เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 273 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนู คือท่านประธานของพวกคุณ (1)



บทที่ 273 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนู คือท่านประธานของพวกคุณ (1)

บทที่ 273 ลูกทั้งสองคนมาหาถึงที่ … พ่อของหนูคือท่าน ประธานของพวกคุณ (1)

“ไม่ต้องรีบหรอก ไปบ้านตระกูลเวินใช้เวลาไม่นาน” คุณ ชายสามเย่ยื่นมือไปโอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด ดื่มฉ่ำกับ การออดอ้อนออเซาะของเธอ แต่ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ

คุณชายสามเย่ ช่างเสแสร้งเก่งจริง ๆ ไร้ยางอายจริง ๆ เลย!!

เงินลั่วฉิงกัดฟันกรอด แต่ก็ทําอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้ อา รมณ์เย่ซือเฉินเพิ่งกลับมาเป็นปกติ สถานการณ์แบบนี้จะ ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอีกไม่ได้

“ท่านประธาน เมื่อสักครู่เห็นคุณปู่เงินออกไปด้านนอก แล้ว” ทันใดนั้น เลขาหลิวก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ

เมื่อเวินลั่วฉิงได้ยิน ก็นึกดีใจ แต่เย่ซือเฉินกลับหน้าบึ้ง ตึงตัง

ในเมื่อคุณปู่เวินออกไปด้านนอกแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็น อะไรที่จะต้องไปบ้านตระกูลเวินอีก เลยต้องกลับบ้านไป โดยปริยาย ตลอดทางเย่ซือเฉินเงียบไม่พูดไม่จา สีหน้าก็ดูไม่ดีเท่าไหร่

เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ พอเข้าบ้าน เย่ชื่อเฉินก็จูบเธอ อย่างดุเดือดทันที คุณชายสามเย่ถึงขนาดอดใจรอให้ขึ้น ไปชั้นบนก่อนไม่ไหว

เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าคืนนี้เขาต้องไม่ปล่อยเธอไปแน่ แต่คิดไม่ ถึงว่า เขาจะคลุ้มคลั่งขนาดนี้ ทั้งดุเดือด ทั้ง…

คืนนี้คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีกแน่ ๆ

วันถัดมา ณ บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป มีเด็กน้อยสองคนเดิน เข้ามาที่ห้องโถง

“หนูจ๊ะ พวกหนูจะทำอะไรกัน?” หญิงสาวแผนกต้อนรับ ในห้องโถงเอ่ยถามเมื่อเห็นเด็กน้อยที่น่ารักสองคนด้วย สีหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร

“พวกเรามาหาคน” ถังจื่อโม่ตอบออกมาอย่างเท่ ๆ

“มาหาใครจ๊ะ?” หญิงสาวแผนกต้อนรับรู้สึกตะลึงเล็ก น้อย เด็กคนนี้ทั้งเท่ ทั้งหล่อ

จื่อซียิ้มออกมา จากนั้นก็เอ่ยพูดเสียงหวาน : “พวกเรามาหาพ่อค่ะ”
“งั้นพ่อของหนูคือใครเอ่ย?” พนักงานต้อนรับแววตาเป็น ประกายทันที เด็กที่น่ารักอย่างนี้เป็นลูกของคนในบริษัท เราเหรอ? เป็นลูกของใครกันนะ? เป็นลูกของใครกันแน่ ทำไมถึงได้น่ารักน่าชังขนาดนี้

“พ่อของหนูก็คือท่านประธานของพวกคุณไง” จื่อซี ก ยิ้มหวาน ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมา จื่อซีรู้สึกภาคภูมิใจ มาก

พี่ชายบอกเธอว่า สามีใหม่ของแม่ ก็คือพ่อใหม่ของเธอ เป็นประธานของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป สุดยอดไปเลย!

ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

หญิงสาวที่เป็นพนักงานต้อนรับได้ยินที่ถังจื่อซีพูดก็ตก ตะลึงไปเลย ดวงตาเบิกโพลง จ้องมองไปที่ถังจื่อซื เหม่อ มองจนลืมทุกอย่างไปชั่วขณะ

เด็กน้อยคนนี้เมื่อกี้นี้พูดว่าอะไรนะ?

เธอพูดว่าพ่อของเธอคือท่านประธานเหรอ? เด็กน้อยน่ารักสองคนนี้คือลูกของท่านประธาน?

แต่ท่านประธานของพวกเขายังไม่ได้แต่งงาน? แม้แต่แฟนก็ไม่มี แล้วเด็กสองคนนี้มันยังไงกันเนี่ย?

เลขาหรวนที่ประจำอยู่ที่ชั้นท่านประธานลงมารับของ พอดี บังเอิญได้ยินที่ถังจื่อซีพูด เธอจึงหยุดชะงักทันที แล้วจ้องไปที่ถังจื่อ อย่างไม่น่าเชื่อ

เธอเป็นถึงเลขาที่ประจำอยู่ที่ชั้นท่านประธาน เธอจึงรู้ เรื่องของท่านประธานค่อนข้างมาก เท่าที่เธอรู้ หลายปีมา นี้ท่านประธานไม่มีผู้หญิงอยู่ข้างกายสักคน ทําไมอยู่ ๆ ถึงมีลูกสองคนโผล่มาได้?

“เจ้าหนู เธอพูดว่าใครคือพ่อของเธอนะ?”เลขาหรวน แอบถอนหายใจเล็กน้อย แล้วเดินไปตรงหน้าถังจื่อซี เอ่ย ถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เธอรู้สึกว่าเมื่อกี้เธอคงฟังผิดไป

“เป็นท่านประธานของพวกคุณไง” ถังจื่อซีตอบอย่าง มั่นใจ ขณะที่พูด ยังเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจอีกด้วย

เมื่อได้ฟังคําตอบที่ชัดเจนจากถังจื่อซีเลขาหรวนก็ตก ตะลึง ดูท่าว่าเธอจะไม่ได้ฟังผิด ดวงตาคู่นั้นของเธอจับ จ้องไปที่ใบหน้าของถังจื่อซีอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไป ทางถังจื่อโม่ เธออยากจะดูว่าเด็กทั้งสองคนนี้อยู่เหมือน ท่านประธานหรือเปล่า

ใบหน้าของเย่ซือเฉินมีกรามอย่างเห็นได้ชัด แต่ใบหน้าของถังจื่อโม่นั้นเนื้อแน่น อ้วนตุ้ยนุ้ย ดูยังไงก็รู้สึกว่าไม่ ค่อยเหมือนประธานเท่าไหร่

ถ้าจะเหมือน ส่วนที่ถังจื่อโม่กับเย่ซือเฉินเหมือนกันที่สุด ก็คือดวงตา แต่วันนี้ถังจื่อโม่สวมแว่นตาสุดเท่ห์มาด้วย เลยบังตาเขาเอาไว้พอดี

ถังจื่อโม่ยังเด็กมาก ถึงจะดูรู้เรื่องซะเหลือเกิน แต่ก็ยังมี ความไร้เดียงสาของเด็กวัยนี้อยู่ โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อ หน้าเวินลั่วฉิง ถังจื่อโม่จะเรียบร้อยว่านอนสอนง่ายเสมอ ดวงตาของเย่ซือเฉินนั้นปกติดูเย็นชา ดวงตาคมลึก ถ้า มองภายนอกนั้นดวงตาทั้งคู่ดูเหมือนกันอยู่ แต่ให้ความ รู้สึกต่างกันมากเหลือเกิน

“หนูจ๊ะ หนูจำผิดหรือเปล่า”เลขาหรวนมองอยู่สักพัก ใหญ่ รู้สึกว่าเด็กทั้งสองคนกับท่านประธานของพวกเขา อยู่ไม่ค่อยเหมือนกัน เด็ก ๆ น่าจะจำผิด อีกทั้งพวกเขาดู เหมือนเพิ่งอายุได้เพียงสี่ห้าขวบเท่านั้นเอง

เด็กอายุสี่ห้าขวบยังไม่ค่อยประสีประสาเท่าไหร่นัก

“จริงด้วย น่าจะจำผิดแล้วมั้ง?” พนักงานต้อนรับก็รู้สึกว่า อาจจะจำผิด เพราะประธานของพวกเขายังไม่ได้แต่งงาน

“พี่ชายหนูบอกกับหนูเอง จะผิดไปได้ยังไง” ถังจื่อซีเริ่มไม่พอใจ ปากเล็ก ๆ นั้นเริ่มเบะออก สิ่งที่พี่ชายของเธอ พูดนั้นไม่มีทางผิดแน่นอน คนพวกนี้มาสงสัยพี่ชายของ เธอได้ยังไงกัน

เลขาหรวนกับพนักงานต้อนรับได้ยินคําพูดของถังจื่อซี อึ้งไป แต่ทั้งคู่ก็คิดเหมือนกันคือ คำพูดที่เด็กผู้ชายคนนั้น พูด อาจจะผิดพลาดก็ได้

“งั้นแม่ของหนูล่ะ? แม่ของหนูเป็นใคร?เลขาหรวนยิ่ง รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ ทำไมมีแค่เด็กสองคน แต่ กลับไม่เห็นผู้ใหญ่?

เด็กสองคนนี้เอาแต่พูดว่าท่านประธานคือพ่อของพวก เขา ถ้าอย่างนั้นแม่ของพวกเขาคือใครกัน?

เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าท่านประธานมีผู้หญิงคน

ไหนข้างกาย นอกจาก…….

นอกจากคุณเมิ่งโร่ถึง แต่คุณเมิ่งโร่ถึงปีนี้เพิ่งจะยี่สิบ สามปีเอง เด็กทั้งคู่ดูอายูราวสี่ห้าขวบแล้ว ไม่น่าจะเป็นลูก ของคุณเมิ่ง

ดังนั้นเลขาหรวนจึงอยากรู้มากว่าแม่ของเด็กทั้งสองคน คือใคร ถ้ารู้ว่าแม่ของพวกเขาเป็นใคร เรื่องนี้ก็จะกระจ่าง
“แม่ของหนูก็คือภรรยาของประธานพวกคุณไง เรื่องนี้ ยังต้องถามอีกเหรอ?” ถังจื่อซีมองไปที่เธอ ดวงตากลมโต คู่นั้นเหมือนกับกำลังจะบอกว่าทำไมเธอถึงได้โง่อย่างนี้ นะ?

ถังจื่อโม่ได้แต่ยืนอยู่เล็กเท่ห์อยู่ข้าง ๆ ไม่พูดไม่จา วันนี้ เขามาเป็นเพื่อนน้องสาวเท่านั้น น้องสาวอยากจะทําอะไร ก็ตามใจ เขาคอยดูแลน้องสาวก็พอ

เลขาหรวนอ้าปากค้าง เธออายุขนาดนี้แล้ว กลับโดน เด็กสี่ห้าขวบดูแคลน เธอพูดอะไรไม่ออกไปเลย

“เอาอย่างนี้ไหม ลองถามประธานดู?” พนักงานต้อนรับ ค่อนข้างรอบคอบ เธอคิดว่าถ้าหากเป็นลูกของท่าน ประธานขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ?

“ท่านประธานไม่ได้เข้าบริษัท เมื่อวานไปทํางานนอก สถานที่แล้ว” เลขาหรวนเป็นถึงเลขาประจำที่ชั้นประธาน ย่อมทราบก๋าหนดการของประธานอยู่แล้ว

เพียงแต่เมื่อวานเย่ซือเฉินกลับมากะทันหัน คนในบริษัท จึงไม่รู้เรื่องนี้!

“งั้นก็โทรหาท่านประธานดู” พนักงานต้อนรับมองไปยัง ถังจื่อซีและถังจื่อโม่ เสนอแนะไปอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่า เด็กสองคนนี้น่ารักเหลือเกิน เธอทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเด็กทั้งสองคนผิดหวัง

อีกอย่าง ถ้าเป็นลูกของท่านประธานขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ