เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 328 ผลตรวจ DNA (1)



บทที่ 328 ผลตรวจ DNA (1)

บทที่ 328 ผลตรวจ DNA (1)

เสี่ยวหู่ไปหาบันทึกข้อมูลการตรวจ DNA ของเย่โป๋เหวิน ในตอนนั้น ใช้เวลาไม่นานก็หาพบ

ในส่วนของคุณปู่เย่ก็ง่ายมาก เพราะคุณปู่เย่มีนัดตรวจ กับที่โรงพยาบาลตี้อีประจำอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลจึงหา ข้ออ้างให้คุณปู่เย่มาเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล

ทั้งหมด าเนินการได้อย่างราบรื่นมาก ถังหลินจัดการ เรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเรียบร้อยมาก

อีกทั้งคุณชายสามเย่อยู่ต่างประเทศ ไม่รู้เรื่องราวอะไร นิด ทำให้เรื่องทําหมดจัดการได้โดยไม่มีใครระแคะ ระคายอะไรทั้งสิ้น!

เงินลั่วฉิงไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเลยสักนิด แต่ เย่ซือเฉินก็ยังจะพาเธอมาด้วย แม้แต่ประชุมก็ยังให้เธอ นั่งอยู่ข้าง ๆ

เวินลั่วฉิงที่ฟังรายงานเฉพาะด้านอะไรพวกนั้นแล้วก็ รู้สึกง่วงนอน ที่จริงหลายวันมานี้เธอนอนไม่เพียงพอ ทำให้สะลึมสะลือจนหลับไป
เว้นลั่วฝั่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เย่ซื้อเฉิน เธอนอนหลับไปแล้ว ตัว เธอจึงเอนเอียงไปทางเยี่ซือเฉิน เย่ซือเฉินที่กำลังพูดใน ที่ประชุมอยู่นั้นก็หยุดพูดทันที แล้วยื่นแขนออกไปอย่าง รวดเร็ว แต่รับเธอไว้อย่างเบามือที่สุด จากนั้นก็ค่อย ๆ โอบเธอไว้ในอ้อมกอด

ท่าทางของเขาดูอ่อนโยนมาก เวินลั่วฉิงจึงไม่รู้สึกตัว เลย ได้แต่เอนตัวซบอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่างนั้น แล้ว หลับต่อ

ผู้คนในห้องประชุมตาโตจนแทบจะหลุดออกมา ท่าน ประธานพาผู้หญิงคนหนึ่งมาร่วมประชุมด้วยก็ทำให้พวก เขาตกตะลึงมากพอแล้ว

ยิ่งท่าทางที่อ่อนโยนของท่านประธาน ท่าทีที่ยอมตามใจ ทำให้พวกเขาสงสัยเหลือเกินว่าคนตรงหน้านั้นใช่ท่าน ประธานของพวกเขาหรือเปล่า

มีเพียงเลขาหลี่ที่สีหน้าเป็นปกติ ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจ อะไร

นั่นคือภรรยาของท่านประธาน ท่านประธานดีกับภรรยา ก็เป็นเรื่องปกติ

เมื่อคืน เขาก็เข้าใจหมดแล้ว ต่อหน้าภรรยา ท่าน ประธานก็ไม่ใช่ท่านประธานคนเดิมของพวกเขาอีกแล้ว
ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าท่านประธานจะทำอะไรเขาก็ไม่รู้สึกว่า เป็นเรื่องแปลก

ท่านประธานไม่ได้พูดอะไรต่อ อีกทั้งตอนนี้ผู้หญิงที่อยู่ ในอ้อมกอดของท่านประธานกำลังหลับสบาย คนอื่นจึง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร?

ยังจะประชุมต่ออีกไหม?

“ต่อได้ แต่เสียงเบาหน่อยนะ” เย่ซือเฉินออกคำสั่งด้วย

นําเสียงเบา ๆ

เมื่อสักครู่นี้ในเมื่อเธอหลับได้ แสดงว่าพวกเขาประชุม กันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อการนอนของเธอ เขาเห็น เธอเริ่มง่วงนอนตั้งแต่พวกเขาเริ่มประชุมกันแล้ว เผลอ ๆ เธอคงคิดว่านี่เป็นเพลงกล่อมเด็ก

จากนั้นทุกคนต่างพากันกดเสียงพูดให้เบาลง ขณะที่พูด ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเวินลั่วฉิง กลัวจะทำให้เงินลั่วฉิง

สุดที่รักของท่านประธานนั้น ถ้าหากพวกเขาเสียงดังจน ทำให้เธอตื่นล่ะก็ พวกเขาคิดว่าท่านประธานคงไม่ปล่อย พวกเขาไว้แน่

ทุกคนต่างพากันพูดให้สั้นขึ้น แต่เพราะช่วงนี้มีเรื่องอะไรมากมาย ทำให้การประชุมใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วโมง ครึ่งแล้ว

แต่เงินลั่วฉิงยังคงหลับไม่ตื่น

เย่ซือเฉินส่งสัญญาณบอกให้ทุกคนไปได้แล้ว แต่เขา กลับไม่ขยับตัวสักนิด ไม่แม้กระทั่งเปลี่ยนท่าทาง เขา กลัวว่าถ้าขยับตัวสักนิดจะทำให้เงินลั่วฉิงตื่นได้

เย่ซือเฉินนั่งกอดเงินลั่วฉิงอยู่อย่างนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงกว่า เมื่อเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว แต่เงินลั่วฉิงยังคงไม่มีทีท่า ว่าจะตื่นนอน

มุมปากเย่ซือเฉินยกขึ้นเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย สงสัย ช่วงนี้เขาคงทำให้เธอเหนื่อยมากเกินไป

ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว เย่ซือเฉินจำเป็นต้องปลุกเธอให้ตื่น

เย่ซือเฉินก้มหน้าลง บรรจงจูบที่หน้าเธอเบา ๆ

“หยุดกวนได้แล้ว ให้ฉันนอนต่ออีกสักแปปนะ” เวินลั่วนิ งกึ่งหลับกึ่งตื่นพูดอู้อี้ออกมา เย่ซือเฉินจึงหยุดนิ่งทันที

เย่ซือเฉินหยุดนิ่ง ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงครั้งก่อน เธอเคยพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ว่า ที่รักหยุดกวนได้แล้ว

แต่ตอนนั้น ที่รักที่เธอเอ่ยถึงคือถังจื่อโม่

งั้นในขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น คนที่เธอคิดถึงก็คือถ้งจื่อ

โม่เหรอ?

เมื่อคิดได้อย่างนี้ สีหน้าเยซือเฉินก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

ดวงตาค่อย ๆ หรี่ลง มีอที่โอบเอวเธอไว้ก็จับแน่นขึ้น

เขาพบว่า ตอนนี้ ความต้องการของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย

เขาไม่เพียงต้องการให้เธอตื่นนอนแล้วเจอเขาเท่านั้น แต่เขาต้องการให้คนที่เธอคิดถึงในยามหลับเป็นเขาด้วย

แต่เย่ซือเฉินรู้ดี ว่านั่นเป็นไปไม่ค่อยได้ ในยามที่เธอตื่น คนที่เธอคิดถึงไม่ใช่เขา ในยามที่เธอหลับคนที่เธอคิดถึง จะเป็นเขาไปได้ยังไง

เย่ซือเฉินถอนหายใจออกมา ก้มหน้าไปจูบเธออีกครั้ง เขาอยากจูบให้เธอตื่น อย่างน้อยตอนที่เธอตื่น คนที่เธอ เห็นก็คือเขา
“เย่ซือเฉิน ออกไป ฉันจะนอน” แต่ทันใดนั้น เธอก็ยื่นมือ ออกมา ตีเขาไปหนึ่งครั้ง

แรงเธอไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เย่ซือเฉินก็หยุดลง เขาคิดว่า เธอตื่นแล้ว

แต่ตอนที่เขามองไปที่เธอ กลับพบว่าเธอยังคงหลับตา อยู่ ยังไม่ตื่นนอน

เย่ซือเฉินอึ้งไปเลย ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองเธอที่นอน ฝันหวานอยู่ เหม่อมองอยู่อย่างนั้น

เวินลิ่วฉิงพลิกตัวกะทันหัน ทําให้ทั้งใบหน้าของเธอแนบ ชิดเข้ากับอ้อมกอดเขา เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา จากนั้นก็หลับต่อ

เย่ซือเฉินตัวแข็งทื่อ จากนั้นมุมปากก็ค่อย ๆ ยกขึ้น แล้ว เผยรอยยิ้มออกมาช้า ๆ

นี่แสดงว่า เขาค่อย ๆ เข้าไปแทนที่ไอถังจื่อโม่ที่อยู่ในใจ เธอแล้วใช่ไหม ตอนนี้ขณะที่เธอนอนหลับคนที่เธอคิดถึง ก็คือเขา ไม่ใช่ไอถังจื่อโม่คนนั้นที่เขายังไม่รู้ว่าเป็นใคร อีกต่อไป

แต่เขาได้ส่งคนไปสืบเรื่องถังจื่อโม่แล้ว รอเขาสืบได้ แล้ว รับรองเขาไม่เอาไอถังจื่อโม่นั้นไว้แน่….
เย่ซือเฉินไม่ได้รบกวนเงินลั่วฉิงอีก รอให้เงินลั่วฉิงตื่น ขึ้นมาเอง ตอนนี้ใกล้หนึ่งทุ่มแล้ว

ท้องฟ้ามืดแล้ว แต่เย่ซือเฉินไม่ได้เปิดไฟ

เป็นลั่วฉิงลืมตาขึ้นมา มองเห็นอะไรไม่ชัด เธออึ้งไปเล็ก น้อย เมื่อนึกขึ้นได้ก็ยื่นมือออกไป ตอนที่คลํโดนเย่ซือ เฉิน เธอก็แอบถอนหายใจออกมา จากนั้นก็รู้สึกว่ามีอะไร แปลกไป : “เย่ซือเฉิน ค่ำมืดขนาดนี้นายนั่งหลับเหรอ?”

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เย่ซือเฉินอดหัวเราะไม่ได้ ดูท่าสาว น้อยคนนี้จะหลับจนมึนไปแล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอยู่ ที่ไหน

เย่ซือเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา ใช้แสงสว่างจาก โทรศัพท์ เพื่อให้เงินลั่วฉิงมองดูรอบ ๆ ให้ดี ที่นี่ไม่ใช่ โรงแรม แต่เป็นห้องประชุม

“พวกนายประชุมกันเสร็จแล้วเหรอ?” เป็นลั่วฉิงคิดขึ้นมา ได้ก็ลูบจมูกตัวเองไปมา แก้เขิน

เธอหลับไปนานเท่าไหร่เนี่ย?

“อืม” เย่ซือเฉินตอบกลับเบา ๆ ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย
เงินลั่วฉิงเป็นคนฉลาด ช่างสังเกต ห้องประชุมในตอนนี้ มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่ได้เปิดไฟ ด้านนอกก็เงียบสงัด มาก แสดงว่าประชุมเสร็จนานแล้ว

“ทําไมนายไม่ปลุกฉัน?” เงิน วฉิงรู้สึกผิด

“เรียกแล้ว เธอด่าฉัน บอกให้ฉันไปให้พ้น” ขณะที่เย่ซือ เฉินพูด ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอยู่ แต่ดวงตายังคงคอย สำรวจอยู่ เขาอยากรู้ว่า คำพูดนั้นก่อนที่เธอพูดออกมา ก่อนหน้านี้คือเธอตื่นแล้ว หรือเธอกำลังฝันอยู่

จากที่เขาดู ระหว่างสองอย่างนี้มีข้อแตกต่างมากเลยที เดียว…

“ไม่ใช่มั้ง? ฉันดานายเหรอ? ฉันไม่เคยด่าคนนะ” เงินลั่วฉิงจ้องเขา ไม่ค่อยเชื่อคำพูดเขาเท่าไหร่

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ด่าคนอื่น เพราะข้างกายเธอมีลูก ทั้งสองคนอยู่ ปกติเวลาพูดเธอจะระวังเป็นพิเศษ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ