กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่51 หาเบาะแส



บทที่51 หาเบาะแส

ผู้หญิงท้องคนนั้นไม่ทันระวังจึงลื่นล้ม เธอเกือบตกลงไป เสียง ผู้คนร้องกรี๊ดจากด้านล่างดังกระหึ่มขึ้นมาทันที

ช่างเป็นวินาทีแห่งความเป็นความตายจริงๆ

คุณยายของผู้หญิงท้องคนนั้นนั่งร้องห่มร้องไห้ด้วยความ ตกใจ

ในหัวของหลินซินเหยียนขาวโพลน โล่งไปหมด เลือดในร่าง แทบจะหยุดจับตัวกันเป็นก้อนกันเลยทีเดียว

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถึงพูดตอบกลับไป “ขอแค่คุณยอมลงมา ฉันจะคืนเงินที่คุณเอามาซื้อบ้านให้

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงท้องคนนั้นไม่เชื่อเธอ “อย่ามาโกหก ฉันไม่

เชื่อแกหรอก!

“ฉันไม่ได้โกหก ฉันจะคืนให้จริงๆ ถ้าไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึง

ลูกในท้องเถอะนะ?

หลินซินเหยียนพูดโน้มน้าวต่อ

ผู้หญิงท้องคนนั้นเหมือนโดนจี้ใจดำ อารมณ์ของเธอพรุ่ง พล่านขึ้นมากกว่าเดิม “ฉันก็คิดถึงลูกในท้องฉันนี่ไงถึงได้ยืนอยู่ ตรงนี้ แกคิดว่าการที่พวกเราจะซื้อบ้านซักหลังหนึ่งมันง่ายมาก นักหรอ? ฉันใช้เงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต เพราะแค่อยากจะมีอันตรายหรอฉัน

หลินซินเหยียนรู้ดีว่าหล่อนกำลังห่วงอะไรกังวลอะไรหรือ กำลังมีบ้านฉันเข้าใจดี ขอแค่ยอมลงมาบอกจะคืนฉันคืนให้คุณแน่ๆ

ทำไมจะทำยังไง? ผู้หญิงคนนั้นยังคงท่าทีไม่ยอม

หลินซินเหยียนเม้มริมฝีปากที่แห้งผากหรอก ฉันเป็นลูกสาวของหลินกั๋วอัน ฉันไม่โกหกคุณแน่

“แกเป็นลูกสาวของไอ้หลินกั๋ว

หรอกเหรอ”

แกเป็น

“คืนเงินพวกเราซะ!

เพียงชั่วพริบตาเดียวเงินพวกเรา เงินพวก

ผู้ชายคนหนึ่งยื่นมือมาทำจะตัวหลินซินเหยียนท่ามกลางความวุ่นวาย แต่ดีจงห้าวมือไวตาไว เพียงแค่เขา ยื่นแขนออกไปโอบทั้งร่างของหลินซินเหยียนไว้แล้ว เขา กอดเธอไว้ในอกพร้อมกับมองผู้ชายนั้นยื่นท่ามือออกมาด้วยสายตาเย็นชา

ผู้ชายคนนั้นถูกจ้องเขม็ง ความอวดดีในตัวลดลงทันที แต่ทว่า เขาก็ยังใจแข็งพูดออกไป “มันก็ถูกแล้วหนี เป็นหนี้ต้องชดใช้ ด้วยเงิน พ่อของแกเอาเงินที่พวกเราหามาอย่างยากลำบากไป เพราะงั้นถ้าพ่อแกไม่ออกมา แกก็ต้องเป็นคนใช้หนี้ให้เขา

“ใช่ ใช่ พ่อแกติดหนี้พวกเรา เพราะงั้นแกเป็นลูกก็ต้องชดใช้ ถ้าพ่อแกไม่ออกมา แกนั่นแหละที่จะต้องคืนเงินให้กับพวกเรา” มี คนพูดเสริมขึ้น

ไม่นานทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับประโยคนี้ ทุกคนรวมกลุ่ม ทยอยตรงเข้ามา สถานการณ์เริ่มควบคุมไม่อยู่แล้ว

หน่วยกู้ภัยจึงถือโอกาสตอนที่หล่อนไม่ทันระวังพุ่งตัวเข้าไป ช่วยผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องที่ยืนอยู่บนตกลงมา

พ่อกวนจิ้งพาลูกน้องมาถึง จงจึงห้าวกับหลินซินเหยียนก็ถูก ล้อมไปด้วยฝูงชนแล้ว พวกเขาออกมาไม่ได้ นอกเสียจากว่าจะ มุดแผ่นดินหนี

แต่โชคดีที่เขาพาลูกน้องมา บวกกับความช่วยเหลือจากเจ้า หน้าที่ของหน่วยกู้ภัย กวนจิ้งจึงพาลูกน้องฝ่าฝูงชนเข้าไปเพื่อ เปิดทางให้จงจิ่งห้าวพาหลินซินเหยียนออกมาจากฝูงชนได้ จาก นั้นพวกเขาก็ตรงไปยังหลินชื่อกรุ๊ป พวกคนทวงนี้ต่างก็ถูกกั้นไว้ ข้างนอก

ผู้หญิงท้องคนนั้นที่พึ่งถูกช่วยลงมาถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยุงไว้ เมื่อเดินผ่านห้องโถง หล่อนมองเห็นหลินซินเหยียนผ่านกระจกใส ทันใดนั้นหล่อนก็สะบัดมือเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกแล้ววิ่งเข้ามา “แกบอกว่าแกจะคืนเงินให้ฉัน

กวนจิ้งและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดหล่อนไว้ข้าง นอก

หล่อนเข้ามาไม่ได้ หล่อนทำได้เพียงแต่ตะโกนใส่หลินซินเหยี ยนอย่างบ้าคลั่ง “แกบอกว่าจะคืนเงินให้ฉัน ถ้าแกโกหกล่ะก็ แก จะต้องไม่ตายดีแน่ๆ และแม้จะหาเงินได้อย่างสุจริต แกก็จะตก นรกหมกไหม้ไปถึงชั้นที่สิบแปด

จงจึงห้าวขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดออกไปอย่างเย็นชา “ลากมัน ออกไป”

ทันทีที่กวนจึงกำลังจะลงมือ หลินซินเหยียนกลับตะโกนห้าม ออกไป “เดี๋ยวก่อน

เธอหันไปมองจงจิ่งห้าว “ฉันรู้ว่าคุณอาจจะคิดว่าฉันโง่ เพราะ ถ้าเกิดให้เงินก้อนนี้ไปมันจะต้องมีปัญหาไม่จบไม่สิ้นแน่ แต่ว่าถ้า ไม่หมดปัญญาแล้วจริงๆ ใครมันจะไปยอมเอาชีวิตมาเล่นแบบนี้ ล่ะ หล่อนก็แค่อยากจะมีบ้านซักหลังให้กับลูกๆ แต่โชคร้ายที่ดิน มาเจอพ่อของฉัน อีกอย่างก็เหมือนที่หล่อนพูด ถ้าฉันไม่ทำตาม สัญญาที่ให้ไว้กับหล่อน ฉันคงอยู่ไม่สุขแน่ เพราะฉันเข้าใจความ รู้สึกของเธอ —

เข้าใจความรู้สึกที่หล่อนอยากจะมีบ้านซักหลังให้กับลูกๆของ หล่อนเป็นอย่างดี

เพราะเธอก็เคยคิดว่าอยากจะมีบ้านดีๆ ให้กับลูกๆของตัวเองซักหลังเหมือนกัน ถึงแม้จะรู้ว่ามันอยู่ไกลเกินเอื้อม และเกรงว่า ในชีวิตนี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ตาม

เธออ่อนแอมาก แถมยังผอมจนแทบจะปลิวไปกับลมที่พัดมา

ได้เลย

ทว่าดวงตาที่เปล่งประกายสว่างสดใสคู่นี้ ณ เวลานี้มันกลับ เต็มไปด้วยความเด็ดขาดแน่วแน่

เป็นความแน่วแน่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

เขาอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วจ้องไปที่หลินซินเหยียน แต่กลับพูดกับ กวนจิ้งขึ้น “เอาเงินให้หล่อนไป

เหยียนจิ้นเข้าใจทันที เขาเหลือบมองผู้หญิงท้องคนนั้นแวบ หนึ่ง “ตามผมมา

ทันใดนั้นเองหลินกั๋วอันก็เดินปรี่เข้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน เขา หลบอยู่ในห้องทำงานมาตลอด แต่พอรู้ว่าจงจึงห้าวกับหลินซิน เหยียนมา เขาถึงได้กล้าออกมา

เมื่อเห็นลูกสาวก็เหมือนเห็นความหวัง

“เหยียนเหยียน” เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “ลูกมาช่วยพ่อแล้ว” หลินซินเหยียนสีหน้าเรียบเฉย “คุณเหลือเงินอยู่เท่าไหร่

หลินกั๋วอันได้แต่อึ้ง ไม่นึกเลยว่าเธอจะเอ่ยปากถามว่าตนเอง เหลือเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าเขามีเงินล่ะก็ เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพ แบบนี้หรอก
“พ่อไม่มีเงินแล้ว” หลินกั๋วอันพูดตามความจริง

“อะไรนะ? “หลินซินเหยียนทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ถึงแม้หลิน กั๋วอันจะถูกคนตามทวงหนี้อยู่ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มีเงิน เหลือเลยแม้แต่แดงเดียว

“ถ้าคุณไม่พูดความจริง แล้วใครจะช่วยคุณได้? ”

หลินกั๋วอันสีหน้าย่ำแย่ลงทันที แถมยังไม่ยอมเปิดปากพูด อะไรออกมา

หลินซินเหยียนไม่อยากเสียเวลากับเขา “ในเมื่อคุณไม่อยาก พูด ฉันก็ไม่อยากบังคับ

เธอมองไปที่จงจึงห้าว “พวกเราไปกันเถอะ”

จงจิ่งห้าวยื่นแขนไปโอบไหล่เธอไว้พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เตรียมเดินออกไปจากบริเวณสำนักงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ ดูแลรักษาความปลอดภัยคอยคุ้มกันให้

หลินกั๋วอันท่าทางลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นหลินซินเหยีย นทำท่าจะจากไปแล้วจริงๆ เขาจึงกัดฟันพูดความจริงออกไป “พ่อเหลือเงินไม่มากแล้ว นอกจากบ้านก็มีเงินสดอีกประมาณ สองล้านกว่า แต่มันถูกหลินหยู่หานขโมยไปแล้ว พ่อไปแจ้ง ตำรวจแล้วแต่ก็ยังตามหาตัวหล่อนไม่ได้เลย

หลินกั๋วอันไม่อยากพูดเรื่องนี้กับหลินซินเหยียน หล่อนเป็น ลูกสาวสุดที่รักของเขาทว่ากลับขโมยเงินของเขาไปในตอนที่เขา ตกที่นั่งลำบาก
ส่วนตอนนี้ลูกสาวที่ถูกเขาทอดทิ้งไปกลับมายืนอยู่ตรงหน้านี้

แทน

เขาตาแดงก่ำ

“เหยียนเหยียนพ่อมันตาบอดเอง ก็เลย—”

“ไม่ต้องพูดแล้ว” หลินซินเหยียนไม่อยากฟัง ยิ่งรู้มากก็ยิ่งเจ็บ มาก ขายบ้านซะ ขายได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น จากนั้นก็เอาเงินไป จ่ายคืนให้คนพวกนั้น” “แต่นั่นเป็นทรัพย์สินเดียวที่พ่อเหลือ อยู่นะ พ่อ”เขาไม่อยากเสียมันไป

“แล้วคุณมีเงินหรอ?! ” หลินซินเหยียนตะโกนลั่นด้วยความ โมโห “ถ้าคุณไม่คืนเงินให้พวกเขาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเอง ไว้ล่ะก็ เห็นทีแม้แต่พระเจ้าก็คงจะช่วยคุณไม่ได้แล้ว คิดเอาเอง แล้วกัน!

หลินซินเหยียนพูดอย่างไร้เยื่อใย

จงจึงห้าวมองเธอด้วยความชื่นชมที่เอ่อล้นขึ้นมาเต็มอก

ไม่นึกเลยว่า เธอจะคิดได้ถึงขั้นนี้

ถ้าหลินกั๋วอันฉลาดพอล่ะก็ อันดับแรกเขาจะต้องปลอบขวัญ คนที่มาทวงเงินพวกนี้ก่อน เพื่อที่เรื่องจะได้ไม่ใหญ่โตไปมากกว่า นี้ แล้วจากนั้นก็ค่อยวางแผนหาเงิน บางทีหลินชื่อกรุ๊ปอาจจะรอด ก็ได้

พอกลับจากหลินชื่อกรุ๊ป จงจึงห้าวก็ตรงไปที่บริษัท ส่วนหลิน นเหยียนก็กลับไปที่คฤหาสน์ เพราะวันนี้ไม่มีงาน
จงจิ้งห้าวบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน เนื่องจากสีหน้าของเธอดู ไม่ค่อยดีนัก

หลินซินเหยียนรู้สึกเหนื่อย แต่พอไปนอนบนเตียงเธอกลับ นอนไม่หลับ เธอมีเรื่องให้คิดมากมาย ในหัวเต็มไปหมดอย่าง ไม่มีสาเหตุ เธอจึงลุกขึ้นมา พอเห็นป้าหนูกำลังทำความสะอาด หน้าต่างอยู่ เธอจึงเดินเข้าไป “ให้หนูช่วยนะคะ”

ป้าหยูโบกมือปัด “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว

ทุกอาทิตย์จะมีคนมาทำควาสะอาดเป็นประจำ ทั้งสนามหญ้า และดอกไม้ในสวนล้วนจะต้องถูกตัดแต่งกิ่งให้สวยงาม ส่วน ภายในบ้านบริเวณที่ปกติทำความสะอาดไม่ถึงก็จะมีคนทำความ สะอาดมาจัดการให้

คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ เธอทําความสะอาดคนเดียวไม่ไหว หรอก

เธอเป็นคนขยัน แต่แค่ไม่มีเวลาว่าง หน้าต่างบานนี้จะมีผู้ที่ เชี่ยวชาญมาเช็ดให้โดยเฉพาะ เนื่องจากมีหลายที่ที่เธอเช็ดไม่ ถึง แต่ผู้ที่เชี่ยวชาญล้วนเช็ดได้อย่างสะอาดหมดจด

ป้าหยูพาหลินซินเหยียนมานั่งที่โซฟา จากนั้นเธอก็ลุกไปล้าง มือ “คุณหนูอยากกินผลไม้อะไรไหมคะ? เดี๋ยวป้าล้างให้

“แอปเปิ้ลค่ะ” หลินซินเหยียนพูดโดยไม่คิดอะไรมาก

“ได้ค่ะ” ป้าหยูเดินเข้าไปในห้องครัว

หลินซินเหยียนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นพลางมองจ้องไปยังหน้าต่างบานที่สูงยาวจรดพื้น ข้างบนมีฟองสบู่สีขาวที่ป่าหยู เช็ดไปเมื่อกี้เหลืออยู่ มันไหลลงมาตามแนวกระจก เธอมองมัน อย่างใจลอย

ทันใดนั้นในกระเป๋ากางเกงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอหยิบ ออกมาก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของเหอยเจ๋อ เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ทันที

ว่าเขาจะหาเจอแล้ว?

เธอกดรับสายอย่างไม่รู้ตัวด้วยมือที่สั่นระริก “ฮัลโหล”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ