บทที่ 189 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจแล้ว
บทที่ 189 คุณชายสามเย่แสดงอำนาจแล้ว
เวิน วฉิงตัวแข็งทื่อ ใจสั่นไปหมด ทํายังไงดีล่ะ เธอไป ทําอะไรให้เขาโกรธเหรอ
เธอรู้สึกว่าเดี๋ยวจะต้องมีศึกที่ยากจะต่อกรต้องสู้รบปรบ
มือ ยากกว่าการต่อกรกับเงินหรวนหรวนหลายเท่าตัว
“ได้ยินมาว่าประธานเย่คนนี้หยิ่งยโสไร้มารยาท เย็นชา ไร้ความปรานี แต่คิดไม่ถึงว่าตัวจริงจะดูอ่อนโยนสง่างาม อ่อนน้อมถ่อมตนและมีมารยาทขนาดนี้” คุณปู่เวินมอง ไปทางที่เย่ซือเฉินเดินจากไป เหมือนจะยังเหม่ออยู่ แล้ว ถอนหายใจออกมา
เงินลั่วฉิง : “…”
อ่อนโยนสง่างาม อ่อนน้อมถ่อมตน คุณปู่แน่ใจเหรอว่า เห็นเย่ซือเฉินเป็นคนแบบนั้น
เย่ซือเฉินใกล้เคียงกับคำพรรณนาแบบนั้นเหรอ
เธอบอกคุณปู่ได้ไหม ว่าเขากำลังถูกเย่ซือเฉินหลอกเอาแล้ว
ทุกคนได้ยินที่คุณปู่เวินพูดถึงเย่ซือเฉิน ต่างพากันตก ตะลึง สิ่งที่คุณปู่เวินพูดถึงเย่ซือเฉินนั้นช่างแตกต่างกับที่ ร่ำลือกันมากมายนัก
แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้ ท่าทีของเย่ซือเฉินที่มีต่อคุณปู่เงินนั้น ค่อนข้างดีทีเดียว สามารถทำให้คนอย่างคุณชายสามเย่ เรียกคุณปู่เวินได้ น้อยคนนักที่จะได้รับความเคารพเช่นนี้ จะว่าไปแล้ว คุณชายสามเย่กับคุณปู่เวินก็ไม่ได้สนิทคุ้น เคยกันมากนัก ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย ดังนั้น การที่คุณชายสามเย่เอ่ยเรียกคุณปู่เงิน ทำให้ผู้คนต่าง พากันตกตะลึง งงงวยกันอย่างมาก
“ฉิงฉิง หนูคิดว่ายังไงล่ะ” เวินลั่วฉิงกำลังนึกคิด อยู่ ๆ คุณปู่เวินก็เอ่ยถามเธอขึ้นมา
“อะไรนะคะ” เวิน วฉิงตกใจ ตั้งสติได้ก็รีบตอบกลับ
ทันที คุณปู่อยู่ ๆ ทำไมถึงถามเธอแบบนั้น
“อะไรกัน เมื่อกี้ปู่เห็นเย่ซือเฉินมองหนูตลอดเลย หนูกับ เขาสนิทกันมากเหรอ ปู่หมายถึงนอกเหนือจากเรื่องงาน บริษัทนะ” คุณปู่เวินเป็นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แยะ มีประสบการณ์มากมาย สายตาเฉียบแหลม ถึงแม้ เมื่อสักครู่เย่ซือเฉินจะไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร แต่เขาพอ จะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร
ตอนที่คุณปู่เวินพูดประโยคนี้ น้ำเสียงทุ้มต่ำลงเล็กน้อย ทําให้คนอื่น ๆ ไม่ได้ยินในสิ่งที่พูด ๆ
“คุณปู่ ปู่คิดว่ายังไงล่ะ คุณปู่นี่ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลย” เงินลั่วฉิงแอบตกใจ คุณปู่นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่ยังไงเธอ ก็ไม่มีทางยอมรับหรอก
“ปู่รู้สึกว่าเย่ซือเฉินคนนี้ไม่เลวนะ ยิ่งมองก็ยิ่งถูกใจ” คุณ ปู่เวินมองไปที่เวินลั่วฉิง มุมปากยกขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วย รอยยิ้ม คำพูดนั้นเหมือนมีความหมายอื่นแฝงอยู่
“คุณปู่ ในเมือง A มีใครบ้างที่ไม่อยากยกลูกสาวของตัว เองให้แต่งงานกับเย่ซือเฉิน ชื่นชอบเขาไม่ได้มีแค่คุณ ปู่คนเดียวนะคะ” เงินลั่วฉิงเอ่ยพูด ดูท่าทางเรื่องที่เกิด ขึ้นวันนี้จะทำให้คุณปู่เวินยิ่งชอบเย่ซือเฉินมากขึ้นไปอีก กลายเป็นเรื่องนี้ยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่
“อ๋อ งั้นหนูก็หมายความว่าหนูเองก็ชอบพอเขาอยู่เหมือน กันล่ะสิ” คุณปู่เวินมองไปยังเวินลั่วฉิง รอยยิ้มบนใบหน้า ยิ่งเห็นชัดมากขึ้น ประโยคนี้ยิ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ของ คุณปู่ซัดมากขึ้น
เวิน วฉิง : “…”
เมื่อกี้เธอหมายถึงแบบนี้เหรอ คุณปู่นี่ช่างบิดเบือนความ หมายของเธอเก่งซะจริง จะว่าไปแล้วเธอจะชื่นชอบเย่ซือ เฉินหรือไม่นั้นมันสำคัญตรงไหน
แต่การเงินลั่วฉิงแต่งงานตามข้อตกลงกับเย่ซือเฉินนั้น ทําให้เธอรู้สึกผิดอยู่ในใจเล็กน้อย เธอจึงไม่ได้โต้แย้ง อะไรคุณปูเวิน
เพราะว่าเธอโกหกไม่เก่ง โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าคน
สนิท
คุณปู่เวินเห็นท่าทีของเธออยู่ในสายตาหมด แววตา เขาเป็นประกาย มุมปากเผยอขึ้น เอ่ยพูดว่า : “ฉิงฉิง ถ้า หากหนูหาแฟนได้แล้ว หนูก็ต้องพากลับมาให้ปู่ดูนะ ถ้า ไม่อย่างนั้นปู่จะช่วยหนูหาแฟนเอง ปู่ให้เวลาหนูสิบวัน ภายในสิบวันถ้าหากยังหาแฟนกลับมาไม่ได้ ปู่จะจัดการ เรื่องนี้เอง”
กับเรื่องนี้นั้น คุณปู่เวินไม่อยากจะบังคับฝืนใจเป็นลั่วฉิง แต่เห็นท่าทีของเย่ซือเฉินในวันนี้ ทำให้เขารู้สึกว่ามีบาง อย่างผิดปกติ ดังนั้น เขาจึงคิดว่าเขาจำเป็นต้องลอง บังคับเธอดูสักหน่อย ไม่แน่ อาจจะมีเรื่องน่ายินดีที่ไม่ คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้
ขิงแก่ย่อมเผ็ดสินะ จิ้งจอกเฒ่ายังไงก็เป็นจิ้งจอกเฒ่าอยู่ วันยังค่ำ ยังไงเรื่องนี้เป็นลั่วฉิงก็สู้คุณปู่เงินไม่ได้หรอก
“คุณปู่…” เวินลั่วฉิงนิ่งอึ้งไป มองไปที่คุณปู่อย่างตก ตะลึง ขอถามหน่อยนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“คุณปู่ ไหนเคยพูดว่าจะไม่บังคับหนูเรื่องนี้ แล้วนี่มัน อะไรกัน” เงินลั่วฉิงรู้สึกว่าตอนนี้เธอต้องโต้แย้งเขา
“วันนี้กับวันนั้นมันเหมือนกันเหรอ ปู่แก่มากแล้ว บางเรื่อง ก็หลงลืมไปบ้าง เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้หรอกนะ หนู ต้องเห็นอกเห็นใจปู่แก่ ๆ คนนี้สักหน่อยนะ
เงินลั่วฉิง : “…”
คุณปู่ไม่เพียงกลับคำ แต่ยังสามารถหาเหตุผลมาพูดหัก ล้างให้ตัวเองได้อีก ถึงขนาดนี้แล้วเธอจะพูดอะไรได้ล่ะ
ที่สำคัญคือเธอรู้ดีว่าถึงเธอจะพูดอะไรไปตอนนี้ก็ได้ ประโยชน์
“พอแล้ว เรื่องนี้ก็เอาอย่างนี้ล่ะกัน” คุณปู่เงินรวบรัด ตัดบท จากนั้นก็พูดเสริมอีกประโยคว่า : “เวลามีจำกัด หนู ต้องเร่งทำเวลาหน่อยนะ”
เวินลั่วฉิง : “.….……
ขอถามหน่อย คุณปู่เวินทำไมถึงได้ไร้เหตุผลแล้วทำเป็นทองไม่รู้ร้อนแบบนี้นะ
เงินลั่วฉิงแอบสูดลมหายใจเข้าออกอยู่เงียบ ๆ เธอบอก ตัวเองว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นปู่ของเธอ เป็นญาติกัน ฉะนั้น เธอจําเป็นต้องอดทน
ถ้าทนไม่ได้แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ
คุณปู่ให้เวลาเธอสิบวันพาแฟนมาพบ เรื่องนี้ เรื่องนี้เธอ จะทํายังไงดีนะ
เธอคงไม่สามารถพาเย่ซือเฉินกลับไปได้หรอก ถ้าเธอ ไม่พาเย่ซือเฉินไปแต่ไปหาผู้ชายคนอื่นพากลับไปแทน ล่ะ เย่ซือเฉินจะถลกหนังเธอไหม
ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอกับเย่ซือเฉินก็จดทะเบียนสมรส กันแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้มีความรักต่อกัน แต่เรื่องแบบนี้ก็ให้ เกียรติและไว้หน้าฝ่ายผู้ชายด้วย
เวินลั่วฉิงนึกถึงตอนที่เย่ซือเฉินกำลังกลับไปแล้วหัน มามองเธอ เธอรู้ดีว่าตอนนี้เธอจำเป็นต้องรีบกลับไป ไม่ อย่างนั้นต้องซวยมากกว่านี้แน่นอน
“คุณปู่คะ หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ” เวินลั่วฉิงตัดสินใจ จะกลับ เพราะกังวลเรื่องเย่ซือเฉิน และเธอก็อยากจะ หลบหลีกจากคุณปู่เงินด้วย
“ทำไมล่ะ ผู้ชายดี ๆ มากมายในห้องโถงนี้ไม่เข้าตาหนูสักคนเลยเหรอ ไอคนที่กลับไปนั้นดีที่สุดใช่ไหม” คุณปู่ เงินหัวเราะออกมา : “อ๋อ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง งั้นกลับไป เถอะ”
เงินลั่วฉิงหยุดชะงัก สับสนขึ้นมาทันทีว่าควรจะกลับไป หรือควรจะอยู่ต่อดี
ตามที่คุณปู่เวินพูดนั้น ถ้าเธอกลับไปตอนนี้ ก็จะ
หมายความว่าเธอไปตามเย่ซือเฉิน
ถึงแม้ความจริงจะเป็นแบบนี้ก็ตาม
แต่คุณปู่ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉิน นี่ ทำไมถึงได้…
คุณปู่นี่เจ้าเล่ห์เพทุบายจริง ๆ
เงินลั่วฉิงหยุดเดิน ไม่ได้ก้าวไปด้านหน้าต่อ เธอคิดว่าถ้า เธอไปตอนนี้ กลัวจะยิ่งทำให้คุณปู่สงสัยและเดาได้
เวินลั่วฉิงจึงคิดว่าอยู่ต่ออีกสักพักค่อยกลับดีกว่า เย่ซือ เฉินน่าจะไม่รีบอะไรขนาดนั้นหรอก
แต่ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นทันที เวินลั่วฉิง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นหน้าจอว่าใครโทรเข้ามา แววตาเธอก็ดูตะลึงทันที
เย่ซือเฉินโทรหาเธอตอนนี้เนี่ยนะ
เวิน วฉิงแอบถอนหายใจ คิดว่ารับสายดีกว่า เพราะ เดิมทีเย่ซือเฉินก็อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่รับ สายเขาอีก เธอไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาเลยว่าจะเป็นยัง ไง
“เวินลั่วฉิง ฉันให้เวลาเธอหนึ่งนาที ถ้าหลังจากหนึ่งนาที ฉันยังไม่เห็นเธอล่ะก็ ฉันจะเข้าไปจับเธอออกมาเอง”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ