เมียลึกลับของประธานเป

ตอนที่ 61 ลูกรักกลับมาแล้ว



ตอนที่ 61 ลูกรักกลับมาแล้ว

ตอนที่ 61 ลูกรักกลับมาแล้ว

เงินลั่วฉิงออกมาจากสถานีตำรวจได้ไม่นานก็ลงจากรถ ถึง แม้จะรู้ว่าคุณชายห้าฉิงช่วยเธอสกัดกั้นเย่ซือเฉินไว้แล้ว แต่ก็ กันไว้ดีกว่าแก้ เธอรอบคอบไว้หน่อยก็ดี

ยิ่งไปกว่านั้น เธอมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องท่า คงจะให้รถ ตำรวจไปส่งไม่ได้ ถ้าหากให้รถตำรวจส่งเธอกลับไปจริง ๆ เกรงว่าหลาย ๆ เรื่องไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกเปิดโปงแน่นอน

เวินลั่วฉิงเรียกแท็กซี่ไปยังโรงแรม เธอจะกลับไปทั้งสภาพนี้ ไม่ได้ ของของเธออยู่ที่โรงแรมทั้งหมด

เมื่อมาถึงโรงแรม เวินลั่วฉิงรีบลบการแต่งหน้าเข้ม ๆ ออกจาก ใบหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็อาบน้ำล้างกลิ่นทั้งหมดให้ออก ไปจากตัว โดยเฉพาะเส้นผม เธอล้างอย่างพิถีพิถัน เกรงว่าจะ เหลือร่องรอยที่ไม่ควรเหลือไว้ ในเมื่อวันนี้เย่ซือเฉินไปดักเธอ ที่สถานีตำรวจ เธอจะไม่ระวังตัวไม่ได้

เมื่ออาบนํ้าเสร็จ ก็เป่าผมจนแห้ง จากเดิมทีผมที่เป็นลอนก็ เปลี่ยนเป็นผมตรง เธอแต้มกระบนใบหน้าให้เหมือนเดิมทุก ประการเหมือนเวลาปกติ ใส่แว่นแก่ ๆ แล้วเปลี่ยนชุด

เวินลั่วฉิงกำลังจะออกไป จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นพอดี เธอมองดูเบอร์โทรที่แสดงขึ้น เงินลั่วฉิงรับสายอย่างรวดเร็ว “รุ่นพี่คะ เรื่องคดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
เงิน วฉงนึกว่ารุ่นพี่โทรมาเวลานี้เพื่อถามถึงเรื่องคดี

“ฉิงฉิง ฉันโทรหาเธอไม่ใช่เรื่องคดี” อีกฝ่ายนึงของโทรศัพท์ นํ้าเสียงของชายหนุ่มดูจริงจัง

“ไม่ใช่เรื่องคดี?” ถึงแม้ว่าจะแค่คุยผ่านโทรศัพท์ แต่เป็นลั่วฉิ งก็สามารถฟัง เสียงที่แปลก ๆ ของรุ่นพี่ออก “รุ่นพี่คะ เกิด อะไรขึ้นคะ?”

“จื่อโม่กับจื่อ อาจจะไปหาเธอแล้ว” ชายหนุ่มเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างช้า ๆ

หมายความว่ายังไงคะ?” เงิน วฉิงตกตะลึง จากที่เธอเป็น

คนฉลาด กลับรู้สึกตามไม่ทันไปชั่วขณะ

“ก่อนหน้านี้ฉันมีภารกิจจึงออกไปข้างนอก จ่อโม่ฉวยโอกาส ตอนคุณน้าออกไปซื้อกับข้าว ทิ้งโน้ตไว้ จากนั้นก็พาจื่อซีออก ไป บนโน้ตเขียนว่าจะไปหาเธอ ฉันเช็ดเที่ยวบินเรียบร้อย แล้ว พวกเขาขึ้นเครื่องบินที่จะไปเมือง A จริง ๆ เดาว่าอีกไม่กี่ ชั่วโมงก็จะถึงแล้ว”

เงินลั่วฉิงสูดลมหายใจเข้าอย่างแรงจื่อโม่ถึงแม้ว่าจะฉลาด ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เขาเพิ่งจะแค่สี่ขวบ เด็กที่มีอายุแค่สี่ขวบคาด ไม่ถึงว่าจะบินจากประเทศ M มาที่เมือง A ด้วยตัวเอง? แถมยัง พาน้องสาวน่ารักมาด้วยอีกคน!

เด็กคนนี้ใจกล้ามากเกินไปแล้ว ถ้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น…

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นั้น เงินลั่วฉิงรู้สึกได้ว่าตนเองจู่ ๆ ก็ เหงื่อแตกทั้งตัว เรื่องแบบนั้นเธอไม่กล้าคิดด้วยซ้ำ

“เธอไม่ต้องเป็นกังวลไป ฉันได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่บนเครื่อง บินแล้ว เด็กสองคนนั้นอยู่บนเครื่องบินอย่างดี ประมาณห้าโมง เย็นสิบห้านาทีถึงสนามบิน เธออย่าลืมไปรับพวกเขา” ถึงแม้ เงินลั่วฉิงจะไม่ได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกได้ถึงความกลัวของเธอ ในเวลานั้น เขารู้ว่าเธอต้องเป็นกังวลอย่างแน่ แต่ว่าเด็ก ๆ ต้อง ให้ผู้ใหญ่ไปรับ เขาไม่บอกเธอไม่ได้

“อ้อ ค่ะ” เวลานี้เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ โชคดี โชคดี ที่เด็ก ๆ ไม่เป็นอะไร

เวิน วฉิงด้านนี้เพิ่งจะวางสายไป สายของเห่อถงถงก็โทรเข้า

มาพอดี

“ฉิงฉิง จื่อโม่ส่งข้อความมาหาฉัน ฉันเพิ่งทำธุระเสร็จ เพิ่งจะ เห็นข้อความ เขาให้ฉันไปรับที่สนามบินตอนห้าโมง มันเรื่อง อะไรกัน?” เมื่อรับสาย เสียงของเห่อถงถงก็ดังขึ้น

“เขาให้เธอไปรับ?” เงินลั่วฉิงแอบสูดหายใจเข้า ความคิดของ เด็กคนนี้ช่างกล้าจริงๆ ไม่บอกเธอล่วงหน้าสักคำ แล้วก็ส่งข้อ ความให้ถงถงไปรับ

“ใช่ ส่งข้อความหาฉัน ฉันเพิ่งจะเห็น โชคดีที่ยังทันเวลา ไม่ล่าช้าแน่นอน แต่ว่าจื่อโม่ทำไมจู่ ๆ ถึงมาเมือง A? แถมยังส่ง ข้อความให้ฉันไปรับ?” เรื่องของเงินลั่วฉิง ถงถงรู้ดีที่สุดแล้ว ตามหลักแล้ว เวลานี้ไม่ควรรจะให้ลูกรักทั้งสองมาที่นี่

“เขาพาจื่อซีนั่งเครื่องจากประเทศ M กลับมาเมือง A คน เดียว” เสียงของเงินลั่วฉิงหนักแน่น ถึงแม้จะรู้ว่าเด็กทั้งสองคน ไม่เป็นไร แต่เธอก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี

“หา? เด็กคนนี้ช่างกล้าจริง ๆ” เห่อถงถงตกใจ น่าเสียงก็มี ความกังวลอยู่เล็กน้อย “งั้นห้าโมงฉันไปสนามบินรับพวกเขา มาที่บ้านฉันก่อน เธอสะดวกเมื่อไหร่ก็มาที่ฉัน

เห่อถงถงรู้ว่าตอนนี้เงินลั่วฉิงเป็นกังวลมากกว่าเธอ ร้อนใจมา กกว่า ดังนั้นเลยไม่ได้พูดอะไรมาก

“ตกลง ขอบใจนะ” เวินลั่วฉิงคิดถึงสถานการณ์ของตนเองใน

ตอนนี้ ก็ไม่สะดวกจริง ๆ ยังโชคดีที่มีถงถง

“ขอบใจอะไร? ฉันไม่ได้เจอเด็กน้อยสองคนนานแล้ว คิดถึง มาก ๆ ดีใจจนแทบไม่ทัน ฉันรับเด็กสองคนแล้วจะโทรหาเธอ เธอวางใจได้” เสียงของเห่อถงถงดีใจ เธอคิดถึงเด็กน้อยสอง คนแล้วจริง ๆ

“ตกลง” เวินลั่วฉิงตอบรับเสียงเบา มีถงถงอยู่เธอวางใจอยู่ แล้ว พูดตามความจริงเธอก็คิดถึงลูกรักทั้งสองคนมากแล้ว อยากจะบินไปรับลูกรักทั้งสองที่สนามบินตอนนี้ด้วยซ้ำ
แต่ท่าทางเมื่อคืนของเปซียเงินกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้ เธอไม่กล้าบบบ้าน

เธอกลัวเป อเฉินจ้องจับตาดูเธอจริง ๆ

ก่อนหน้านี้เธอสงสัยว่าเปลือเงินอาจจะเป็นผู้ชายเมื่อห้าปี ก่อนคนนั้น ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริง ๆ งั้นเปซื้อเฉินก็อาจจะเป็น พ่อของลูกรักทั้งสองคน

เมื่อคิดได้ถึงความเป็นไปได้นี้ ร่างกายของเงินลั่วฉิงก็หยุด ชะงัก มันมีความเป็นไปได้ไหม?

เมื่อห้าปีก่อนเธอข่มขืนเขา แถมยังขโมยลูกทั้งสองคนของ เขา ถ้าหากเป็นแบบนี้จริงเย่ซือเฉินจะจัดการกับเธอไหม? เธอ รู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาต้องทำแน่นอน

ไม่รู้ว่าเย่ซือเฉินออกจากสถานีตำรวจแล้วหรือยัง?

เงินลั่วฉิงเก็บกวาดเสร็จเรียบร้อย ก็ออกจากโรงแรมแล้วก ลับไปที่คฤหาสถ์

ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้รู้สึกว่าตอนที่ตนเองอยู่ที่สถานีตำรวจจะ มีพิรุธอะไรให้เย่ซือเฉินสามารถสงสัยในตัวเธอได้ แต่เรื่องที่ เย่ซือเฉินวันนี้จู่ ๆ ก็ไปดักเธอที่สถานีตำรวจมีเลศนัยมาก

บวกกับการกระทำแปลก ๆ พวกนั้นของเขาเมื่อคืน เพื่อ เป็นการกันไว้ดีกว่าแก้ เธอรู้สึกว่ายังไงก็ต้องกลับไปที่คฤหาสถ์ให้เร็วที่สุด

ขณะที่เงินลั่วฉิงรีบเร่งกลับไปที่คฤหาสถ์ แต่กลับไม่เห็นรถ ของเย่ซือเฉิน จึงแอบสูดลมหายใจเข้า โชคดีที่เขายังไม่กลับ

มา

“ไปไหนมา?” เพียงแต่เมื่อเงิน วฉิงเปิดประตู ยังไม่ทันจะ เปลี่ยนรองเท้า จู่ ๆ เสียงเย็นชาหนักแน่นก็ดังขึ้น แม้เธอจะเป็น คนใจเย็นขนาดไหนก็ถูกทําให้ตกใจจนเหงื่อแตกได้

เย่ซือเฉินกลับมาแล้ว? เขากลับมาบ้านเร็วขนาดนี้ หรือว่า สงสัยเธออยู่เหรอ?

แถมฟังจากเสียงของเขาที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด เกรง

แม้ว่าจะเป็นกังวลในขณะนี้ เวิน วฉิงกลับไม่กล้าแม้แต่จะ ให้รั่วไหลแม้แต่นิด เธอเปลี่ยนรองเท้าเดินเข้าห้อง ใบหน้ายิ้ม แหยมองไปทางเขา “สามีคะ คุณกลับมาเร็วจังเลยค่ะ”

เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามา หาเธอทีละก้าว ๆ จนระยะห่างประมาณหนึ่งเมตรจากเธอก็ หยุดเดินลง ดวงตาที่เย็นชาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธอ

เมื่อถูกเขามองเช่นนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกหวาดผวานิดหน่อย กำลัง จะพูดขึ้น
เพียงแต่เยซือเฉินจู่ ๆ ก็ยกมือขึ้นแล้วยื่นมือมาที่หน้าเธอ เว้นล้วฉงนึกว่าเขาจะลูบหน้าของเธอ แต่เธอคาดไม่ถึงคือ มือของเขากลับยื่นไปที่หูของเธอ จากนั้นก็บีบใบหูของเธอ สายตาของเขามองตามไปที่มือตรงตำแหน่งใบหูของเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ