เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 325 คุณชายสามเย่จับได้แล้ว



บทที่ 325 คุณชายสามเย่จับได้แล้ว

บทที่ 325 คุณชายสามเย่จับได้แล้ว

“อืม ดูก็รู้ว่าเขารักกันจริง”

“คุณป้าท่านนี้คงเป็นคนประเภทมีความต้องการอย่าง นั้นสูง ถึงได้เจรจาสัญญาอยู่กับผู้ชายถึงสามวันสามคืน

“เมื่อกี้ที่พี่สาวคนนั้นพูดว่าเธอผ่าตัดอะไรสักอย่าง เธอก็ จงใจจะหลบหนีไป พวกเธอเดาว่าเป็นการผ่าตัดอะไร?”

“ยังต้องเดาอีกเหรอ? ถ้าไม่ใช่ผ่าตัดทำแท้ง ก็ต้องทำ รีแพร์ผ่าตัดกระชับช่องคลอด”

“หน้าไม่อายจริง ๆ อย่างเธอเนี่ยนะยังมีหน้ามาพูดว่า รัก แถมยังกล้าพูดว่ายอมเสียสละทุกอย่าง ไม่แปลกใจ เลยที่ผู้ชายคนนั้นรู้สึกขยะแขยง คนแบบนี้ใครเห็นใครก็ รังเกียจ”

“น่ารังเกียจจริง ๆ”

ทุกคนต่างรู้ความจริงหมดหมดแล้ว
หยางชิงชิงเมื่อได้ยินผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ สีหน้าดูไม่ดี ที่ จริงวันนี้เธออยากทำให้เห่อถงถงอับอายขายหน้า แต่คิด ไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นอย่างนี้

ผู้หญิงพวกนั้นที่มากับหยางชิงชิง ต่างก็เริ่มมีสีหน้าไม่ดี

สุดท้ายหยางชิงชิงได้แต่หลบออกไปจากตรงนั้น

ในห้องของโรงแรม

ขณะที่เวินลั่วฉิงตื่นขึ้นมา เป็นเวลาสิบโมงกว่าของ ประเทศ R เธอไม่เห็นเย่ซือเฉิน เธอจึงคิดว่าเย่ซือเฉิ นมาทำงานต่างประเทศ ก็คงมีเรื่องสำคัญ เวลานี้คงไปที่ บริษัทแล้ว

เงินลั่วฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นข้อความจากเห่อถงถง ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

ก็รู้ว่าลูกทั้งสองคนนั้นปลอดภัยดี เวินลั่วฉิงจึงไม่ได้ กังวลมากขนาดนั้นแล้ว แต่กลับยิ่งคิดถึงลูกทั้งสอง

เวินลั่วฉิงคิดถึงปัญหาอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา ตอนนี้จี้หนีอยู่ กับเห่อถงถง เขาต้องรู้เรื่องลูกทั้งสองแล้วแน่นอน
ถ้าจี้หซีรู้แล้ว ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างจี้หซีกับเย่ซือ เฉิน อีกไม่นานเย่ซือเฉินก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน

เพราะรู้ว่าจี้หอยู่กับเห่อถงถง กลัวว่าจะไม่สะดวกคุย โทรศัพท์ เวินลั่วฉิงจึงคิดจะส่งข้อความไปหาเห่อถงถง

เงินลั่วฉิงคิดไปคิดมา ก็รีบกดพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว

ในขณะนั้นเอง เย่ซือเฉินก็ออกมาจากห้องน้ำ ตอนแรก เขาคิดว่าเงินลั่วฉิงยังไม่ตื่นนอน เลยทําอะไรเสียงเบา ๆ แต่เมื่อออกจากห้องน้ำก็เห็นเวินลั่วฉิงนอนดูโทรศัพท์อยู่ บนเตียง เขายิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วเดินตรงไปที่เตียง นอน แต่ท่าทางของเขายังคงเบามาก ยิ่งเดินอยู่บนพรม คุณภาพดียิ่งไม่มีเสียงเลยสักนิด

เวินลั่วฉิงที่อยู่บนเตียงยังคงไม่รู้ตัว

เย่ซือเฉินเดินไปที่ด้านหน้าเตียง ค่อย ๆ โน้มตัวลง จาก นั้นก็เห็นข้อความที่เธอกำลังพิมพ์

ข้อความที่เธอเพิ่งเริ่มพิมพ์ลงไป ยังพิมพ์ได้เพียงไม่กี่ ตัวอักษร ตอนที่เย่ซือเฉินเห็นตัวอักษรไม่กี่ตัวนั้น ดวงตา ของเขาก็หรี่ลงอย่างรวดเร็ว รังสีอ่ามหิตเริ่มแผ่ซ่านออก มาทันที
เวินลั่วนิ่งรู้สึกตัว รีบหันกลับไปมอง เมื่อเห็นเย่ซือเฉินที่ ยืนอยู่ด้านหน้าเตียง เธอก็ตกใจ ยิ่งสบสายตาเข้ากับ เย่ซือเฉินแล้ว ใจเธอก็สั่นระรัว

เป็นลั่วฉิงนึกได้ก็รีบเก็บโทรศัพท์ไว้ทันที เพราะเห็น ความน่ากลัวจากแววตาของเขาแล้ว เย่ซือเฉินมองท่าทาง ของเธอ แววตายิ่งดูมืดขรึมและเย็นชา

เงินลั่วฉิงจับโทรศัพท์ในมือไว้จนแน่น เธอคิดถึง ข้อความเมื่อสักครู่ที่ยังพิมพ์ไม่เสร็จว่า บอกจื่อโม่อย่า สร้างความวุ่นวายนะ ถ้าฉันมีเวลาจะไปหาเขา…

เธอไม่ค่อยกังวลเรื่องจี้หซีเท่าไหร่ แต่เธอกลัวจื่อโม่จะ ไปสร้างความวุ่นวาย เธอรู้จักลูกชายของเธอดี

ดังนั้น เธอจึงอยากให้เห่อถงถงบอกจื่อโม่ ว่าอย่าดื้ออย่า ซน อย่าสร้างเรื่องวุ่นวาย

แต่เธอคิดไม่ถึงว่าข้อความยังพิมพ์ไม่ทันเสร็จ เย่ซือเฉิ นก็เข้ามาพอดี ตอนนี้เขาควรจะไปบริษัทไม่ใช่เหรอ?

เธอคิดว่าเขาไปบริษัทแล้วเสียอีก

เวินลั่วฉิงคิดว่า ข้อความที่เธอเพิ่มพิมพ์เมื่อสักครู่นี้ เขา น่าจะเห็นมันแล้ว?
ที่จริง เมื่อจี้หซีกับเห่อถงถงอยู่ด้วยกัน เป็นลั่วฉิงคิดว่า เรื่องของลูกทั้งสองคนยังไงก็ปิดไว้ได้ไม่นาน

สักวันเย่ซือเฉินก็ต้องรู้เรื่องนี้จนได้

เธอคิดว่า ถ้าเย่ซือเฉินรู้เรื่องนี้ก็คงไม่เป็นไร ในเมื่อพวก เขาก็แค่แต่งงานกันตามข้อตกลง เด็กทั้งสองคนเกิดก่อน ที่พวกเขาจะแต่งงานกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

แน่นอนว่าคนที่สำคัญที่สุดคือเด็ก ๆ ไม่ใช่เย่ซือเฉิน ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกับเย่ซือเฉิน โดยตรง

เธอเชื่อว่าคนอย่างเย่ซือเฉิน ไม่น่าจะพูดเรื่องนี้ออกไป

ให้คนอื่นรู้

ดังนั้น เวินลั่วฉิงจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้อง

ปิดบังอีก ในเมื่อเห็นแล้วก็ช่างเถอะ

ในหัวของเย่ซือเฉินตอนนี้นั้นมีเพียงข้อความประโยคนั้น ของเวินลั่วฉิง ถ้าฉันมีเวลา จะไปหาเขา

เธอคิดถึงไอถังจื่อโม่นั้นอยู่เสมอสินะ
ถังจื่อโม่? เป็นใครกันแน่? ตกลงว่ามีเกี่ยวข้องอะไรกับ เธอ?

หรือว่า เขาควรสืบให้แน่ชัดสักหน่อยแล้ว

รอเขาสืบจนได้ความเมื่อไหร่ รับรองว่าเขาไม่ปล่อยไอ

ถังจื่อโม่นั้นไปแน่! คราวก่อน เขาถามเธอ ว่าถังจื่อไม่นั่นเป็นใคร แต่เธอ

บอกเขาว่า ถังจื่อโม่เป็นลูกชายของเธอ

ดังนั้น คราวนี้เขาจึงไม่ถามอะไรมากมาย เพราะเขารู้สึก ว่าถามไปก็ไม่ได้อะไรกลับมา ไว้เขาไปสืบเอาเองจะรู้ เรื่องเร็วยิ่งกว่านี้

และนี่ก็คือนิสัยของคุณชายสามเย่

ความรู้สึกที่แฝงอยู่ในแววตาของเย่ซือเฉินถูกปกปิดไป อย่างรวดเร็ว เขาก้มหน้า จูบลงที่ปากเธอเบา ๆ : “ลุกได้ แล้ว ทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปบริษัทเป็นเพื่อนฉันด้วย”

เวินลั่วฉิงงุนงง เขาไปบริษัททำไมต้องให้เธอไปด้วย?
เธอนึกว่าเขาพาเธอมาทํางานที่ต่างประเทศ เพียงแค่ ต้องการให้เธออยู่เป็นเพื่อนเขาช่วงกลางคืน กลางวันเขา ไปเจรจาธุรกิจ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องพาเธอไปด้วย

เรื่องเจรจาธุรกิจ เธอแทบจะช่วยอะไรเขาไม่ได้สักนิด

เรื่องธุรกิจสำหรับเธอนั้น ไม่มีความรู้ความเข้าใจใด ๆ เลย

เขาต้องการอะไรกันแน่?

เงินลั่วฉิงคิดถึงปัญหาอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา ธุระของเขาที่ นี่ไม่ใช่เรื่องธุรกิจของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป เขาไม่คิดจะ กีดกันเธอหน่อยเหรอ?

ในใจเวินลั่วฉิงมัวแต่คิดเรื่องพวกนี้อยู่ จึงไม่ได้ขยับตัว เธอเอาแต่เหม่อมองเขาอยู่อย่างนั้น

“เหม่ออะไรอยู่? ลุกขึ้นได้แล้ว” เย่ซือเฉินเห็นท่าทาง ของเธอ ก็ยิ้มออกมาเบา ๆ เวลาเธอเหม่อแบบนี้ช่างน่ารัก เหลือเกิน

เขาพบว่า เธอในตอนนี้ ที่อยู่ตรงหน้าเขา ยิ่งอยู่ยิ่งทำตัว บ๊อง ๆ น่ารักบ่อยขึ้น เผยนิสัยตัวตนที่แท้จริงออกมามาก ขึ้น ท่าทางฉลาดปิดกั้นตัวเองยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ
“เยซือเฉิน ทําไมนายต้องพาฉันไปด้วย?” เงิน วฉิงยัง คงไม่ขยับตัว เพียงแต่มองตาเยซือเฉินปริบ ๆ เธอรู้สึกว่า ท่าทีของเขาแบบนี้ดูแปลก ๆ

เมื่อเย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของเธอ เขาที่กำลังหันตัวไปก็ หยุดนิ่ง ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปทางเธอ “เธอคิดว่าไงล่ะ?” ในใจเย่ซือเฉินรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอ

คอยคำตอบ คิดว่ายัยซื่อบื้อที่อ่อนด้อยเรื่องความรัก

อย่างเธอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว?

เวินลั่วฉิงอึ้งไปเล็กน้อย เธอคิดว่าไง? ก็เพราะเธอไม่รู้ไง ถึงได้เอ่ยถามเขา

เวินลั่วฉิงจ้องเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง เย่ซือเฉินได้แต่ถอนหายใจออกมา รู้สึกว่าเขาเองคงจะ

ใจร้อนเกินไปล่ะมั้ง

เขามองว่า เธอสงสัยในเรื่องนี้ขึ้นมาได้ก็ถือว่าไม่เลว แล้ว จะให้เธอเข้าใจทุกอย่างได้ทันทีก็คงจะยากไป สําหรับเธอ

ยังไงซะ เธอก็เป็นเพียงคนที่ซื่อบื้อเรื่องความรักคนหนึ่ง เรื่องความรักสำหรับเธอนั้นตอบสนองได้ช้ามากมาโดย ตลอด
แต่เย่ซือเฉินยังอยากบอกกับเธอ ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่ เชื่อ ไม่ว่าเธอจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม

“เพราะว่า ฉันชอบ…” เย่ซือเฉินมองเธอ ท่าทีมุ่งมั่น และ ตั้งใจมาก

แต่ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ขัดจังหวะเย่ซือ เฉิน

เสียงโทรคัพท์ ดังนั้นเป็นของเย่ซือเฉิน

ตอนที่เย่ซือเฉินเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา ดวงตาก็เป็น ประกายเล็กน้อย จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขายืนขึ้น เพื่อเดินออกห่างจากเงินลั่วฉิงพอประมาณ แล้วกดรับ สาย

ตอนนี้ ถ้าหากคนที่โทรเข้ามาเป็นคนอื่น เย่ซือเฉินไม่มี ทางรับสายแน่นอน แต่นี่เป็นสายของโจ๋วอันหนาน

ก่อนหน้านี้เขาโทรถามเรื่องของเวินลั่วฉิง เขาเลยรู้ว่า ตอนนี้ที่โจ๋วอันหนานโทรหาเขาต้องเป็นเรื่องนั้นของ เวินลั่วฉิงแน่นอน หรือว่าโจ๋วอันหนานจะสืบเจอเรื่องอะไร ขึ้นมาแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ