บทที่173 คุณชายสามเย่ไว้หน้า(1)
บทที่173 คุณชายสามเย่ไว้หน้า(1)
เวลานี้ ทันใดนั้นเองที่เสียงโทรศัพท์มือถือของเวิน วฉิ งดังขึ้น เป็นเบอร์ติดต่อภายในของเธอเอง โทรศัพท์ ของทุกคนภายในมู่หรงดัวหยางได้จัดการให้เป็นพิเศษ ทั้งหมดแล้ว คนข้างนอกไม่สามารถจะโทรเข้ามาได้
สีหน้าของเวินลั่วฉิงเคร่งขรึมขึ้นมา เธอไม่ต้องมองก็รู้ว่า ใครเป็นคนโทรเข้ามา
ฉู่หลิงเอ๋อสีหน้าเปลี่ยน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของ เงินลั่วฉิงขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม ต่ำ : “จงเยว่น่ะ”
ฉู่หลิงเอ๋อกดรับโทรศัพท์แล้วกดปุ่มเปิดลำโพง
“เวินลั่วฉิง ข้อมูลเอากลับมาหรือยัง? ทางเบื้องบนเขา ตามมาหลายรอบแล้วนะ แล้วออกคำสั่งมาแล้วด้วยว่าคืน นี้เป็นคืนสุดท้าย ถ้าคืนนี้คุณเอาข้อมูลมาไม่ได้ ผลลัพธ์ คุณก็คงจะรู้นะ”
“ทางเบื้องบน? เบื้องบนที่ไหนคะ? พวกเราฟังแค่คำสั่ง จากลูกพี่ใหญ่เท่านั้น คำสั่งของเบื้องบนนั่นไม่ได้บอก พวกเรานี่ คุณไม่ต้องเอาเบื้องบนพวกนั้นมากดดันพวก เราหรอกค่ะ” ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินแล้วจึงระเบิดออกมาเถียงกลับไปอย่างไม่ไว้หน้า
“ฉู่หลิงเอ๋อ ฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าหากคืนนี้เงินลั่วฉิงยัง เอาข้อมูลกลับมาไม่ได้ คุณชายถังเองก็ปกป้องคุณไว้ไม่ ได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างคุณชายถังก็ไปปฏิบัติภารกิจ ของตัวเองแล้วด้วย เกรงว่าเขาคงจะไม่มีเวลามาสนใจ เรื่องพวกนี้” จงเยว่หัวเราะเยาะออกมา : “ตอนนี้หนึ่งทุ่ม ตรง ก่อนเที่ยงคืนถ้าไม่ได้ข้อมูลกลับมา พวกคุณก็รับผิด ชอบผลที่ตามมาเองแล้วกัน”
ฉู่หลิงเอ๋อวางสายไปแล้ว
“บ้าจริง เธอคิดว่าตัวเองสำคัญสินะ เธออาศัยอะไรเข้า มาในองค์กรนี้ตัวเธอก็รู้ดีไม่ใช่หรือ? นอกจากจะยั่วผู้ชาย แล้วยังทำอะไรเป็นอีกกันเชียว? หน้าที่ทุกครั้งของเธอก็มี แต่ง่ายๆ แต่ก็ต้องมีคนอื่นคอยตามเช็ดให้ทุกครั้ง” ฉู่หลิง เอ๋อโมโหเสียจนใบหน้าซีดไปหมด : “ใครๆก็รู้ ว่าหน้าที่ ของเธอ เธอไม่เคยทำพลาดเลย เพราะฉะนั้นครั้งนี้เห็น ได้ชัดเลยนะว่าจะมาแย่งเอาหน้าความสำเร็จนี้ไป แล้วยัง จะมีหน้ามาโทษพวกเราอีก”
ฉู่หลิงเอ๋อยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห : “ยัยนี่ หาเรื่องยั่วโมโหฉัน เดี๋ยวฉันก็เอาระเบิดไปปาใส่เลยนี่”
เวินลั่วฉิงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา คำพูดของจงเยว่เธอ ไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ข้อมูล เธอจำเป็นต้องรีบเอากลับมาให้ได้
ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเพราะคำสั่งของเบื้องบน เป็นเพราะ ถ้าหากข้อมูลยังคงอยู่ในมือของเย่ซือเฉิน เธอเกรงว่าจะ เป็นการก่อปัญหาที่ไม่จำเป็นให้กับเย่ซือเฉินด้วย
แต่แผนที่เธอวางไว้ล้มเหลวไปแล้ว ถ้าหากเย่ซือเฉินไม่ ดูข้อมูลในการ์ดความจำอีกครั้ง เธอก็จะไม่สามารถเอา ข้อมูลกลับมาได้เลย
ด้านนอกโรงแรม เย่ซือเฉินถือกระเป๋าสตางค์ ดวงตาทั้ง สองข้างหรี่ลงเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็หันกลับเดินไป ยังด้านหลัง
“ท่านประธานครับ ประธานหลีและประธานสิงกำลังรอ อยู่นะครับ” เลขาหลิวที่เพิ่งจะจอดรถเสร็จแล้วเดินเข้า มานั้นเห็นว่าท่านประธานของเขาจะเดินกลับไปจึงรู้สึก ตกใจ
ประธานหลี่และประธานสิงเป็นผู้ร่วมงานคนสำคัญของ บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป วันนี้ทั้งสองคนรีบมาที่เมืองCก็เพื่อ มาพบท่านประธานโดยเฉพาะ ท่านประธานที่เพิ่งจะมาถึง แต่จะกลับออกไปแล้วนั้นนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?
“เอากุญแจรถมาให้ผม แล้วคุณเข้าไปก่อน” เย่ซือเฉินไม่ได้เอ่ยอธิบายให้มากความ แล้วหยิบกุญแจรถจากมือ ของเลขาหลิวไป หลังจากนั้นก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
เลขาหลิวทําได้เพียงจําต้องเข้าไปทักทายด้านในก่อน
ตอนที่เย่ซือเฉินเดินมาถึงตัวรถนั้น เขาเปิดประตูรถ แล้วขึ้นรถไป เขาขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งแถวสุดท้าย แล้วเปิด อุปกรณ์ส่วนตัวที่ใช้เฉพาะของตัวเองขึ้นมา
เย่ซือเฉินหยิบการ์ดความจำออกมาจากกระเป๋าสตางค์ เขาแน่ใจ ว่าคนเมื่อครู่นี้ถึงแม้จะสัมผัสโดนกระเป๋า สตางค์ของเขา แต่จะไม่มีทางเปลี่ยนการ์ดความจําที่อยู่ ด้านในได้โดยเด็ดขาด
เขารู้ว่าคนเมื่อครู่นี้พุ่งตรงมาที่กระเป๋าสตางค์ของเขา ก็เพื่อการ์ดความจำนี้ แต่คนๆนั้นกลับเพียงแค่ได้แตะ กระเป๋าสตางค์ของเขาไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นแล้วก็ หนีไป
ดูแล้วไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรนัก แต่เขากลับนึกขึ้น มาได้ภายหลังถึงความเป็นไปได้นี้ นึกถึงสถานการณ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อปิดบังความจริงตรงหน้าเขาทั้งสอง เหตุการณ์แล้ว เรื่องที่มีคนจะมาขโมยกระเป๋าสตางค์เกรง ว่าจะเป็นการหลอกล่อ
เธอให้คนมาขโมยกระเป๋าสตางค์ของเขา แต่กลับไม่ได้ ให้คนๆนั้นเอาการ์ดความจำไป ดังนั้น คนๆนั้นถึงได้หนี ออกไปเร็วขนาดนี้
ส่วนเธอก็คงต้องการที่จะทําให้เขาเกิดความเข้าใจผิดว่า การ์ดความจำอาจจะมีการเคลื่อนไหว
ถ้าหากเขาสงสัยว่าการ์ดความจําถูกวางกลอุบายเอา ไว้ จะต้องรีบตรวจเช็คดูอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเธอก็จะ สามารถนำข้อมูลที่อยู่ในการ์ดความจำนี้กลับไปได้
เย่ซือเฉินเอาถือการ์ดความจำไว้ มุมปากยกขึ้น อดพูด ไม่ได้ว่าการวางแผนของเธอนั้นเก่งกาจมากจริงๆ
แต่น่าเสียดาย ที่คนที่เธอให้มาแกล้งทำเป็นขโมย กระเป๋าสตางค์ของเขานั้นแย่ไปเสียหน่อย
เขารู้แผนการทั้งหมดของเธอ และเขาก็มั่นใจด้วยเช่น กันว่าการ์ดความจำที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์เขานั้นไม่ได้มี ปัญหาอะไร แต่ตอนนี้เขาก็ยังคงหยิบคอมพิวเตอร์ของ เขาออกมา เพื่อเปิดการ์ดความจำนั้น
เขารู้ ว่าองค์กรของพวกเขานั้นเข้มงวดมาก ถ้าหากเธอ ไม่สามารถนำข้อมูลกลับไปได้ตรงเวลา เกรงว่าจะต้อง ถูกลงโทษ
ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นคือภรรยาของเขา เขาก็จะไม่ยอม ให้เธอถูกลงโทษอยู่แล้ว
แต่หากไม่ใช่ เขาก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บ ข้อมูลพวกนี้เอาไว้เช่นกัน
หรือถ้าหากผู้หญิงไม่ใช่ภรรยาของเขา นั่นก็เป็นเรื่อง ที่ไม่เกี่ยวข้องกันกับเขา เขาไม่ต้องมาเสียเวลาเลยเสีย ด้วยซ้ำ
เขาแต่งงานกับเงินลั่วฉิง ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นไปอย่างที่ เขาคาดคิดเหมือนก่อนหน้านี้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเพราะ เหตุผลใดๆเขาก็จะไม่ยอมหย่ากับเงินลั่วฉิง
แน่นอนว่าเย่ซือเฉินก็ยังคงมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา เอาไว้ว่าจะไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน เดิมทีที่เขาเอา การ์ดความจําอันนี้มานั้นก็เพื่อที่จะบีบบังคับเธอให้แสดง ตัวออกมา แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว
เจ้าตัวก็แต่งงานกับเขาไปแล้ว เขามีโอกาสที่จะค่อยๆจับ หางจิ้งจอกของเธอได้อยู่แล้ว ไม่ต้องรีบร้อนในตอนนี้ ก็ เป็นเพราะเขาจะไม่ยอมให้เธอมีอันตรายใดๆ
ออฟฟิศของเวินจั่วฉิง
“ฉิงฉิง ตอนนี้พวกเราจำเป็นที่จะต้องรีบเอาข้อมูลกลับมาอย่างนั้นหรือ?” ฉู่หลิงเอ๋อที่โมโหอยู่นั้นก็ส่วนโมโห แต่ เธอรู้ดีถึงความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ เธอมอง เวินลั่วฉิงที่ยืนนิ่งอยู่นั้นด้วยความร้อนใจ
“ฉันรู้” น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงทุ้มต่ำ จงเยว่บอกว่าก่อน คืนนี้เที่ยงคืน สิ่งที่เธอวางแผนจัดการเอาไว้มากมายก่อน หน้านี้ล้วนแต่ล้มเหลวไปหมดแล้ว ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่อีก เพียงไม่กี่ชั่วโมง เธอจะเอาข้อมูลที่อยู่ในมือของเยซือเฉิ นมาได้อย่างไรกัน?
“ฉิงฉิง เวลาของพวกเรามีไม่มากแล้วนะ” ฉู่หลิงเอ๋อมอง ไปยังเวินลั่วฉิงที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเช่นเดิม ยิ่งรู้สึกร้อน ใจมากขึ้นกว่าเดิม : “ฉิงฉิง ฉันคิดว่าถึงแม้ให้เธอต้องไป ขอร้องเย่ซือเฉินขอข้อมูลกลับมา ก็อย่าให้ผู้หญิงไม่ดี อย่างจงเยว่…..
ฉู่หลิงเอ๋อยังไม่ทันพูดจบนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของ เวินลั่วฉิงก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“บ้าเอ้ย จงเยว่ยังไม่จบอีกรึไง” ฉู่หลิงเอ๋อคิดว่าเป็นจง เยว่โทรมา จึงรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โดยที่ไม่ทันได้ดู แล้วเตรียมจะด่าผู้หญิงคนนั้นออกไป
“ฉิงฉิง ได้ข้อมูลมาอยู่ในมือแล้วนะ” เพียงแต่ ฉู่หลิงเอ๋อ ยังไม่ทันได้ด่าออกมานั้น เสียงของมู่หรงดัวหยางก็ดังขึ้นมาเสียก่อน : “สมกับที่เป็นฉิงฉิงของพวกเราจริงๆ คุณ ขายสามเย่หลงกลเรา แผนสำเร็จแล้ว”
“ได้ข้อมูลแล้ว! ดีจริงๆ” หลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋อดึงสติกลับ มาแล้วนั้น จึงส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ
เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงร้องดีใจของฉู่หลิงเอ๋อแล้วจึงรู้สึก อึ้งไป จะว่าไปแล้วสถานการณ์ก่อนหน้านี้ของเสี่ยวหมู่ ทั้งๆที่แผนของเธอไม่สำเร็จไปแล้ว สถานการณ์เช่นนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เย่ซือเฉินจะหลงกล
ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมเย่ซือเฉินถึงได้ไปเช็คดูข้อมูลกัน? อีกทั้งยังรวดเร็วขนาดนี้ รีบร้อนขนาดนี้ด้วย?
เงินลั่วฉิงรู้สึกว่าเย่ซือเฉินมีเจตนาให้เป็นแบบนี้
มีเจตนาอย่างนั้นหรือ? ทำไมเขาจะต้องตั้งใจทำแบบนี้ ด้วยกัน? ทำไม……….
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ