เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 298 เตรียมการให้พ่อลูกพบหน้า (2)



บทที่ 298 เตรียมการให้พ่อลูกพบหน้า (2)

บทที่ 298 เตรียมการให้พ่อลูกพบหน้า (2)

“อืม แกไปเลือกเวลา เลือกสถานที่มา” เห็นได้ชัดว่า คุณ ชายสามเย่ตอบตกลงแล้ว

ตอนนี้สําหรับคุณชายสามเย่แล้ว เรื่องที่มีประโยชน์ต่อ การคลอดลูกแล้ว เขาล้วนแต่ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

ได้ยินคำพูดของเย่ซือเฉิน จี้หซีอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ว่ารอย ยิ้มบนใบหน้ากลับยิ่งกระจายมากขึ้น เขารู้สึกว่าพี่สามยิ่ง อยู่ก็ยิ่งไม่เหมือนพี่สามคนเดิมแล้ว

แต่ว่าพี่สามที่เป็นแบบนี้น่ารักยิ่งกว่า

แน่นอนว่านี่ล้วนแต่เป็นเพราะซ้อสาม พี่สามเหมือนกัน กับเขา ล้วนเป็นเพราะผู้หญิงของตัวเอง

จี้หนีวางโทรศัพท์ลง ก็อยากกลับห้องไปหาเห่อถงถง เพียงแต่ตอนที่หันกลับมาอย่างเร็ว เห็นถังจื่อโม่ที่กำลัง ยืนอยู่ข้างหลังเขาถึงกับสะดุ้งตกใจ “ทำไมเธอถึงมาอยู่

“ฟังคุณคุยโทรศัพท์” ถังจื่อโม่ทำหน้าธรรมดา ทำหน้าเยือกเย็น ไม่สะทกสะท้าน เยือกเย็นจนทำให้คนพูดไม่ ออก

“ไม่มีคนบอกเธอหรือว่าไม่ควรแอบฟังคนอื่นพูด?” จี้ห ชือด าไม่ได้ แอบฟังเขาคุยโทรศัพท์ ยังสามารถพูดได้ มั่นใจเหมือนมีเหตุผลแบบนี้? เจ้าเด็กคนนี้ใช้ได้จริงๆ

และก็บ้าบิ่นสุดขอบจริงๆ ทำไมเขารู้สึกว่าตรงจุดนี้เด็ก คนนี้ดูคล้ายกับพี่สาม ล้วนแต่บ้าบิ่นเหมือนกัน

“ผมไม่ได้แอบฟัง ผมยืนฟังอย่างเปิดเผยตรงนี้มาโดย ตลอด เพียงแต่การระแวดระวังตัวของคุณไม่ดีไม่ได้ สังเกตเอง แม่ผมบอกแล้ว ถ้าหากปล่อยให้ศัตรูมีโอกาส ได้เปรียบ นั่นไม่ใช่ความผิดของศัตรู แต่เป็นความผิดของ ตัวเราเอง ดังนั้นนี่โทษผมไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ควรต้องโทษ ตัวคุณเอง” ถังจื่อโม่พูดราวกับมีเหตุผลเสียเต็มประดา แน่นอนว่าคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดที่แม่พูดกับเขา แต่เป็นคำ พูดตอนที่แม่พูดกับมู่หรงดัวหยางแล้วเขาก็ได้ยิน

“…” ชั่วขณะหนึ่งจี้หซีกลับถูกตอกกลับจนพูดอะไรไม่ออก

ตกลงนี่เป็นเด็กเปรตบ้านไหนกัน? ถูกสั่งสอนมา อย่างไร?
“ใช่แล้ว คุณเอาสมบัติทั้งหมดของคุณโอนให้คุณแม่ ถงถง คุณไม่กลัวหรือว่าวันหนึ่งคุณแม่ถงถงจะทิ้งคุณ ไป?” เมื่อกี้ถังจื่อโมได้ยินจี้หนีบอกว่าจะโอนทรัพย์สิน ทุกอย่างของเขาให้คุณแม่ถงถง ตรงจุดนี้ทำให้เขา ประหลาดใจมาก และก็ทำให้เขานับถือจี้ ซีเล็กน้อย

แน่นอนว่า เขารู้ว่าคุณแม่ถงถงไม่ใช่คนแบบนั้น เขา ตั้งใจพูดให้จี้หซีฟัง?

“เธอจะทำอะไรกับฉันๆก็ล้วนแต่เต็มใจทั้งนั้น ไม่ต้องให้ เธอมายุ่ง” เมื่อกี้จี้หซีถูกเขาตอกหน้าแล้ว ในใจรู้สึกไม่ พอใจเล็กน้อย ดังนั้น ตอนนี้จึงตอกหน้ากลับไปโดยตรง

แต่ว่าคำพูดนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงท่าทีของจี้ห อย่างชัดเจน

ถังจื่อโม่ขบเม้มมุมปากเบาๆ คนๆนี้ทำตัวเหมือนเด็กจริงๆ แต่ว่า เวลานี้ในใจของเพื่อนตัวเล็ก(เด็กชาย)ถังจื่อโม่ได้ ข้อสรุปมาหนึ่งข้อ

จี้หซีรักคุณแม่ถงถงจริงๆ แต่เย่ซือเฉินไม่รักคุณแม่ เท่า ที่เขารู้ หลังจากที่เย่ซือเฉินแต่งงานกับคุณแม่ดูเหมือนจะ ไม่ได้ให้อะไรคุณแม่เลย

“เมื่อกี้คุณบอกว่า คุณจะพาพวกเราไปพบเย่ซือเฉิน?”เมื่อถัง อโม่เปรียบเทียบแบบนี้ จู่ๆก็มีอคติกับเย่อเฉิน

“เย่ซือเฉินเธอก็เรียกได้หรือ? นั่นเป็นพี่สามของฉัน ฉัน เรียกพี่สาม เธอน่าจะเรียกว่า….……..” จี้หซีขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดถึงปัญหาสรรพนามการเรียกขาน

“เรียกคุณพ่อ” จู่ๆถังจื่อโม่ก็ต่อออกมาคำหนึ่ง

.” จี้หซีอึ้งไป คุณพ่อนี่สามารถเรียกไปทั่วได้หรือ? เด็กคนนี้ทําไมเห็นใครก็เรียกคุณพ่อล่ะ? ความเคยชิน แบบนี้ไม่มีเลย

“ผมเรียกคุณว่าคุณพ่อ เขาเป็นพี่สามของคุณ งั้นก็ เป็นคุณพ่อสามของผม ดังนั้นผมเรียกว่าคุณพ่อก็ได้ อยู่” ความจริงแล้วที่เพื่อนตัวเล็ก(เด็กชาย)ถังจื่อโม่คิด คือ จนถึงตอนนี้ คนที่เขาสมควรเรียกว่าคุณพ่อที่สุดมาก ที่สุดน่าจะเป็นเย่ซือเฉิน เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เย่ซือเฉิ นก็เป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณแม่

แต่ว่า เพื่อนตัวเล็ก(เด็กชาย)ถังจื่อโม่ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับ จี้หซี

สถานที่บางแห่งในเมืองAมีการเรียกขานแบบนี้อยู่จริงๆ การเรียกขานแบบที่สนิทสนมแนบแน่น เรียกน้องชาย ของพ่อว่า พ่อใหญ่ พ่อรอง พ่อสาม……..
ดังนั้นคำพูดนี้ของถังจื่อโม่ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

“ได้ รอให้พวกเธอเจอหน้ากัน เธอก็เรียกคุณพ่อ” จี้หยี อดใจไม่ได้อยากที่จะซุกซนอีกครั้ง เขาแอบคิดในใจ ถึง เวลาตอนที่เจอหน้ากัน เป่าเป้ยสองคนเรียกพี่สามว่าคุณ พ่อ ไม่รู้ว่าจะทำให้พี่สามตกใจไหม?

ถัง อโม่ทําเพราะน้องสาวอยากจะเจอ(ยอมรับความ สัมพันธ์)คุณพ่อ แน่นอนว่าถังจื่อโม่รู้ว่าที่น้องสาวอยาก จะเจอคุณพ่อ สาเหตุหลักก็เพราะอยากให้คุณแม่อยู่กับ เธอ ดังนั้น คนที่เป็นพี่ชายอย่างเขาจะต้องคิดหาวิธีช่วย น้องสาวอยู่แล้ว

แต่ว่าถังจื่อโม่ดูออกว่า จี้หซีกับเขาคิดกันคนละอย่าง แต่ ว่าตอนนี้ถังจื่อโม่ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ใช่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องการโอนทรัพย์สินของฉันอย่าเพิ่ง บอกคุณแม่ถงถงของเธอนะ” ถูกถังจื่อโม่ได้ยิน จี้หซีไม่ ได้กังวลอะไรมาก แต่ว่าเขากลัวว่าเห่อถงถงจะรู้ เขารู้สึก ว่าถ้าเห่อถงถงรู้เรื่องนี้ จะต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

เดิมทีเขาตั้งใจจะดำเนินการแบบเงียบๆไม่ให้ใครรู้

“ได้ ผมไม่พูด จะทำสำเร็จหรือเปล่า ก็อยู่ที่คุณแล้ว” ถัง จื่อโม่มองเขาแผ่วเบาครู่หนึ่ง
จี้ห กระพริบตา ฟังเข้าใจแล้วว่ามีคําพูดที่ซ่อนอยู่ในค่า พูดของเจ้าเด็กคนนี้

“หรือไม่ เธอก็ช่วยฉันสิ” จี้หซีเป็นคนฉลาด นั่งลงไปตรง หน้าถังจื่อโม่ทันที มองเขาด้วยสีหน้าประจบประแจง

เจ้าเด็กคนนี้ฉลาดแกมโกง จะต้องมีวิธีแน่ๆ

เจ้าเด็กคนนี้ฉลาดแบบนี้ ไม่รู้สืบทอดมาจากใคร?

ไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาตกลงแล้วเป็นใครกันแน่?

จี้หซีรู้ว่าเห่อถงถงรักเป่าเป้ยสองคนนี้มากที่สุด ถ้าหาก ว่าถัง อโม่ยอมช่วย เรื่องนี้จะต้องง่ายขึ้นเยอะแน่นอน

“ก็ได้ ผมเห็นว่าคุณรักคุณแม่ถงถงจริงๆ จะช่วยคุณครั้ง หนึ่ง” เพื่อนตัวเล็ก(เด็กชาย)ถังจื่อโม่เข้าใจสถานการณ์ โดยรวมที่สุดมาโดยตลอด

“เย้ ยอดเยี่ยมที่สุด” เวลานี้จี้หซียิ้มราวกับเด็กน้อยคน หนึ่ง

“ใช่แล้ว คุณโอนทรัพย์สินทั้งหมดของคุณให้คุณแม่ถงถง จากนั้นก็วางแผนจะซื้อบริษัทของบ้านหยางชิง ชิงใช่ไหม?” เพียงแต่ว่า ต่อจากนั้น เพื่อนตัวเล็ก(เด็ก ชาย)ถังจื่อไม่ก็ทำให้คนตกใจด้วยการโพล่งออกมาแบบนี้ คำหนึ่ง

จี้ห อึ้งไป ตกใจจนรอยยิ้มบนใบหน้าหุบลงโดยตรง

เจ้าเด็กคนนี้รู้แผนการขั้นต่อไปของเขาได้อย่างไร?

เมื่อกี้เขาหลุดปากพูดอะไรออกมาหรือเปล่า แล้วถูกเจ้า เด็กคนนี้ได้ยินเข้า?

แต่ว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้ อารมณ์ของจี้หซีไม่สามารถใช้เพียงคำว่า ประหลาดใจมาอธิบายได้อีกแล้ว

“ถ้าหากว่าก่อนหน้านั้นคุณไม่มีแผนการแบบนี้ ผมจะ ดูถูกคุณ” เห็นท่าทางของจี้หซี ถังจื่อโม่กลอกตาใส่เขา โดยตรง

“อืม ฉันมีแผนการแบบนั้นจริงๆ แต่ว่าเธอรู้ได้อย่างไร?” ในเมื่อถูกถังจื่อโม่พูดถูกในทันที จี้หซีก็ไม่ปิดบังอีก และ ตอนนี้ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ถือว่าถัง จื่อโม่เป็นแค่เด็กอีกต่อไป
ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าเจ้าเด็กคนนี้รู้ได้อย่างไร?

“ถ้าหากว่าคุณแค่โอนทรัพย์สินให้คุณแม่ถงถง ไม่มีข่าว ใดๆก็จะไม่มีคนรู้เลย ถ้าอยากให้คนพวกนั้นรู้ และยัง เป็นการโจมตีคนพวกนั้นอย่างรุนแรง วิธีที่ดีที่สุดก็คือ อ บริษัทตระกูลหยางในชื่อของคุณแม่ถงถง ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสามตัว” ถังจื่อโม่วิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ แสดงให้ เห็นว่าเขาไม่ได้แค่บังเอิญเดาถูก

ดวงตาทั้งคู่ของจี้หซีเปิดกว้างเต็มที่ จ้องตรงไปที่เขา ราวกับว่าเห็นสัตว์ประหลาด ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะ เชื่อ

เจ้าเด็กคนนี้จะเก่งเกินไปแล้ว นี่ตกลงแล้วเป็นลูก ของบ้านไหนกันแน่? ตกลงแล้วคนแบบไหนกันแน่ที่จะ สามารถคลอดลูกที่ฉลาดแบบนี้ได้? เก่งๆๆเก่งมากจริงๆ

“เธอ ทำไมเธอถึงรู้เรื่องพวกนี้?” ตอนที่จี้หซีถามคำนี้ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความสั่นเครือเล็กน้อย เป็นเพราะ ประหลาดใจมากจนเกินไปเลยอดสั่นเครือเล็กน้อยไม่ได้

“เรียนรู้จากคุณแม่ของผม” ตอนที่ถังจื่อโม่เอ่ยถึงคุณแม่ ใบหน้าเล็กอดรู้สึกภูมิใจมากขึ้นเล็กน้อยไม่ได้

คุณแม่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา ตั้งแต่เล็กเขาก็ได้รับอิทธิพลจากการได้ยินและได้เห็น เขารู้สึกว่ามอง ทะลุจิตใจคนๆหนึ่งว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ไม่ใช่เรื่องยาก มากเท่าไหร่

“แม่ของเธอ? แม่ของเธอเป็นใคร แม่ของเธอทำงาน อะไร?” จี้หซึมองถังจื่อโม่ด้วยแววตาประหลาดใจ เขา แอบคิดในใจ ต้องเป็นแม่แบบไหนกัน ถึงสามารถสอนลูก ให้ออกมาเป็นแบบนี้ได้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ