เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 362 เธอแสดงความสามารถออกมาให้ เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (3)



บทที่ 362 เธอแสดงความสามารถออกมาให้ เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (3)

บทที่ 362 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้าง ความตกใจให้กับทุกคน (3)

“หลายปีขนาดนี้แล้ว ข้อเสียเล็กๆข้อนี้ของคุณต้องได้ รับการแก้ไขซะบ้างแล้ว ไม่ใช่เห็นว่าดีแล้วก็จําเป็นจะ ต้องเป็นของบ้านเราตลอด” ท่านปู่ถังเหลือบมองเธอครู่ หนึ่ง ฟังดูเหมือนจนปัญญาเล็กน้อย แต่ว่าในสายตากลับ เต็มไปด้วยการตามใจให้ท้าย

นี่เป็นความรักแบบหนึ่งที่เมื่อเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความรักที่มีต่อคุณก็ยังเหมือนเดิม

“แต่ว่า ฉันเห็นเด็กคนนั้นแล้วก็ชอบเธอเลย รู้สึกว่าเด็ก ที่ดีขนาดนั้นควรจะเป็นของบ้านเรา” ท่านย่าถังนึกถึงท่า ทางของเวินลั่วฉิงเมื่อกี้ อดยกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ “ฉัน เห็นนังหนูคนนั้นแล้ว รู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก

อันที่จริง ก่อนที่เวินลั่วฉิงจะตอบโต้กลับไป เธอก็มีความ รู้สึกแบบนั้นแล้ว

เมื่อกี้ตอนที่เห็นเวินลั่วฉิงถูกด่า เธอก็คิดจะเดินหน้า เข้าไปช่วยเหลือแล้ว แต่ว่ายังไม่ทันที่เธอจะเดินเข้าไป นังหนูคนนั้นก็ตอบโต้กลับไปเองแล้ว
“คุณน่ะ แก้ข้อเสียเล็กๆข้อนี้ไม่ได้จริงๆ” ท่านปู่ถังสาย หน้าและหัวเราะเบาๆ

“ใช่ ใช่ ฉันรู้ว่าไม่ใช่ของบ้านเรา ไม่ใช่เห็นว่าดีแล้วจะ จําเป็นต้องเป็นของเรา ฉันก็แค่เห็นนังหนูคนนั้นแล้วก็ ชอบเท่านั้น ฉันก็รู้ว่านังหนูของบ้านอื่นไม่สามารถเปลี่ยน มาเป็นของเราได้” ท่านย่าถังเห็นว่าท่านปู่ถังหัวเราะเยาะ เธอ จงใจทําเป็นไม่พอใจแล้วก็จ้องไปที่เขาครู่หนึ่ง

“อืม คุณรู้ก็ดีแล้ว” รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านปู่ถังกลับ ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

“รู้ รู้ ฉันรู้แน่นอนอยู่แล้ว” ท่านย่าถังถอนหายใจเฮือก หนึ่งด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย เพียงแต่ว่าในเวลาต่อมา จู่ๆตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมา “ถูกแล้ว ถังหลินบ้าน เรายังไม่ได้แต่งงานเลย ไม่งั้นเรามาหลอกนังหนูคนนั้น กลับบ้านไปเป็นเมียของถังหลินดีไหม?”

จู่ๆถังหลินที่กำลังทำงานอยู่ที่สำนักงานก็ตัวสั่นขึ้นมา กะทันหัน

“อย่างนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง?” ท่านปู่ถังอึ้งไป มองไป ทางท่านย่าถัง ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่ดีอย่างไร? ฉันรู้สึกว่านังหนูคนนั้นเหมาะสมกับถังหลินของเราดี” ท่านย่าถังยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไป ได้

“ผมรู้สึกว่านังหนูคนนั้นไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น คุณ รู้สึกว่าคุณสามารถหลอกนังหนูคนนั้นได้เหรอ? ถึงเวลา อย่าให้ตัวเองถูกนังหนูคนนั้นหลอกไปซะล่ะ?” ท่านปู่ถัง หัวเราะเบาๆ ถึงแม้จะเป็นการพูดเล่น แต่ว่าท่านปู่ถังรู้สึก จากใจจริงเลยว่านังหนูเมื่อกี้คนนั้นไม่ได้หลอกได้ง่ายๆ

“ยายแก่อย่างฉันมีอะไรน่าหลอกลวง?” ท่านย่าถังอึ้งไป ครู่หนึ่ง กลอกตาใส่เขาโดยตรง แต่ว่าหลังจากได้สติกลับ มา บนใบหน้ามีความโกรธเพิ่มขึ้นเล็กน้อย “ไม่ ไม่ถูก นี่ คุณดูถูกฉัน?”

“ผมจะดูถูกคุณได้อย่างไร? ตอนนั้น ผมเห็นคุณแค่ แวบเดียวผมก็ตัดสินใจแล้วว่านอกจากคุณแล้วผมจะไม่ แต่งงานกับใครเลย” ท่านปู่ถังอายุเยอะขนาดนี้แล้ว กลับ พูดคำหวานได้ลื่นไหลเป็นพิเศษ แน่นอนว่าฟังดูอบอุ่น เป็นพิเศษ

“นั่นก็เป็นเพราะความสวยของฉัน คนที่สวยกว่าฉันตอน นั้นคุณก็หาไม่เจอแล้ว” ท่านย่าถังจ้องไปที่เขาด้วยความ หลงตัวเองอย่างมาก

“ใช่ ใช่ คุณสวย คุณสวยที่สุด” ท่านปู่ถังตามใจภรรยาตัวเองอย่างสิ้นเชิง การตามใจให้ท้ายมาเป็นเวลาหลาย สิบหล่อหลอมจนกลายเป็นความเคยชินมาตั้งนานแล้ว

“โชคดีที่ฉันเกิดมาสวย ดังนั้นทุกคนในตระกูลถังของเรา เลยหน้าตาดีทุกคน” ท่านย่าถังไม่ถ่อมตัวเลยสักนิด ตรง กันข้ามกลับรู้สึกภูมิใจมากยิ่งขึ้นเล็กน้อย

“อืม อืม ความดีความชอบของคุณทั้งนั้น” ท่านปู่ถังพยัก หน้า ภรรยาว่าอย่างไรก็คืออย่างนั้น แต่ถึงอย่างนั้นท่าน ปู่ถังก็ยังแอบคิดในใจเงียบๆ ในตอนนั้นเขาเองก็เป็นหนุ่ม หล่อที่หาได้ยากคนหนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่ว่า เขาใจ กว้าง ไม่โต้แย้งกับเธอ

“คุณดูคนของตระกูลกู้สิ แต่ละคนหน้าตาแตงเบี้ยว พุทราแยก ยังมีหน้าไปหัวเราะเยาะคนอื่นอีก” ท่านย่า ถังไม่เคยชอบว่าร้ายคนอื่นลับหลังเลย แต่พอนึกถึง เหตุการณ์ที่ตระกูลกู้รังแกเวินลั่วฉิงเมื่อกี้ เธอก็อดโมโห ขึ้นมาไม่ได้

ไม่รู้ว่าทำไม รู้สึกโมโหและโกรธขึ้นมาอย่างอธิบายถูก

ท่านปู่ถังอึ้งไปเล็กน้อย อดที่จะเหลือบมองไปที่เธอไม่ ได้ เอ๋ นี่โกรธจริงๆเหรอเนี่ย ดูท่า เธอจะชอบนังหนูเมื่อ กี้จริงๆ เพื่อนังหนูคนนั้นแล้ว ถึงกับยอมว่าร้ายคนอื่นลับ หลัง
ว่าร้ายคนอื่นลับหลัง เขาก็ไม่เคยชอบข้อนี้มาโดยตลอด แต่ว่าตอนนี้ฟังที่ภรรยาตัวเองพูดคำนี้ เขากลับรู้สึกว่า ใช้ได้ดีทีเดียว แตงเบี้ยวพุทราแยกเธอใช้คําได้ดีทีเดียว

“ท่านย่าถัง พวกคุณ………” จางเย่วผิงเห็นพวกเขาทั้งสอง คนแล้ว เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเต็มหน้า

“ท่านย่า? ฉันแก่ขนาดนั้นเลยหรือ? ถังหลินของฉันบอก ฉันว่านับวันฉันยิ่งดูอ่อนเยาว์ขึ้น” ปกติท่านย่าถังมักจะ พูดคุยด้วยง่ายเป็นพิเศษ แต่ว่าตอนนี้กลับพูดคุยด้วย ยากเป็นพิเศษ

เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะเรื่องเมื่อกี้ของเงินลั่วฉิง

ตอนสมัยสาวๆท่านย่าถังนั้นเป็นสาวสวยอันดับหนึ่งเลย ทีเดียว ปกติดูแลบำรุงอย่างดี แล้วยังมีทัศนคติที่ดี(จิตใจ ที่คิดบวก) ยามว่างก็ยังไปเรียนเต้นละติน เล่นโยคะ ดัง นั้นลักษณะบุคลิกภาพค่อนข้างดีเป็นพิเศษ เอวนั้นยังตรง กว่าคนหนุ่มสาวทั่วไป ถึงแม้ว่าอายุจะเจ็ดสิบกว่าแล้ว แต่ กลับดูไม่แก่เลยสักนิด

ดูแล้วอ่อนเยาว์กว่าจางเย่วผิงที่อายุห้าสิบกว่าด้วยซ้ำ

จางเย่วผิงตะลึงไป มองไปทางท่านย่าถังด้วยความ แปลกใจเล็กน้อย
“กลับเป็นเธอ แค่ดูก็รู้ว่าแก่เกินวัย วันหลังฉันจะแนะนำ สถานที่ให้สองสามแห่ง เธอลองไปดู ได้ยินว่าผลลัพธ์ใน การซ่อมแซมผิวค่อนข้างดี ฉันไม่เคยลอง แต่ฉันรู้สึกว่า เธอน่าจะต้องใช้มัน

ซ่อมแซมผิว? ซ่อมแซมผิว! ซ่อมแซมผิว? ! ว่าจางเย่วผิง แก่แล้วก็แล้วไปเถอะ ยังจะให้คนอื่นเขาไปซ่อมแซมผิว อีก?

ผิวหนังจะซ่อมแซมได้อย่างไร? พูดภาษาชาวบ้านหน่อย ก็คือการศัลยกรรม

ความหมายของท่านย่าถังคือบอกว่าจางเย่วผิงต้องไป ทําศัลยกรรมแล้ว ก็เท่ากับว่าท่านย่าถังเปลี่ยนคำด่าว่า จางเย่วผิงขี้เหร่

ต้องบอกเลยว่า ท่านย่าถังตอกกลับคนด้วยคำพูดขึ้นมา ก็ทําให้คนอกแตกตายไม่ต้องชดใช้ได้เหมือนกัน

จางเย่วผิงโมโหจนปอดแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว ผู้ หญิงคนหนึ่งถูกด่าว่าแก่ ถูกด่าว่าขี้เหร่ ไม่โมโหก็แปลก แล้ว

เธอไม่ใช่เวินลั่วฉิง ทำไม่ได้เหมือนกับเวินลั่วฉิงที่สงบ และเยือกเย็นอย่างนั้น
แต่ว่าคนๆนี้คือท่านย่าถัง ถึงเธอจะโกรธมากแค่ไหนก็ไม่ กล้าแสดงออกมาต่อหน้า

แต่ว่า รอให้เจิ้งฉุนของตระกูลเขาได้เป็นหัวหน้าแล้ว ถึง เวลานั้นดูสิว่าตระกูลถังยังจะจองหองอวดดีอย่างไร ถึง เวลานั้น ตระกูลกู้จะต้องให้ตระกูลถังรู้สึกว่าตายไปซะยัง ดีกว่ามีชีวิตอยู่เสียอีกอย่างแน่นอน

ท่านย่าถังมองไปที่สีหน้าของจางเย่วผิงที่เปลี่ยนไปมา แล้วยิ้มเย้ยหยันในใจ ผู้หญิงคนนี้ต้องคิดอะไรชั่วร้ายใน ใจอยู่แน่นอน

“ไปเถอะ” ท่านปู่ถังเหลือบมองจางเย่วผิงแวบหนึ่ง แวว ตาขรึมลงเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก พาท่านย่า ถังเดินเข้าไปข้างใน

ทันทีที่ท่านย่าถังเข้าไปในห้องก็เริ่มมองหาเงินลั่วฉิง เห็นว่าเงินลั่วฉิงกำลังเลือกผลไม้อยู่ เธอก็ยิ้มออกมา เล็กน้อย “ฉันจะไปคุยกับนังหนูคนนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะ สามารถหลอกกลับไปให้ถังหลินทำเมียได้จริงๆ”

ท่านปู่ถังยิ้มออกมาอย่างจนปัญญาเล็กน้อย

“ท่านถังมาแล้วเหรอ มา มา เรามาสู้กันสองรอบ” ตอนที่ ท่านปู่กู้เห็นท่านปู่ถัง ก็ตะโกนเรียกออกมาเสียงดัง
ตามหลักแล้ว อิทธิพลและบารมีของท่านปู่ถังในแปด ตระกูลใหญ่เหนือกว่าท่านปู่กู้อย่างมาก และในอดีตท่าน ปู่ถังก็เคยเป็นหัวหน้ามาแล้วถึงสองวาระ แต่ท่านปู่กู้ไม่ เคยได้เป็นหัวหน้า ดังนั้น คำเรียก ท่านถังที่ท่านปู่กู้เรียก ออกมานั้นถือได้ว่าไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่จริงๆ

เห็นได้ชัดว่าตระกูลกู้รู้สึกว่าเรื่องที่กู้เจิ้งฉุนจะได้เป็น หัวหน้านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ดังนั้น ดังนั้น การเคารพนอบน้อมท่านปู่ถังจึงน้อยลงไปกว่าปกติ

คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนฉลาดและตื่นตัว เดิมทีก็ได้รับ ข่าวมาแล้ว เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของท่านปู่กู้ ต่างก็รู้ดีขึ้นมา ในใจทันที

ดูท่าครั้งนี้ตระกูลกู้จะขึ้นไปแล้วจริงๆ ตระกูลกู้ขึ้นไป แล้ว ตระกูลถังจะต้องจบเห่แน่นอน ทุกคนคิดกันแบบนี้ ท่าทีก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยอยู่แล้ว!

เพียงแต่ว่าเรื่องบางอย่าง…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ