กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 259 เธอไม่ได้ตัวคนเดียว



บทที่ 259 เธอไม่ได้ตัวคนเดียว

เหยาชิงชิงรู้ว่าถึงแม้ขอร้องแม่เลี้ยงเธอยังไงก็เปล่าประโยชน์ เธอจึงคลานไปที่ขาของพ่อเลี้ยง “พ่อต้องช่วยเขานะ พ่อต้องไม่ ยืนดูเขาถูกโยนทิ้งนะ

“สารเลว” คำขอร้องพ่อเลี้ยงของ เหยาชิงชิง ทำให้แม่เลี้ยง โกรธ เธอจับทารกที่ยังไม่ทันได้ตัดสายสะดือขึ้นมาตัวเปล่าๆ เนื้อตัวยังเปื้อนเลือดในร่างกายของเหยาชิงชิงอยู่ ในตอนที่แม่ เลี้ยงของเหยาชิงชิงพูดถึงทารกน้อย ทารกน้อยก็ร้องไห้ขึ้นมา ทันที

เสียงร้องอุแว้ อุแว้ของทารกเสียงดังเป็นพิเศษ

เหยาชิงชิงพยายามคลานไปจับขาของแม่เลี้ยงเอาไว้ รอย เลือดที่คดเคี้ยวอยู่บนพื้น เธอกอดขาของแม่เลี้ยงเอาไว้ ก้มตัว หมอบถึงรอยเลือดที่เลอะบนพื้น “ขอร้องล่ะ อย่าเอาลูกของฉัน ไป ได้โปรด จะให้ฉันเป็นม้าเป็นวัวก็ได้ แต่ได้โปรด…”

“ฝันไปเถอะ แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ที่แกคิดจะเก็บเด็กนี้ไว้เพื่อ จะแย่งสมบัติไปจากลูกชายฉัน” แม่เลี้ยงแตะเธอออกไปด้วยเท้า ข้างเดียว เหยาชิงชิงก็ตกอยู่ในอาการโคม่าทันที

เธอตื่นขึ้นมาอีกที พบว่าตัวเองนั้นยังนอนอยู่บนเตียงในห้อง นอนอยู่ ดวงอาทิตย์ที่อยู่ข้างนอกนั้นแรงกล้า เธอไม่รู้ว่าตัวเอง อยู่ในอาการโคม่าไปนานเท่าไร แค่ปากแห้ง ปวดไปทั้งตัว แรง จะขยับตัวแทบจะไม่มี
พ่อเลี้ยงถูกแม่เลี้ยงบงการ สั่งห้ามไม่ให้เธอกิน ไม่ให้เธอดื่ม เธอไม่พูดไม่จาอะไร แค่นอนอยู่อย่างนั้น เธออยากตาย ตาย ไปพร้อมกับลูกของเธอ

ไม่รู้ว่ามีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงเด็กร้องหรือไม่ ถึงได้ถาม แม่ เลี้ยงเพียงบอกกับคนนอกไปว่า เหยาชิงชิงที่โรงเรียนกินไม่เลือก พลาดท้องแล้วคลอดออกมา แต่ว่าเด็กคลอดออกมาได้ไม่นานก็ ไม่รอดแล้ว

เป็นเพราะว่าคำพูดหลุดออกมาจากปากน้องชาย ว่าถูกแม่ เลี้ยงฆ่าไปแล้ว คนในหมู่บ้านถึงจะรู้เรื่อง และก็ไม่ต้องการสร้าง ปัญหา เพราะถ้าเป็นเหยาชิงชิง กินไม่เลือกเองจนท้องขึ้นมา แค่ นี้ก็ไม่มีใครสนใจเธอ

เธอเป็นไข้ตัวร้อนหนึ่งวันหนึ่งคืนจนกระทั่งหมดสติไป

ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น เส้นเลือดแดงราวกับตาข่าย ปิดเต็มดวงตาทั้งสองข้างของเธอ “ฉันไม่กล้าบอกกับคนอื่น ฉัน กลัว ฉันกลัวพวกเขามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันกลัว ฉันกลัว

เธอตกใจกลัวจนหดหนี เหมือนกับว่าเรื่องร้ายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ วาน “ฉันยิ่งกลัวว่าคุณจะรู้ ฉันกลัวว่าคุณจะรังเกียจฉัน ดูถูกฉัน ฉันกลัวว่าคุณจะเกลียดที่ฉันเป็นแบบนี้ ฉันกลัว ฉันกลัวแทบ ตาย”
ในขณะที่พูดสายตาของเธอมองไปยังหลินซินเหยียน “ฉันมอ งดูยิ่นหนิง เป็นห่วงเป็นใยเธอ ฉันอิจฉา ฉันเกลียด ฉันเกลียด… เฮ่อ เฮ้อ ฉันตั้งใจ ตั้งใจ เอาลูกชายของฉัน ส่งให้ต่อหน้าเธอเลย ฮ่า ฮ่า”

มือของหลินซินเหยียนกำแน่นขึ้นมาทันที คำพูดของเหยาชิง ซึ่ง เหมือนกับลูกข่างที่แกว่งไปมา ตีเข้าหัวใจของเธอ

เธอสั่นขึ้นมา โดยไม่ได้ตั้งใจ

จงจิ่งห้าวก่ามือของเธอแน่น

เหยาชิงชิงมองกลับไปที่ตัวไปยื่นหนังอีกครั้ง “ฉันเกลียดเธอ มีตั้งมากมาย ทำไมตั้งมาพัวพันอยู่กับคุณ ฉันอิจฉาเธอที่ได้เป็น คนโปรดของคุณ ฉันอิจฉาเธอ ที่เลี้ยงลูกได้ดี ฉันเกลียดเธอ ที่มี ชีวิตที่ดี”

ไปยื่นหนึ่งมองไปที่เธอ แม้แต่คำเดียวก็ไม่สามารถเอื้อนเอ่ย ออกมา

ในใจสับสนว้าวุ่น อัดอั้น เหตุการณ์ในชีวิตคนคนหนึ่ง

สามารถทำให้คนเปลี่ยนไปได้จริงๆ

ครั้งหนึ่งเธอก็เคยเป็นเด็กบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาคนหนึ่ง แต่ว่ามัน กลับพังทลายลง

“หลังจากที่ฉันได้เติบโต ออกจากบ้านมา ฉันคิดว่าฉันจะหลุด พ้น ได้มีชีวิตใหม่ ฉันสามารถเริ่มใหม่ แต่ว่าชีวิตฉันก็กลับไป อนาถเหมือนเดิม พวกเขาเป็นเหมือนปีศาจ ตามหลอกหลอนฉันข่มขู่ฉัน ขอเงินฉัน…ฉันต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้คนอื่นเห็น ฉันยัง มีน้องชายที่คอยตามติดฉัน เพราะว่าฉันกลัว กลัวว่าคุณจะรู้ว่า เขายังอยู่ และรู้เรื่องราวในอดีตของฉัน ฉันไม่อยากให้คนอื่นรู้ และไม่อยากให้คุณรู้

เหยาชิงชิงยกมือที่ถูกมัดอยู่ขึ้น เธออยากสัมผัสไปยื่นหนึ่งแต่ เธอกลับไม่กล้า เพราะว่าเธอรู้ว่าเธอไม่คู่ควร

ภายในใจของเธอนั้น ไปยื่นหนึ่ง คือคนที่ดีที่สุด ใครก็ไม่ คู่ควรทั้งนั้น

เธอมองไปที่ไปยื่นหนัง มองนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ “ฉันอยากลืม แต่ลืมไม่ได้ แม้ตื่นจากฝัน เสียงลูกของฉันที่ร้องไห้ ฝันร้ายที่เป็น เหมือนเงา เกิดขึ้นในฝันของฉันทุกวัน ทรมานฉัน ฉันเหนื่อย ฉัน อยากตาย แม้แต่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ตาย มีคนมาช่วยเอาไว้ เคราะห์ร้าย ความตายก็ไม่อาจทำให้ฉันสมปรารถนาได้ บาง ครั้งฉันก็คิดนะ ว่าชาติที่แล้วฉันอาจจะเป็นเพชฌฆาตที่กดหัวคน ก็ได้ ชาตินี้ชีวิตถึงได้อนาถขนาดนี้

ฉันหมดศรัทธาในชีวิต มีชีวิตเหมือนกับตายทั้งเป็น จนกระทั่ง ได้มารู้จักคุณ การช่วยเหลือของคุณ ทำให้โลกที่มืดมิดของฉัน พอมีแสงสว่างขึ้นมาบ้าง ฉันอยากจะพยายาม ใช้ชีวิตให้ดีก็ เพราะคุณ เพราะว่าคุณทำให้ฉันได้เห็นความหวังในการใช้ชีวิต

ในร้านขายเสื้อผ้า ครึ่งแรกที่ฉันเจอคุณ คุณกำลังโกรธผู้หญิง คนหนึ่งอยู่ ในใจของฉันรู้สึกเศร้า เพราะว่าฉันชอบคุณ ฉันรู้ว่า ฉันไม่มีคุณสมบัติพอ ฉันไม่กล้าแสดงมันออกมาต่อหน้าของคุณไม่กล้าให้คนอื่นรู้

เพื่อไม่ให้ถูกน้องชายพบการมีอยู่ของคุณ ฉันจึงปิดร้านเสื้อผ้า

เพียงเพราะว่าฉันกลัวคุณรู้เรื่องราวที่ผ่านมาของฉัน

เหยาชิงชิงดึงริมฝีปากตัวเอง สายตาหรี่มองไปที่เขาอย่าง ละเอียด อยากจะจดจําเขา “คุณอย่าโทษฉันเลย อย่าโทษฉันเลย บะ

ภายในใจของไปยื่นหนึ่งถูกคลื่นซัดถาโถม มองไปที่เหย้าชิง ชิง แม้เพียงประโยคเดียวก็พูดไม่ออก ค่าปลอบใจเหรอ

ต้องใช้ประโยคแบบไหน ถึงจะสามารถปลอบโยนหัวใจบาด ขนาดนี้

ต้องใช้ค่ไหน ถึงจะสามารถรักษาบาดแผลที่เธอเคยผ่านมา

ได้

เขาพึมพำ “ฉันไม่ได้โทษเธอเลย ฉันหวังดีกับเธอมาตลอด” เหยาชิงชิงยิ้ม “ขอบคุณ ขอบคุณที่ไม่รังเกียจฉัน เธอคิดว่า ถ้ามีชาติหน้า เธอไม่ขอเกิดเป็นคนอีกแล้ว “กึก”

ได้ยินเพียงเสียงกลั้นใจสุดท้าย มีเลือดไหลออกมาจากปาก ของเธอ

“เธอจะฆ่าตัวตาย” เสิ่นเผยชวนบีบกรามของเธอไว้ เพื่อไม่ให้ เธอกัดลิ้นตัวเอง ตอนนี้ปากของเธอเต็มไปด้วยเลือด
“เกาหยวน” ไปนหนึ่ง ตะโกนร้อง “เร็วเข้า พาเธอไปโรง พยาบาล”

เกาหยวนวิ่งลงมาพร้อมกับพาคนมาอุ้มเธอออกไปจากโกดัง บนพื้นเหลือไว้เพียงรอยเลือดไม่กี่หยด

ไปยื่นหนังหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหา เกาหยวน “ค่าใช้จ่าย จะเท่าไหร่ก็ช่าง ช่วยเธอให้ได้

เกาหยวนพูดตอบรับ เขาถึงตัดสายโทรศัพท์

ความรู้สึกของเขายังคงติดอยู่กับรอยยิ้มแห่งความหวัง และ แข็งแกร่งสุดท้ายของเหยาชิงชิง

คนคนหนึ่ง จะต้องสิ้นหวังขนาดไหนถึงสามารถกัดลิ้นตัวเอง เพื่อฆ่าตัวตายได้

มือของเขาจับไปที่ราวจับโดยไม่ได้ตั้งใจ และสั่นเทาไม่หยุด หลินซินเหยียนลุกยืนขึ้นมาจากเก้าอี้ ไปหยุดอยู่ข้างๆ เขา “คุณไปโรงพยาบาลเถอะ”

ไปยื่นหนังเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “ขอบคุณนะ ฉันขอโทษเธอ แทนเขาด้วย”

หลินซินเหยียนพยักหน้ารับรู้ “อย่างไรก็ตามฉันเองก็ต้องไป แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ฉันไม่อยากรับผิดชอบแล้ว”

เธอไม่สามารถตำหนิเหยาชิงชิงรุนแรงแบบนั้นได้

ไม่มีใครอยากเป็นแบบนั้น ที่จริงแล้วส่งผลกระทบอย่างมากต่อนิสัย บุคลิก และหัวใจ รวมถึงชีวิตของเธอด้วย

คนที่เกิดบนพื้นฐานที่ดี

ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นเพราะว่าโลกที่โหดร้ายใบนี้ได้ เปลี่ยนเธอไป

หลินซินเหยียนตบเบาๆ ที่ไหล่ของไปยื่นหนึ่งเพื่อเป็นการ

ปลอบโยน

ไปยื่นหนังอยากที่จะจับมือของเธอ แต่กำลังที่จะยกมือขึ้นมาก ลับต้องวางลงไป “ฉันส่งคุณแค่นี้นะ”

เขาต้องไปโรงพยาบาลอีกรอบ

หลินซินเหยียนบอกว่าไม่ต้อง

คนขับรถเข็นเขาจากไป หลินซินเหยียนหันกลับมา โดยไม่รู้ว่า จงจึงห้าวมายืนอยู่ข้างกายตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกนิดเดียวก็ชนจะชน เขาอยู่แล้ว ทันใดคิ้วก็ขมวดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ทำไมคุณเดิน มาเงียบๆ แบบนี้”

“ไม่ใช่ผมที่เดินไม่มีเสียง คุณต่างหากที่เหม่อลอยไม่ได้ยิน เอง” จงจิ่งห้าว เอื้อมมือไปจับที่หน้าผากของเธอ “ความโชคร้าย ของเขาไม่ได้เกิดจากคุณหรอก”

แสนหดหู่

เงินเผยชวน กระแอมขึ้นมา “งั้น ผมไปรอในรถนะ”

พอพูดจบก็เดินไปทันที เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ที่นี่ก็เป็นส่วนเกิน
“ไปเถอะ” จงจิ่งห้าว โอบกอดเธอ ใช้ฝ่ามือลูบขึ้นลงที่แขน ของเธอ เขาไม่ใช่คนใจแข็งอะไร และในโลกใบนี้ ซอกมุมที่คุณ ไม่เคยรู้ ทุกนาที ทุกวินาที อาจจะเกิดเรื่องที่โหดร้ายมากกว่านี้ อีกก็ได้

เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ เขาเพียงแค่อยากปกป้อง ดูแลคนที่เขาห่วงใยแค่นั้นเอง

นอกจากเรื่องของหลินซินเหยียน เขาก็เป็นคนที่มีเหตุผลกับ ทุกๆ อย่าง

หลินซินเหยียนนิ่งเงียบ ขณะที่นั่งในรถสายตาจ้องมองไปนอก หน้าต่างตลอด เรื่องของเหยาชิงชิงยังคงอยู่ในใจเธอ วัยเด็กที่ โชคร้ายจะสามารถทำลายชีวิตคนหนึ่งไปได้

เมื่อกลับถึงที่พัก เธอก็เก็บตัวเองอยู่ในห้องตลอด

จงจึงห้าวต้องการที่จะอยู่ดูแลเธอ แต่เธอกลับบอกว่าต้องการ อยู่อย่างเงียบๆ

สุดท้าย จงจึงห้าว ก็อยู่ในห้องไม่ได้เช่นกัน

“หม่ามมาได้ยังไง” หลินลุยซีเงยหน้าขึ้นมา ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้ กิน เธอกับพี่ชายของเธอก็ถูกกอดเข้าด้วยกัน ไม่พูดจา นั่งอยู่ หน้าต่างเหมือนเดิมอย่างไหนอย่างนั้น

หลินซินเหยียนก้มลงมองลูกสาวตัวน้อย ก้มลงจูบลงบนหน้า ผากของเธอ “หม่ามี้ไม่เป็นอะไร แค่อยากกอดลูกเท่านั้นเอง”

เธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบแบบไหน กลัวว่าพวกเขาจะไปจากเธอขึ้นมา อาจจะถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไป

ข่าวมักออกอากาศเกี่ยวกับเด็ก โดยลักพาตัว จากที่ร่างกาย แข็งแรงก็ถูกทำให้พิการไปหมด ปล่อยไว้ข้างถนนเพื่อขอทาน ทุกครั้งที่เห็นข่าวแบบนี้ในใจของเธอก็เจ็บปวด ได้ฟังเรื่องราว ของเหยาชิงชิงเธอก็ยิ่งกลัวกลายเป็นว่ากลัวก่อนจะได้มาก็กลัว ว่าจะไม่ได้ เมื่อได้มาแล้วก็กลัวว่าจะต้องเสียไปของเธอจะได้รับ บาดเจ็บ จึงอยากที่จะกอดพวกเขาเอาไว้ไม่แยกจากไปไหน

เรื่องทางนี้ได้จบลงไปแล้ว จงจึงห้าว ตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่พัก ผ่อนสักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับไปที่เมือง B

หลังจากที่ทานอาหารค่ำเสร็จ เขาวางแผนเกี่ยวกับเรื่องการ เดินทางในวันพรุ่งนี้ เมื่อตอนที่ไปส่งซูจ้านกับเสิ่นเผยชวน กลับ มาที่ห้องก็ยังเจอหลินซินเหยียนกอดกับลูกทั้งสองของเธออยู่ ใน ตอนที่เขาออกจากประตูไป เธอก็ยังกอดกับลูกทั้งสองนั่งอยู่ตรง นั้น เขากลับมา เธอก็ยังอยู่ตรงนั้น แม้แต่ท่าทางก็ยังไม่ เปลี่ยนแปลง

เขาที่เดินผ่านมา อุ้มลูกชายและลูกสาวออกจากอ้อมกอดของ เธอ “ไปเล่นกันเถอะ”

หลินซีเฉินถูกหลินซินเหยียนกอดไว้อย่างใจร้อน ในเวลานี้ กำลังอยากเป็นอิสระ จับมือน้องสาวไป ไปกัน พวกเราไปเล่น กับคุณอาซูและคุณอาเงินกันเถอะ”

“อยากวิ่งซนแบบนั้นสิลูก” หลินซินเหยียนสั่งออกมาด้วย ความไม่สบายใจ ลุกขึ้นเตรียมที่ออกไปตาม แต่ว่าถูกจงจึงห้าวดึงรั้งไว้เสียก่อน

“คุณทําจะอะไร” หลินซินเหยียนเอ่ยถาม พร้อมเงยหน้ามอง

เขา

จงจึงห้าวหน้าทิ้งลง “คุณเป็นอะไร”

“ผมสบายดีเถอะ” เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติไป

จงจึงห้าวหัวเราะขึ้นมา ค่อนข้างที่จะเยือกเย็น และแดกดัน

หลินซินเหยียนตกตะลึงเล็กน้อย “คุณหมายความว่ายังไง?

จงจึงห้าว รู้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องอะไร ที่จริงแล้ว เธออาจจะดู

แข็งแกร่ง แต่ในใจนั้นบอบบาง เขาลูบไปที่แก้มของเธอ “คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ”

จากนี้ไป เขาจะเป็นคนดูแลพวกเขาทั้งสามคนเอง เธอไม่ใช่ ตัวคนเดียวแล้ว ไม่ต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องถูกเลือกปฏิบัติ เธอมี สามี มีครอบครัว และลูกๆ ของเธอ

หลินซินเหยียนมองจ้องเขาอยู่นาน

จงจิ่งห้าวดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดในอ้อมแขน และลูบหลัง เธอเบาๆ

วันที่สอง พวกเขาทานข้าวเช้าเสร็จ หลังจากนั้นก็ไปที่เมือง B

อากาศเย็นเฉียบ ลมที่ค่อนข้างแรง ในขณะที่พวกเขากำลังจะ เดินออกจากประตู ก็ถูกหญิงชราเข้ามาขวางตรงหน้าประตูโรงแรมไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ