กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่61 ความชอบพิสดาร



บทที่61 ความชอบพิสดาร

ไอ้สารเลวคนนี้!

หลินเฉินจ้องจนตาจะทะลักออกมาอยู่แล้ว

จงจึงห้าวยิ้มอ่อนๆ เห็นเจ้าตัวแสบคนนี้โกรธแล้วเขามีความ สุขอย่างไร้สาเหตุ หลินซินเหยียนหลบหลีกจากการสัมผัสของเขา จากนั้นได้อุ้ม

หลินซีเฉินขึ้นรถจากไป

เห็นได้ชัดว่าสีหน้าแววตาเธอค่อนข้างตื่นตกใจ หลินซีเฉินม องไปที่ข้างนอกแว๊บนึง และทำหน้าผีใส่ไอ้สารเลวที่น่ารังเกียจ คนนี้ทีนึง

จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เจ้าตัวแสบคนนี้

เฉินห้าวเดินมาและมองรถที่ขับไปไกลเหมือนกัน เราจะกลับ เลยมั้ยครับ?”

จงจิ่งห้าวถอดเสื้อสูทบนตัวแล้วโยนไปให้เฉินห้าว จากนั้นได้ เดินไปที่รถ

เฉินห้าวถือเสื้อสูทไว้ แบะปากแต่กลับไม่กล้าบ่นอะไร จากนั้น

ก็รีบตามเขาไป

จงจิ่งห้าวนั่งอยู่ในรถ นวดระหว่างคิ้ว นาทีที่หวนนึกถึงการ ปรากฏตัวของหลินซินเหยียนแล้วยิ้มอย่างควบคุมไม่ได้
เฉินห้าวที่ขับรถอยู่มองเขาจากกระจกมองหลัง ความสอดรู้

สอดเห็นได้ลุกไหม้อยู่ในใจ

ผู้หญิงคนนั้นคือใคร?

ถึงขั้นสามารถทำให้จงจึงห้าวยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้มขนาดนี้? แม่ง หาดูได้ยากจริงๆ หาดูได้โคตรยากเลยว่ะ

“ประธานจงชอบผู้หญิงแบบนั้นเหรอครับ? “เฉินห้าวแปลกใจ จริงๆ ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาก็สวยอยู่ แต่ลูกของคนอื่นก็โตขนาด นั้นแล้ว ยังไปแตะองคนอื่นอีก

หรือว่าเขาจะชอบหญิงวัยสาวที่แต่งงานแล้ว?

หญิงวัยสาวที่แต่งงานแล้วมีเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงก็จริง แต่ก็ไม่จําเป็นต้องหาคนที่มีลูกมีเต้าแล้วมั้ง?

ถ้าหากคนอื่นมีสามีล่ะ?

เขาจะไปเป็นตัวน้อย เป็นของผู้หญิงคนนั้น?

เฉินห้าวยิ่งคิดยิ่งขึ

เหตุการณ์อย่างนั้นแค่คิดก็น่าตื่นเต้นมากแล้ว

จงจึงห้าวค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงของเขาฟังไม่ออกว่าดีใจหรือ โกรธ แบบไหน?”

“ก็คือชอบผู้หญิงที่เคยมี

ไม่ใช่สิ เฉินห้าวหยุดได้ทันท่วงที แล้วยิ้มอย่างรู้สึกผิด ผู้หญิงที่เคยมีลูกสิถึงมีเสน่ห์ ดูหน้าตาของลูกเธอก็รู้แล้วว่าเธอไม่เคย ทําศัลยกรรมมาก่อนแน่นอน”

ได้ยินคําว่ามีลูก

จงจึงห้าวหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ เขาดึงคอเสื้อ นายไม่ พูดจานจะตายรึไง!”

เฉินห้าวรีบปิดปากเงียบ มองผู้ชายที่มีเข้าผีออกคนนี้ผ่าน กระจกมองหลังเป็นพักๆ

ก่อนหน้านี้ยังมีความสุขอยู่เลย ว่าจะโกรธก็โกรธขึ้นมาซะงั้น

ยังจะสามารถพูดคุยกันอย่างมีความสุขมั้ยเนี่ย?

เฉินห้าวได้จัดเตรียมโรงแรมเสร็จ

จงจึงห้าวพักอยู่ที่นี่คืนนึง พลิกตัวไปมาก็มีแต่ร่างเงาของผู้ หญิงคนนั้น

เขานอนไม่หลับ

เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เมื่อก่อนความรู้สึกที่เธอมีให้กับคน

คือเป็นผู้หญิงใสๆ แต่ตอนนี้เธอมีความมั่นใจ กิริยาท่าทาง

โดยเฉพาะตอนที่พูดถึงวิชาชีพของตนเอง หน้าตาที่พูดจาฉะฉาน มีหลักฐานนั้นช่างน่าหลงใหล

เพียงแต่—

หลายปีมานี้เธออยู่ที่นี่ ข้างกายยังมีชายอื่นหรือเปล่า? พอคิดๆแล้วเขาได้หยิบมือถือ โทรหากวนจิ้ง ถือโอกาสให้เขาตรวจสอบชีวิตความเป็นอยู่ของหลินซินเหยียนในหลายปีนี้ ข้าง กายมีผู้ชายคนไหนหรือเปล่า

สายเรียกเข้าที่โทรเข้ามาติดๆ ล้วนเกี่ยวข้องกับหลินซินเหยีย นทั้งนั้น

เขาคือ มีใจให้แล้วเหรอ?

กวนจิ้งแอบคิดอยู่ในใจ

เขาเคยเอาใจใส่ผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้?

ถึงไปจวู่เวย ในตอนนั้น หรือเหอรุ่ยหลิน ในตอนนี้ เขาก็ไม่เคย แคร์ขนาดนี้มาก่อนเลย

หลายปีมานี้นิสัยของเขายิ่งอยู่ยิ่งเย็นชา จู่ๆเปลี่ยนมาเร่าร้อน ล้วนเพราะผู้หญิงที่หายตัวไปนานคนนี้ ถ้าบอกว่าไม่มีใจนี่โกหก แน่นอน

แต่กวนจึงไม่เข้าใจ ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์ในชีวิต สมรสกับเขา แต่เวลาที่อยู่ด้วยกันไม่ได้ยาวนานเลย เกิดความ รักได้ยังไง?

เขาคิดไม่ตก และไม่มีคนไขความสงสัยให้เขาด้วย จงจึงห้าวเพิ่งวางสายทิ้ง ก็มีสายเรียกเข้าจากท่านจงอีก จงจึงห้าวไม่ต้องรับสายก็รู้ว่าเขาโทรมาทำไม

คลื่นในแววตาเขาระยิบระยับ จากนั้นได้ค่อยๆหลับตาลง ปกปิดความคิดไว้ ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนตอนที่คิดถึงหลินซินเหยียนอีก สิ่งที่มาแทนที่คือความเย็นชา เขากดปุ่มรับสาย

“แกกับหลินหลินนี่มันยังไงกันแน่ เธอบอกว่าแกจะถอน

“เดี๋ยวรอผมกลับไปค่อยคุยกัน”จงจึงห้าวจ้องนอกหน้าต่าง ด้วยสายตาหนักหน่วง นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่ ให้ กวนจิ้งมาตรวจสอบหลินซินเหยียน

งานหมั้นนี้ไม่ใช่แค่เขาแต่งเมียธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นงาน แต่งเชื่อมสายสัมพันธ์ของตระกูลเหอกับตระกูลจง

ข่าวของงานหมั้นได้แพร่สะพัดไปทั่วตั้งนานแล้ว ตอนนี้เขาจะ ถอนหมั้น ทางตระกูลเหอกับที่บ้านล้วนต้องการคำชี้แจงของเขา

เพราะฉะนั้น วันถัดมาเขาก็ได้กลับประเทศเลย

กวนจิ้งไปตรวจสอบหลินซินเหยียนที่ประเทศA คนขับเป็นคน มารับเขา เดินทางมาหลายชั่วโมง ไม่ได้ทำให้เขาดูเหนื่อยล้า เลย แต่ได้ให้คนขับไปที่บ้านตระกูลจง

วิวทิวทัศน์ถอยหลัง ไม่นานรถก็ได้จอดลงที่หน้าคฤหาสน์หลัง

เรียบหรูดูมีสไตล์ รั้วบ้านที่สูงโปร่งกับประตูหน้าบ้านที่ สวยงามทันสมัย ซุ้มหน้าต่าง อิฐหินของมุมเลี้ยว ดูหรูหรา อลังการ

คนขับจอดรถสนิทแล้วเดินไปเปิดประตูรถ จงจิ่งห้าวโน้มตัว ลงมาจากรถอย่างใจเย็น ยืนอยู่หน้าประตู แหงนหน้ามองดูด้วยสีหน้าเรียบเฉยอยู่ครู่นึง จากนั้นได้ก้าวเท้าหนักแน่นเข้าไป เดินผ่านพื้นดินที่ปูด้วยหินอ่อนที่กว้างขวาง แล้วเดินเข้าไปใน บ้าน

“คุณชายครับ พ่อบ้านลุงเพิ่งเดินมาต้อนรับท่าน รอ คุณชายอยู่ที่ด้านในครับ

จงจึงห้าวพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อบอกว่าตนเองรู้แล้ว

ห้องโถงที่กว้างใหญ่ไพศาลมีรสนิยม ด้านขวาเป็นสไตล์การ ตกแต่งที่มีความย้อนยุคมาก สีค่อนข้างเข้ม ทำให้ห้องโถงยิ่งดู หนักแน่นมากยิ่งขึ้น คนที่นั่งอยู่บนโซฟาไม้มะฮอกกานีก็คือท่าน ปู่จง พ่อของจงจิ่งห้าว

ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคนนั้น เขาไม่อยากมองแม้แต่หางตา

เขาถอดเสื้อคลุมแล้วยื่นให้กับคนรับใช้ในบ้าน แล้วเดินไปที่ โซฟากับนั่งลงที่ข้างกายของท่านจง

“แกนี่มันยังไงกันแน่?”จงฉีเฟิงนั่งตัวตรงอยู่บนโซฟา ใบหน้า ที่บ่งบอกถึงการอาบน้ำร้อนมาก่อน เผยให้เห็นความเงียบสงบ และความสุขุมที่กาลเวลามอบให้เสียงทรงพลังและมีบารมี และ ปะปนด้วยความจนปัญญากับความเศร้าโศก

“ผมจะจัดการเอง ไม่มีอารมณ์ที่มากกว่า แค่ตอบอย่างราบ

เรียบ

จงฉีเฟิงรู้ดีแก่ใจว่าเพราะอะไรจงจึงห้าวถึงได้เย็นชาขนาดนี้ ยังคงเพราะแม่ของเขา เรื่องของสมัยนั้น
ปกติเขาไม่กลับมา อะไรก็ทําตามใจชอบ

แต่งานแต่งเชื่อมสายพันธ์ของครั้งนี้เกี่ยวพันถึงความก้าวหน้า ของตระกูลจงในวันข้างหน้า

อยู่เมืองB ตระกูลจงเป็นตระกูลที่รวยพุ่งพรวด ทำธุรกิจได้

ใหญ่โต แต่ขาดรากฐาน

ตระกูลเหอไม่เหมือนกัน มีชื่อเสียงมาเรียงนามมานับร้อยปี ถึง ธุรกิจของตอนนี้ทำได้ไม่โดดเด่น แต่ยังมีชื่อเสียงอยู่

งานแต่งเชื่อมสายสัมพันธ์กับตระกูลอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ได้ผล ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

“เรื่องอื่นฉันปล่อยให้แกทำตามใจชอบได้ แต่งานหมั้นนี้ จะ ยกเลิกไม่ได้เด็ดขาด!”ท่าทีของจงเฟิงก็แข็งกร้าวขึ้นมา

จงจิ่งห้าวไม่รู้หนาวรู้ร้อน พร้อมพูดราบเรียบงานแต่งของผม

ก็มีแค่ผมเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้

“แก—”จงฉีเฟิงหายใจติดขัด ทรวงอกขึ้นๆลงๆอย่าง รวดเร็ว

ยู่ซิ่วที่นั่งอยู่ข้างกายรีบลูบหลังให้เขาค่อยๆคุยกันค่ะ อย่า โมโห

“จะไม่ให้โมโหได้ยังไง?”จงฉีเฟิงหน้าบึ้ง

“จิ่งห้าว ครั้งนี้ลูกก็ฟังพ่อเถอะนะ”ซิ่วพยายามพูดเกลี้ยกล่อม
เสียงของจงจึงห้าวยิ่งเย็นชาขึ้นไปอีก เขาหัวเราะเยาะแล้ว พูด คุณใช้ฐานะอะไรมาคุยกับผม?”

สีหน้าของ ซิ่วดูแย่

“ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นผู้ใหญ่กว่า แกพูดจาแบบนี้กับผู้ใหญ่ได้ ยังไง?”จงฉีเฟิงตบราวจับโซฟาแล้วลุกขึ้น

ซิ่วลุกขึ้นมาประคองเขา “อย่าโกรธเลยนะคะ ฉันสามารถ เข้าใจอารมณ์ของจิ้งห้าวได้ค่ะ”

จงเพิ่งถอนหายใจพร้อมกุมมือของชั่วไว้หลายปีมานี้ ล่าบวกคุณแล้ว”

จงจึงห้าวลุกขึ้น เขาไม่อยากเห็นพ่อหวานแหววกับผู้หญิง เขาหยิบเสื้อสูทมาจากมือของคนรับใช้ และหันหลังให้กับจง ฉีเฟิง”ทางตระกูลเหอผมจะจัดการเอง

พูดจบก็ได้เดินจากไป

จงฉีเฟิงชี้เขาไว้ เขา ทำไมเขายังเอาแต่ใจขนาดนี้อีก? เขายัง เด็กอยู่เหรอ? ทำไมถึงไม่รู้จักหนักเบาเลย? !”

ซิ่วถอนหายใจเบาๆ คงจะเพราะไม่ชอบคุณหนูตระกูลเหอ คนนั้นมั้งคะ”

“ไม่หรอก”จงฉีเฟิงไม่คิดแบบนี้ ก่อนหน้านี้เขายังรับปากเลย ซิ่วคิดๆแล้วก็ใช่ ก่อนหน้านี้ก็รับปากไปแล้ว นี่ก็ใกล้จะหมั้น แล้ว กลับเปลี่ยนใจซะงั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ