เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 152 หย่าก่อนกำหนด (1)



บทที่ 152 หย่าก่อนกำหนด (1)

บทที่ 152 หย่าก่อนกําหนด (1)

เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้กันแน่?

มือถือของเขายังคงดังอยู่

“มือถือของคุณ………เงินลั่วฉิงเตือนเขาและอยากจะ เปลี่ยนแปลงความสนใจด้วย

เย่ซือเฉินถอนหายใจออกหนึ่งครั้ง เอามือถือขึ้นมาด้วย ดวงตาที่ยิบหยี แต่สุดท้ายก็รับสาย

ทว่ามือของเขายังคงกอดเธอไว้ไม่ปล่อยมือ แถมยัง กอดเธอให้เข้าใกล้เขามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ผู้หญิงคนนั้นมาอีกแล้วใช่ไหม มาอยู่ที่คฤหาสน์นายอีก แล้วใช่ไหม? “เมื่อรับสายก็มีเสียงอันกึกก้องของคุณปู่เย่ ส่งผ่านมา

เสียงของคุณปู่เย่นั้นดังมาก ทำให้เงินลั่วฉิงที่อยู่ข้า งกายเย่ซือเฉินได้ยินอย่างชัดเจน

เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงของคุณปู่เย่ก็ยิ่งทำให้ได้สติกลับคืนมา
หน้าเยซือเฉินเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

นายบ้าไปแล้วใช่ไหมที่ให้หล่อนมาอยู่ที่คฤหาสน์ของ นาย นายไม่กลัวภรรยาของนายจะรู้เข้าหรือ? ถึงแม้ ภรรยาของนายจะโง่เขลาสิ้นดี แต่ก็ประกันไม่ได้ว่าจะ ไม่รู้ ท่าที่ดินายรีบให้หล่อนออกไปดีกว่า”

เงินลั่วฉิงกระพริบตา เวลานี้ถึงเธอจะหายเมาเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเวียนหัวอยู่ ชั่วขณะนั้นจึงรู้สึกว่าคำพูดของคุณ ปู่เย่นั้นน่าขำเหลือเกิน เย่ซือเฉินกับเมิ่งโร่ถึงเป็นเช่นนี้ ถึง เธอจะโง่ขนาดไหนก็คงจะดูออกอยู่แหละ

คุณปู่คิดว่าเธอโง่ปัญญาอ่อนงั้นหรือ?

บังเอิญกับที่เมิ่งโร่ถึงเดินมาพอดี เพราะเสียงของคุณ ปู่เย่นั้นดังมาก แม้แต่เมิ่งโร่ถึงก็ได้ยิน เมิ่งโร่ถึงจึงจงใจ ตะโกนพูดเสียงดังว่า

“ฉันไม่ไปคุณจะทำอะไรฉัน?

เมิ่งโร่ถึงเกลียดชังคุณปู่เย่ ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจกับความ รู้สึกของคุณปู่เย่เลย

“นี่หล่อน… ตอนแรกคุณปู่เย่ก็โมโหอยู่แล้ว ตอนนี้ ได้ยินเสียงของเมิ่งโร่ถึงก็เกิดความโมโหถึงขีดสุด “เย่ซือ เฉินฉันขอบอกนายว่าให้นายไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซัก ฉันจะยกบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปให้กับน้องชายนาย นายจะไม่ได้แม้แต่บาทเดียว”

ตอนแรกเวิน วฉิงไม่ได้เห็นเมิ่งโร่ถึง เมื่อได้ยินเสียง ตะโกนของเธอก็สะดุ้งตกใจ จึงเกือบจะได้สติคืนมา ทั้งหมด หลังจากที่ได้สติ ปฏิกิริยาการตอบสนองแรกคือ ดิ้นออกจากอ้อมกอดของเยซือเฉิน

“คุณปู่อยากจะให้ใครก็ให้ไปเถอะ” แต่ว่า จู่ๆเย่ซือเฉินก็ พูดกับปลายสายขึ้นมาหนึ่งประโยค

เงิน วฉิงหยุดชะงัก จะให้ใครก็ให้ไปเถอะ? เขาหมาย ถึงไม่อยากจะได้หุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว หรือ?

เมิ่งโร่ถึงตกตะลึงตาค้าง มองเย่อเฉินด้วยสายตา สงสัย เธอรู้ว่าความจริงแล้วพี่ชายไม่ได้หวงแหนหุ้นส่วน ของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปหรอก แต่ตลอดที่ผ่านมาพี่ชาย ไม่เคยคิดที่จะวางมือก็เป็นเพราะคุณแม่ก็มีส่วนในการ สร้างบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปด้วย พี่ชายไม่อยากจะให้ไปอยู่ ในมือคนอื่น

ทว่าตอนนี้พี่ชายกลับพูดเช่นนี้กับคุณปู่

เมิ่งโร่ถึงจ้องมองเวินลั่วฉิงพลางคิดว่าพี่ชายที่เธอรู้จัก ไม่ได้เป็นคนใจร้อนอย่างนี้
“ได้ๆ นายเป็นคนพูดเอง แล้วนายอย่าได้เสียใจภายหลัง เป็นอันขาด” อีกฝั่งหนึ่งของสาย หลังจากที่คุณปู่เย่ตก ตะลึงเสร็จแล้วก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก

และครั้งนี้เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไรก็วางสายทิ้งไปเลย ซึ่งหมายความว่าเขาไม่เอาบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วอย่าง เห็นได้ชัด

“พี่ไม่เอาบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปจริงๆหรือ ถ้างั้นผล ประโยชน์ก็จะตกเป็นของ….” เมิ่งโร่ถึงก็ไม่ได้อยากได้ ทรัพย์สมบัติของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเหมือนกัน แต่ถ้า เป็นเช่นนี้ก็จะเข้าทางคนพวกนั้น เธอรู้สึกไม่พอใจ

เย่ อเฉินไม่ได้ตอบ เพียงแต่ดวงตาที่เฉยชาแฝงความ แตกแยกสิ้นหวังไว้ด้วย

เวิน วฉิงจ้องมองเมิ่งโร่ถึงเสร็จแล้วก็จ้องมองเย่ซือ เฉินต่อ จากนั้นก็ครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ยปากพูดขึ้นอย่าง กะทันหันว่า “ในเมื่อคุณไม่เอาหุ้นส่วนของบริษัทตระกูล เย่กรุ๊ปแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็สิ้นสุดการแต่งงานได้ก่อน กําหนดใช่ไหม? ”

เขาขอเธอแต่งงานก็เพราะคุณปู่เย่บีบบังคับ และเพื่อให้ ได้บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมา ตอนนี้เขาไม่อยากได้บริษัท ตระกูลเย่กรุ๊ปแล้ว ถ้าเช่นนั้นการแต่งงานของเธอกับเขา ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไป สามารถสิ้นสุดการแต่งงานได้ก่อนกำหนดแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็จะได้ให้เขากับเมิ่งโร่ถึงสมหวังกัน

ด้วย

“คุณว่าอะไรนะ? ” เย่ซือเฉินได้ยินเธอพูดก็รีบละ สายตามามองเธอ

ชั่วขณะนั้นเขาคิดว่าหูของเขามีปัญหา ได้ยินผิดไป

เธอพูดอะไรนะ? จบสิ้นการแต่งงานของเขาสองคน ก่อนกำหนด

เมื่อสักครู่นี้เขากับเธอเกือบจะมี……

ถ้าเมื่อกี้ไม่มีสายของคุณปู่เย่เข้ามา เขาต้องได้เธอไป แล้ว และตอนนั้นเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรด้วย

ทว่าตอนนี้เธอกลับบอกว่าให้ยุติการแต่งงานของพวก เขาก่อนก๋าหนด?

เขาอยากจะเห็นสีหน้าการหยอกล้อของเธอในขณะนี้

แต่ว่าไม่มีเลยแม้แต่สักนิดเดียว เธอตั้งใจมาก ยังมีแวว ตาที่ตั้งตารอคอยด้วยความหวังอีกด้วย
ตั้งตารอคอยอะไร? ตั้งตารอคอยการยุติการแต่งงาน

กับเขาหรือ?

ผู้หญิงคนนี้โหดจริงๆ

“ตอนแรกที่เราตกลงแต่งงานกันในนาม วัตถุประสงค์ หลักของคุณก็คือเพื่อจะได้บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป ในเมื่อ ตอนนี้คุณไม่ได้ต้องการบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอีก

ต่อไป ฉะนั้นการแต่งงานของพวกเราก็ไม่มีความหมาย อะไรอีก” เงินลั่วฉิงสบตาที่ดุดันของเขาก็ต้องหยุดชะงัก แต่สุดท้ายก็เอ่ยปากอธิบาย

อันที่จริงเธอนับถือเขามากที่ตัดสินใจเลือกที่จะอยู่กับ เมิ่งโร่ถิง โดยที่สละบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปทิ้ง คงจะมีน้อย คนที่สามารถละทิ้งความมั่งคั่งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมเพื่อที่จะ อยู่กับคนรัก

เมื่อได้ยินเธอพูดก็ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไรดี เย่ซือเฉินถึง ขั้นเป็นใบ้ไปเลย แม้กระทั่งความโกรธก็ถูกคำพูดของ เธอขวางกั้นเอาไว้เรียบร้อย

ใช่อยู่ว่าตอนแรกเขาใช้ข้ออ้างนี้บีบบังคับให้เธอ แต่งงานด้วย ซึ่งมันเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น แต่เธอกลับ คิดว่าเป็นจริงเสมอมา
ถ้าไม่คิดว่าเป็นจริง เกรงว่าเธอจะไม่ยอมแต่งงานด้วย ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

ดังนั้น เวลานี้ไม่มีเหตุผลดังกล่าวแล้ว เธอเอ่ยปากสิ้น สุดการแต่งงานก็สมเหตุสมผลดี

ทว่าเมื่อกี้เธอถูกเขาจูบจนได้อารมณ์อย่างมิอาจห้าม ใจได้ บัดนี้กลับพูดเรื่องหย่าร้างกับเขาอย่างตรงไปตรง มา?

มันทำให้เย่ซือเฉินรู้สึกหดหู่และยากที่จะหยั่งถึง

เขารู้สึกราวกับมีคนได้สับเปลี่ยนภรรยาจอมปลอมมาให้

เขา

แน่นอน เขาไม่มีทางยอมรับคนที่ถูกเขาจูบจนเกิด อารมณ์ว่าเป็นคนปลอม

เมิ่งโร่ถึงก็หยุดชะงักไปตามๆกัน จ้องมองเวินลั่วฉิงแล้วก ระพริบตาไปมา พี่สะใภ้กำลังพูดอะไรอยู่? พี่ชายไม่เอา บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป ดังนั้นพี่สะใภ้จึงหย่ากับพี่ชายก่อน กําหนด?

ถ้าเป็นเช่นนี้ก็แสดงว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้แต่งงานกัน เป็นการลวงตาคนอื่นเฉยๆ เพื่อที่จะได้หุ้นส่วนของบริษัท ตระกุลเย่กรุ๊ปมา? ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าพี่ชายบังคับพี่สะใภ้ให้มาแต่งงานด้วย?

ดังนั้น ความจริงแล้วพี่สะใภ้ไม่ได้รักพี่ชายเลย ไม่ได้มี ใจทางด้านนี้แม้แต่น้อย พี่สะใภ้จึงได้พยายามสุดความ สามารถที่จะจับคู่เธอกับพี่ชายตลอด

ดังนั้นพี่ชายกับพี่สะใภ้แค่ตกลงแต่งงานกันด้วยผล ประโยชน์ มิได้มีความรักแก่กัน อย่างน้อยๆก็มีพี่สะใภ้ที่ ยึดหลักการนี้เสมอมา

เธออยู่ต่อเพื่อจะกระตุ้นให้พี่ชายสารภาพรักกับพี่สะใภ้ แต่เมื่อดูสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ถ้าพี่ชายสารภาพรักกับ พี่สะใภ้ขึ้นมา พี่สะใภ้อาจจะตกใจหนีไปเลยก็เป็นได้

คิดไม่ถึงว่ายังมีเรื่องที่พี่ชายไม่สามารถทำได้อีกด้วย เมิ่งโร่ถิงยิ้มอย่างไร้คุณธรรม

เวินลั่วฉิงเห็นเมิ่งโร่ถิงยิ้ม ก็คิดว่าเมิ่งโร่ถิงดีใจที่เธอจะ หย่ากับเย่ซือเฉินแล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เวินลั่วฉิงตัดสินใจว่าจะทำดีให้ถึงที่สุด “ถ้างั้นพวกเราไปหย่ากันวันนี้เลยดีไหม? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ