บทที่ 271 ผลของการทําให้คุณชายสามเย่โกรธ (4)
บทที่ 271 ผลของการทำให้คุณชายสามเย่โกรธ (4)
ในตอนนี้เวิน วฉิงอยากที่จะลงจากรถมาก ๆ แต่เธอถูก เย่ซือเฉินจับเอาไว้ และจับไว้แน่นมากด้วย อีกทั้งท่าที ของเขาในตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน เงินลั่วฉิงรู้ดีว่าเธอ จะทําให้เขาโมโหขึ้นไปอีกไม่ได้
ตอนนี้เล้งหรงยังคงอยู่ด้านนอก
เล้งหรงเห็นเวินลั่วฉิงขึ้นรถไป แล้วเลขาหลิวก็ลงมาจาก รถ จากนั้นหน้าต่างรถก็ปิดหมดทุกด้าน ทำให้บดบังการ มองเห็น เขาจึงมองไม่เห็นสถานการณ์ในรถเลยแม้แต่ น้อย
เล้งหรงเดินเข้าไป จากนั้นก็ออกแรงทุบหน้าต่างรถ แต่ กระจกหน้าต่างรถของเย่ซือเฉินนั้นคุณภาพดีมาก ไม่ว่า เล้งหรงจะออกแรงเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำลายลงด้วย มือเปล่าได้
“เย่ซือเฉิน นายคิดจะทําอะไร มีเรื่องอะไรนายก็มา จัดการกับฉันนี่ รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ ไหมวะ?” ตอนนี้เล้งหรงรู้สึกเป็นห่วงเงินลั่วฉิงมากจริง ๆ เขารู้จักเย่ซือเฉินดี ปกติเย่ซือเฉินดูเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่เวลาคิดจะทำอะไรขึ้นมานั้นก็โหดมากจริง ๆ
ถ้าเป็นคนอื่น โหดสุดก็คงจะเอากันถึงชีวิต แต่สําหรับ เยซือเฉิน ความโหดร้ายของเขาคือการทำให้ตายทั้งเป็น
เขารู้สึกผิดขึ้นมาที่เมื่อกี้ได้พูดประโยคกำกวมแบบนั้น กับเงินลั่วฉิง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพูดไปแบบนั้นเป็นการกระตุ้น อารมณ์ผู้ชายคนหนึ่งขนาดไหน
การที่เขาไปกระตุ้นให้เย่ซือเฉินโกรธ คนที่ได้รับผลกระ ทบก็คือเงินลั่วฉิง
เขารู้สึกผิดมากจริง ๆ เพราะเป็นห่วงเธอถึงได้รู้สึกผิด
ขึ้นมา
เขายอมรับว่าเมื่อกี้ไม่เพียงแต่ไม่ชอบท่าทางยโสโอหัง ของเย่ซือเฉินเพียงเท่านั้น แต่ที่จริงเป็นเพราะเขารู้สึกหึง หวงด้วย
เพียงแค่เย่ซือเฉินมาจอดรถตรงหน้าพวกเขา ไม่ได้เอ่ย พูดอะไร แต่เงินลั่วฉิงกลับขึ้นรถของเย่ซือเฉินไปง่าย ๆ ตอนนั้นเขารู้สึกอิจฉามากจริง ๆ
“ดูท่า เขาจะเป็นห่วงเธอมากนะ?” เมื่อขึ้นรถมา มุมปาก ของเย่ซือเฉินก็ยกขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม มองแล้วรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมาทันที
ถึงแม้ประโยคเมื่อกี้จะพูดกับเวินลั่วฉิง แต่สายตาเขา กลับไม่ได้มองที่เงิน วฉิง และไม่ได้มองออกไปยังเล้งห รงที่อยู่นอกหน้าต่างนั่น
เงินลั่วฉิงดูไม่ออกจริง ๆ ว่าตอนนี้เขากำลังมองอะไรอยู่ กันแน่
แววตาเวิน วฉิงเป็นกระกายเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร เขา เพราะที่เย่ซือเฉินพูดนั้น ถ้าเธอตอบอะไรออกไปก็จะ ยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์เขาให้โมโหมากขึ้นไปอีก
เมื่อไม่ได้ยินเธอตอบอะไร มุมปากของเย่ซือเฉินยิ่งยก สูงขึ้น ยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ยิ้มนั้นยิ่งทำให้คนตกใจ
แต่ไหนแต่ไรมา เวินลั่วฉิงเป็นคนไวต่อความรู้สึก เธอ จึงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเขาในตอนนี้ เย่ซือเฉินใน ตอนนี้ไม่ว่าใครเห็นเข้าก็คงต้องรู้สึกกลัวทั้งนั้น
เธอที่ไม่เคยกลัวอะไรหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ตอน นี้กลับรู้สึกกลัวขึ้นมา แต่งงานกันมาตั้งนาน แต่นี่เป็นครั้ง แรกที่เธอเห็นเย่ซือเฉินเป็นอย่างนี้
เงินลั่วฉิงที่กำลังนั่งอยู่ ไม่ขยับตัว ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
เล้งหรงที่อยู่ด้านนอกรถ เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ ก็ยิ่งร้อนใจ ออกแรงทุบหน้าต่างรถอีกครั้ง : “เย่ซือเฉิน นายออกมานี่ ลงมาตัวต่อตัวกัน”
เย่อเฉินแสยะยิ้มออกมา สู้กับนายตัวต่อตัวเหรอ เล้งห รงนายไม่มีคุณสมบัตินั้น
เย่ อเฉินไม่สนใจเล้งหรงแม้แต่น้อย ราวกับเล้งหรงไม่มี
ทางทําอะไรเขาได้เลยสักนิด แต่การที่เขาจอดรถอยู่ตรงนี้ เพื่อจงใจแสดงให้เล้งหรง
เห็น
เฮ้อ ผู้ชายนะผู้ชาย บางครั้งก็ชอบทำอะไรย้อนแย้ง และปัญญาอ่อน แน่นอนว่าคำพูดพวกนี้เงินลั่วฉิงไม่ สามารถพูดมันออกมาได้
เวินลั่วฉิงที่กำลังคิดอะไรอยู่ ก็ถูกเย่ซือเฉินหันมามอง แล้วเอ่ยพูดช้า ๆ : “วันนี้เล้งหรงไปคุยเรื่องแต่งงานกับตระ กูลเงินแล้วเหรอ?”
“อืม” เวินลั่วฉิงตอบกลับเบา ๆ ในใจแอบเดาว่าเขากำลัง คิดจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าเขารู้เรื่องหมดแล้วเหรอ แล้วมา ถามเธอทําไม?
น้ำเสียงเย่ซือเฉินตอนนี้ฟังดูทุ้มต่ำและช้า นั่นทำให้ เวินลั่วฉิงรู้สึกอึดอัด ใจเต้นรัว เธอรู้ดี ว่ายิ่งเขาเป็นแบบนี้ หมายความว่าเขายิ่งกำลังโมโห และแน่นอนว่ามันยิ่งดูน่ากลัว
อันที่จริง คำถามของเขาเมื่อสักครู่นี้ทำให้เธอรู้สึกกังวล
ใจไม่น้อยเลย
“เข้ากันได้ดีสินะ? หึม?” สายตาของเขายังคงจับจ้องไป ที่เขา มุมปากค่อย ๆ ยกขึ้น น้ำเสียงยังคงเนิบนาบและทุ้ม ต่ำ เขานั่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับไม่ขยับตัวสักนิด อีกทั้งไม่ เข้าใกล้เงินลั่วฉิงแม้แต่น้อย
ความกดดันน่าอึดอัดที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้คนแทบจะ หายใจไม่ออก ราวกับจะขาดใจยังไงยังงั้น
“ต๊ะ?” คนฉลาด ๆ อย่างเธอ ตอนนี้กลับไม่เข้าใจความ หมายของเขา
อะไรคือเข้ากันได้ดี? ใครเข้ากับใครได้ดี?
อันที่จริง เธอกับเล้งหรงแทบจะคุยดีกันได้ไม่เท่าไหร่ ด้วยซ้ำ ทุกครั้งก็ได้แต่ต่อปากต่อคำกันเสียมากกว่า ไม่ ได้เข้ากันได้ดีอะไรแบบนั้น
เธอกับท่านปู่เล้งถือว่าคุยกันถูกคออยู่ แต่เรื่องนี้แม้แต่ คนของตระกูลเวินก็ไม่มีใครรู้ เย่ซือเฉินก็ไม่น่าจะรู้หรอ กมั้ง?
หรือว่าเขาจะมีญาณทิพย์?
“เล้งหรงส่งดอกกุหลาบให้เธอหนึ่งคันรถบรรทุกเหรอ?” เงินลั่วฉิงยังคิดไม่ตก เสียงของเย่ซือเฉินก็ดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ พูดถึงเรื่องดอกกุหลาบขึ้นมาอีก
เงินลั่วฉิงเม้มปาก เธอรู้อยู่แล้วว่าเรื่องทั้งหมดนี้เย่อ เฉินจะต้องรู้ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาโทรศัพท์นั้นก็น่าจะรู้ แล้ว
เพียงแต่ตอนนั้นเขาไม่ได้เอ่ยมันออกมา เธอคิดว่าเขา ไม่สนใจอะไรด้วยซ้ำ เธอยังคิดอีกว่าเขาไม่น่าใช่คนแบบ ที่เธอคิด ที่ทั้งยโสโอหัง เอาแต่ใจตัวเอง บ้าอำานาจ แต่ ตอนนี้ ดูท่าเธอจะมองเขาในแง่ดีเกินไป
“เธอชอบเหรอ?” เย่ซือเฉินหรี่ตาลง ในแววตาเขาไม่ เพียงดูเย็นชาเท่านั้น แต่ยังดูบ้าราวกับพายุที่พัดโหม กระหน่ำที่ทำให้คนรู้สึกกลัวจนขนลุกชัน น้ำเสียงของเขา ยังคงทุ้มต่ำและเนิบช้า ที่ฟังแทบไม่ออกว่ากำลังโมโหอยู่
เขาในขณะนี้ ทำให้คนรู้สึกหนาวสะท้านตั้งแต่หัวจรดเท้าโชคดีที่ตอนนี้เป็นเงินลั่วฉิง ถ้าหากเป็นคนอื่นล่ะก็ คง กลัวเขาจนตายไปข้างหนึ่ง
“ฉัน…” เวินลิ่วฉิงอยากบอกว่า เธอไม่ได้รับดอกไม้ของ เล้งหรงไว้
“ดังนั้น ตอนค่ำเลยยังอาลัยอาวรณ์กันไม่จบ พอฉันมา ก็เลยขัดจังหวะพวกเธอเข้า?” แต่เย่ซือเฉินกลับไม่เปิด โอกาสให้เธออธิบายเลย ยังคงพูดจิกกัดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ต่ำและเนิบช้า
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย?
อะไรคือตอนค่ำแล้วยังอาลัยอาวรณ์กันไม่จบ ใครอาลัย อาวรณ์ใคร เธอกับเล้งหรงน่ะเหรอ?
เขาใช้ดวงตาข้างไหนมองว่าเธอกับเล้งหรงอาลัย อาวรณ์กัน?
อะไรคือการที่เขามาขัดจังหวะพวกเขา? พูดราวกับว่า เธอและเล้งหรงกำลังทำเรื่องน่าอายอะไรกันอยู่
ในหัวเขาคิดอะไรอยู่เนี่ย?
ไม่สิ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าตอนนี้เขาแทบจะไม่มีสมองเลยก็ ว่าได้ แน่นอนว่าเวินลั่วฉิงจะให้เขาเข้าใจผิดต่อไปอีกไม่ ได้แล้ว เธอจำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้น เธอ ไม่รู้เลยว่าเย่ซือเฉินจะลงมือทำอะไรต่อไป
“เล้งหรงไปพูดเรื่องงานแต่งก็จริง แต่ฉันไม่ได้รู้เรื่องนี้มา ก่อน ฉัน…”
“แต่เธอก็กลับไป” เย่ซือเฉินพูดขัดเธอขึ้นมาอีกครั้ง เย่ซือเฉินในตอนนี้ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
“ฉันกลับไปก็เพราะท่านปู่เล้งไปที่บ้านตระกูลเงิน ท่านปู่เล้งบอกว่าถ้าฉันไม่กลับไป เขาก็จะไม่ไปไหน… เวินลั่วฉิงพูดอย่างชัดเจน ว่าที่เธอกลับไปไม่ใช่เป็นเพราะ เล้งหรง แต่เป็นเพราะท่านปู่เล้งอยู่ที่บ้านตระกูลเงินไม่ ยอมไปไหน
“นี่เป็นเหตุผลที่เธอกลับไปเหรอ? เขาจะกลับหรือไม่ กลับไป มันเกี่ยวอะไรกับเธอ นั่นเป็นเรื่องของตระกูลเล้ง เกี่ยวอะไรกับเธอ?” เย่ซือเฉินไร้เหตุผลอย่างมาก ใครก็ เอาชนะเขาไม่ได้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ