บทที่ 209 คุณชายสามเย่เป็นคนใจดำอำมหิต (4)
บทที่ 209 คุณชายสามเย่เป็นคนใจดำอำมหิต (4)
แต่ว่าคำตอบของเมื่อกี้เขาก็พอใจมากแล้ว
และสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าเขาจะไม่ไป จัดการอย่างแน่นอน เขาคิดว่าอีกไม่นานก็คงจะแพร่ข่าว นี้ออกไป พอถึงเวลานั้นคุณปู่เวินก็ต้องเห็นอย่างแน่นอน
เขากลับรอคอยด้วยความหวัง อยากเห็นว่าคุณปู่เวินจะ ทำเรื่องที่ว่าบ้าคลั่งนั้นอย่างไรกัน? จะน่ากลัวเหมือนกับ ที่เธอพูดหรือเปล่า?
ขณะนี้เย่ซือเฉินยิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอก
เวินลั่วฉิงเห็นเขากำลังยิ้ม ก็รู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก
วัตถุประสงค์ของเธอตอนแรกคือหาวิธีแก้ไขเรื่องที่เกิด
ขึ้นในห้างสรรพสินค้า แต่ทำไมสุดท้ายไม่เพียงแต่แก้ ปัญหาไม่ได้ ยังหลงเข้ากับดักของเขา จนเผลอพูดในสิ่ง ที่ไม่ควรพูดออกไป?
ผู้ชายคนนี้ทำไมช่างรำคาญและเจ้าเล่ห์จริงๆ
เวลานี้มุมปากของเย่ซือเฉินยกขึ้นตลอด รอยยิ้มบน ใบหน้ายิ่งสดใสขึ้นทุกวินาที ไม่มีความคิดจะปิดบังต่อ หน้าผู้หญิงที่กำลังกลัดกลุ้มอยู่เลย
เห็นสีหน้าที่ได้ใจและรอยยิ้มที่โอ้อวดของเขา เวินลั่วฉิ งอยากจะเขาไปกัดเขาเสียให้ตายไปเลย
ตอนนี้เย่ซือเฉินได้เริ่มสตาร์ทรถแล้ว เวินลั่วฉิงเห็นนิ้ว มือเรียวยาวที่เซ็กซี่เร้าใจของเขาอยู่ที่พวงมาลัยรถ เธอก็ คิดอยากจะใช้กัดเขาแรงๆหนึ่งคำ
แต่เธอก็พยายามสุดแรงที่จะยับยั้งความคิดของตัวเอง
ไว้
ตอนนี้เธอเป็นรองกับเขาอยู่ หากเธอกัดเขาแล้ว เขาอาจ จะไหวตัวทัน แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?
ในสายตาของเธอในตอนนี้ เขาก็คือสุนัขจิ้งจอกที่มี เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
ดูผิวเผินจากรูปลักษณ์แล้ว ก็เป็นแค่ความเฉยชาของคน ธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วสามารถทำทุกอย่าง ได้อย่างไม่มีความปรานีใดๆ
ตอนนี้เงินลั่วฉิงรู้สึกหดหู่มากมาย และตอนนี้เย่ซือเฉิน ยังจงใจหัวเราะเสียงดังออกมาให้ได้ยินอีก
เป็นลั่วฉิงรู้สึกตัวเองทนไม่ไหวแล้ว เธอจึงเอาตุ๊กตาใน รถมา จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปที่หน้าของตุ๊กตา
เธอทิ่ม! ทิ่ม! ทิ่ม! ทิ่มแรงๆ! ทิ่มให้เขาตายไปสัก
“ไม่เจ็บนิ้วเหรอ? “เย่อเฉินเห็นใบหน้าของเธอแล้ว รู้สึกขา เธอเอาตุ๊กตามาแทนเขาแล้วระบายอารมณ์เห รอ?
ที่จริงคนที่เธออยากทีมคือเขามากกว่า?
ดูเหมือนว่าเขาจะยุเธอร้อนใจแล้วจริงๆ!
“คุณไม่ต้องมายุ่ง” เวินลั่วฉิงกำลังโมโหอยู่ จึงพูดตอบ เขาด้วยน้ำเสียงที่ดุด่า
เย่ซือเฉินหยุดชะงัก รอยยิ้มบนใบหน้าเขายิ่งเบิกบาน ขึ้นมาอีก เขาชอบเวลาที่เธอโกรธ มันช่างเป็นตัวของตัว เองและน่ารักจริงๆ
และไม่ได้มีความระแวงกับเขาแม้แต่น้อย
“หรือผมให้คุณติ๋ม คุณอยากทิ่มที่ไหนก็ได้ “เย่ซือเฉิน เอียงตัวไปใกล้เธออย่างกะทันหันอีกครั้ง น้ำเสียงได้จงใจ แฝงความรักที่คลุมเครือไว้
“จอด ฉันจะลงจากรถ”เวินลั่วนึงรีบหลบอย่างรวดเร็ว
เธอรู้สึกว่าหากเธอยังอยู่ในรถกับเขาต่อ คงต้องเป็นบ้า ไปแล้วแน่ๆ เธออยากจะออกไปสูดอากาศที่บริสุทธิ์สัก หน่อย
ดวงตาของเย่ซือเฉินกะพริบเบาๆ จากนั้นก็จอดรถที่ข้าง ทางจริงๆ เมื่อรถจอดเงินลั่วฉิงก็รีบเปิดประตูรถแล้วเดิน ออกไป
เย่ซือเฉินแค่มองเธอ ไม่ได้ห้ามเธอแต่อย่างใด
เขาคิดว่าเวลานี้เธอลงจากรถ อาจจะไปหาวิธีแก้ไขเรื่อง ในห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ตอนที่เกิดเหตุการณ์จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว ครึ่งชั่วโมง อยากจะปิดข่าวให้มิดไม่ให้รั่วไหลแม้แต่น้อย คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
เขาอยากจะดูว่าเธอจะทำยังไง? หากเธอไปทำจริงๆ เขาก็จะสามารถจับเธอได้คาหนังคาเขาเลย พอถึงเวลานั้นเธออยากจะปฏิเสธก็ไม่มีผลแล้ว
หลังจากที่เวินลั่วฉิงลงจากรถก็ได้สงบลง
สําหรับเรื่องในห้างสรรพสินค้า เธอรู้สึกว่าเย่ซือเฉินคง ไม่อยู่เฉยๆหรอก
เพราะหากข่าวแบบนั้นได้เผยแพร่ออกไปก็คงไม่มี ประโยชน์ต่อเย่ซือเฉินเลย และไม่ได้เป็นสิ่งที่เย่ซือเฉิน ต้องการด้วย
คุณปู่เย่ไม่พอใจในตัวเธอมาก คุณปู่เย่ไม่มีใจที่จะ จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองงานแต่งเลย เพราะไม่อยากจะ ยอมรับเธอ หากเรื่องในห้างสรรพสินค้าของเมื่อกี้ได้แพร่ ออกไป ต้องทำให้คุณปู่เย่รู้สึกโมโหอย่างแน่นอน พอถึง เวลานั้น เย่ซือเฉินอยากจะได้หุ้นในบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป คงจะยากเสียแล้ว
และที่สำคัญยังมีเมิ่งโร่ถึงอยู่กับเขาอีกด้วย
ถึงแม้เมิ่งโร่ถึงจะรู้เรื่องที่พวกเขาแต่งงานกันแล้ว แต่เพิ่ง โร่ถึงก็รู้ว่าแค่แต่งงานกันในนามเท่านั้น ถ้าเกิดเมิ่งโร่ถึง เห็นภาพที่เขาจูบเธออยู่ คงจะต้องเข้าใจผิดแน่นอน
เย่ซือเฉันคงไม่อยากให้เพิ่งโร่ถึงเข้าใจผิดแน่นอน
ดังนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่เย่ซือเฉินจะไม่ สนใจเรื่องนี้จริงๆ
เมื่อคิดอย่างนี้ได้ เวินลั่วฉิงก็รู้สึกเบาใจลง
เพียงแต่เมื่อมาคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ในรถ เงินลั่วฉิงก็ยังรู้สึก หดหู่ใจอยู่ดี เธอรู้สึกว่าเธอต้องการที่จะระบายอารมณ์ ซึ่งมีคนเคยพูดว่าการช้อปปิ้งคือวิธีระบายอารมณ์ที่ดี ที่สุด
หลังจากที่เงิน วฉิงลงจากรถ เย่ซือเฉินก็ได้โทรไปหา เฉิงจื่อ สั่งให้เฉิงจื่อแอบติดตามเวินลั่วฉิงเงียบๆ คอย สังเกตว่าเธอจะทําอะไรบ้าง?
ห้าปีมานี้เธอไม่ได้อยู่ในเมือง Aเลย หากคุณสมบัติเช่น นี้ยังสามารถสยบข่าวในห้างสพรรสินค้าได้ ก็คง…….
เงินลั่วฉิงกลับมาที่ห้างสรรพสินค้าหยินซิงอีกครั้ง แต่ เย่อหยู่นานก็ไม่ได้อยู่แล้ว ผู้ชายที่ตึกชั้นห้าก็ไม่อยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงเริ่มช้อปปิ้ง การซื้อของเป็นวิธีระบายที่ดีจริงๆ ซื้อของมากมายในเวลาเดียวกัน เงินลั่วจึงรู้สึกว่าอารมณ์ กลับมาดีขึ้นแล้ว รู้สึกสบายใจขึ้น
แน่นอน ตอนที่กำลังซื้อของอยู่นั้น เธอยังคงกังวลว่า เย่ซือเฉินจะไม่จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้า และเธอยิ่งกังวลว่าจะมีสายเรียกเข้าจากคุณปู่อย่าง กะทันหัน
เธอคิดถึงขั้นที่ว่า หากคุณปู่รู้แล้วเธอจะพาเด็กทั้งสอง กลับไปที่ประเทศ M ดีไหม?
พอถึงเวลานั้นคุณปู่ก็จะหาเธอไม่เจอ
คุณปู่หาเธอไม่เจอก็จะบังคับไม่ได้!
เงิน วฉงช้อปปิ้งไปกว่าสองชั่วโมง เธอไม่ได้รับสายจาก คุณปู่เลย
เวินลั่วฉิงเอามือถือออกมาตรวจดูข่าวทั้งหมดก็ไม่มีเรื่อง ที่เกี่ยวกับเธอกับเย่ซือเฉินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าเลย
มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้น ในที่สุดก็สามารถยิ้มได้อย่าง สบายใจเสียที เธอรู้อยู่แล้วไม่มีทางที่เย่ซือเฉินจะไม่ จัดการเรื่องนี้
เย่ซือเฉินถึงแม้จะใจดำหน่อยๆ เจ้าเล่ห์นิดๆ แต่พอถึง เวลาที่จําเป็นก็เข้าท่าดีไม่เบาเลย
ในห้องทํางานส่วนตัว ขณะนี้สีหน้าของเย่ซือเฉิน เคร่งขรึมมาก สามชั่วโมงผ่านไปแล้วยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับ เรื่องในห้างสรรพสินค้าเลยแม้แต่น้อย
ไม่ได้เปิดเผยออกมาแม้แต่น้อย แค่รูปถ่ายก็ไม่มี เป็นการปิดข่าวที่แยบยลมากเลยทีเดียว
ดวงตาของเย่ซือเฉินค่อยๆหรี่ขึ้น มันช่างเป็นวิธีที่ยอด
เยี่ยมจริงๆ
เขาสั่งให้เฉิงจื่อคอยติดตามเงินลั่วฉิงไว้ แต่ไม่มีข่าวจาก เฉิงจื่อเลย ถ้าเช่นนั้นก็คงไม่ได้เป็นฝีมือของเวิน วฉิง หรอก
แต่เขารู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องถามให้แน่ใจก่อน เขาจึงได้ โทรไปหาเฉิงจื่อ “เวลานี้เธอทำอะไรบ้าง? ”
“เธอ ซื้อของอยู่ตลอด ซื้อของได้มากเลยครับ”น้ำเสียง ของเฉิงจื่อธรรมดามาก
“ซื้อของ? แค่ซื้อของเหรอ? “เย่ซือเฉินหยุดชะงัก เธอลงจากรถก็ไปซื้อของแล้ว? ใช้เวลาซื้อไปกว่าสอง ชั่วโมง?
“ครับ เธอซื้อของที่เด็กใช้มากมายเลยครับ”เฉิงจื่อคิดดู แล้วจึงเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค อาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ จำเป็นต้องรายงาน
“ของใช้เด็ก? “เย่ซือเฉินหยุดชะงัก หางคิ้วยกขึ้น เธอ ซื้อของใช้เด็กทำไมกัน?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ