่าง บอกไม่ถูก เมื่อเห็นถังหลินเอาแต่ยุ่งอยู่กับงานของเขา โดยที่ไม่หันมามองเธอสักนิด
กู้หนานหลุบสายตาที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของเธอ เธอรู้ดีว่า เขากำลังตำหนิเธอ
เธออยากด่าเขาสักยก ถึงขั้นอยากทำโทษเขาแรง ๆ แต่ เธอกลัวจริง ๆ ตอนที่เห็นท่าทีเย็นชา ไม่แยแสของเขา
“ถังหลิน นายเชื่อฉันสักครั้งได้ไหม?” กู้หนานที่แต่ไหน แต่ไรอีโก้สูงมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ต่อหน้าเขา เธอยอม ที่จะวางอีโก้เธอลง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ