บทที่ 142 ผู้หญิเงของชายสามเย่ (3)
บทที่142 ผู้หญิเงของชายสามเย่ (3)
เมิ่งโร่ถิงเห็นเธอก็ตัวแข็งทื่อไปด้วยเช่นกัน ดวงตาขยิบ รั่วๆด้วยสีหน้าที่สงสัย “คุณเป็นแม่บ้านใหม่ของที่นี่หรือ ค่ะ? ”
เงินลั่วฉิงตกตะลึงเล็กน้อยจึงไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้
ยอมรับว่าใช่หรือไม่
เพราะสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉินมันสลับซับ ซ้อน บางเรื่องบางคำเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี
“พอดีเลย คุณช่วยฉันบนของข้างนอกเข้ามาหน่อย ค่ะ”เวินลั่วฉิงไม่ได้ปฏิเสธ เมิ่งโร่ถึงจึงคิดว่าเป็นแม่บ้าน จริง
เวิน วฉิงมองของที่เพิ่งโร่ถึงได้ลากกระเป๋าเดินทางเข้า มาก็ใหญ่เอาการอยู่แล้ว แล้วยังจะให้ไปขนอีก ตกลงเธอ เอาของมาเยอะเท่าไหร่กัน?
เมิ่งโร่ถึงได้เดินออกไปอย่างเร่งรีบก่อน เวินลั่วฉิงจึงได้ เดินตามออกไปด้วย
แต่ตอนที่เงินลั่วฉิงออกไป ไม่ทันระวังไปกดโดนกลอนประตู ทำให้ประตูปิด
ข้างนอกยังมีกระเป๋าเดินทางอีกสองใบบวกกับกระเป๋า ถืออีกหนึ่งใบ เมิ่งโร่ถึงเอากระเป๋าถือแล้วลากกระเป๋า เดินทางเข้าไป เงินลั่วฉิงจึงช่วยเธอลากกระเป๋าเดินทางที่ เหลืออยู่อันนั้น
ท่าทีของเมิ่งโร่ถิงทะมัดทะแมงและรวดเร็วเดินน่าเธอไป ก่อนจนถึงหน้าประตูทางเข้า
เมื่อกี้เมิ่งโร่ถึงเดินเข้ามาเอง เวิน วฉิงคิดว่าน่าจะรู้รหัส ของประตู แต่เมิ่งโร่ถึงไม่ได้ป้อนรหัสผ่านแต่เป็นการใช้ ลายนิ้วมือโดยตรงให้ประตูเปิดออก
ดวงตาของเวินลิ่วฉิงกระพริบไปมา เธอเป็นภรรยาที่จด ทะเบียนสมรสกับเย่ซือเฉิน แต่จนถึงบัดนี้ เธอก็แค่รู้รหัส ผ่านของประตู ไม่ได้บันทึกลายนิ้วมือเข้าไปเลย
แต่ในทางกลับกัน เมิ่งโร่ถึงกลับใช้ลายนิ้วมือเปิดได้
เห็นทีว่าเย่ซือเฉินกับคุณเพิ่งจะเป็นชู้กันจริงๆ ถ้าเป็น เช่นนี้เธอก็ไม่ต้องกังวลว่าเธอกับเย่ซือเฉินจะมีต้อง คลุกคลีอะไรอย่างอื่นแล้ว พอถึงเวลาตามเงื่อนไขใน สัญญา ซึ่งก็คือเมื่อเย่ซือเฉินได้หุ้นส่วนจากบริษัทตระกูล เย่กรุ๊ปเมื่อไหร่ เธอกับเย่ซือเฉินก็สามารถที่จะหย่าร้างกัน ได้แล้ว และเธอก็จะสามารถไปจากที่นี่ได้
ในเวลานี้เวิน วฉิงรู้สึกเบาใจลง
“คุณ ทำไมคุณถึงจ้องมองฉันอย่างนี้ล่ะ? “เมิ่งโร่ถึง สบตาเธอ จู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา “ฉันขอบอกคุณว่าฉัน ชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ”
เมิ่งโร่ถึงตีความหมายแววตาของเงินลั่วฉิงผิดไป
เงินลั่วฉิงหยุดชะงักพลางแอบยิ้ม หรือเป็นเพราะท่าทาง ของเธอเด่นชัดเกินไป?
“โอ้โห มีของอร่อยๆด้วย ฉันหิวจะตายแล้ว ฉันกินกับ คุณได้ไหมค่ะ? “เมิ่งโร่ถึงเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นกับข้าว ที่เป็นลั่วฉิงวางไว้บนโต๊ะ ดวงตาก็เกิดแสงประกายขึ้นมา ชั่วขณะ
“ได้ค่ะ”เธอได้ทำกับข้าวไว้เยอะ ยิ่งทั้งสีหน้าของเมิ่งโร่ ถึงเช่นนี้ เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
“ดีจังเลย”ทันใดนั้นเมิ่งโร่ถึงก็ร่าเริงขึ้นมาโดยไม่เก็บ ซ่อนความดีอกดีใจของตนเอาไว้
เงินลั่วฉิงทนไม่ไหวหัวเราะขึ้นมา ท่าทีเมื่อกี้ของเมิ่งโร่ ถึงทำให้เธอคิดถึงเด็กน้อยจื่อซีเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่ จื่อซีเห็นของที่เอร็ดอร่อยก็จะมีปฏิกิริยาอย่างนี้แหละ
เงินลั่วฉิงถึงขั้นรู้สึกว่าสีหน้าท่าทางนั้นเหมือนกันมาก
เงินลั่วฉิงรู้สึกว่าตนไม่มีอคติต่อเมิ่งโร่ถึงเลย
พอกินข้าวไปได้สักพัก ประตูบ้านได้เปิดออกอีกครั้ง คน ที่เข้ามาครั้งนี้คือเย่ซือเฉินนั่นเอง
ดวงตาของเวินลิ่วฉิงวาววาม เธอนึกไม่ถึงว่าเย่อเฉินจะ กลับมาเช้าอย่างนี้
แต่หลังจากนั้นก็นึกได้ว่ามีเมิ่งโร่ถิงมา เขาจึงต้องกลับ เช้าแน่นอน
เขากลับมาตอนนี้ แล้วเธอล่ะ? ?
“พี่กลับมาแล้วหรือ แม่บ้านที่พี่จ้างมาใหม่คนนี้ทำอาหาร ได้อร่อยมากเลย”เมิ่งโร่ถึงเงยหน้าขึ้นมองเย่ซือเฉินแวบ หนึ่ง แบบไม่ได้หยุดกินข้าวเลย
แต่ในทางตรงกันข้ามกลับกินเร็วขึ้นอย่างกับกลัวใครจะ มาแย่งเธอกิน
“คุณเป็นแม่บ้านที่จ้างมาใหม่? “ดวงตาของเย่ซือเฉินรีบ จ้องมองเวินลั่วฉิง แววตาที่เยือกเย็นระคนภัยอันตรายที่ ทําให้คนตกใจกลัวยิ่งนัก
แม่บ้าน? เธอแนะนำตัวเองอย่างนี้กับโร่ถึงหรอ?
“ทำไมหรอ? ไม่ถูกตรงไหนหรอค่ะ? “เมิ่งโร่ถึงสะดุ้ง เล็กน้อย ดวงตาได้จ้องมาทั้งคู่สลับไปมา เมื่อเห็นสีหน้าที่ เคร่งขรึมของเย่ซือเฉินก็สามารถรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบ มาพากลอะไรสักอย่าง
เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ดวงตาทั้งคู่จับจ้องม องเวินลั่วฉิงอย่างไม่ละสายตาไปไหน ราวกับกำลังรอให้ เวินลั่วฉิงตอบคำถาม
“เออ ฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้ว ฉันกลับห้องนอนก่อน นะ”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเวลานี้เธอน่าจะดูบรรยากาศแล้ว ออกไปเสียจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะอยู่ตรงนี้เป็น ก ข คหรือ อย่างไรกัน
เวินลั่วฉิงพูดจบก็ไม่รอให้เย่ซือเฉินเอ่ยปาก ก็วิ่งขึ้นไปที่ ชั้นสองตรงไปยังห้องนอนของเธอ
สีหน้าของเย่ซือเฉินเคร่งขรึมถึงขีดสุด
“เธอไม่ใช่แม่บ้าน? แล้วเธอเป็นใครกัน? “เห็นแต่เพียง สีหน้าที่เคร่งขรึมของเย่ซือเฉินราวกับโดนคนอื่นขุดหลุม ฝังศพของบรรพบุรุษทิ้ง
เมิ่งโร่ถึงก็รู้ว่าเธอเข้าใจผิดเรื่องสถานะของผู้หญิงคนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่บ้าน
แม่บ้านคือสิ่งที่เธอเออออขึ้นมาเอง ผู้หญิงคนเมื่อกี้ไม่ ได้ยอมรับสักหน่อย
“เพื่อนสาวของคุณ? ”
“คนรัก? ”
“แฟนสาว? “
ไม่รอให้เยซือเฉินตอบเธอก็เริ่มคาดเดาขึ้นไม่ แท้จริง แล้วก็มิได้คาดหวังว่าเย่ซือเฉินจะตอบคําถาม เพราะด้วย นิสัยของเย่ซือเฉิน เมื่อเจอคำถามในลักษณะเช่นนี้ก็จะ เงียบตอบ
“พี่แต่งงานแล้ว”เย่ซือเฉินไม่อยากให้เธอหายไปเรื่อย เปื่อย ประเด็นคือทายตั้งนานก็ทายไม่ถูก
“พี่ พี่แต่งงานแล้วหรือ? “เมิ่งโร่ถึงพูดด้วยความ ประหลาดใจอย่างอดใจไม่ได้ สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เห็น ได้ชัดว่าเธอคาดไม่ถึงว่าจะมีผลสรุปเป็นเช่นนี้
เมิ่งโร่ถึงกลืนน้ำลายลงคอ พลางกะพริบตารั่วๆ ทันใด นั้นก็เข้าใจขึ้นว่า”ดังนั้น เธอเป็นภรรยาสาวของพี่หรือ? ”
เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบ เพียงแต่สีหน้ายิ่งลุ่มลึกเข้าไปใหญ่
อะไรที่เรียกว่าภรรยาสาว เขาแก่มากงั้นหรือ? เขาแค่ มีอายุมากกว่าเธอแค่ 4 ปีเอง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธ เมิ่งโร่ถึงจึงรู้ว่าตัวเองพูดถูก แล้ว สีหน้าเผยรอยยิ้มแปลกๆขึ้นมากะทันหัน “ทำไมฉัน ถึงรู้สึกว่าภรรยาสาวของพี่ไม่ได้แคร์พี่มากสักเท่าไหร่? จะว่าไปเธอเหมือนกำลังจะจับคู่เราสองคนอยู่นะ”
“น้องพูดมากจัง”เย่ซือเฉินกวาดสายตามองเธอแวบหนึ่ง มีนัยว่ากำลังแจ้งเตือนอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นเสียงที่ เยือกเย็นเข้าถึงกระดูกเลย
เรื่องนี้ผู้หญิงที่สมควรตายคนนี้แสดงออกมาได้อย่าง เด่นชัด ซึ่งเขามีตาสามารถมองออกเองได้ ดังนั้นไม่ จำเป็นที่จะต้องมาเตือนเขา
ขณะนี้เขามีความรู้สึกที่อยากจะหยิกผู้หญิงที่สมควร ตายคนนั้นให้ตายเสียจะดีกว่าอย่างใจร้อน
เห็นเมิ่งโร่ถึงเก็บกวาดอาหารบนโต๊ะจนเรียบ ในใจเขายิ่งหดหู่ขึ้นมาอีก
อาหารที่ภรรยาเขาทํา แม้แต่เขาก็ไม่เคยได้กิน ตอนนี้ กลับให้คนนอกฉวยโอกาสมากิน กงั้น
“โอ้ พี่โมโหแล้วหรือ? ฉันก็แค่พูดเรื่อยเปื่อย พี่ไม่จําเป็น ต้องโกรธขนาดนี้มั้ง? เมื่อก่อนพี่ไม่เคยมีอารมณ์อย่างนี้ เลยนะ”ดวงตาของเมิ่งโร่ถึงแสดงความดีใจและตื่นเต้น อย่างกับค้นพบทวีปใหม่อย่างไงอย่างนั้น
เขาไม่ใช่คนที่โกรธง่ายอะไรอย่างนี้มาก่อน
แต่ครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังโกรธอยู่ และมันก็ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเสียด้วยซ้ำ
“พี่ว่า เป็นไปได้ไหมที่จะมีสาเหตุอื่นอีก? “หลังจากที่เพิ่ง โร่ถิงกินอิ่มหนำสำราญก็ยิ่งมีความรู้อยากเห็นเป็นล้นพ้น
เย่ซือเฉินมองเธอด้วยแววตาที่เย็นดั่งน้ำแข็ง คิ้วขมวด เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจกับประโยคที่เธอพูดขึ้นมาอย่าง กะทันหันนี้
“เป็นไปได้ไหมว่าเธอแสร้งทำเป็นไม่แคร์ แต่แท้จริงแล้ว กำลังหึงหวงอยู่? จากนั้นก็แอบไปเสียใจคนเดียวอยู่ที่ ห้องนอน? “เมิ่งโร่ถึงรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้ในด้านนี้สูง เพราะเขานั้นเป็นคนที่เก่งกาจเพียบพร้อม เหมือนจะไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานเสน่ห์ของเขาได้ เลย
เย่อเฉินหยุดชะงักมองเมิ่งโร่ถึงแวบหนึ่ง จากนั้นก็ลุก ขึ้นไปที่ชั้นสองโดยตรง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ