เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 361 เธอแสดงความสามารถออกมาให้ เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (2)



บทที่ 361 เธอแสดงความสามารถออกมาให้ เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (2)

บทที่ 361 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้าง ความตกใจให้กับทุกคน (2)

“หรือว่าเธอฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง?”

เด็กโตหลายคนพากันคุยแข่งกันเธอพูดคำหนึ่งฉันพูด คำหนึ่ง ยิ่งพูดก็ยิ่งฟังดูมากเกินไป

เวลานี้สีหน้าของคุณปู่เย่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่น่าดู รู้อย่างนี้ไม่ พาผู้หญิงคนนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว

สีหน้าของคุณย่าเย่ก็ไม่น่าดูมากเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ ว่าไปถึงไหนก็สร้างความอับอายจริงๆ เธอตัดสินใจแล้ว ถึงแม้เวิน วฉิงจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเว้ยค้ง เธอ ก็จะให้เฉินเฉินหย่ากับเงินลั่วฉิงโดยเร็วที่สุดให้ได้

เวลานี้จางเย่วผิงก็ยืนอยู่ตรงนี้ จางเย่วผิงได้ยินสิ่งที่ เด็กๆพูดอย่างชัดเจน แต่ว่ากลับไม่มีความคิดที่จะห้าม ปรามเลย

สีหน้าท่าทางของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ยังคงเรียบเฉยจนดู ไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ และไม่มีการตอบสนองใดๆ
“ดูสิ ดูสิ เธอไม่เข้าใจที่เราพูดจริงๆด้วย คนโง่คนนี้จะโง่ เกินไปแล้ว แม้แต่คำพูดของเราก็ยังฟังไม่เข้าใจ

“ใช่ ใช่ เธอไม่เข้าใจที่เราพูดจริงๆ เหอะๆ น่าตลกจริงๆ”

“เราไปกันเถอะ” คุณย่าเย่ทนขายหน้าอยู่ที่นี่กับเงินลั่วฉิ งอีกไม่ได้จริงๆ

ถึงแม้เมื่อกี้คุณปู่เย่จะไม่ได้พูดถึงฐานะของเงินลั่วฉิงให้ ชัดเจน บอกแต่เพียงว่าเป็นผู้ดูแลที่จ้างมา แต่ว่าถึงจะเป็น อย่างนั้น เธอก็รู้สึกว่าถูกเวินลั่วฉิงทำให้อับอายขายหน้า หมดแล้วเหมือนกัน

“น้าหยุน เด็กๆเขาพูดเล่นกัน น้าอย่าไปถือสาพวกเขา เลย พวกเขาเป็นแค่เด็กทั้งนั้น หรือว่าคุณผู้ดูแลคนนี้จะ โกรธ……” จางเย่วผิงเห็นว่าคุณย่าเย่กำลังจะไป สีหน้า เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเองก็รู้ว่าเมื่อกี้พวกเด็กๆพูดกันเกิน ไปจริงๆ

แต่ว่า เธอเห็นท่าทางของเวินลั่วฉิงแล้ว สีหน้าเยาะเย้ย บนใบหน้ากลับซ่อนอย่างไรก็ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่

งานเลี้ยงตระกูลกู้ของพวกเขาไม่ใช่ว่าใครที่ไหนนึกจะ มาก็มาได้
ตอนนี้ เธอก็ไม่สามารถพูดว่าคุณย่าเย่ได้ เลยคิดจะลง ดาบไปที่เวินลั่วฉิงก่อน

“โกรธ?” เวินลิ่วฉิงขมวดมุมคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ระหว่างคิ้ว ดูเหมือนจะมีความสงสัยและไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย

โกรธ? ตอนนี้ขอแค่คนที่มีลูกตา ตาไม่บอด ต่างก็ดูออก ทั้งนั้นว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้โกรธ ไม่มีความโกรธเลยสักนิด

จางเย่วผิงมองไปที่เวินลั่วเฉิง ดวงตาเป็นประกายเล็ก น้อย ถูกคนด่าถึงขนาดนี้ กลับไม่โกรธเลยสักนิด ต้องโง่ จริงๆแน่?

แต่ว่า ในเวลานี้สายตาของเวินลั่วฉิง นออกไปเล็กน้อย มองไปทางจางเย่วผิง จู่ๆก็ถามออกมาว่า “คุณหญิงกู้ เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูดหรือเปล่า?”

จางเย่วผิงอึ้งไป อ้ามุมปากขึ้นเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่ง กลับไม่รู้ว่าจะต้องตอบอย่างไร สิ่งที่เด็กๆพูดเมื่อกี้ชัดเจน ขนาดนั้น ชัดเจนขนาดนั้น เธอไม่ได้โง่ซะหน่อย จะฟังไม่ เข้าใจได้อย่างไร

ถ้าหากพูดตรงๆว่าฟังเข้าใจแล้ว สิ่งที่เด็กๆพูดคือการด่า คนอย่างเห็นได้ชัด เธอกลับไม่ได้ห้ามปราม เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสม
จางเย่วผิงเลือกวิธีที่คิดเองว่าชาญฉลาดทางหนึ่ง ตัดสิน ใจเงียบและไม่ตอบ

เวินลั่วฉิงมองไปที่จางเย่วผิง จู่ๆก็ยิ้มออกมา เวลานี้ รอย ยิ้มบนใบหน้าของเวินลั่วฉิงเบามาก บางเบามากๆ แต่กลับ มีบางอย่างที่ดูเหมือนจะสามารถตรงเข้าไปในใจของ ผู้คนได้ ทำให้คนไม่สามารถที่จะซ่อนจิตใจส่วนลึกของ ความเฉียบคมที่ชั่วร้ายและน่ากลัวเอาไว้ได้

จิตใจของจางเย่วผิงสั่นไหว จู่ๆก็เกิดความรู้สึก สยดสยองสุดที่จะพรรณนาออกมาได้กะทันหัน ราวกับ ว่าทุกสิ่งทุกอย่างภายในส่วนลึกของจิตใจถูกขุดออกมา จนหมด วางเอาไว้ตรงหน้าเธอ ให้เธอวิพากษ์วิจารณ์ไป เรื่อยๆได้ตามใจชอบ

“คุณอย่าโกรธไปเลย คำพูดไร้สาระของเด็กๆทั้งนั้น………. นาทีนั้น จางเย่วผิงกลับเงียบต่อไปไม่ได้อีกต่อไป แต่ว่า เธอก็ยังคิดอยากจะพูดจาคลุมเครือให้มันผ่านไป

“ที่แท้คุณหญิงกู้ฟังเข้าใจแล้ว แต่ว่า ต้องขอโทษด้วย จริงๆ ดิฉันฟังเข้าใจแค่คำพูดของมนุษย์เท่านั้น”

เวินลั่วฉิงเหลือบมองไปที่จางเย่วผิงเบาๆ จู่ๆก็พูดออกมา กะทันหัน ขัดจังหวะการพูดของจางเย่วผิงไปเลยโดยตรง คำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงมีนัยยะนอกเหนือคำพูดแฝงอยู่ —— คำพูดที่พูดออกมาเมื่อกี้ล้วนแต่ไม่ใช่คำพูด – มนุษย์ทั้งนั้น และก็คือการด่าคนที่พูดเมื่อกว่าไม่ใช่มนุษย์ โดยตรง

ตอนนี้ เวินลั่วฉิงกำลังมองไปที่จางเย่วผิง พูดอยู่กับ จางเย่วผิง แล้วก็รับเอาคำพูดของจางเย่วผิงมาพูดต่อ โดยตรง เอาคําพูดหน้าหลังมาเชื่อมต่อกัน ก็คือการด่า จางเย่วผิง

และจางเย่วผิงคือคนที่ถูกด่าเจ็บที่สุด

เวลาที่เวินลั่วฉิงด่าคนไม่เคยใช้คำพูดหยาบคายมาก่อน ดังนั้น ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหาความผิดของเธอ ออกมาได้เลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่เงินลั่วฉิงพูดคำพวกนี้จบ บนใบหน้ามีรอยยิ้ม ขึ้นมาเบาๆอีกครั้ง รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา ก็ยิ่ง ทำให้คนพูดคำว่าไม่ออกมาไม่ได้เลย

ตั้งแต่ต้นจนจบเงินลั่วฉิงไม่ได้มองไปที่เด็กโตพวกนั้น เลยแม้แต่ครั้งเดียว มองแค่เพียงจางเย่วผิงเท่านั้น เด็กยัง ไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ว่าจางเย่วผิงอายุก็ไม่น้อยแล้ว น่าจะรู้ เรื่องรู้ราวรู้เหตุรู้ผลได้แล้ว

แต่ว่าการกระทำเมื่อกี้ของจางเย่วผิง ยังถือว่า ‘รู้ผิดชอบ ตามวัย’ไม่ได้จริงๆ
ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าของจางเย่วผิงเปลี่ยนแปลงไปอย่าง รวดเร็วกะทันหันหลายครั้ง ค่อนข้างที่จะไม่น่าดูเล็กน้อย เธอก็เคยเห็นฉากใหญ่ๆมาแล้วจนชินตา แต่ว่าวันนี้กลับ ถูกเงินลั่วฉิงตอกกลับจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เงินลั่วฉิงด่าเธอแท้ๆ แต่เธอกลับไม่สามารถตอบโต้ได้

เลย

คุณย่าเย่ตะลึงไปเล็กน้อย หันไปมองเงินลั่วฉิงด้วย ความรวดเร็ว บนใบหน้ามีความตกตะลึงมากขึ้นเล็กน้อย อย่างเห็นได้ชัด

เวินลั่วฉิงด่าจางเย่วผิงโดยตรง แต่กลับทำให้จางเย่วผิง พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เวินลั่วฉิงไม่ใช่คนโง่หรอกหรือ? ทำไมถึงมีปฏิกิริยาแบบ

นี้ได้?

คุณปู่เย่เองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในใจ เงินลั่วฉิง รู้จักตอบโต้กลับด้วย และยังตอบโต้กลับไปได้อย่างยอด เยี่ยมทีเดียว?

นี่คือความบังเอิญเจอกับความโชคดีละมั้ง?

“หมายความว่าอย่างไร คนโง่เง่าขี้เหร่นี่หมายความว่าอย่างไร เธอกำลังด่าเราอยู่งั้นเหรอ?” เห็นได้ชัดว่ากูโร่ ไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดของเงินลั่ว ง แต่รู้สึกว่า ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก ดังนั้น จึงตะโกนโวยวายขึ้นมา อีกครั้ง

“โร่วเอ๋อ อย่าพูดจาส่งเดช” ครั้งนี้จางเย่วผิงตำหนิกู่โร่ โดยตรง บนใบหน้าแสดงความเข้มงวดมากขึ้นอย่างเห็น ได้ชัด

กู้โร่วหดตัวลงเล็กน้อย ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก

เวิน วฉิงแอบยิ้มเย้ยหยันในใจ ครั้งนี้จางเย่วผิงรู้ผิด ชอบตามวัยมากขึ้นแล้ว

ดูเหมือนจะได้ผลลัพธ์ที่ดีทีเดียว!!

“อาเย่ น้าหยุน เชิญพวกคุณค่ะ” ตอนที่จางเย่วผิงหันไป ทางคุณปู่เย่กับคุณย่าเย่อีกครั้ง ในสีหน้าท่าทางมีความ เกรงใจมากขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

เวลานี้ ความเกรงใจที่เธอมีมากขึ้นเป็นพิเศษนี้ล้วนแต่ เป็นเพราะเวินลั่วฉิง เพราะภายใต้สายตาที่มองด้วยความ สงบและเยือกเย็นของเวินลั่วฉิง เธอกลับรู้สึกต่ำต้อยลง ไปเล็กน้อยอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

มีคนอยู่ประเภทหนึ่ง แค่ใช้สายตาเดียว ก็สามารถทําให้คุณไม่มีหนทางในการซ่อนร่องรอยเอาไว้ได้เลย ทำให้ไม่ว่าคุณจะยินยอมหรือไม่ก็ไม่กล้าที่จะไปต่อต้าน

เงินลั่วฉิงก็คือคนประเภทนั้น

เวินลั่วฉิงถูกเชิญเข้าไปด้วยความเคารพนอบน้อม

“นังหนูคนนี้น่าสนใจดี” ไม่ไกลออกไป ท่านปู่ถังที่มาถึง แล้วสักพักมองไปที่เงาหลังของเวินลั่วฉิงแล้วอดยิ้มออก มาไม่ได้

“อืม น่าสนใจจริงๆ ดูแล้วน่ารักทำให้คนชอบดี” บน ใบหน้าของท่านย่าถังก็มีรอยยิ้มเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

เมื่อกี้ทั้งสองคนดูอยู่สักพักหนึ่งแล้ว เรื่องราวเป็นมา อย่างไรพวกเขาต่างก็เห็นอย่างชัดเจน ตระกูลกู้อาศัยว่า มีอำนาจรังแกคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นเรื่องที่ปกติคน ตระกูลกู้ถนัดที่สุด

ปกติคนที่ถูกตระกูลกู้รังแกมีอยู่ไม่น้อยเลยจริงๆ

เห็นตระกูลกู้รังแกคน ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังไม่รู้สึก แปลกใจจากใจจริงเลย เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่านัง หนูคนนี้จะตอบโต้กลับไปได้อย่างยอดเยี่ยมขนาดนี้
“อืม ชวนให้คนชอบจริงๆ นังหนูคนนี้จะต้องมีหัวใจปราด เปรื่องที่มีเจ็ดห้อง(หัวใจที่สามารถสื่อสารกับทุกสิ่งในโลก และรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยการกินหัวใจตาม นิยายเรื่องประกาศิตแต่งตั้งเทพ)” ไม่ง่ายที่ท่านปู่ถังจะ ประเมินคนๆหนึ่งได้สูงอย่างนี้

สายตาของท่านปู่ถังแหลมคมมากจริงๆ มองแวบเดียวก็ สามารถมองเห็นถึงแก่นแท้แล้ว

“อืม น่าเสียดายที่เป็นลูกบ้านอื่น” ท่านย่าถังถอนหายใจเบาๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ