เมียลึกลับของประธานเป

บทที่ 101 พวกเขาสามีภรรยานี่จะร้ายเกินไปแล้ว



บทที่ 101 พวกเขาสามีภรรยานี่จะร้ายเกินไปแล้ว

บทที่ 101 พวกเขาสามีภรรยานจะร้ายเกินไปแล้ว

เธอไม่มีทางปล่อยเงินลั่วฉิง เธอจะทําลายชื่อเสียงของ เงินลั่วฉิง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

ริมฝีปากของเย่ซือฉุนกระตุกอย่างรุนแรง พวกเขาสอง สามีภรรยานร้ายไม่แพ้กันเลยจริง ๆคุณหนูเวินคนนี้ พูดจาทิ่มแทงเฉียวหยูหนานอย่างเคียดแค้น หลังจากนั้น พี่เขาก็เอามีดเล่มนั้นทิ่มแทงเข้าไปอย่างไร้ปรานี มันน่า โมโหจริง ๆ!!

“ทำไมถึงแกพูดจาแบบนี้?” คุณย่าเย่คาดไม่ถึงว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้ เมื่อเธอเห็นท่า ทีของเย่ซือเฉินที่มีต่อเงินลั่วฉิงแล้วยิ่งโกรธจนแทบจะ กระอักเลือด

หลานเธอสมบูรณ์แบบขนาดนี้ จะโง่ถึงขนาดที่จะได้รับ ผลกระทบเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

ไม่ เธอจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด

หรือว่า นี่จะเป็นความอิจฉาของแม่สามีที่เห็นลูกสะใภ้ เป็นศัตรูโดยธรรมชาติ อย่างที่เขาว่ากันในนิทาน!!
“ฉันพูดอะไรผิดงั้นเหรอคะ?” เป็นลั่วฉิงหันไปถามคุณย่า เย่ และกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา

“แก…” เมื่อคุณย่าเย่เห็นหน้าไร้เดียงสาของเงินลั่วฉิง แล้วก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์เสีย แต่ในเวลานี้เธอกลับพูดอะไร ไม่ออก ประโยคที่เงินลั่วฉิงพูดไปเมื่อครู่ มันไม่มีคำพูด ไหนเลยที่ต่อต้านเฉียวหยูหนานโดยตรง

“คุณย่าเย่ อย่าโมโหไปเลยค่ะ วันนี้เป็นงานเลี้ยงของ บ้านพวกคุณ อย่าเสียอารมณ์เพราะฉันเลยค่ะ งั้นเดี๋ยว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” เฉียวหยูหนานฉลาดจริง ๆ คราวนี้เธอรู้ดีว่าการที่เธอกลับไปจะเป็นทางเลือกที่ฉลาด ที่สุด

หากเธอกลับตอนนี้ มันจะทำให้คุณย่าเย่รู้สึกผิดต่อเธอ แต่จะทำให้เงินลั่วฉิงยิ่งรังเกียจเธอ

และแน่นอนว่า การที่เธอกลับตอนนี้ ก็จะทำให้เธอยิ่ง มีสติตอนอยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉิน และจะได้ภาพที่เห็นอก เห็นใจ

ในอนาคต เธอจะได้มีโอกาสอื่น ๆ ตอนอยู่ต่อหน้าเย่ซือ เฉิน

“หยูหนาน เธอ…” คุณย่าเย่ลุกขึ้นยืนตาม ใบหน้าของ เธอมีคำขอโทษอยู่เล็กน้อย
“คุณย่าเย่ คุณไม่ต้องส่งฉันหรอกค่ะ” เฉียวหยูหนานรีบ พูดตัดบทคุณย่าเย่ ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่ต้องการ ให้มีปัญหาอื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม เธอไม่สามารถปล่อยให้เชือ เฉินรู้สึกไม่พอใจกับเธออีกเด็ดขาด

“พี่มือเฉิน ขอให้พวกคุณมีความสุขกับการแต่งงานนะ คะ ฉันจะไม่รบกวนพวกคุณแล้วค่ะ” เฉียวหยูหนานพู ดกับเย่ซือเฉินอย่างจริงใจถึงที่สุด เมื่อเธอพูดจบ ก็ไม่มี ใครหยุดเธออีก เธอเดินหันหลังและจากไปอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของเย่อเฉินแสดงอารมณ์ออกมาไม่มากนัก

เมื่อคุณย่าเย่มองไปที่เวินลั่วฉิง ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ และ รังเกียจเธอมากขึ้น

ภายในใจของเวินลั่วฉิงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เฉียวหยู

หนานนี่ฝีมือดีจริง ๆ

เย่ซือฉุน มองไปที่เวินลั่วฉิงอยู่แวบหนึ่ง และยกมุมปาก ขึ้นมาเล็กน้อย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าพี่สะใภ้ของเขาน่าสนใจ มาก!!

แม้ว่าคุณย่าเย่จะไม่พอใจเวินลั่วฉิงเป็นอย่างมาก แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซือเฉินแล้ว มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอ ไม่สามารถที่จะหาเรื่องเงินลั่วฉิงโดยที่ไม่มีเหตุผลได้
เมื่อคุณปู่เย่นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเวินลั่วฉิงและ บริษัทเว้ยคังแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรแย่ ๆ ออกมาอีก

ดังนั้น ระหว่างทานอาหารมื้อนั้น สถานการณ์จึงค่อน ข้างสงบ

หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จ เย่ อเฉินถูกคุณ ปู่เย่เรียกเข้าไปคุยในห้องสมุด

คุณย่าเย่มองเวินลั่วฉิงยังไงก็รู้สึกขัดตา เพื่อที่จะให้พ้น สายตา เธอจึงกลับไปที่ห้องทันที

ทั้งห้องโถงจึงเหลือเพียงแค่เงินลั่วฉิงและเย่ซือฉุน

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่แกล้งโง่อยู่สินะครับ?” จู่ ๆเย่ซือฉุนเดิน เข้ามาใกล้ ๆ ตัวเงินลั่วฉิง ลงนั่งอยู่ข้าง ๆ และถามขึ้นมา

เวินลั่วฉิงมองไปที่เขา ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูด อะไร

เย่ซือฉุน “………”

เขาคิดว่าคําถามของเขา ไม่ว่าเธอจะตอบหรือไม่ เขา ก็มองอะไรบางอย่างออกอยู่แล้ว แต่รอบยิ้มของเธอมัน หมายความว่ายังไงกันนะ?
นอกจากนี้ รอยยิ้มนี้ของเธอในขณะนี้ เขามองอะไรไม่ ออกจริง ๆ

“พี่สะใภ้ใหญ่ ทำไมพี่ถึงแต่งงานกับพี่ใหญ่เหรอครับ?” เย่ซือฉุนไม่ยอมแพ้ และตัดสินใจที่จะเปลี่ยนคำถาม เขา คิดว่าคำถามของเขาเฉียบคมมาก และมันเป็นคำถามที่ ตอบได้ค่อนข้างยาก

เวิน วฉิงมองไปที่เขา บนใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้ม จาง ๆ “เพราะฉันคือพี่สะใภ้ใหญ่ของคุณไงล่ะ”

เย่ อฉุน “…”

ให้ตายเถอะ อย่างนี้มันถือว่าเป็นคำตอบงั้นเหรอ?

มันถือว่าเป็นคำตอบหรือเปล่านะ? แต่ว่า

ริมฝีปากของ เย่ซือฉุนกระตุกอย่างรุนแรง เขารู้สึกว่า พี่ สะใภ้ใหญ่ของเขาคนนี้ ไม่ก็คนไร้เดียงสาที่อ่อนต่อโลก

ไม่ก็เป็นปรมาจารย์ที่ซ่อนฝีมือไว้ลึก ๆ

เย่ซือฉุนรู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างหลังจริง แน่นอนว่าเขาคง ไม่สามารถที่จะล้วงข้อมูลใด ๆ ออกมาง่าย ๆ
“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่เล่นเกมเป็นไหมครับ?” เย่ซือฉุนตัดสิน ใจที่จะเลิกลองเชิง แต่เปลี่ยนวิธีการแทน ก่อนอื่นเขาต้อง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่สะใภ้ใหญ่ก่อน เมื่อความสัมพันธ์ ที่ดีแล้ว ก็จะมีโอกาสมากขึ้น เขาต้องได้รู้อะไรบางอย่าง แน่นอน

“พี่สะใภ้ใหญ่ ผมสอนพี่เล่นเกมดีกว่า เกมนี้เล่นง่ายและ น่าสนใจอยู่ ที่สำคัญคือสนุกมาก” เย่ซือฉุนไม่รอคำตอบ จากเงินลั่วฉิง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาไว้ตรงหน้าของ เวินลั่วฉิง

เวินลั่วฉิงกะพริบตาปริบ ๆ เขารอบคอบขนาดนี้เธอจะ มองไม่ออกได้อย่างไร

เวินลั่วฉิงรู้ดีว่าเย่ซือฉันต้องการที่จะจับตาดูเธอ ถ้าเกิด ว่าเธอยิ่งปฏิเสธ เขาก็จะยิ่งจับจ้องเธอ

ถ้าเกิดว่ารอบนี้เธอปฏิเสธที่จะเล่นเกมกับเขา เขาต้อง คิดหาวิธีอื่นมาหลอกล่อเธออย่างแน่นอน

แน่นอนว่าเธอมีวิธีที่จะทำให้เย่ซือฉุนออกห่างจากเธอ แต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้

เมื่อเวินลั่วฉิงนึกได้ว่าเย่ซือเฉินตามคุณปู่เย่ไปที่ห้อง สมุด ให้เธอมานั่งเล่นเกมฆ่าเวลาก็เป็นความคิดที่ไม่แย่ เหมือนกัน
แน่นอนว่า มันยังเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจาก เย่ซือฉุนได้อีกด้วย

เย่ซือเฉินเดินออกมาจากห้องสมุด เมื่อลงไปข้างล่าง เขาก็เห็นเวินลั่วฉิงกำลังนั่งเล่นเกมกับเย่ซือฉุนอยู่ตรง โซฟา ทั้งสองคนนั่งชิดกันมาก แถมเย่ซือฉุนยังโน้มตัวไป หาเธออีก อีกนิดก็จะแปะทับตัวเธอแล้ว

“เร็ว พี่เร็วหน่อย…” เย่ซ่อฉุนตะโกนออกมาเสียงดัง น้ำ เสียงดูรีบร้อนมาก เขาเข้าไปใกล้ข้างหน้าของเงินลั่วฉิง และอยากเล่นแทนเธอใจจะขาด แต่ว่า…

“…….ตาย ตายอีกแล้ว” เย่ซือฉุนแทบจะบ้า อารมณ์ของ เขาในตอนนี้เกินคำบรรยายใด ๆ

จู่ ๆ เขาก็มีความรู้สึกว่าชีวิตนั้นสิ้นหวัง หัวของเขาอ่อน แรงมากและเอียงพิงไปที่ไหล่ของเงินลั่วฉิง เย่ซือฉุนตอน นี้ช่างดูสิ้นหวังเสียจริง ไม่มีแม้กระทั่งความคิดใด ๆ อยู่ใน หัวของเขา

เย่ซือเฉินหรี่ตาลง และรีบเดินลงบันไดไปที่โซฟา เขาดึง เวินลั่วฉิงขึ้นมา จากนั้น เย่ซือฉุนก็ล้มลงบนโซฟา

เวิน วฉิงตะลึง ความจริงแล้ว ถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะไม่ดึง เธอ เธอก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงออกมาเองได้อยู่แล้ว
เย่ซือฉุนเงยศีรษะขึ้น เมื่อเห็นดูสีหน้าหมอง ๆของพี่ใหญ่ ก็ตื่นขึ้นมาทันที เขาต้องการที่จะลุกออกจากโซฟา แต่ว่า อาจจะเป็นเพราะว่าตกใจมากเกินไป เขากลับลุกไม่ขึ้น สุดท้ายก็กลิ้งตกลงมาจากโซฟา

เย่ซือเฉินมองเขาแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาโอบก อดเงินลั่วฉิงและเดินจากไป

เงินลั่วนิ่งมองออกว่าเย่ซือเฉินอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก แต่ไม่น่าใช่เพราะเย่ซือฉุน แต่เกรงว่าน่าจะรู้สึกไม่สบ อารมณ์จากการคุยกับคุณปู่เย่ในห้องสมุด

เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร และเธอก็ไม่ได้ถามเยอะด้วย ในระหว่างทางเงียบมาก ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรเลยทั้งสิ้น

เมื่อถึงคฤหาสน์ เย่ซือเฉินไม่ได้เข้าไป เขาเพียงปล่อย

ให้เงินลั่วฉิงลงจากรถ และขับรถออกไป

หลังจากที่เงินลั่วฉิงลงมาจากรถ สีหน้าของเย่ซือเฉินมี ความมืดมนและน่ากลัวมากขึ้น

เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณปู่เย่ที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้ใน ห้องสมุด แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเฉยเมย…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ