เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 219 เขาเป็นผู้ชายใน 5 ปีก่อน (3)



บทที่ 219 เขาเป็นผู้ชายใน 5 ปีก่อน (3)

บทที่ 219 เขาเป็นผู้ชายใน 5 ปีก่อน (3)

ขณะนี้เย่ซือเฉินกำลังจัดการงานเร่งด่วนอยู่ เมื่อเขาเห็น ข้อความจากเฉียวหยูหนานก็ไม่คิดจะแยแส แต่เมื่อเห็น คําที่เขียนว่า พี่สะใภ้ ดวงตาก็กะพริบ จากนั้นก็รีบเปิด ข้อความดู จากนั้นก็เห็นรูปถ่ายที่เฉียวหยูหนานส่งมา

ในรูปถ่าย มีผู้ชายหนึ่งคนกำลังเปลืองท่อนบนอยู่ มือ ของเวินลั่วฉิงจับแขนของผู้ชายคนนั้นไว้ เธอเอียงตัวเข้า ใกล้ชายคนนั้นเพื่อมองดูแผ่นหลังของเขา เธอมีสีหน้าที่ จริงจังเล็กน้อย

ในรูปถ่ายเห็นเพียงแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้น มองไม่ เห็นหน้าเลย ดังนั้นเย่ซือเฉินจึงดูจากรูปไม่ออกว่าเป็น ผู้ชายคนไหน

ดวงตาเย่ซือเฉินหรี่ขึ้น สีหน้ามืดมนถึงขีดสุด เงินลั่วฉิง จับแขนของชายคนนั้นและเข้าใกล้แผ่นหลังของชายคน นั้นด้วย มันเป็นท่าทางที่ใกล้ชิด เหมือนกำลังนัวเนียกัน อยู่ และดูจากแววตาของเธอก็รู้ว่าเธอเป็นห่วงชายคนนั้น มาก

แต่ว่าเย่ซือเฉินไม่ได้โทรไปถามเงินลั่วฉิง จุดประสงค์ที่ เฉียวหยูหนานส่งรูปถ่ายมาไม่เหมือนกับที่เลขาหลิวส่งมา สิ่งที่เลขาหลิวส่งมานั้นเรียกว่าการรายงานข้อเท็จ จริง

แต่สําหรับเฉียวหยูหนานนั้นไม่แน่ใจ ถึงแม้รูปที่เฉียวหยู หนานส่งมาจะเป็นรูปจริง แต่คงต้องมีสาเหตุที่เป็นแบบนี้

เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจหนึ่งครั้ง เขาสังเกตเห็นว่าน่า จะถ่ายรูปที่ร้านกาแฟ ดังนั้นจึงเป็นที่สาธารณะ

จากนั้นเย่ซือเฉินก็สังเกตเห็นว่าแผ่นหลังของชายคนนั้น เหมือนจะแดงเล็กน้อย เขาเห็นแก้วกาแฟที่หล่นอยู่ข้างๆ จึงสามารถเดาเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างคราวๆ

เธอเคยบอกแล้วว่าถึงแม้จะแต่งงานแค่ในนาม แต่ ระหว่างที่อยู่ในสัญญาแต่งงาน เธอก็จะไม่ทำอะไรเลย เถอะอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจเธอ

เย่ซือเฉินวางมือถือไว้ข้างๆแล้วทำงานต่อ ถึงแม้จะไม่ สามารถสงบจิตสงบใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขากลับไม่ ได้โทรหาเงินล้วฉิงและเลขาหลิวเลย

หลังจากที่เฉียวหยูหนานส่งรูปถ่ายไปแล้ว ก็ตั้งตารอ คอยอยู่ตลอดเวลา เธออยากจะดูว่าหลังจากที่เย่ซือเฉิน เห็นรูปถ่ายแล้วจะตอบสนองอย่างไร?
เงินลั่วฉิงสังเกตเห็นเฉียวหยูหนานแล้ว เธอเห็นสีหน้า และทุกการกระทำของเฉียวหยูหนาน เธอพอจะคาดเดา ได้ว่าเฉียวหยูหนานกำลังทำอะไรอยู่

เฉียวหยูหนานกำลังฟ้องเย่ซือเฉินอยู่ เพื่อให้ความ สัมพันธ์ของเธอกับเย่ อเฉินสั่นคลอนั่นเอง

เวินลั่วฉิงนึกถึงตอนที่อยู่หน้าตึกบริษัทเวินชื่อกรุ๊ปแล้ว เย่ซือเฉินโทรมาหา เธอมองดูมือถือของตนแวบหนึ่งด้วย จิตใต้สำนึก ดูว่าเย่ซือเฉินจะโทรมาไหม?

“คุณท่านครับ คือคุณหนูใหญ่ครับ” ด้านนอกของร้าน กาแฟเวลานี้ คุณปู่เวินกับหัวหน้าพ่อบ้านผ่านมาโดย บังเอิญ จึงเห็นภาพที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

“ผู้ชายคนนั้นคือเย่อหยู่เฟิงใช่ไหม”คุณปู่เงินหยุดเดิน แล้วมองไปด้านในร้านกาแฟว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยคิ้วที่ ขมวดและกำลังครุ่นคิดอยู่

“ครับ คือคุณชายสองตระกูลเย่อครับ”หัวหน้าพ่อบ้าน รีบตอบหนึ่งประโยค

“ทำไมฉิงฉิงถึงอยู่กับเย่อหยู่เฟิงนะ? “น้ำเสียงคุณปู่เงิน นั้นเลื่อนลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“คุณหนูใหญ่เหมือนจะเป็นห่วงคุณชายสองตระกูลเย่อมากเลยครับ ซึ่งคุณชายสองตระกูลเย่อไม่เหมือน กับเย่อหยู่นานครับ”หัวหน้าพ่อบ้านอยู่รับใช้คุณปู่เงินมา หลายปีแล้ว เมื่อเห็นท่าทางของคุณปู่เวินจึงยิ้มเบาๆแล้ว พูดเสริมหนึ่งประโยค

“อืม ฉันเชื่อคําพูดของนาย เย่อหยูเฟิง กว่าเย่อหย หนานเยอะเลย ดูผิวเผินอาจคิดว่าเย่อหยู่เฟิงเป็นคนที่ ชอบแต่เรื่องเที่ยว ทำตัวเหลียวไหล แต่หากเขาตั้งใจขึ้น มา จะแน่วแน่กว่าคนอื่น จะรักเดียวใจเดียว ถ้าเขาจริงใจ กับฉิงฉิงจริง ฉันอาจจะไม่ถือสาสิ่งที่บ้านตระกูลเย่อเคย ทำไว้”คุณปู่เวินแค่หวังว่าเงินลั่วฉิงจะพบเจอแต่เรื่องที่มี ความสุข

คุณปู่เงินกลัวว่าตัวเองจะมีเวลาอยู่ได้ไม่นาน เขาอยาก เห็นเพียงฉิงฉิงได้เป็นฝั่งเป็นฝา มีคนดูแลไปตลอดชีวิต

ครั้งก่อนในงานเลี้ยง เขาเคยสงสัยว่าเย่ซือเฉินกับฉิงฉิง จะมีความสัมพันธ์เช่นไร แต่ภายหลังเมื่อพิจารณาดูแล้ว คิดว่าคงจะเป็นไปไม่ได้

และเขารู้นิสัยของคุณปู่เย่ดี เรื่องคุณแม่ของเย่ซือเฉิน

ในตอนนั้น เขาก็พอจะรู้อยู่บ้าง คุณปู่เย่เป็นคนที่โหด เหี้ยม อำมหิต ไร้ความปราณีจริงๆ

ไม่ใช่จะเป็นลูกสะใภ้ในบ้านตระกูลเย่ที่มีฐานะอันสูงสงได้ง่ายๆ และตระกูลเวินกับตระกูลเย่ก็มีฐานะต่างกัน มาก หากฉิงฉิงแต่งเข้าบ้านตระกูลเย่คงจะต้องถูกข่มเหง รังแกแน่ๆ

คุณปู่เวินมองดูอยู่สักพักหนึ่ง แต่ไม่ได้เข้าไป จากนั้นก็ เดินต่อไปข้างหน้า ซึ่งในใจกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดทาง

ภายในร้านกาแฟ ถึงแม้เวินลั่วฉิงจะมีท่าทีที่รวดเร็ว ไม่ ได้ทำให้แผลน้ำร้อนลวกสาหัสแต่อย่างใด แต่แผ่นหลัง ของเย่อหยู่เฟิงยังคงปวดแสบมาก แต่ตอนนี้ใบหน้าของ เขากลับมีรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่สดใสและดีใจมาก ดีใจเหมือนเจอขุนทรัพย์มหาศาลยังไงอย่างนั้น

เงินลั่วฉิงกำลังคิดอยู่ว่าเย่ซือเฉินจะโทรมาหาไหม จึงไม่ ได้สังเกตท่าทางที่ผิดปกติของเย่อหยู่เฟิง

ซุนหรูถงคิดไม่ถึงว่าเย่อหยู่เฟิงจะช่วยเป็นลั่วฉิงบังน้ำ กาแฟถ้วยนี้ ขณะนี้จึงรู้สึกทั้งเป็นห่วงและโกรธ แล้ว ร้องไห้ออกมา “เย่อหยู่เฟิง คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? ทำไม คุณถึงช่วยยัยนี่มารังแกฉันได้?

ซุนหรูถงช่างไม่มีเหตุผลเลย

เย่อหยู่เฟิงเหล่สายตามองเธอด้วยแววตาที่เย็นชา “ซุน หรูถง รีบไปจากสายตาผมเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นคุณจะได้เห็นดี แน่”
ปกติเย่อหยู่เฟิงจะดูเป็นคนที่สดใสร่าเริง แต่เมื่อโมโห ขึ้นมาก็น่ากลัวมากเลย ซุนหรูถงจึงตกใจกลัวจนลืม ร้องไห้ไปเลย สีหน้าของเธอแย่ลงมาก จากนั้นก็ออกไป จริงๆ เห็นได้ชัดว่าตกใจกับท่าทีในตอนนี้เย่อหยู่เฟิงมากๆ เลย

“ผมให้คนส่งเสื้อมาให้ผม พวกเราไปคุยกันในห้องวีไอพี กัน”เย่อหยู่เฟิงมองเวินลั่วฉิง จากสายตาที่เย็นชาก็กลับ กลายมาเป็นอ่อนโยนซะแล้ว

“อืม”เวินลั่วฉิงคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เหมาะจะนั่งที่ ห้องโถง จึงตอบตกลงกับข้อเสนอของเขา

ตอนที่เวินลั่วฉิงไปที่ห้องวีไอพี บังเอิญผ่านหน้าเฉียวหยู หนาน มุมปากของเวินลั่วฉิงจึงยกขึ้น จนถึงตอนนี้ยังไม่มี สายเรียกเข้าจากเย่ซือเฉินเลย ดูเหมือนว่าเฉียวหยูหนาน จะคว้า นําเหลวซะแล้วล่ะ

อารมณ์ในตอนนี้ของเฉียวหยูหนานนั้นสลับซับซ้อนยิ่ง

นัก

“ขอบคุณคุณมากสำหรับเมื่อกี้”เมื่อเข้ามายังห้องวีไอพี ตอนที่เย่อหยู่เฟิงมองเวินลั่วฉิง ดวงตาช่างงดงามเหมือน ดอกท้อไม่มีผิด ซึ่งกำลังยิ้มอยู่และยังแฝงอารมณ์ที่ไม่ เหมือนกันไว้ด้วย
แต่ว่า เวินลั่วฉิงกำลังครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องที่เฉียวหยูหนาน ไปฟ้องเย่อเฉิน จึงไม่ได้สังเกตเห็น ถึงจะสังเกตเห็น ด้วยการรับรู้ที่เชื่องช้าในด้านความรักของเธอก็คงจะไม่รู้ อะไรเลย

“คุยให้ตรงประเด็น” ที่เงินลั่วฉิงมาร้านกาแฟกับเย่อหย่ เฟิงก็เพราะเรื่องของผู้ชายใน 5 ปีก่อน เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า ควรจะเข้าประเด็นสักทีแล้ว

เย่อหยู่เฟิงหยุดชะงัก จากนั้นก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง นอกจากเธอจะพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ไม่มีเรื่องอื่นที่จะพูด เลยหรือ?

“ผู้ชายคนนั้นคือโม่เหยียน” แต่เย่อหยู่เฟิงก็ไม่ได้ อ้อมค้อม เพราะเขากลัวจะทำให้เธอเคืองใจ

“โม่เหยียน? “เวินลั่วนิ่งขมวดคิ้ว เธอเคยได้ยินชื่อโม่ เหยียนมาก่อน หรือน่าจะพูดว่าคนในเมือง A น่าจะไม่มี ใครที่ไม่รู้จักชื่อโม่เหยียนเลย

แต่ว่า เล่ากันว่าคนที่เคยเห็นโม่เหยียนจริงๆมีไม่กี่คนเอง

เรื่องราวของโม่เหยียนโด่งดังมากในเมือง A แต่เขาเป็น คนเรียบง่าย ไม่เคยรับการเข้าสัมภาษณ์เลย ดังนั้นจึงไม่ ได้รูปถ่ายถูกเผยแพร่ออกมา สรุปแล้วคือเป็นคนที่ลึกลับมากๆ

โม่เหยียนเป็นบุคคลที่เก่งกาจ

อันตรายยิ่งนัก!!

“คุณสืบรู้ได้ยังไง? “เป็นลั่วฉิงหรี่ตา เธอไม่ได้สงสัยใน คำพูดของเย่อหยู่เฟิง แต่เธอรู้ดีว่าโม่เหยียนนั้นเป็นคนที่ เก่งและอันตรายมาก เป็นไปได้ยังไงที่เย่อหยู่เฟิงสามารถ สืบได้โดยที่โม่เหยียนไม่รู้ตัว?

“ผมไม่ได้ไปสืบข้อมูลของโม่เหยียนโดยตรง คำที่คุณ พูดตอนนั้นถูกต้องที่สุด หากผมไม่สืบโม่เหยียน เขาก็จะ รู้ทันที จากนั้นก็สามารถทราบเรื่องราวทั้งหมดได้อย่าง รวดเร็ว”ขณะที่เย่อหยู่เฟิงพูดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกหวาดกลัว

“ตอนนั้นหลังจากที่คุณจากไป ผมถูกคนติดตามเกือบ ครึ่งเดือน และภายหลังจากนั้น ผมสืบทราบชื่อคนที่ ติดตามผมคือหลินหราน ซึ่งเขาจะฟังค่าสั่งจากโม่เหยียน เท่านั้น และหลังจากนั้นผมไปถามเพื่อนที่ทำงานในThe Kerry Center Hotel เขาบอกว่าคืนนั้นโม่เหยียนก็ เข้าไปพักชั้นที่ 22 ห้องสำหรับรับรองแขกวีไอพี

ซึ่งชั้นที่ 22 มีห้องรับรองแขกวีไอพีแค่ 2 ห้อง คืนนั้นโม่ เหยียนได้เข้าพักหนึ่งห้อง ส่วนอีกหนึ่งห้องนั้นว่าง” ขณะ ที่เย่อหยู่เฟิงกำลังพูดอยู่ก็มีสีหน้าที่ซับซ้อน
ดวงตาเวินลั่วฉิงกำลังตริตรองอยู่ ถ้าเป็นอย่างที่เย่อหย่ เฟิงพูด แสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ชายในคืนนั้นจะ เป็นโม่เหยียน

“เรื่องนี้จบแค่นี้พอค่ะ”เงินลั่วฉิงเงยหน้าขึ้นมองเย่อหย่ เฟิง ซึ่งสีหน้าตั้งใจและจริงจังมาก อันที่จริงไม่ว่าผู้ชายคน นั้นจะเป็นใคร เธอก็ไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผย เพราะ มันอาจจะทำให้ลูกรักทั้งสองได้รับผลกระทบ

“คุณรู้ว่าชายคนนั้นคือโม่เหยียน คุณจะไม่มีทีท่าอย่าง อื่นเลยหรอ? ไม่มีความคิดอย่างอื่นเลยเหรอ? “เย่อหย่ เฟิงหยุดชะงัก มองเธอด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่านึกไม่ ถึงว่าเมื่อเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นแล้วจะตอบสนองเช่น นี้

คนนั้นคือโม่เหยียนนะ ไม่ด้อยไปกว่าคุณชายสามเย่ เลยนะ! !

“จำไว้ เรื่องนี้จบแค่นี้พอ คุณอย่าไปพูดพร่ำเพรื่อกับคน อื่นเด็ดขาด”เวินลั่วฉิงกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง เน้น ย้ำถึงเจตนารมณ์ของเธออีกครั้ง

“ได้” ครั้งนี้เย่อหยู่เฟิงตอบอย่างชอบใจด้วยน้ำเสียงที่ดี อกดีใจเป็นล้นพ้น

เวินลั่วฉิงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปข้างนอก
“คุณจะไปง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ? “เย่อหยู่เฟิงเห็นเธอ จะเดินออกไปก็รู้สึกมึนๆไปเลย ไม่ใช่มั้ง เธอจะไปแล้วเห รอ

แต่เป็นลั่วฉิงไม่ได้หันหน้ากลับไปมองแม้แต่แวบเดียว

เธอเดินออกจากห้องไป เพราะสิ่งที่จะคุยก็คุยเสร็จแล้ว

พอออกจากร้านกาแฟ เวินลั่วฉิงรู้สึกปั่นป่วน เธอคิดไม่ ถึงว่าผู้ชายใน 5 ปีก่อนที่โรงแรมจะเป็นโม่เหยียน?

นั่นหมายความว่าพ่อบังเกิดเกล้าของลูกรักทั้งสองคือโม่ เหยียน?

โม่เหยียนเป็นคนลึกลับ คนภายนอกไม่สามารถเห็นตัว เขาได้ ดังนั้นเธอก็แค่เคยฟังคำเล่าลือเท่านั้นเอง

แน่นอน ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นใคร เธอไม่อยากจะพูด ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นใจอดีตเลย

เวินลั่วฉิงถอนหายใจ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเฉียวหยู หนานยืนอยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่

เงินลั่วฉิงยิ้มแห้งๆ เธอมองแวบเดียวก็รู้ว่าเฉียวหยูหนาน กำลังคิดอะไรอยู่ พูดจากใจจริงเธอไม่อยากจะมาเสีย เวลาอยู่กับเฉียวหยูหนานเลย
เพียงแต่ว่าเฉียวหยูหนานได้เดินเข้ามาหาแล้ว ซึ่งตอน ที่เฉียวหยูหนานเดินมาถึงตรงหน้าเป็นลั่วฉิงก็ได้เผย รอยยิ้มเบาๆขึ้นใบหน้าขึ้นมา “เมื่อกี้ฉันเอารูปถ่ายที่คุณ กับเย่อหยู่เฟิงอยู่ด้วยกันให้พี่ซือเฉินดู และเมื่อกี้ฉันยัง โทรไปบอกพี่ซือเฉินด้วย แต่พี่ซือเฉินไม่ได้ติดใจอะไร เลย

เฉียวหยูหนานจงใจหยุดพูดแป๊ปหนึ่ง มุมปากยกขึ้น แล้วพูดเน้นย้ำอีกครั้งว่า “พี่ซือเฉินไม่ติดใจอะไรเลย เวินลั่วฉิง คุณรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ