เมียลึกลับของประธานเป

ตอนที่ 74 พูดอีกทีซิว่าต้องการฉัน?



ตอนที่ 74 พูดอีกทีซิว่าต้องการฉัน?

ตอนที่ 74 พูดอีกทีซิว่าต้องการฉัน?

พอคุณป้าหลี่ได้กลับไปแล้ว เย่ซือเฉินก็ดูเวลา ตอนนี้เป็น เวลาหกโมงสิบนาที เขาหรี่ตาลง ก่อนหน้านี้เขาบอกเธอว่าวัน นี้จะกลับมาตอนสี่ทุ่ม ถ้าฟังตามที่คุณป้าหลี่บอกมาแล้วละก็ สามทุ่มเธอถึงจะกลับ

เย่ซือเฉินยกมุมปากขึ้นอย่างเย็นชา เขาหยิบไวน์ขึ้นมาหนึ่ง ขวด แล้วนั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก เขากลับอยากรู้ว่า ที่สุด แล้วเธอจะกลับมากี่ทุ่มกันแน่?

จะเป็นอย่างที่คุณป้าหลี่บอกไว้ไหมนะ กลับมาตรงเวลา

พอดี?

เป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว ท้องฟ้าก็ยังไม่มีด เย่อเฉินไม่ได้ เปิดไฟไว้ เขานั่งลงบนโซฟา แล้วรินไวน์มาหนึ่งแก้ว วันนี้เขา ยังไม่ได้ทานข้าวเย็น ท้องว่างแล้วมาดื่มไวน์แบบนี้จะไม่สบาย เอาได้ แต่เขาก็ยังคงทำแบบนี้

เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ในห้องก็มืด และมองสิ่งของได้ไม่ชัดเจนแล้ว เขาได้ดื่มไวน์ที่อยู่บนโต๊ะ ไปแล้วครึ่งขวด

เวินลั่วฉิงยังไม่กลับมา เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเขาดูอึมครึม เศร้าหมอง เขาถือแก้วไวน์ไว้ในมือไว้แน่นมาก และเขาก็ยังคง ไม่เปิดไฟ
เวลาก็ผ่านไปช้าๆ ท้องฟ้าก็เริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ เงาต่างๆในห้อง ก็เริ่มที่จะมองไม่เห็นแล้ว เย่ซือเฉินที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ค่อยๆ กลืนหายไปในความมืด

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แสงจากโทรศัพท์ของเขาสะท้อน ให้เห็นแก้วไวน์อันว่างเปล่าที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ ใกล้จะสองทุ่ม แล้ว แต่กลับยังไม่เห็นเงาของเธอเลย

ขณะนั้น ในความมืด ทําให้มองเห็นสีหน้าของเอเฉินไม่ ชัดเจน แต่อุณหภูมิทั้งห้องโถงราวกับว่าลดลงไปหลายองศา เลยทีเดียว

และในเวลาเดียวกันนี้ เวินลั่วฉิงก็กำลังกอดเด็ก เอาไว้ และ ร้องเพลงกล่อมเธอเข้านอน

“คุณแม่คะ พรุ่งนี้หนูกับพี่จะต้องไปโรงเรียนแล้ว คุณแม่จะ มาส่งพวกหนูไหมคะ? ” ถังจื่อซีที่อยู่ในอ้อมกอดของเงินลั่วฉิง นั้น ท่าทางดูออดอ้อนมาก เธอรู้ว่า พอเธอหลับ คุณแม่ก็จะ กลับไป ในข้อนี้เธอนั้นชินไปแล้ว

พี่ได้บอกไว้แล้วว่า คุณแม่เป็นคนของสามีไปแล้ว เพราะ ฉะนั้นตอนกลางคืนคุณแม่ก็ต้องกลับบ้านไปอยู่กับสามีของ คุณแม่

“ถ้าไม่มีอะไรฉุกเฉินแม่ก็จะไปส่งแน่นอน แต่ถ้ามีเรื่อง ฉุกเฉิน แล้วแม่มาไม่ทัน คุณแม่ถงก็จะเป็นคนไปส่งที่โรงเรียน เองนะ พวกหนูต้องเชื่อฟังคุณแม่ถงนะรู้ไหม”เป็นชั่วนิ่งไปกล้ารับประทานแรงร้อมแกน เธอเ ว่ารับปากไปแล้วจะทำตามสัญญาไปไม่ได้ เราจะให้ เด็กๆผิดหวัง

“เอ็กซ์ค่ะ เรื่องฉุกเฉินของคุณแม่ก็กสาวของคุณแม่ตั้ง จื่อซีเงย ใบหน้าเล็กที่ขาวนวลขึ้นมา สีหนังใจมาก

เงิน วฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เด็กคนนั้นเรามาก

เสียจริง

“คุณแม่คะ สามีของคุณแม่ดูไหมคะ? “กระพริบตา ปริบๆ เสียงของเธอฟังดูน่ากังวล

“ไม่ดุจ้ะ”เวินลิ่วฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เย่ซือเฉินนั้นไม่ได้ดูใจร้าย ตั้งแต่รู้จักเขามาก็ยังไม่เคย เห็นเขาดุหรือโมโหเลยสักครั้ง แต่ไม่เก็ไม่ได้เล อันตราย ในทางกลับกัน ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ยังทำให้ดูน่ากลัว

พอกล่อมถังจื่อซีนอนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เป็นการกระทร กว่าๆแล้ว เป็นลั่วนิ่งค่อยๆลุกออกไป หลังจากนั้นเธอกลาย กับเห่อถงถงเล็กน้อย ก่อนจะนั่งรถกลับไปที่คฤหาสน์ของ เยซือเฉิน

เงินลั่วฉิงที่รีบกลับไปคฤหาสน์ก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว พอเห็นคฤหาสน์ที่มืดมิด เธอก็ตกใจทันที หรืองานหลัง

ไม่อยู่บ้านนะ?
ปกติแล้วทุกครั้งที่เธอถึงบ้าน คุณป้าหลี่ที่ได้ยินเสียง ก็จะ ออกมาเปิดประตูให้เธอ

หรือว่าวันนี้คุณป้าหลี่มีธุระออกไปข้างนอกแล้ว?

เงินลั่วฉิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอกดรหัส แล้วเปิดประตู เข้าไป

พอได้ยินเสียง เย่ซือเฉินก็ยกมุมปากขึ้นทันที บรรยากาศ อันแสนเยือกเย็นนี้ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที ตรงเวลา ดีจริงๆ พอเขาบอกว่าจะกลับสี่ทุ่ม เธอก็กลับมาสามทุ่มครึ่ง จริงๆ

ตรงเวลาพอดีเลยจริงๆ

เวินลั่วฉิงเปิดไปและเปลี่ยนรองเท้าแล้วก็เดินไปที่ห้องโถง ตอนนั้นเองเธอก็ได้เจอเย่ซือเฉินที่นั่งอยู่ที่โซฟา

พอเธอเห็นเย่ซือเฉินที่นั่งอยู่ที่โซฟา ชั่วพริบตาเงินลั่วฉิงก็ตัว

แข็งทื่อไปหมด

เขาอยู่ที่บ้านนี้ได้ยังไงกัน?

เขาอยู่ที่บ้านแล้วทำไมไม่เปิดไฟล่ะ?

เขากลับมาเมื่อไหร่กันนะ?
คําถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที แต่ตอนนี้เธอไม่ กล้าที่จะถามออกไป กา

สายตาของเงินลั่วฉิงมองไปยังขวดไวน์ที่วางไว้ด้านหน้าของ เขานั้นเป็นขวดที่ว่างเปล่า แต่ในแก้วไวน์นั้นยังเหลือไวน์อยู่ นิดหน่อย แสดงว่าเขาดื่มไวน์ไปหมดขวดแล้ว

เขาไม่ได้เปิดไฟ แสดงว่าตอนที่เขากลับมาฟ้ายังสว่างอยู่ แน่นอน เลยยังไม่ต้องเปิดไฟ

เพราะฉะนั้น เวินลั่วฉิงเดาไม่ออกเลยว่าเขาได้กลับมานาน แล้ว หรือพูดได้ว่าเขารอเธอมานานมากแล้ว

ถึงแม้ว่าคุณป้าหลี่จะไม่อยู่ แต่จากสีหน้าของเขาแล้ว เวิน วฉิงก็รู้ดีว่า เขาคงรู้เรื่องหมดแล้ว

เขาได้รู้เรื่องหมดแล้ว แถมตั้งใจมารอเธอ และรอมานานแล้ว

ด้วย!

พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในใจของเวินลั่วฉิงก็สั่นขึ้นมา ทันที

เย่ซือเฉินที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็ค่อยๆหรี่คาลง เขามองเธอยู่ อย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเขาดูเป็นปกติ

แต่เป็นลั่วฉิงกลับรู้สึกได้ว่าในห้องช่างหนาวเย็นจนทำให้สั่น ไปทั้งตัว บรรยากาศที่อันตรายนี้ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง
ทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาเลยด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้ ถังจื่อซีได้ถามว่าเย่ซือเฉินนั้นดุไหม?

เขานั้นไม่ได้ดุจริงๆ แต่แบบนี้กลับทำให้รู้สึกกลัวมากกว่า กลัวจนตัวสั่นไปหมด

เงิน วฉิงกลืนน้ำลายไปโดยที่ไม่รู้ตัว และย่างก้าวของเธอ นั้นก็เหมือนที่จะถอยหลังกลับไป

เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา เป็นลั่วฉิงก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออก มาเช่นกัน เหมือนเท้าของเธอจะถูกยึดติดไว้กับพื้นเสียแล้ว เธอยืนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหน ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะไป แต่พอเห็นท่าทางของเย่ซือเฉินในตอนนั้นแล้ว ทำให้เธอไม่ กล้าขยับไปไหนเลยจริงๆ

เงียบงัน ปกติแล้วเวิน วฉิงเป็นคนที่มีความอดทน แต่ใน ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าความเงียบนี้มันช่างทรมานเหลือเกิน

“มานี่”เย่ซือเฉินที่ถือแก้วไวน์อยู่นั้น ก็ค่อยๆหมุนแก้วไวน์ไป มา ท่าทางนั้นดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจเป็นพิเศษ ดวงตาของ เขาที่เดิมทีมองไปที่เธอนั้น ก็ได้สลับมามองตรงแก้วไวน์ที่อยู่ ในมือแทน และไม่ได้มองไปที่เธออีก

น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แถมยังทุ้มต่ำกว่าปกติเสียอีก น้ำเสียงของเขาในตอนนั้นฟังไม่ออกเลยว่าเขากำลังโกรธอยู่
ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ ในใจเงินลั่วฉิงก็ยิ่งไม่แน่ใจเข้าไปใหญ่ ในตอนนั้นเธอกลับหวังว่าเขาจะโกรธ และโมโหออกมาบ้าง อย่างน้อยเธอก็พอจะรับมือได้บ้าง

เงินลั่ว งค่อยๆถอนหายใจออกมา ในตอนนั้นเขาไม่ได้มอง มาที่เธอ แต่กลับจ้องมองไปที่แก้วไวน์ที่อยู่ในมือ จู่ๆเธอก็ รู้สึกเป็นห่วงแทนแก้วไวน์ที่อยู่ในมือของเขา ไม่สิ เธอควรเป็น ห่วงตัวเองมากกว่า

เธอคิดว่า เดี๋ยวเขาอาจจะจัดการเธอเลยก็ได้

“พูดอีกทีซิว่าเธอต้องการฉัน? “ไม่มีเสียงใดๆ เย่ซือเฉินก วาดสายตาไปที่เธอ สายตาคู่นั้นดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ เงินลั่วฉิงกลับรู้สึกว่าสายที่เขามองมานั้น ราวกับว่าทำให้เธอ ตกลงไปในหลุมอันหนาวเหน็บเป็นพันปี

เวิน วฉิงถอนหายใจก่อนจะเดินไปหาเขา ในตอนนั้น เงินลั่วฉิงเดินช้ามากๆ แต่ระยะทางระหว่างเธอกับเขาก็ไม่ได้ ไกลกันเลย แม้ย่างก้าวของเธอจะเล็ก แต่เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็ เดินไปถึงเขาแล้ว

พอเดินมาถึงโซฟาแล้ว เงินล้วฉิงยืนห่างจากเขาประมาณ สามเมตร ด้วยสัญชาตญาณของเธอ เธอเลือกที่จะยืนใน ระยะห่างที่ยังปลอดภัยอยู่

เย่ซือเฉินมองไปที่เท้าของเธอ ราวกับว่าพยายามวัด ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ในตอนนั้น แล้วดวงตาคู่นั้นก็ค่อยๆเงยขึ้นมา มองไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ แล้วหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ