เมียลึกลับของประธานเป

ตอนที่86 ตื่นเต้นสุดขีด



ตอนที่86 ตื่นเต้นสุดขีด

ตอนที่86 ตื่นเต้นสุดขีด

นัยน์ตาเย่ซือเฉินเป็นประกาย ครูต่อมา นิ้วเรียวยาวของ

เขาก็ค่อยๆเลื่อนไปตามโทรศัพท์ และกดลงบนปุ่มตอบ รับสีเขียว

แค่เพียงนิ้วเขาแตะไปเบาๆ สายก็เชื่อมต่อเรียบร้อย แล้ว…..

ณ ตอนนี้ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เวินลั่วฉิงปรากฏตัว ขึ้นที่หน้าประตู

เงินลั่วฉิงเห็นว่าเขากำลังหยิบโทรศัพท์ของเธออยู่ และ กําลังกดรับสาย ณ วินาทีนั้น เงินล้วฉิงถึงกับอ้าปากค้าง

“นั่นโทรศัพท์ของฉัน” เงินลั่วฉิงอยากรีบกระโดดไปคว้า โทรศัพท์มา แต่เธอรู้ว่าถ้ารีบไปแย่งโทรศัพท์ ณ ตอนนี้ นั่นก็ยิ่งแต่จะเพิ่มความสงสัยของเขา

เงินลั่วฉิงจึงแสร้งเดินเข้าไปหาเขาอย่างปกติธรรมดา จนถึงตรงหน้าเขา

เมื่อถึงตรงหน้าเงินลั่วฉิงถึงได้เห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์เธอมีสามคำเขียนว่าสุดที่รักอยู่ ใจเธอสั่นสะท้าน แน่นอน ว่าเป็นลูกรักของเธอโทรมา ถ้าหากว่าสายนี้เยซือเฉินรับ เข้าล่ะก็…

ถ้าเย่ซือเฉินไม่ใช่ผู้ชายเมื่อห้าปีก่อนก็แล้วไป ถ้าหากว่า ใช่ล่ะก็ เรื่องราวทั้งหมดก็จะถูกเปิดเผย

เวินลั่วฉิงใจสั่น แต่สีหน้าเธอก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติ

อะไร ได้แต่ยื่นมือออกไป รับโทรศัพท์ของตัวเองมา

เย่อเฉินเงยหน้าขึ้นมองเธอ สายตาเคร่งเครียด!!

เขาไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ ถึงแม้เธอจะแสดงออก อย่างแนบเนียน ไม่เห็นความผิดปกติใด แต่ว่าเขารู้สึกว่า เธอจะดูสงบนิ่งมากไปหน่อย

นิ้วเรียวยาวของเขากดไปยังปุ่มตอบรับสีเขียวเบาๆ จาก นั้นก็กดเปิดลำโพง

เวินลั่วฉิงแอบอ้าปากค้าง ครู่หนึ่งเธอรู้สึกเหมือนหัวใจ ตัวเองแทบหยุดเต้น

พระเจ้าจะพรากลมหายใจไปจากเธอแล้วใช่ไหม
เป็นถังจื่อโม่ที่โทรมา พอสายเชื่อมต่อแล้ว คำแรกที่ถัง จื่อโม่จะร้องเรียกก็คือแม่ ถึงตอนนั้น…

ผลที่ตามมาเป็นลั่วฉิงไม่อยากจะคิด

เย่ซือเฉินจ้องเธอ สายตาทั้งคู่ค่อยๆหรี่ลง

แต่ว่า โดยที่เวินลั่วฉิงไม่ทันคิด ในสายกลับไม่ได้มีเสียง ที่เธอคาดไว้แว่วดังมา

“ที่รัก คุณทําอะไรน่ะ ทำไมตั้งนานกว่าจะรับสาย ว่าไง ได้ขึ้นเตียงกับสามีแล้วรึยัง” เสียงเห่อถงถงในสายดังขึ้น มา

ตอนนี้ คำที่เห่อถงถงใช้เรียกเธอในตอนนั้น ช่วยกลบ เกลื่อนเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ได้

เวินลั่วฉิงแอบถอนหายใจ รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ปกติแล้ว เห่อถงถงก็เรียกเธอว่าเพื่อนรัก ไม่เคยเรียกเธอว่าที่รัก เพราะว่าที่รักเป็นคำที่เธอใช้เรียกจื่อซีกับจื่อโม่

ทำไมอยู่ดีๆวันนี้ถึงได้เปลี่ยนคำเรียกเธอ

“ที่รัก สามีเธอร้ายกาจรึเปล่า ไหน มาเล่าให้พี่สาวฟัง หน่อย” เสียงเห่อถงถงที่ปลายสายฟังดูสนุกขึ้นอีกหลายขุม คำที่เธอพูดล้วนพาทำให้คนหน้าแดงไปหมด

เย่ซือเฉินนิ่งไป สถานการณ์ตอนนี้กับที่เขาคิดไว้ไม่ เหมือนกัน เย่ซือเฉินจะไปคิดได้อย่างไรว่าสุดที่รักความ จริงแล้วจะเป็นผู้หญิง

“อะแฮ่ม…” เวินลั่วฉิงกระแอมเบาๆ ก่อนที่เธอจะยื่นมือ ออกไปหยิบโทรศัพท์มาจากมือเขา

ครั้งนี้ เย่ซือเฉินไม่ได้ขวางเอาไว้อีก

“เธอไออะไร เป็นหวัดรึเปล่า” เห่อถงถงได้ยินเสียงไอ ของเวินลั่วฉิง เธอก็นิ่งไป แต่หลังจากนั้นเสียงเธอก็สูงขึ้น “ไม่ ไม่ใช่สิ เสียงของเธอฟังดูผิดปกติ หรือว่าถูกฉันจับได้ แล้ว เธอกับสามีขึ้นเตียงกันแล้วใช่ไหม”

เวินลั่วฉิง “.….

ผู้หญิงคนนี้คิดเป็นอยู่เรื่องเดียวหรือยังไงนะ

“ฉันว่า คุณชายสามเย่ร้ายกาจนะ ที่รัก ตอนนี้เธอลง จากเตียงไหวไหมเนี่ย” เสียงเว่อร์วังของเห่อถงถงดังขึ้น อีกครั้ง

“หุบปากเดี๋ยวนี้เลย” เวินลั่วฉิงทนฟังต่อไปอีกไม่ได้แล้ว เธอกรีดร้องออกมา ก่อนที่จะรีบปิดลำโพงในทันที

เธอรู้สึกว่า ถ้าปล่อยให้เห่อถงถงพูดอีกต่อไป เธอคง ต้องไปหาที่ซุกหน้าแล้ว

เย่ซือเฉินจ้องเธอ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ อายรี

ได้ยินผู้หญิงที่ปลายสายแสดงว่าหล่อนรู้เรื่องการ แต่งงานของเธอ และรู้อีกด้วยว่าคนที่เธอแต่งงานด้วยก็ คือเขา!

นั่นแสดงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและผู้หญิงคนนั้น ต้องไม่ธรรมดาแน่

แค่รู้สึกว่าที่หล่อนเรียกเธอว่าที่รักมันช่างฟังดูขัดหู เขา ไม่ได้เรียกเธอเช่นนี้ ทําไมคนอื่นถึงได้เรียกเธอเช่นนี้ ต่อ ให้เป็นผู้หญิงก็ไม่ได้

เวินลั่วฉิงจ้องเขม็งไปที่นัยน์ตาจะยิ้มก็ไม่ยิ้มของเย่ซือ เฉิน ก่อนที่จะถือโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำ

เย่ซือเฉินเลิกคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“เห่อถงถง นี่มันเรื่องอะไรกัน” เวินลั่งฉิงยังพอฉลาดอยู่บ้าง เธอรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเธอจึงรีบถือ โทรศัพท์เข้าไปคุยในห้องน้ำ

“เพื่อนรัก ตอนนี้คุยสะดวกรึยัง” เห่อถงถงที่ปลายสาย ถอนหายใจ “ก่อนหน้านี้เด็กโม่เป็นคนโทรไป เพราะว่า เธอไม่ยอมรับสายสักที เด็กโม่ก็เลยคิดว่ามีปัญหาอะไร รึเปล่า พอมีคนรับแล้ว ก็ไม่ได้ยินเสียงเธอพูด เด็กโม่ก็ เลยคิดว่าคนที่รับสายอาจจะไม่ใช่เธอ แต่เป็นเย่อเฉิน ดังนั้น เด็กโม่ก็เลยให้ฉันพูดแทน เป็นไง ฉันฉลาดไหม ฉลาดใช่มั้ยล่ะ”

เงินลั่วฉิงคาดเดาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้ สึกแปลกใจ แต่พอเธอนึกถึงคำพูดที่เห่อถงถงพูด เธอก็ อดไม่ได้ที่จะเอ็ดเบาๆ “เธอกำลังจะบอกว่าที่เธอพูดอะไร ออกมาเมื่อครู่นี้ ลูกๆก็อยู่ข้างเธอด้วยอย่างนั้นเรอะ”

“เปล่านะ ไม่ได้อยู่แน่นอน” เห่อถงถงรีบกลอกตาม องบน เธอคิดว่าตอนนี้โทรศัพท์อยู่ เธอมองกลอกตา เวินลั่วฉิงก็มองไม่เห็นหรอก แล้วก็อดขำไม่ได้ “เธอรอ ก่อนนะ เด็กอยากพูดกับเธอน่ะ”

“มามีวันนี้หนูกับพี่จะไปโรงเรียนวันแรก มามี้ไม่มาส่ง พวกเรา ขนาดโทรศัพท์ก็ยังไม่โทรมา… จากนั้นก็มีเสียง ของถังจื่อซีลอดเข้ามา ตอนนี้เธอค่อนข้างหงุดหงิดและ น้อยใจ
“ลูกรัก แม่ขอโทษ” เมื่อได้ยินคําพูดของเสี่ยวซี เวินลั่วฉิ งก็รู้สึกผิดมาก วันนี้เป็นวันแรกที่เด็กทั้งสองคนไป โรงเรียนอนุบาลวันแรก เธอเป็นแม่แท้ๆกลับไม่ได้ไปส่ง พวกเขาที่โรงเรียน

เมื่อคิดว่าเย่ซือเฉินยังอยู่ข้างนอก เวินลั่วฉิงจึงลดเสียง ลง เสียงจึงทุ้มต่ำลงมาก

“มามี้ ไม่เป็นไร พี่บอกว่า พวกเราโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ แล้ว รบกวนมามี้ตลอดเวลาไม่ได้ อีกอย่างพี่บอกว่าอีก หน่อยก็ไม่ต้องให้ลุงถังคอยดูแลพวกเราแล้ว” พอถังจื่อซื ได้ยินเสียงแม่เศร้าใจ เธอจึงรีบปลอบโยนแม่ทันที

เวินลั่วฉิงรู้สึกอุ่นใจ แต่เมื่อได้ยินคำเรียกขานจากถังจื่อ ซี เธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ลุงถัง ลุงถังที่ไหนคะ”

“ก็รุ่นพี่ของแม่ไงคะ” ถังจื่อซีนิ่งไป ก่อนจะรีบอธิบาย

“ปกติลูกจะเรียกว่าพ่อเลี้ยงไม่ใช่รึ” เวินลั่วนิ่งแปลกใจ เมื่อก่อนรุ่นพี่ให้เด็กน้อยทั้งสองเรียกเขาว่าพ่อเลี้ยง ที่ จริงเธอก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ว่าเด็กสองคนก็เรียก เขาแบบนี้ตลอด เธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก

ที่จริงก็แค่คำเรียก ขอแค่ให้ลูกทั้งสองคนมีความสุขก็พอแต่ว่าอยู่ดีๆทําไมลูกถึงเปลี่ยนค่าเรียกล่ะ

เรียกมานานหลายปีแล้ว อยู่ๆท่าไมถึงเปลี่ยน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ