เมียลึกลับของประธานเป

บทที่231 ความสามารถที่แสดงออกมาของเทพ ธิดาเวิน ทําทุกคนตะลึงตาค้าง (3)



บทที่231 ความสามารถที่แสดงออกมาของเทพ ธิดาเวิน ทําทุกคนตะลึงตาค้าง (3)

บทที่231 ความสามารถที่แสดงออกมาของเทพธิดาเวิน ทำทุกคนตะลึงตาค้าง (3)

เย่ซือเฉินค่อยๆกระตุกยิ้มมุมปาก เขาจะดูสิว่าหลังจากนี้ เธอจะปิดบังยังไงต่อหน้าเขา

“เหอะๆ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร เธอนึกเหรอว่าแค่พนักงาน ตัวน้อยๆอย่างเธอ จะสามารถส่งผลต่อสัญญาระหว่างฉัน กับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปได้เหรอ”ประธานหลี่ ไม่เห็นด้วย เลยสักนิดกลับยิ่งได้ใจแทน เรื่องวันนี้หลิวฉินเป็นคนจัด ขึ้นมาเอง หลิวฉินบอกเป็นคำสั่งของหัวหน้าซุน เงินลั่วฉิง เป็นคนของหัวหน้าซุน เธอจะรายงานก็ต้องรายงานให้กับ หัวหน้า น

หากเงินลั่วฉิงรายงานหัวหน้าซุนจริง หัวหน้าซุนเพียงแต่ จะไม่สนใจเธอ ไม่แน่อาจจะตำหนิเธอสักชุดหนึ่งก็เป็นไป ได้ เพราะแบบนี้ ประธานหลี่ในขณะนี้จึงไม่กังวลเลยสัก

นิด

เวินลั่วฉิงไม่หันไปมองเขาอีก เพียงแต่นิ้วมือที่เรียวยาว ได้เคาะโต๊ะเบาหลายต่อหลายครั้ง

“ฉันอยู่ที่บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนั้นเป็นเพียงพนักงานต้อย ต่ำจริงๆ ในสถานการณ์ตามปกติแล้วฉันรายงานเหตุการณ์วันนี้ไปตามความเป็นจริง บริษัทก็อาจจะทำ เรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก แล้วทำให้เรื่องเล็กกลาย เป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ถ้าจัดการไม่ได้ก็อาจปล่อย ผ่านไป ไม่ให้มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้น แต่ว่า ถ้าหาก ฉัน หมายถึงว่าถ้าหาก ถ้าหากพอดีว่าอารมณ์ของหัวหน้า กำลังดีอยู่ อยากช่วยฉันทวงความยุติธรรม รายงานขึ้น ไป และถ้าหากพอดีว่าอารมณ์ของท่านประธานอาจไม่ ค่อยดีอยู่ กำลังอยากหาคนมาระบายความโกรธ หรือ ไม่ ก็อาจจะเอามาลงกับเรื่องนี้พอดีก็เป็นไปได้นะคะ”คำ พูดของเวินลั่วฉิงหยุดเว้นไว้สักพัก จากนั้นก็ค่อยๆพูด เสริมเข้ามาอีกประโยค”แน่นอน หัวหน้าที่ฉันบอกนั้น ไม่ใช่หัวหน้าซุน เธอไม่เหมาะสม……” เนวงจะดูไม่ ออกถึงความคิดของประธานหลี่ได้ไง เพราะฉะนั้น คำพูด สุดท้ายของเธอจึงเป็นการจงใจย้ำเตือนประธานหลี่ แต่ ว่า เธอไม่ได้บอกว่าจะไปรายงานกับใคร การทำเช่นนี้ จะ ทำให้ประธานหลี่ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ของเธอ เย่ซือเฉินก็เลิกคิ้ว

ทำไมคนอื่นอารมณ์ดีแล้วช่วยเธอทวงความยุติธรรม มาถึงเขานี่กลับกลายเป็นอารมณ์ไม่ดีซะแล้วล่ะ

แต่ว่า เขารู้เรื่องนี้แล้ว อารมณ์กลับไม่ได้ดีจริงๆด้วย

เพียงแต่ เธอต้องให้เขาจัดการแทนเธอเพื่อระบายความ โกรธเหรอ
เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าไม่ต้องการเลยสักนิด คิดมาถึง จุดนี้ ในใจเย่ซือเฉินก็หดหู่ขึ้นมาเล็กน้อย

“งั้นหัวหน้าที่เธอพูดนั้นหมายถึงใครอ่ะ”เป็นไปตามที่ คาดไว้จริงๆ ท่าทีประธานหลี่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ ทราบว่าเริ่มกังวลขึ้นมา

“นี่ไม่ใช่เรื่องสําคัญ เรื่องสําคัญคือ หากฉันรายงาน เรื่องนี้ก็อาจรู้ถึงหูประธานเย่ได้ คุณน่าจะรู้ ว่าที่จริงแล้ว บางเวลาประธานเย่นั้นก็ดื้อด้านเอาแต่ใจมาก จนอยาก ทำอะไรก็ทำอย่างนั้นมาโดยตลอด สัญญาร่วมลงทุนนี้ สําหรับประธานหลี่นั้นเป็นธุรกิจใหญ่ แต่สําหรับประธาน เย่แล้วไม่ถือว่าเป็นอะไรเลยจริงๆ อาจไม่อยู่สายตาเขา ด้วยซ้ำ แต่ว่า ได้ทำให้ประธานเย่ได้ทำอะไรสนุกๆฆ่า เวลาหน่อย ก็ไม่เลวเหมือนกันนะคะ”เวินลั่วฉิงเอาสัญญา ร่วมลงทุนของประธานหลี่มาพูดกลายเป็นพวกที่ทำสนุกๆ ทำฆ่าเวลาที่มีก็ได้ไม่มีก็ได้เช่นกัน เป็นการดูถูกที่ไม่เก็บ ซ่อนไว้เลยสักนิดเดียว

ประธานหลี่เมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่จงใจเอ่ยของเธอแล้ว ใบหน้าแสดงก็มีความเกรี้ยวโกรธขึ้นมา แต่ว่าเขากลับไม่ ยอมรับไม่ได้ ที่เป็นลั่วฉิงพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ถูก ต้อง เลยทำให้เขาไม่สามารถโต้แย้งได้เลย

แต่เงินลั่วฉิงก็ยังดันพูดเสริมขึ้นมาอย่างไม่แคร์อะไรขึ้น มาอีกประโยค”ช่วยไม่ได้ ก็ประธานเย่ดื้อด้านเอาแต่ใจ แบบนี้แหละ”
” ที่แท้ พี่สามในใจพี่สะใภ้สามเป็นแบบนี้นี่เอง เสี่ยวชี หันไปมองเย่ซือเฉิน อยากจะขำก็ไม่กล้าขำออกมา ดื้อ ด้านเอาแต่ใจ พี่สามดื้อด้านเอาแต่ใจเหรอ พูดจริงนะ เขา โตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นท่าทางดื้อด้านเอาแต่ใจของพี่ สามมาก่อนเลย

เย่ซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ดื้อด้านเอาแต่ใจเหรอ สำหรับเขาแล้วมันเป็นคำศัพท์ที่แปลกใหม่มากๆ แต่ว่า โดนผู้หญิงของเขาบอกว่าดื้อด้านเอาแต่ใจนั้น ที่จริงแล้ว ความรู้สึกนี้มันก็ไม่เลวเหมือนกัน

สีหน้าประธานหลี่ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีการ เปลี่ยนแปลง เขารู้อยู่แล้วแหละว่าบริษัทเล็กๆอย่าง เขาสำหรับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วไม่ถือว่าเป็นอะไรที่ สำคัญ แล้วสำหรับเย่ซือเฉินก็ยิ่งไม่ถือว่าเป็นอะไรด้วย

“หึ เธอคิดว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้ประธานเย่จะสนใจเห รอ”ประธานหลี่ยังมีความหวังเล็กๆว่ามันไม่เป็นแบบนั้น ที่ จริงเขาแอบความหวังในใจนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะบริษัท เล็กๆอย่างเขาจะส่งผลรบกวนถึงบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมัน ยากมาก เพราะฉะนั้น เขาถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่อาจรู้ถึงหู ประธานเย่ได้ ถึงจะรู้ถึงหูประธานเย่แล้ว คนที่ยุ่งขนาด นั้นอย่างประธานเย่เหรอจะมาจัดการเรื่องเล็กๆแบบนี้ ด้วยตัวเองได้

“ใช่ค่ะ ฉันพูดถึงความน่าจะเป็นไปได้แบบหนึ่งของเรื่องนี้ มีประโยคหนึ่งพูดได้ดีมาก ในโลกไม่มีอะไร ที่แน่นอน ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ ความ เปลี่ยนแปลงนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา”เวินลั่วฉิงพยัก หน้าอย่างจริงจัง ราวกับเห็นด้วยกับความคิดของเขา

“เวิน วฉิง เธอเลิกข่มขู่ฉันซะที ฉันไม่หลงกลเธออีกแน่ * ประธานหลี่จ้องเขม็งเงินลั่วฉิงอย่างไม่พอใจ อยากใช้ ท่าทีข่มขู่เวินลิ่วฉิง

เงินลั่วฉิงชำเลืองมองเขาเล็กน้อย ตอนนี้แววตาที่นิ่ง ไม่แยแสใดๆของเธอ เป็นดั่งแววตาหนึ่งที่ราวกับได้ดูถูก เหยียบย่ำคนให้จมอยู่ในกองฝุ่น

“ใช่ค่ะ ความน่าจะเป็นไปที่ฉันพูดนั้นมันเป็นไปได้ยาก อยู่ อาจเป็นร้อยละสองเปอร์เซ็นต์ที่เป็นไปได้ มันไม่ ถือว่าเรื่องสำคัญอะไรเลยจริงๆ ประธานหลี่ ก็ไม่จําเป็น ต้องแคร์เลยนะคะ”คำพูดของเธอได้หยุดเว้น มุมปาก ค่อยๆกระตุกยิ้มขึ้นมา”เพียงแต่ ความน่าจะเป็นร้อยละ สองเปอร์เซ็นต์นี้ ประธานหลี่กล้าเดิมพันไหมคะ”ในขณะ ที่เงินลั่วฉิงพูดนั้น ในน้ำเสียงมีรอยยิ้มอยู่ไม่น้อย จึง ทำให้คนฟังไม่ออกถึงการข่มขู่เลยสักนิด แต่ประธานหลี่ กลับรู้สึกสั่นกลัวทั่วร่าง

แค่เวลาอันสั้น เขารู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นน่ากลัวเป็น พิเศษ น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจกินคนไม่คายกระดูกออกมาอีก
เธอเหมือนมองทะลุไปถึงความคิดข้างในจิตใจของเขา ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผลกับเธอ ถึงสุดท้ายแล้ว เธอก็ยังเป็นคนคุมเกมทั้งหมดอยู่ดี

เพียงแต่ ประธานหลี่ยังไม่อยากยอมแพ้แบบนี้ หลักๆ ตอนนี้เป็นเพราะเขาทำใจยอมรับไม่ได้ ทำใจยอมรับไม่ ได้ว่าต้องแพ้ในมือยัยเด็กบ้าแบบนี้ แน่นอนว่ายังเหลือมี ความหวังเล็กๆอยู่ในใจ

“ฉันคิดว่า หากประธานหลี่เดิมพันแพ้แล้ว กลัวว่าจะ ไม่ใช่แค่ปัญหาสัญญาอันนี้อย่างเดียว เพราะ ฉันคิดว่า ประธานหลี่น่าจะไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทตระกูล เย่กรุ๊ปอีกนะคะ เรื่องอื่นฉันไม่กล้ารับประกัน แค่เรื่องนี้ ฉันสามารถพูดอย่างแน่ใจให้กับประธานหลี่ได้เลยค่ะ สําหรับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว บริษัทของประธานหลั ไม่มีความสำคัญอะไรเลย แล้วสำหรับท่านประธานของ ฉันนั้น พวกคุณยิ่งไม่มีความสำคัญอะไรเลยแม้แต่น้อย ค่ะ”เวินลั่วฉิงมองออกว่าประธานหลี่กำลังคิดอะไร เพราะ เธอถนัดเรื่องนี้เป็นที่สุด

เย่ซือเฉินเมื่อได้ยินเธอพูดคำว่าท่านประธานของฉัน ตรงระหว่างคิ้วก็รู้สึกสบายอย่างประหลาด แม้แต่ความ โกรธที่มีให้ถังหลินในเมื่อกี้ก็หายไปด้วย

คุณชายห้าฉิงเหลือบไปเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของ เย่ซือเฉินพอดี คุณชายห้าฉิงชะงักไปชั่วขณะ พี่สาม กำลังคิดเรื่องอะไรดีๆอยู่เหรอ ถึงได้ดีอกดีใจขนาดนี้
ประธานหลี่ไม่ขยับ และไม่พูดด้วย เห็นได้ชัดว่ากำลัง คิดเรื่องผลได้ผลร้ายในเรื่องนี้ เขาก็รู้ว่ามีบางเรื่องเขา ไม่คิดทบทวนให้ดีไม่ได้เด็ดขาด

เขาก็อยากรู้เรื่องสัญญาการร่วมงานระหว่างบริษัทเงิน ชื่อกรุ๊ปกับบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปด้วย แน่นอนถึงระหว่าง บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปกับบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปจะมีสัญญาร่วม งานกันแต่สําหรับพนักงานเล็กๆอย่างเงินลั่วฉิงจะสามา รถพบเย่ซือเฉินได้ไง ขนาดบริษัทของเขาที่ร่วมงานกับ บริษัทเวินชื่อกรุ๊ปมาสิบกว่าปี เขาแม้แต่โอกาสทักทาย เย่ซือเฉินก็ไม่เคยมีเลยสักครั้ง

เย่อเฉินไม่ใช่คนที่ใครอยากพบก็พบได้เลย

ทีแรกประธานหลี่คิดว่าเงินลั่วฉิงไปทำงานที่แผนก ธุรกิจเพราะท่านประธานในบริษัทเวินชื่อกรุ๊ป เขาเลย คิดว่าบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปกำลังจะล้มละลาย เขาทราบ เรื่องที่บริษัทเวินชื่อกรุ๊ปถูกฉิงรุ่ยทำลายจนตกอยู่ใน สถานการณ์ลำบาก

ถึงบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจะร่วมลงทุนกับบริษัทเงินซื่อกรุ้ ปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก

บริษัทเวินชื่อกรุ๊ปล้มละลายแล้ว คุณหนูใหญ่ตระกูลเวิ นก็เป็นอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
และนี่แหละที่ทำให้ประธานหลี่การรับปากหลิวฉินด้วย และเป็นสาเหตุหนึ่งในนั้นที่ทำให้กล้าทำมิดีมิร้ายต่อ เป็นลั่วฉิงอย่างกังวลกลัวอะไรเลย

แต่ว่าจู่ๆเขาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ในตอนนี้ เขาเพิ่ง นึกออกว่าช่วงนี้เลขาหลิวไปที่บริษัทเวินชื่อกรุ๊ปเป็น ประจำ เงินลั่วฉิงนั้นไม่ได้พบเย่ซือเฉินแน่ แต่หากเธอ จะพบเลขาหลิวนั้นมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน วันนี้ที่ เงินลั่วฉิงเข้ามาบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปได้นั้นเหมือนจะเป็น เพราะเลขาหลิวเป็นคนจัดการให้ หากเงินลั่วฉิงบอกเรื่อง นี้ให้กับเลขาหลิว แล้วถ้าหากเลขาหลิวไปบอกเย่ซือเฉิน

ประธานหลี่ตะลึงจนเหงื่อซึมไปทั้งร่างกายไปทันที หาก เป็นอย่างที่เขาเดา เป็นลั่วฉิงได้บอกเรื่องนี้ให้กับเลขา หลิว ถึงตอนนั้นบริษัทเขาก็มีสิทธิ์เสียหายไม่น้อย ไม่ น้อย แต่เป็นอย่างมากต่างหาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ