บทที่ 192 คุณชายเย่สามพบเข้าแล้ว(2)
บทที่ 192 คุณชายเย่สามพบเข้าแล้ว(1)
เงินลั่วฉิงโทรหาเห่อถงถงต่างหาก แต่ว่าเห่อถงถงไม่ได้ รับสาย สนามบินกว้างมาก จะหาคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เงินลั่วฉิงเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่ลดละ
“เช็ดดูหน่อย ว่าคุณหญิงได้จองตัวอะไรไว้หรือเปล่า” เย่ซือเฉินเห็นเธอเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อน คิดว่าเธอ อาจจะไม่ได้มารัคน? แต่จะมานั่งเครื่องเพื่อจะจากไป?
“ครับ” รับคําสั่งจากท่านประธาน เลขาหลิวไม่กล้าชักช้า แต่อย่างไร รีบโทรศัพท์ไปสอบถาม
สายตาของเวิน วฉิงมองไปรอบสารทิศ แต่กลับไม่เห็น พวกเห่อถงถง หันหลังกลับโดยสัญชาตญาณ คิดอยาก จะออกไปดูว่าข้างนอกว่ามีหรือเปล่า
หรือเพราะเธอมาช้า เห่อถงถงจึงได้พาลูกน้อยออกมา แล้ว เธอรีบร้อนเดินไปข้างหน้า ไม่ได้สนใจด้านนอก เท่าไรนัก
เย่ซือเฉินมองเห็นที่เธอหันกลับมา สายตาเปล่งประกาย ไม่ได้หลบแต่อย่างไร เขายังคงยืนอยูที่เดิม ตำแหน่ง ที่เขายืนอยู่ หากเธอหันกลับมา ต้องมองเห็นเขาอย่าง แน่นอน
เขาอยากรู้ว่าหากเธอเห็นเขาแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
เพียงแต่ เวินลั่วฉิงหันมาแค่ครึ่งตัว โทรศัพท์ก็ได้ขึ้น ทันที เป็นเห่อถงถงที่โทรเข้ามา
“ฉิงฉิง เมื่อกี้ไม่ได้ยิน เธอถึงสนามบินหรือยัง? จื่อซียัง ไม่ตื่นเลย ฉันอุ้มเขานั่งอยู่ข้างในสักพัก” เสียงของเห่อ ถงถงเบาเป็นพิเศษ คงเกรงว่าจะรบกวนเด็กน้อยที่อยู่ใน อ้อมอกของเธอ
“อืม ฉันถึงสนามบินแล้ว พวกเธออยู่ไหน ฉันไปหาพวก เธอเอง” เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าคนคนเดียวพาเด็กสองคนที่อายุสี่ ขวบกว่านั่งเครื่องเป็นเรื่องที่ลําบากพอสมควร และจื่อ ก็ ยังหลับอย่างสะลึมสะลืออีกด้วย
จื่อซี ไม่นอนแล้ว หม่ามี้ถึงแล้ว หม่ามี้มารับพวกเราแล้ว เห่อถงถงเขย่าจื่อซีเบาๆ ไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่จื่อซี ที่นอนตัวตั้งจู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา มีพลังทันที
“ได้ยินว่าหม่ามี้มาแล้วก็ไม่นอนเลยนะ ยังไงก็รักแท้ๆ แม่มากกว่า แม่บุญธรรมจะเสียใจแล้วนะ” เห่อถงถง แกล้งทำท่าเสียใจ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยื่น โทรศัพท์ไปที่มือของถังจื่อซี
หม่ามี้ ใช่หม่ามี้มั้ย? ถังจื่อซีรับโทรศัพท์ เสียงที่อ่อน หวานก็ถูกส่งออกไป
“อืม หม่ามี้เองจ๊ะ หม่ามี้มารับหนูแล้วนะ” เงินลั่วฉิงได้ยิน เสียงของลูกสาว ทั้งหัวใจอบอุ่นขึ้นมาทันที มุมปากอดไม่ ได้ที่จะยกขึ้น รอยยิ้มที่ใบหน้าค่อยๆเบ่งบาน
เมื่อกี้เวินลั่วฉิงที่หันร่างกายมาครึ่งหนึ่ง ทำให้เวลานี้ด้าน ข้างของเธอประสานกับประตูสนามบิน ตำแหน่งที่เย่ซือ เฉินยืนนั้น สามารถเห็นรอยยิ้มที่เบิกบานบนใบหน้าของ เธอพอดี
นัยน์ตาของเย่ซือเฉินได้หรี่ลง เธอโทรหาใครกันแน่ถึง ยิ้มได้เบิกบานเพียงนี้
นัยน์ตาที่หรี่ลงของเย่ซือเฉินเย็นชาขึ้นเล็กน้อย เป็น สายของใคร ถึงทำให้เธอยิ้มอย่างดีใจเพียงนี้? มีความ สุขเพียงนี้?
คิดถึงความสุขสองตัวอักษรนี้ เย่ซือเฉินกัดฟันอย่าง เงียบๆ
เขาจำได้ว่าครั้งก่อนที่เธอวิดีโอคอลกับคนอื่นในห้อง นอน เธอก็ยิ้มเบิกบานแบบนี้ หรือว่าครั้งนี้กับครั้งที่วิดีโอ คอลคือคนคนเดียวกัน?
เงินลั่วฉิงรับโทรศัพท์แล้ว รีบเดินไปข้างในสนามบิน แค่ คิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะได้เจอหน้าลูกน้อยทั้งสองแล้ว ฝีเท้า ของเธอก็เบาและเร็วมาก
เย่ซือเฉินเห็นท่าทางที่มีความสุขของเธอ นัยน์ตามืดมน ลงเล็กน้อย เวลานี้ เขามั่นใจว่าเธอมารับคนอย่างแน่นอน
เขาจะคอยดู เป็นใครที่ทำให้เธอมีความสุขจนเดิน เหมือนจะ “ลอย” ได้?
เย่ซือเฉินตามเข้าไปข้างใน แต่เขาไม่ได้เข้าใกล้เงินลั่วฉิ งมากนัก ได้เว้นระยะห่างไว้พอสมควร
จุดโฟกัสของเวินลั่วฉินทั้งหมดอยู่ที่ลูกสาวที่กำลังคุย โทรศัพท์ด้วย จึงไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติใดๆ
“หม่ามี้ หม่ามี้มารับพวกเราจริงๆใช่มั้ย? หนูจะได้เห็น หม่ามี้แล้วใช่มั้ย? หม่ามี้ไม่ได้โกหกจื่อซีเหมือนเมื่อก่อน ใช่มั้ย?” คำพูดของถังจื่อซีมีแฝงด้วยการกล่าวโทษที่ ชัดเจน
“ไม่แล้วจ้า หม่ามี้ถึงสนามบินแล้ว ในไม่ช้าจื่อซีก็จะ ได้เจอหม่ามี้แล้วนะ” เวินลั่วฉิงได้ยินคํากล่าวโทษของ ลูกสาวรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก หลังจากเธอแต่งงา นกับเย่ซือเฉิน ไม่ค่อยมีอิสรภาพเลย เหมือนจะไม่ใช่ครั้ง แรกที่ผิดนัดลูกสาว
“ดีจังเลย ดีจังเลย อีกเดี๋ยวก็ได้เจอหม่ามี้แล้ว” ถังจื่อซี ตะโกนขึ้นมาทันที: “พี่คะ พี่คะ พวกเราจะได้เจอหม่ามี้แล้ว”
“รู้แล้ว เดี๋ยวก็ได้เจอหม่ามี้แล้ว” เสียงของคุณชายน้อย ถังจื่อโม่ก็ถูกส่งผ่านมาทางโทรศัพท์
ได้ยินคำพูดของลูกชาย เสียงกรี๊ดกร๊าดของลูกสาว เป็นลั่วฉิงอดไม่ได้ที่หัวเราะออกมา
เย่ซือเฉินห่างจากเธอพอสมควร จึงไม่ได้ยินเสียง หัวเราะของเธอ แต่กลับเห็นไหล่เธอสั่นเล็กน้อยจากการ ที่หัวเราะ
เห็นเธอที่อยู่ด้านหน้าหัวเราะได้อย่างสะดีดสะดิ้ง สีหน้า ของเย่ซือเฉินยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ตอนนี้เขาเป็นถึงสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอ เขา
ยังไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนี้มาก่อนเลย
“ลูกจ๋า เอาโทรศัพท์ให้แม่บุญธรรมนะ” เงินลั่วฉิงถึงแม้ อยากคุยกับลูกสาวนานหน่อย แต่ตอนนี้ต้องรู้ก่อนว่าพวก เขาอยู่ตรงจุดไหน
“ฉิงฉิง เธอไม่ต้องเข้ามาแล้ว รออยู่ตรงจุดรับผู้โดยสาร ละกัน เดี๋ยวจะคลาดกันอีก ฉันพาเด็กน้อยสองคนออกไป เอง” เห่อถงถงรับสาย พูดไปสองสามประโยค
“ไม่มีปัญหานะ?” เงินลั่วฉิงยังคงกังวลเล็กน้อย
“ไม่มีปัญหาจ้า สัมภาระก็เอามาแล้ว จื่อซีตื่นแล้วก็ไม่มี ปัญหาอะไรแล้วละ
“ได้” เวินลิ่วฉินตอบ แล้ววางสายลง จากนั้นเดินไปยังจุด รับผู้โดยสาร รอลูกน้อยสองคนออกมา
เย่ซือเฉินยังคงรักษาระยะห่างกับเธอ ยืนไกลๆอยู่ด้าน
หลังของเธอ
เขาก็ไม่ได้ตั้งใจหลบซ่อน แต่เงินลั่วฉิงตั้งแต่ต้นจนถึง ตอนนี้ก็ยังไม่ได้หันหลังกลับ จึงมองไม่เห็นเขา
จุดนี้ก็ทำให้เย่ซือเฉินหดหู่ไม่น้อย
จุดโฟกัสทั้งหมดของเธออยู่ที่โทรศัพท์ ทั้งหมดอยู่ที่คน ที่เธอจะมารับ อย่างอื่นเธอไม่ได้สังเกตเลย
เขาจะคอยดูว่าตกลงเธอมารับใครกันแน่? เป็นใครกัน แน่ที่ทําให้เธออาลัยอาวรณ์ได้เพียงนี้?
ถึงจื่อโม่ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก เวลานี้มือหนึ่งลาก กระเป๋า อีกมือหนึ่งจุงถังจื่อซี
สัมภาระของเห่อถงถงค่อนข้างจะเยอะ แต่ก็สามารถ แบ่งมืออีกข้างมาจุงถังจื่อซี กลัวว่าถังจื่อซีจะเดินหลง
“แม่คะ หนูจะเข้าห้องน้ำ” เดินมาได้ประมาณครึ่งทาง ถังจื่อซีหยุดเดิน มองไปที่เห่อถงถง เบ้ปากเล็กน้อย โดย ปกติตอนที่เป็นลั่วฉิงไม่อยู่ เด็กน้อยทั้งสองก็จะเรียกเขา ว่าแม่
“ลูกจ๋า ปวดมากมั้ย?” เห่อถงถงเห็นว่าใกล้ถึงทางออก แล้ว ไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะอั้นไว้หรือเปล่า
เพราะเขามีเด็กถึงสองคน ยังมีสัมภาระอีกจำนวนมาก เธอกลัวว่าคนเดียวจะดูไม่ทั่วถึง หากว่าเด็กซียังพอทน ไหว รอออกไปข้างนอกเจอกับฉิงฉิงแล้วก็จะไม่มีปัญหา
อืม ถังจื่อซีพยักหน้าอย่างแรง แฝงไว้ด้วยความน่า สงสาร ดูท่าทางแล้วน่าจะอั้นไม่ไหว
“เอาละ พวกเราเข้าห้องน้ำกันก่อน” ถึงแม้ตอนนี้จะมี สัมภาระน้อยใหญ่หลายชิ้น เห่อถงถงก็ตัดสินใจพาเด็ก น้อยเข้าห้องน้ำ ไม่ว่าจะยังไง ก็ไม่อยากให้เด็กอั้นฉี่!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ