เมียลึกลับของประธานเป

ตอนที่ 64 พ่อลูกเจอกัน



ตอนที่ 64 พ่อลูกเจอกัน

ตอนที่ 64 พ่อลูกเจอกัน

เย่ซือเฉินไม่ได้สนใจอะไร เขาจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศ M กระทันหัน หนึ่งเป็นเพราะธุระของบริษัท สองก็เป็นเพราะเรื่อง ของผู้หญิงคนนั้น เขาจะตรวจสอบสถานะจริง ๆ ของผู้หญิงคน นั้น เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เขาแต่งงานด้วยคนนั้น หรือเปล่า?

บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปคือทรัพย์สมบัติของตระกูลเย่ แต่ว่าไม่กี่ ปีมานี้ ธุรกิจของเขาเองนำโด่งบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปไปไกลตั้ง นานแล้ว กองกำลังส่วนใหญ่ของเขาอยู่ที่ประเทศ M เพียงแต่ ว่ามีคนรู้แค่ไม่กี่คน

จี้ห โทรศัพท์ไปด้วย และเดินอย่างเชื่องช้า เอะอะก็ให้ความ สนใจกับสถานการณ์ของเด็กทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลัง ถึงแม้รู้ ว่าเด็กสองคนนั้นฉลาดปราดเปรื่อง แต่ในใจของเขาก็ยังไม่ไว้ วางใจเท่าไหร่ ไม่ว่ายังไงเขาก็เคยเป็นพ่อให้พวกเขาครั้งหนึ่ง

ไม่ได้เห็นเด็กสองคนนั้นถูกรับไปอย่างปลอดภัย เขารู้สึกเป็น ห่วง

เพราะเขาจงใจชะลอความเร็วลง ไม่นานนักเด็กสองคนจึง ตามขึ้นมาทัน

“มามี้ มามี้มาแล้ว” ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เด็กผู้หญิงก็ตะโกนเรียกขึ้นมา แม้กระทั่งไอศกรีมในมือก็ลืมกินไปเลย

ตอนที่เด็กสองคนเกิดมา เห่อถงถงจึงเป็นแม่บุญธรรมอย่าง สมเหตุสมผล ปกติเวลาที่เห่อถงถงกับเงินถั่วนิ่งอยู่ด้วย กัน เด็กสองคนจะเรียกเห่อถงถงว่าคุณแม่ถง เพื่อเป็นการ แยกแยะ แต่ถ้าเงินลั่วฉิงไม่อยู่ เด็กสองคนก็จะเรียกเห่อถงถง ตรง ๆ ว่ามานี้

จี้หซีได้ยินเสียงเธอเรียกขึ้น ก็เลิกคิ้วขึ้นเขาอยากจะเห็นมามี้ ของเด็กสองคนนั้นว่าตกลงเป็นคนยังไง คิดไม่ถึงว่าจะให้เด็ก เล็กขนาดนี้บินกลับประเทศมาด้วยตนเอง

“ลูกรัก มามี้มารับแล้วค่ะ” เห่อถงถงเมื่อเห็นพวกเขาแล้ว ก็พุ่ง ตรงมาอย่างรวดเร็ว เกือบจะชนจี้หยีที่อยู่ข้าง ๆ ล้มไปด้วย

จี้หซีหยุดเดิน หมุนตัวหันไปมองเธอ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงเลินเล่อแบบนี้จะเกิดลูกที่ฉลาดปราด เปรื่องน่ารักขนาดนี้ได้?

“มามี้ คุณอาคนนี้เป็นคนช่วยพาพวกเราขึ้นเครื่องบินครับ” ถังจื่อโม่เห็นจี้หซียืนนิ่งอยู่ จึงแนะนำให้เห่อถงถงได้รู้

ตอนที่เห่อถงถงมาที่นี่ก็กำลังคิดอยู่ว่าเด็กสองคนจะขึ้น เครื่องบินได้ยังไง เมื่อได้ยินถังจื่อโม่พูดแบบนี้ จึงหมุนตัวหัน ไปอย่างรวดเร็ว แล้วมองไป เพียงแต่เมื่อได้เห็นจี้หซี สีหน้าก็ เปลี่ยนไปเล็กน้อย แอบสูดหายใจเข้าแล้วพูดขึ้นเสียงต่ำ“ขอบคุณนะคะ”

เมื่อสักครู่เธอเห็นเพียงเด็กสองคน ไม่ได้เห็นเขาที่ยืนอยู่ข้าง

“ไม่ต้องเกรงใจครับ” จี้หซียิ้มเล็กน้อย “เด็กสองคนน่ารักน่า เอ็นดูมากครับ”

เห่อถงถงมองเห็นใบหน้าของเขายิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาเป็นประกาย เขาพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเม้มปาก ดูท่า เขาจะจําเธอไม่ได้สักนิด

“งั้นไม่รบกวนเวลาคุณแล้วนะคะ ลาก่อนค่ะ” เห่อถงถงแค่

อยากจะจากไปอย่างรวดเร็ว เธอยื่นมือออกไปจับเด็กสองคน

ไว้ แล้วเดินไปข้างหน้า

“เดี๋ยวก่อนครับ” ในตอนที่เห่อถงถงจับมือเด็กสองคนเดินผ่าน

เขา จู่ ๆ เขาก็เรียกเธอไว้

การกระทําของเห่อถงถงที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วกับสมอง เมื่อได้ยินคำพูดของเขา จึงหยุดเดินลง เพียงแต่ไม่ได้หมุน ตัวกลับไปทางเขา หายใจไม่เป็นจังหวะ หัวใจสูญเสียการ ควบคุม

“พวกเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ?” จี้หซีขมวด คิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็ถามขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ ว่าทำไม ในตอนที่เธอเดินผ่านเขา จู่ ๆ เหมือนหัวใจของตนเองถูกอะไรแทงเข้า เขารู้สึกเจ็บนิดหน่อย และรู้สึก แปลกประหลาดอย่างมาก

แถมเขายังรู้สึกว่าบนตัวเธอมีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ว่าคุ้นเคยกับหน้าตาของเธอ แต่เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เห่อถงถงร่างกายชะงัก แต่มุมปาก กลับปรากฏรอยยิ้มเยอะเย้ยตนเองขึ้น เขาถามเธอว่าพวกเขา เคยเจอกันที่ไหนมาก่อนไหม?

เธอและเขาเคย..………

เห่อถงถงรู้ว่า เรื่องแบบนี้ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว หรือว่า ในชีวิตของเขาแม้กระทั่งเธอเป็นทางผ่านก็ไม่นับ ดังนั้นเขาจึง จำเธอไม่ได้

“ไม่เคยค่ะ พวกเราไม่เคยเจอกันมาก่อนค่ะ” เห่อถงถงแอบ สูดหายใจ พยายามอย่างสุดแรงเพื่อให้ตนเองใจเย็นลง ขณะ ที่มองไปทางเขาอีกครั้ง ยิ้มเล็กน้อย แล้วจงใจพูดขึ้น “คุณ ผู้ชายคะ วิธีการชวนคุยของคุณแบบนี้ล้าสมัยแล้วนะคะ”

“อืม ผมอาจจะจำคนผิดครับ” จี้หซียิ้มแบบไม่ค่อยเป็น ธรรมชาติ เมื่อสักครู่เขารู้สึกว่าเธอคุ้นมากจริง ๆ เหมือนเคย เจอกันที่ไหนมาก่อน
เห่อถงถงไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วพาเด็กสองคนเดินออกไป

ถังจื่อโม่ถึงแม้จะยังเด็ก แต่ความช่างสังเกตของเขากลับ แข็งแกร่งมาก เขาดูออกถึงความแปลกประหลาดของเห่อ ถงถง แถมเขายังดูออกว่าน่าจะเกี่ยวกับคุณอาคนนั้น

เห็นท่าทางของคุณแม่ถง ดูเหมือนจะรู้จักคุณอาคนนั้น แต่ คุณอาคนนั้นกลับไม่รู้จักคุณแม่ถง ดังนั้นคุณแม่ถงจึงรู้สึก เสียใจนิดหน่อย

เขาเก็บเบอร์โทรศัพท์ของคุณอาคนนั้นไว้ จะช่วยคุณแม่ถ งดีไหมนะ?

ถังจื่อโม่หันหน้ากลับไปมองทางด้านหลัง เห็นจี้หยียังคงยืน อยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อน ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

ถังจื่อโม่เดิมทีอยากจะพูดอะไรหน่อย เพียงแต่รู้สึกว่าแรง ของมือที่เห่อถงถงจับเขาไว้นั้นเพิ่มมากขึ้น และความเร็วนั้น เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนมีความรู้สึกอยากจะหนีไปให้ เร็ว

ถังจื่อโม่กระพริบตาและไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองไปทาง น้องสาวอย่างเป็นห่วง กลัวว่าน้องสาวจะตามไม่ทันความเร็ว นี้ แต่เมื่อเห็นน้องสาวเดินไปด้วย และก็ไม่ได้รบกวนการกิน ไอศกรีม ก็เห็นได้ชัดว่าเขากังวลมากเกินไป

เมื่อออกมาจากโถงผู้โดยสารขาเข้า รถของเห่อถิงถิงจอดอยู่ด้านนอก เห่อถงถงยกกระเป๋าเดินทางของเด็กทั้งสองคน ขึ้นรถก่อน ในเมื่อเป็นแค่เด็กสองคน ของที่พกมาจึงไม่เยอะ ทั้งหมดมีเพียงแค่กระเป๋าเดินทางที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เพียงใบ เดียว แต่ก็หนักอยู่

เมื่อวางกระเป๋าเดินทางเสร็จ ขณะที่เห่อถงถงเคลื่อนสายตา จู่ ๆ ก็เห็นรถที่อยู่หลังรถของเธอไม่ไกล รถลัมโบร์กินีคันนึง จอดลง

เห่อถงถงอึ้งเล็กน้อย รถคันนี้ดูคุ้นตามาก เห่อถงถงกำลังคิด อยู่ แล้วเย่ซือเฉินก็ลงมาจากรถ

เห่อถงถงถลึงตา ใบหน้าตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เย่ซือเฉิ นทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่เวลานี้?

ก่อนหน้านี้ ถิงถิงสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นเมื่อห้าปีก่อนอาจจะ เป็นเย่ซือเฉิน เช่นนั้นแล้วแดดดี้ของเด็กสองคนก็อาจจะเป็น เย่ซือเฉิน เวลานี้เย่ซือเฉินปรากฏตัวที่นี่ หรือว่าอาจจะรู้อะไร แล้ว?

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เห่อถงถงอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา ไม่ ว่ายังไงตอนนี้ไม่สามารถให้เย่ซือเฉินเจอเด็กสองคนได้

“เด็ก ๆ รีบขึ้นรถเร็ว” เห่อถงถงตึงเครียด รีบเร่งให้เด็กสองคน รีบขึ้นรถ ถึงกับอุ้มจื่อซีขึ้นรถ

เวลานี้เย่ซือเฉินปรากฏตัวอยู่ที่นี่มันน่าสงสัยยิ่งนัก ดังนั้นเธอจึงไม่ป้องกันไม่ได้

เพียงแต่ถังจื่อไม่ก็มองเห็นเย่ซือเฉินแล้ว ตอนที่เขามาได้ ตรวจสอบข้อมูลมาบ้าง ดังนั้นเพียงแค่แวบเดียวก็สามารถจำ เยซือเฉินได้ จำได้ว่าเขาคือผู้ชายคนที่แต่งงานกับคุณแม่

ดังนั้นถังจื่อโม่ไม่ได้รีบร้อนขึ้นรถ แต่กลับยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาคู่นั้นมองไปทางเย่ซือเฉินอยู่อย่างงั้น มองอย่าง พิจารณา มองอย่างเจาะลึก

เย่ซือเฉินที่ลงมาจากรถไม่รู้ว่ารู้สึกได้ถึงอะไร จึงเคลื่อนย้าย สายตามองไปทางถังจื่อไม่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ