บทที่175 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณจะไปดูตัว(1)
บทที่175 คุณชายสามเย่ ภรรยาของคุณจะไปดูตัว(1)
ทำไมเย่ซือเฉินถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้กัน? ทำไม…..
เวิน วฉิงที่ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดินมาโดยตลอดอย่างเธอ นั้นจู่ๆกลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เธอยืนอยู่หน้าประตู แต่กลับ ไม่รีบร้อนที่จะเปิดประตูออก
เรื่องข้อมูลนั้นเห็นได้ชัดว่าเย่ซือเฉินยอมอ่อนข้อให้ มิ เช่นนั้นแล้วเธอคงจะไม่สามารถได้ข้อมูลกลับมาง่ายๆ เช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นแล้วเย่ซือเฉินเอ่ยถามอะไรเธอ เธอจะ บอกหรือว่า…..
เงินลั่วฉิงที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกมาจาก ทางด้านใน แล้วตามมาด้วยเมิ่งโร่ถึงที่ลากกระเป๋าเดิน ทางออกมา
เวินลั่วฉิงตกตะลึง ราวกับว่าเธอยังไม่สามารถดึงสติก ลับมาได้ ปฏิกิริยาช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ฉิง กลับมาแล้ว” เมิ่งโร่ถึงเห็นเธอแล้วนั้นกลับดูดีใจ เป็นอย่างมาก : “ฉันมาเอาของน่ะค่ะ”
“พี่ฉิง ฉันรีบ ฉันจะต้องไปถ่ายโฆษณาที่ประเทศR คงอยู่คุยด้วยไม่ได้ รอให้ฉันถ่ายโฆษณาเสร็จแล้วจะกลับ มาหานะคะ” เมิ่งโร่ถิงดูรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด ไม่รอให้ เงินลั่วฉิงได้ออกปากพูด ก็พูดเองเออเองไปก่อนแล้ว
“ได้สิ” เงินลั่วฉิงตอบรับเบาๆ จริงๆแล้วเธอชอบเมิ่งโร่ ถึงมาก เธอรู้สึกว่าเมิ่งโร่ถึงเป็นคนเปิดเผยและน่ารัก น่า เป็นที่ชื่นชอบยิ่งนัก
เธอรู้สึกว่าเมิ่งโร่ถึงดูเป็นมิตรกับเธอมากเช่นกัน ไม่ได้มี ใบหน้าที่ดูตึงเครียดไม่เป็นมิตรกับเธอแบบนั้น
แต่เมิ่งโร่ถึงรู้ว่าการแต่งงานของเธอกับเย่ซือเฉินนั้นเป็น ข้อตกลงกัน ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเห็นเธอเป็นศัตรู หัวใจอยู่แล้ว
มองดูเมิ่งโร่ถิงที่จากไปแล้ว มุมปากของเงินลั่วฉิงจึงยก ขึ้นมาอย่างช้าๆ
เวินลั่วฉิงเดินเข้าไปในบ้าน เย่ซือเฉินยังไม่ได้กลับมา เธอจึงขึ้นไปด้านบนก่อน แต่เธอยังไม่ได้รับพักผ่อน กลับ อยากจะรอให้เยซือเฉินกลับมาเสียก่อน
มีคนบอกว่าเธอเป็นคนที่มีจิตใจเย็นชาที่สุด แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนใจอ่อนมากที่สุดต่างหาก แล้วก็เป็นคนรู้ บุญคุณคนมากที่สุดด้วยเช่นกัน วันนี้ไม่ว่าเย่ซือเฉินทำ แบบนี้เพราะอะไร ก็สามารถช่วยเธอไว้ได้มาก ถึงแม้เธอจะไม่สามารถพูดขอบคุณเขาออกมาได้ตรงๆ แต่ก็ สามารถใช้วิธีอื่นแสดงความขอบคุณออกมาได้
เพียงแต่ เวินลั่วฉิงรอจนถึงตอนดึก แต่เย่ซือเฉินก็ยังไม่ กลับมา และเวินลั่วฉิงก็รอเขาจนกระทั่งผล็อยหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เงินลั่วฉิงตื่นขึ้นมาแล้ว เห็น ห้องของเย่ซือเฉินปิดสนิทอยู่ เวินลั่วฉิงคิดว่าอาจจะเป็น เพราะเมื่อคืนเธอหลับไปตอนที่เย่ซือเฉินกลับมาแล้วนั้น เธอจึงไม่ได้ยินเสียงเขา
เธอมองเวลา เพิ่งจะหกโมงกว่า ปกติแล้วเวลานี้เย่ซือ เฉินจะยังไม่ตื่น
เงินลั่วฉิงเดินลงมาเบาๆ เพื่อเตรียมอาหารเช้า
เวินลั่วฉิงเตรียมอาหารเช้าเสร็จก็เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่า แล้ว แต่ในห้องของเย่ซือเฉินนั้นก็ยังคงไม่มีการเคลื่อน ไหวใดๆแม้แต่นิดเดียว ปกติแล้วเวลานี้เย่ซือเฉินจะตื่น แล้วนี่นา
เงินลั่วฉิงกำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอ ก็ดังขึ้น เธอเห็นชื่อของเย่ซือเฉินที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ดวงตาทั้งสองข้างกระพริบลง หลังจากนั้นจึงกดรับสาย
“ตื่นแล้วใช่ไหมครับ?” เสียงของเย่ซือเฉินดังขึ้น น้ำ เสียงที่ทุ้มต่ำของเขากลับดูมีความอ่อนโยนแปลกๆ
“อา” เงินลั่วฉิงรู้สึกงงเล็กน้อย เขาโทรมาถามเธอว่าตื่น แล้วหรือยัง? นี่มันอะไรกัน? เขาไม่ได้อยู่ในห้องหรอก หรือ?
“ผมมาทํางานที่ประเทศRสองสามวันครับ เมื่อคืนนี้ ดึกไปเลยไม่ได้บอกคุณก่อน….” เย่ซือเฉินถอนหายใจ เหมือนกับไม่มีทางเลี่ยง ดูมีความอาลัยอาวรณ์ไม่อยาก จากไป แต่ทางนี้มีเรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน เขาจะไม่รีบมาก็ ไม่ได้
เวินลั่วฉิงกระพริบตาเร็วๆ เขาหมายความว่า ตอนนี้เขา อยู่ที่ประเทศRอย่างนั้นหรือ? เพราะฉะนั้น เมื่อคืนเขาก็ไม่ ได้กลับมา แต่ไปประเทศRเลยสินะ
เวินลั่วฉงนึกถึงตอนที่เจอเมิ่งโร่ถิงแล้วเธอบอกว่าเธอก็ จะไปที่ประเทศRเช่นกัน
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” เวินลั่วฉิงเข้าใจขึ้นมาทันที น้ำเสียง ที่มีเสียงหัวเราะ กับคำพูดที่ดูมีความสุขขึ้นมาอย่างเห็น ได้ชัด
“คุณเข้าใจ?” อีกฝั่งทางปลายสาย เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ขึ้นมาเล็กน้อย เธอเข้าใจแล้ว? เธอเข้าใจอะไร? เธอดูเหมือนจะดีใจแบบนี้หมายความว่าอะไรกัน?
“สิ่งที่ควรเข้าใจฉันก็เข้าใจหมดแล้วไงคะ คุณวางใจได้ ค่ะ” เงินลั่วฉิงรีบแสดงท่าทีของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน พวกเขาทั้งสองคนไปเจอกันที่ประเทศR ก็เพื่อหลีกเลี่ยง จากคุณปู่เย่อย่างแน่นอน เธอจะต้องช่วยปิดเป็นความลับ ตรงจุดนี้เย่ซือเฉินวางใจเธอได้อยู่แล้ว
“เวินลิ่วฉิง…..” ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงเล็กน้อย ทําไม เขาถึงรู้สึกคำพูดของเธอดูมีอะไรแฝงอยู่
สิ่งที่ควรเข้าใจเธอก็เข้าใจหมดแล้ว? เขารู้สึกสงสัยกับ ประโยคนี้ของเธอมาก เขากลับรู้สึกว่าสิ่งที่เธอควรเข้าใจ เธอไม่ได้เข้าใจ สิ่งที่เธอไม่ควรจะเข้าใจ เธอกลับเข้าใจ มันมากกว่า
“เอาล่ะค่ะ คุณไม่ต้องกำชับเป็นพิเศษก็ได้ค่ะ ฉันรู้ว่าจะ ต้องทำอย่างไร คุณไปทำงานเถอะ” เงินลั่วฉิงตัดบทเขา เมื่อพูดจบแล้วก็วางสายไปเลย
ทางปลายสาย เย่ซือเฉินมีสีหน้าอึมครึมขึ้นมาในทันที ไม่คิดว่าเธอจะกล้าวางสายเขาไปเลยแบบนี้?
เย่ซือเฉินอยากจะโทรกลับไปอีกครั้ง แต่เลขาหลิวที่พา คนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่จริงจังนั้น เขาจึงหยุดโทรออก หาเธอไปเสียก่อน
หลังจากที่เงินลั่วฉิงวางสายไปแล้วนั้น ใบหน้ายังคง ปรากฏรอยยิ้มออกมา เย่ซือเฉินไปทำงานต่างประเทศ เธอจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลชั่วคราวว่าจะต้องกลัวเขาถาม ถึงเรื่องอื่นๆเหล่านั้นอีก อีกทั้งในที่สุดเธอก็สามารถกลับ ไปอยู่เป็นเพื่อนสุดที่รักที่บ้านได้แล้ว
เงินลั่วฉิงรีบเก็บของแล้วออกไป แต่เป็นลั่วฉิงนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองไม่ได้กลับไปที่ตระกูลเวินมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกลับไปหาคุณปู่ที่ตระกูลเงินก่อน
เงินลั่วฉิงกลับไปที่ตระกูลเวิน เธอยังไม่ได้เข้าไปในบ้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังออกมาจากในบ้าน
“ผมไม่ยอม ผมยืนยันว่าผมไม่เห็นด้วย พ่อ พ่ออายุมาก ขนาดนี้แล้ว พ่อไม่กลัวคนอื่นจะเอาไปพูดนินทาหรือ? ไม่ กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะบ้างหรือ?” เงินจีหยันเสียงดัง เต็ม ไปด้วยความโมโห
“พ่อคะ จีหยันพูดถูก พ่อทำแบบนี้ไม่สมควรนะคะ ถึง ตอนนั้นแล้วฉันกับจีหยันจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอาได้” เสียงของหลี่หยุนอ่อนโยนอยู่บ้าง เพียงแต่คำพูดนั้นก็ไม่ ได้ฟังดูดีกว่าเวินจีหยันเลย
“คุณปู่ คุณปู่อายุขนาดนี้แล้ว อายคนอื่นเขานะคะ…. เวินหรวนหรวนเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งฟังดูแย่มาก ขึ้นไปอีก
“ฉันทําให้พวกแกขายหน้ายังไง ฉัน…..” คุณปเวินเอง ก็เห็นได้ชัดว่ากำลังโมโหอยู่เช่นกัน เสียงสูงกว่าปกติ หลายเท่า
“ช่างเถอะค่ะ” เพียงแต่ เสียงที่ดูอ่อนแอนั้นขัดคุณปู่เวิ
นขึ้น
เวิน วฉิงตาเป็นประกายขึ้นมา หลังจากนั้นจึงเข้าไปใน ห้องโถงใหญ่
“ฉิงฉิง กลับมาแล้วหรือ?” คุณปู่เวินเห็นเวินลั่วถึงแล้วจึง ตะโกนขึ้นมา เพียงแต่อารมณ์ของเขายังดูแย่อยู่
คุณย่าเหอที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังควบคุมตัวเอง และดู อึดอัด
“อะไรกันคะ?”เวินลั่วฉิงมองคนที่อยู่ในห้องนั้น ดวงตา หรี่ลง
“ฉิงฉิง กลับมาพอดี ปู่แกน่ะบอกว่าจะแต่งงานอีกครั้ง” ปกติแล้วเวินจีหยันไม่ค่อยลงรอยกันกับเวินลั่วฉิง แต่เขา มั่นใจว่าเรื่องนี้เงินลั่วฉิงจะต้องยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเขาอย่าง แน่นอน
คุณปู่เวินมองไปยังเวินลั่วฉิงอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้า ท่าทางที่ดูกังวล เขากังวลว่าเงินลั่วฉิงจะคัดค้านเรื่องนี้เหมือนกับพวกเขา
คุณย่าเหอกำลังควบคุมตัวเองอย่างเห็นได้ชัด แล้วยืน นิ่งอยู่ตรงนั้น
เงินลั่วฉิงค่อยๆเดินเข้าไป แล้วนั่งลงตรงโซฟา กวาดตา มองไปยังเวินจีหยันและคนอื่นๆ หลังจากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมา อย่างช้าๆ : “นี่เป็นเรื่องดีนี่คะ มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ? ถึงได้ทำให้ทุกคนต้องมาทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดงแบบ
เมื่อคำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงพูดออกไปแล้วนั้น ทุกคนใน ห้องโถงต่างพากันหันมามองเธอเป็นตาเดียว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ