เมียลึกลับของประธานเป

บทที่367 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (8)



บทที่367 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (8)

บทที่367 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้าง ความตกใจให้กับทุกคน (8)

ความอัปยศอดสูแบบนี้ ท่านปู่กู้จะทนได้อย่างไร?

แต่ว่า ถึงแม้ท่านปู่กู้จะโกรธมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ จะทำอะไรต่อหน้าสาธารณชน

เวลานี้ ทุกคนในห้องโถงต่างก็พากันตกตะลึงไป ชั่ว ขณะหนึ่งต่างก็เรียกสติกลับคืนมาไม่ได้

“กู้ซิ่งซินเป็นคนแพ้เหรอ?” เพราะไม่อยากจะเชื่อจริงๆ มี คนถามออกมาคำหนึ่งด้วยเสียงที่เบาอย่างอดไม่ได้

“อืม คุณหนูโง่ของตระกูลเงินเป็นคนชนะ” จู่ๆก็มีคน โพล่งคำนี้ออกมา คนที่พูดไม่มีเจตนา แต่ว่าตอนนี้พอทุก คนได้ยินคำนี้อยู่ในหู กลับกลายเป็นความหมายอื่นไป

แชมป์โลกคนหนึ่งแพ้ให้กับคุณหนูโง่ที่เล่นหมากรุกไม่ เป็นเลยด้วยซ้ำ

ดูท่า กู้ชิ่งซินก็แค่นั้นเองไม่ได้เก่งกาจอะไรมาก!!
“เจ้าแม่กวนอิมเมตตามหานิยมสำแดงฤทธิ์แล้วใช่ไหม?” ท่านย่าถังตื่นเต้นดีใจมากเกินไป ชั่วขณะหนึ่งเรียกสติ กลับมาไม่ได้เล็กน้อย โพล่งออกมาคำหนึ่งด้วยความ งุนงง

“อืม” ท่านปู่ถังกลับตอบเธอคำหนึ่งด้วยการให้ความร่วม มืออย่างเต็มที่

“คุณก็เป็นแต่หลอกฉันนั่นแหละ มันเป็นเพราะนังหนูมี ความสามารถชัดๆ” ท่านย่าถังกลับมามีสติสัมปชัญญะ จริงๆ เหลือบมองท่านปู่ถังด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

“เธอ เธอชนะแล้ว นี่คือแมวตาบอดเจอกับหนูตาย(เดิมที ตนไม่มั่นใจไปทํากลับประสบความสำเร็จ)เหรอ?” คุณ ปู่เย่ก็ตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าเขารู้สึกว่าเป็นลั่วฉิง ต้องเจอกับความโชคดีแน่นอน

เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเป็นลั่วฉิงจะสามารถเอาชนะกู้ชิ่ง

ชินได้

“มาอีกครั้ง ชนะสองในสามเกม” ทั้งชีวิตของ กู้ชิงซินรา บรื่นมากจนเกินไป ไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคใดๆ ดังนั้น ในตอนนี้เขารับความพ่ายแพ้ของตัวเองไม่ได้เลย

เขารับความจริงที่ตัวเองพ่ายแพ้ไม่ได้ ยิ่งยอมรับไม่ได้ ว่าตัวเองแพ้ให้กับคนโง่ที่ทั้งโง่เขลาและขี้เหร่แบบนี้
อันที่จริง คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้สึกว่าเป็นลั่วนิ่งเป็น แมวตาบอดที่เจอกับหนูที่ตาย แน่นอนว่า ท่านปู่กู้ก็คิด แบบนี้เหมือนกัน

กู้ซิ่งชินไม่เข้าใจ ยิ่งเขาแข่งกับเวินลั่วฉิงมากขึ้นเท่า ไหร่ ก็จะยิ่งแพ้อย่างอนาถมากขึ้นเท่านั้น เพราะเวินลิ่วฉิง ไม่ได้ใช้เฉพาะทักษะการเล่นหมากรุกเท่านั้น ยังมีความ เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาของเธออีกด้วย ยิ่งเขาแข่งเยอะ มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดเผยตัวตนมากยิ่งขึ้น เงินลั่ว งก็จะยิ่งเข้าใจเขามากยิ่งขึ้น

เงินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองกู้ซิ่งซินครู่หนึ่ง พูดกันจริงๆ เธอ ไม่อยากจะกดขี่คนอื่นมากจนเกินไป

แพ้ครั้งเดียว กู้ชิ่งซินเสียหน้าก็จริง แต่ก็ยังหาทางแก้ไข สภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ได้ ถ้าหากว่าแพ้อีกครั้ง คงจะเป็นเรื่องน่าอายแล้วจริงๆ

“นังหนูคนนี้ก็พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง เมื่อกี้ทุกคน ดูจนเกิดความสนใจแล้ว พวกเธอก็เล่นกันอีกเกมส์” แต่ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ท่านปู่กู้ก็พูดออกมาโดยตรง คำ พูดนี้ดูผิวเผินแล้วน่าฟัง แต่ว่าจุดประสงค์ของท่านปู่กู้ทุก คนรู้อยู่แก่ใจดี

เห็นได้ชัดว่าท่านปู่กู้เชื่อมั่นว่าที่เวินลั่วฉิงสามารถ เอาชนะได้เพราะเจอกับโชคดี เขาเชื่อมั่นว่าถ้าหากแข่งกันอีกรอบ กู้ซึ่งซินจะต้องชนะแน่

แววตาของเงินลั่วนิ่งเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย แอบยิ้ม เงียบๆในใจ เคยได้ยินขุดหลุดให้พ่อตกลงไป ขุดหลุม ให้แม่ตกลงไป นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าปู่ขุดหลุมให้หลาน ตกลงไป

แบบนี้จะดีจริงๆเหรอ?

เธอยังรู้สึกทำไม่ลงเล็กน้อยแล้ว คุณปู่คนนี้ทำได้ลงคอ

จริงๆ

แต่ว่า ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ท่านปู่กู้พูดออกมาแล้ว ถ้าเธอไม่ฟัง เธอจะถูกจัดการทันทีหรือเปล่านะ? ตระกูล กู้ที่ยโสโอหัง วิธีการทำสิ่งต่างๆที่ทำเองเออเองโดยไม่ สนใจใคร มีความเป็นไปได้แบบนั้นอยู่จริงๆ

ดังนั้น เพื่อชีวิตน้อยๆของเธอแล้ว เธอยอมฝืนใจทำตา มอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ดีกว่า

เวินลั่วฉิงคิดเอาไว้อย่างนี้ เลยไม่ได้ลุกขึ้นยืน ถือว่า ตอบตกลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่

คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้สึกว่าท่านปู่กู้อาศัยอำนาจรังแกคนอื่น เล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าพูดไปเรื่อย เพราะถึงอย่างไรตระกูล กู้ก็ไม่ใช่ตระกูลที่คนธรรมดาทั่วไปจะไปสะกิดให้ขุ่นเคืองได้ ยิ่งไปกว่านั้นกู้เจิ้งฉุนก็กำลังจะขึ้นเป็น หัวหน้าของแปดตระกูลใหญ่ในเร็วๆนี้แล้ว

ท่านปู่ถังไม่กลัวตระกูลกู้ เพียงแต่เขาเห็นว่าเป็นลั่วฉิง ตอบตกลงแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก ตรงกันข้าม ดวงตาทั้งคู่กลับมีความคาดหวังมากขึ้นเล็กน้อย

ถึงแม้จะดูเหมือนว่านังหนูคนนั้นจะตอบตกลงอย่างไม่ ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่เขารู้สึกว่า ในใจของนั่งหนูคนนั้น ไม่ได้รู้สึกฝืนใจเลยสักนิด และเขายังดูออกว่าเธอมีความ มั่นใจอย่างมาก

นังหนูคนนี้น่าสนใจมากจริงๆ!!

“ยังจะแข่งอีก? ครั้งนี้นังหนูจะชนะไหม?” เวลานี้ ท่านย่า ถังทั้งประหม่า ทั้งตื่นเต้นอีกด้วย

“ไม่รู้สิ ไม่งั้นคุณก็ขอพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตามหา นิยมอีกครั้ง?” ท่านปู่ถังมองไปที่ท่าทางของเธอ ยิ้มเยาะ เล็กน้อย ล้อเล่นอย่างทีเล่นทีจริง

“อืม ได้ ยินดีเชื่อว่ามันมีอยู่จริง มากกว่าที่จะเชื่อมัน ไม่มี” สุดท้ายท่านย่าถังก็สวดขอขึ้นมาอย่างจริงจัง

ท่านปู่ถังอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ รอยยิ้มบนหน้ากลับเพิ่ม ขึ้นเล็กน้อย ภรรยาของเขายังคงเป็นสมบัติล้ำค่าของเขาถึงแม้จะอายุเจ็ดสิบแล้วก็ตาม

เกมที่สองเริ่มต้นขึ้น ท่าทางของเวินลั่วฉิงยังคงสงบและ เยือกเย็น แต่กู้ชิ่งซินมีความกังวลเล็กน้อยอย่างชัดเจน และดูหงุดหงิดเล็กน้อย

และตอนนี้คนที่ดูอยู่ต่างก็ดูไม่เหมือนเมื่อกี้ที่ดูอย่างไม่ ตั้งใจเท่าไหร่ บนใบหน้ามีความประหม่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มกู้ชิงซินก็เล่นอย่างจริงจังมาก แต่ว่าเมื่อ เกมหมากรุกเริ่มต้นขึ้น ก็ไม่มีชัยชนะของกู้ซิ่งซินแบบที่ ท่านปู่กู้ต้องการจะเห็น ผลลัพธ์ที่เอาชนะเงินลั่วฉิงใน พริบตาเดียว

ตรงกันข้ามการแข่งขันในรอบนี้ค่อนข้างดุเดือดมาก ตั้งแต่เริ่มแรก ฝีมือของทั้งสองคนสูสีกัน ความสามารถ พอๆกัน

ถึงอย่างไรกู้ซิ่งซินก็เป็นถึงแชมป์โลก ก็ต้องมีความ สามารถจริงอยู่แล้ว ในรอบแรกเวินลั่วฉิงสามารถเอาชนะ ได้สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะการประเมินศัตรูต่ำเกิน ไปของกู้ซิ่งซิน สาเหตุอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินลั่วฉิง สามารถมองทะลุความคิดของกู้ชิ่งซินได้

และในรอบนี้ เห็นได้ชัดว่ากู้ซิ่งซินใช้ความสามารถ ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าหากว่ากู้ชิ่งซินเล่นได้อย่างคงที่และมั่นคงตลอด เวินลั่วฉิงอยากจะชนะเขาความจริงเป็น เรื่องที่ยากเอาการ

แต่ว่า กู้ซิ่งซินอยากจะชนะมากจนเกินไป เห็นว่าโจมตี ไม่ได้ซะที ในใจก็ยิ่งร้อนรนมากยิ่งขึ้น เห็นท่าทางของ เงินลั่วฉิงที่ยังคงดูสงบและเยือกเย็นปานนั้นเหมือนเดิม อีก ยิ่งทำให้อารมณ์หงุดหงิดของเขาไม่สามารถสงบลง มาได้

เวลานี้ท่านปู่กู้ตื่นเต้นมากที่สุด อยู่ใกล้มากที่สุด ตาทั้งคู่ ของเขามองไปที่เวินลั่วฉิงอยู่บ่อยครั้ง แฝงไปด้วยความ ดุดันและเฉียบคม อยากจะใช้สายตารบกวนสมาธิของ เงินลั่วฉิง อยากจะให้เงินลั่วฉิงกลัว

ต้องบอกว่า สายตาเฉือนคมของท่านปู่กู้นั่นน่ากลัวมาก

จริงๆ

แต่เสียดาย มันไม่มีผลกระทบใดๆกับเงินลั่วฉิงทั้งนั้น

เดิมทีความตื่นตัวของเงินลั่วฉิงก็สูงมากอยู่แล้ว แล้วจะ ไม่รู้สึกถึงสายตาที่จงใจนั่นของท่านปู่กู้ได้อย่างไร เดิมที เธอไม่อยากจะไปสนใจ แต่นึกถึงว่าตระกูลกู้หยิ่งยโสมาก ไปจริงๆ รังแกคนอื่นมากเกินไปจริงๆ

เวินลั่วฉิงยกมุมปากขึ้น จู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางท่าน ปู่กู้ ท่านปู่กู้เห็นเวินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตาของหรี่ลงอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าสาวน้อยคนหนึ่งสบตา เข้ากับสายตาแบบนี้ของเขา ก็ต้องตกใจกลัวแทบตายแน่

ทำให้นังเด็กเวรนี่ตกใจแทบตาย ดูสิว่าเธอยังจะเล่น หมากรุกอย่างไร

เวินลั่วฉิงมองไปที่เขา ตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออก มาเบาๆ รอยยิ้มนั่นดูสบายๆและเป็นธรรมชาติ

ท่านปู่กู้อึ้งไป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่า เป็นลั่วฉิงไม่ เพียงแต่จะไม่ตกใจกลัวแทบตาย ตรงกันข้ามกลับยังยิ้ม ออกมาได้

สายตาแบบนั้นของเขาผู้ชายธรรมดาทั่วไปเห็นแล้วยัง รู้สึกกลัว ทำไมสาวน้อยคนนี้ดูเหมือนจะไม่กลัวเลยสัก นิด

ในขณะที่สายตาของท่านปู่กู้ตกตะลึงอยู่นั้น มุมปาก ของเวินลั่วฉิงเปิดออกเล็กน้อย พูดออกมาช้าๆว่า “ท่าน ปู่กู้ คุณไม่มองกระดานหมากรุกเลย จ้องมองฉันอย่างนี้ ตลอด คนที่ไม่รู้คงจะคิดว่าคุณอยากจะให้ฉันชนะ”

คำพูดของเงินลั่วฉิงหยุดลงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือชี้ ไปทางกู้ชิงซิน แล้วเสริมมาอีกคำหนึ่งช้าๆ “เขาต่างหากที่ เป็นหลานของคุณ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ