บทที่507 กูอยากให้ถึงแนะนำอะไรหน่อย
พอได้ยินคำพูดนั้นก็ทำให้ซูจ้านถึงกับสะอึก เสิ่นเผยชวนทน ไม่ได้จริงๆ เพราะไอ้บ้า บ้านเรื่องพูดอะไรโง่ๆ ออกมา ก็ทำให้ ฉินยาเริ่มโมโห ทั้งชีวิตมันก็อย่าหวังจะได้ผู้หญิงคนนี้กลับมาเลย เขาจึงลากซูจ้านออกมา ” ถึงไปรอกทางโน้นไป เดี๋ยวตอนนี้ก จัดการเอง ”
ซูจ้านรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะตัวเขานั้นมักจะคิดแทนหลิน ซินเหยียนเสมอ กลัวว่าใครจะแย่งจงจึงห้าวไป พอถูกด่าเข้าไป ในใจก็เริ่มอยู่ไม่สุข
” เผยชวนผู้หญิงสมัยนี้ทำไมถึงปากคอเราะร้ายแบบนี้นะ……
‘ซูจ้าน จึงหยุดก่อนได้ไหม ” เสิ่นเผยชวนกุมขมับ เขาจะโดน ไอ้โง่นี่ทำให้โมโหจนตายเลยหรือยังไง
ซูจ้านถอนหายใจ ” มึงจัดการแล้วกัน ” พูดจบเขาก็เดินไปบ่น ไป ในใจยังคิดว่าก็ไม่ได้อยากจะยุ่งสักเท่าไหร่หรอก
เสิ่นเผยชวนเห็นว่าบ้านเดินออกไปไกลแล้วก็หันมาทางฉัน ยา ” เธอคือฉินยาใช่ไหม ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ไม่รอให้ ฉินยาปฏิเสธ เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า ” เพราะซูจ้านมันไม่รู้นะ ก็ อย่างว่านะคนที่อยู่นอกสถานการณ์ก็มักจะมองได้ทะลุปรุโปร่ง กว่าอยู่แล้วล่ะ ”
ฉินยารู้ว่าเสิ่นเผยชวนเป็นคนที่สุขุมพอควร ถ้าเปิดปากพูด แล้วละก็ แสดงว่าต้องสังเกตถึงอะไรบางอย่าง เธอเม้มปากและ ยิ้มแบบขอไปที ” ฉันรู้แล้วล่ะ ”
” แล้วทำไมเสียงถึงเปลี่ยนล่ะ ตั้งใจตัดเหรอ ” เสิ่นเผยชวน ถามอย่างเป็นห่วงเป็นใหญ่
ฉินยาส่ายหน้า ” กล่องเสียงเสียหายได้เหมือนกันนะ ”
เส้นเผยชวนถอนหายใจอย่างโล่งอก ” ไม่เป็นไรนะ ยังไงเสียง ตอนนี้ก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก ” เขายื่นมือไปขอโทรศัพท์ของฉัน ยา ” เธอรู้ข่าวของพี่สะใภ้บ้างไหม ”
ฉันยายื่นโทรศัพท์ให้เขา เธอรู้ดีว่าไม่ควรพูดจาอ้อมค้อม อืม ฉันออกจากโรงพยาบาลก็ไปตามหาเธอ แล้วก็อยู่กันด้วยกัน มาโดยตลอด
เสิ่นเผยซวนกดเบอร์โทรศัพท์ของจงจึงห้าวให้เธอแล้วส่งคืน แล้วอธิบายแทนซูจ้านไปว่า ” นิสัยหัวร้อนของมันเธอก็คงรู้ดี อาจจะแปรปรวนไปบ้าง แต่อยากให้รู้ไว้ว่าเป็นห่วงไม่เคยคิด ร้าย เมื่อกี้มันจำเธอไม่ได้ มันคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่จะมาให้ท่าจึง ห้าวน่ะ เป็นเพราะพี่สะใภ้ไม่อยู่ด้วยแหละ มันเลย….. ” ประโยค ที่เหลือเขายังไม่ทันพูดจบ แต่ก็เชื่อว่าฉินยาคงเข้าใจ
ฉินยาแสดงท่าทีว่าเข้าใจ ” ฉันหวังว่าคุณจะปกปิดความลับ ให้ฉันได้ อย่าบอกเขาว่าฉันเป็นใคร ไม่ใช่เพราะว่าฉันปล่อยวาง อดีตที่ผ่านมาไม่ได้ แต่แค่ไม่อยากให้เขามาวุ่นวาย ฉันต้องการ ใช้ชีวิตอย่างสงบ ”
เส้นเผยชวนมองไปที่เธอสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า ” ฉันไม่ บอกมันหรอก ต้องให้มันลิ้มรสชาติของความลำบากเสียบ้าง ไม่ งั้นก็คงทำผิดอีก ฉันเห็นด้วยกับวิธีที่เธอท่านะ ”
” เปล่าหรอก ” ฉินยารีบอธิบาย ” ฉันไม่ได้กำลังลงโทษเขา ฉันแค่ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีก ความรักของเรามัน เหนื่อยกันไป ฉันไม่อยากยุ่งแล้วเรื่องพวกนี้สักพัก อย่างตอนนี้ ฉันก็ยุ่งมาก คุณก็เห็นว่าวันนี้คนเยอะแค่ไหน นิทรรศการวันนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากนี้ก็ยังมีงานอีก มากมายที่ต้องทํา ”
เสิ่นเผยชวนถอนหายใจ ” โอเค ฉันเคารพการตัดสินใจของ เธอ ” ก่อนเขาจะหันตัวเดินจากไป เหมือนว่าจะคิดอะไรได้บาง อย่างจึงหันกลับมาพูดกับฉินยา ” ช่วงที่ผ่านมานี้มันใช้ชีวิตได้ไม่ ค่อยดีเท่าไหร่ ตัวมันเองก็ทรมานมากไม่ต่างกัน ใช้ชีวิตอย่าง หมดอาลัยตายอยาก ในแต่ละวัน ไม่ใช่ว่าพักนี้มีเรื่องเกิดขึ้น มากมายเลยยุ่งตลอด แม้แต่ตอนนี้สภาพของมันก็ยังไม่ค่อยดี เช่นกัน ”
ฉินยาฟังแต่ไม่ได้พูดตอบอะไร
เสิ่นเผยชวนแค่อยากบอกให้เธอรู้ไม่ได้อยากเห็นถึงท่าทีของ เธอที่แสดงออก เพราะจุดนี้เขารู้ดีว่าซูจ้านคงไม่มีวันที่จะได้รับ การให้อภัย
” ดูแลตัวเองด้วย ”
เสิ่นเผยชวนพูดจบก็หันตัวจะเดินไป ฉันยายิ้มออกมา ” คุณเองก็ดูแลสุขภาพด้วยนะ อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว รีบหาแฟนได้แล้ว ละ ”
เมื่อได้ยินคำว่าแฟนเสิ่นเผยชวนก็ดันไปนึกถึงซางหมูได้ยังไง ก็ไม่รู้ พอนึกถึงซางหยู ก็คิดถึงจูบที่คาดไม่ถึง ในวันนั้น
จากนั้นเขาก็รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก
เขารีบเร่งฝีเท้าเหมือนจะอยากหนีไปให้ไกลจากอะไรบาง อย่าง ฉินยาเห็นเขารีบผลุนผลันออกไปก็หัวเราะออกมา คนที่ เงียบครีมมาโดยตลอดอย่างเสิ่นเผยชวนก็มีช่วงเวลาที่กระโตก กระตากกับเขาเหมือนกัน
ขณะอยู่บนรถจงจึงห้าวก็โทรศัพท์หากวนจิ้ง
ใช่ จองเที่ยวบินไปเมืองที่เร็วที่สุดให้หน่อย ”
ไม่นาน ก็มีเสียงกวนจึงตอบกลับมา ” เที่ยวบินที่เร็วที่สุดก็ คงจะเป็นพรุ่งนี้เวลาเจ็ดโมงครึ่งครับ ”
“อืม จอง ให้ฉันหนึ่งใบ ” พูดจบเขาก็วางสายไป ซูจ้านยืนพิง เสาไฟริมถนน ก่อนจะหันไปจ้องจงจึงห้าว ” อะไรอีกเนี่ย จะรีบไป ทำอะไรที่เมืองงั้นเหรอ ”
จงจึงห้าวไม่ได้หันไปมองเขา แต่ตอบออกมาเนิบๆ ” เรื่องของ บริษัท พวกมึงกลับไปก่อนเถอะ ”
พูดจบก็บอกรถแท็กซี่ แล้วจากไปซูจ้าน
เขารู้สึกว่าตัวเองยิ่งอยู่ยิ่งไม่เข้าใจจงจึงห้าวขึ้นทุกที
เสิ่นเผยชวนรู้อยู่แล้วว่าจงจึงห้าวจะไปทำอะไร ดังนั้นก็เลยไม่ ได้ถาม ก่อนจะคล้องคอซูจ้าน ” กลับโรงแรมวันนี้ ถ้ามึงนอนไม่ หลับเดี๋ยวกูกินเหล้าเป็นเพื่อนแก้วนึง ”
ซูจ้านมองหน้าเขา ” จึงอยากกินเรอะ ”
เออกูอยากกิน กินเป็นเพื่อนกูไหมล่ะ ”
” เอาดิวะ ” แขนของซูจ้านก็ผ้าลงไปบนไหล่ของเขา ผู้ชายทั้ง สองคนยืนคล้องแขนคล้องคอกัน ไม่ได้รับโบกรถแต่เดินเล่นไป ตามถนนเรื่อยๆ
” ซูจ้าน ก็มีเรื่องอยากให้มึงแนะนำหน่อยค่ะ ” อยู่ดีๆ เสิ่นเผย ซวนก็โพล่งขึ้นมา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ