กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 360 เห็นเมียสำคัญกว่าเพื่อน



บทที่ 360 เห็นเมียสำคัญกว่าเพื่อน

ซูจ้านแทบจะเป็นใบ้พูดอะไรไม่ออก

ก้มหน้าคอตก สภาพดูน่าสงสาร แต่หลินซินเหยียนก็ไม่ได้ใจ อ่อน น้ำเสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย ” นายควรจะทำงานก็ไป ทำเถอะ คุณย่าก็ต้องการให้นายดูแล สำหรับตัวฉินยา ยกให้ฉัน เถอะ ฉันจะจัดการเอง รอให้เธอหายดีแล้ว ฉันจะบอกนายเองว่า เธออยู่ที่ไหน ในระหว่างที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่นี้ ก็อย่าไป รบกวนเธอเลย รับปากฉันได้ไหม ”

ซูจ้านถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ” นี่เป็นคำขอจากเธอเหรอ 11 หลินซินเหยียนถอนหายใจ เรื่องนี้ยังจะต้องให้เธอพูดอีกเหรอ ถ้าฉันยายอมเจอเขา เธอจะไปมีปัญญารั้งฉินยาไว้ได้ยังไง เขา โดนพยาบาลยื้อเอาไว้ข้างนอกนี่ยังไม่ใช่คำตอบหรอก หรือ

ซูจ้านไม่ได้ไงหน้าขึ้นมาแต่พูดต่อ ” ผมรู้แล้ว ”

พูดจบก็หันตัวแล้วเดินจากไป จงจึงห้าวกลัวว่าไอ้หมอนี่มันจะคิดอะไรแปลกๆ ” มีอะไรโทร หาผมนะ ”

หลินซินเหยียนพยักหน้ารับ ” โอเค ” จงจิ่งห้าวเดินตามซูจ้านออกไปหลินซินเหยียนเลยมีเวลาพูดคุยกับพยาบาล ” เขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณบาดเจ็บใช่ไหมคะ ”

พยาบาลโบกไม้โบกมือ แล้วพูดว่า ” ไม่หรอกค่ะ ครอบครัว ของผู้ป่วยที่ตื่นตระหนกก็มีมาให้เห็นบ่อย เราเตรียมรับมือไว้อยู่ แล้วค่ะ ”

หลินซินเหยียนถามต่อ ” สภาวะอาการของเธอตอนนี้ดีขึ้นไหม คะ ”

” พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ต้องอยู่ในห้องไอซียูแล้ว ”

” สองวันนี้ฉันเตรียมที่จะรับเธอไปรักษาที่ต่างประเทศ สองวัน นี้รบกวนให้เธออยู่ในห้องไอซียูได้ไหมคะ ” หลินซินเหยียนกลัว ว่าจ้านจะบุกเข้ามาอีก

พยาบาลตอบรับ ” ได้สิคะ แค่ชำระเงิน จะอยู่ได้นานเท่าไหร่ ก็ได้เลยค่ะ ”

การจะอยู่ห้องไอซียูหนึ่งวันก็ต้องใช้เงินเป็นหมื่น หลาย ครอบครัวที่ป่วยหากไม่นอนได้ก็พยายามจะไม่นอนห้องนี้ เพราะ ค่ารักษาในแต่ละวันก็เป็นหมื่นทั้งนั้น เมื่อพูดถึงครอบครัวที่มี ฐานะปานกลาง ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินสมควร พูดง่ายๆ คือ เงินจำนวนนี้ยากที่จะสามารถหาได้นั่นเอง

หลินซินเหยียนถาม ” ฉันเข้าไปดูอาการเธอได้ไหมคะ ”

” ได้เลยค่ะ ” พยาบาลขานรับ

พยาบาลเปิดประตูเข้าไป แต่การเข้าไปทุกครั้งก็ งกยังต้อง เปลี่ยนชุดป้องกันเชื้ออยู่เช่นเดิม เพื่อป้องกันเชื้อโรคห้าชนิด ถึงแม้ฉินยาจะพ้นขีดอันตรายไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงต้องเปลี่ยน เสื้อผ้าอยู่ดี

เมื่อเคยใส่ไปครั้งหนึ่งแล้ว หลินซินเหยียนก็เริ่มชิน ใช้เวลา เพียงไม่นานก็สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ฉินยานอนอยู่บนเตียง ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายไปแล้ว แต่

ร่างกายก็ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

หลินซินเหยียนเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะก้มหน้ามองเธอ เป็น เพราะศีรษะของหญิงสาวถูกพันเอาไว้ทั้งหมด ทำให้เธอไม่ สามารถคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกของใบหน้านั้นได้ พอคิดถึง จ้านที่เอาแต่โวยวาย โดยปกติแล้วอารมณ์ของหญิงสาวก็ไม่ สงบเงียบขนาดนี้

เธอและพูดด้วยน้ำเสียงค่อยๆ ” ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ฉินยาตอบ ” ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่อยากรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

ฉันรู้ ฉันเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ภายในสองวันนี้แหละ ” หลินซินเหยียนพูดปลอบเธอ ” วางใจเถอะ ซูจ้านคงไม่มาอีกแล้ว แหละ ”

ฉินยาดูสงบขึ้นกว่าเดิม ” ฉันไม่อยากเจอหน้าเขาเลยจริงๆ ” หลินซินเหยียนเข้าใจดี

ถ้าเป็นตัวเธอเอง เธอก็ไม่อยากเจอเช่นเดียวกัน
ห้องไอซียูไม่เหมือนห้องผู้ป่วยธรรมดา ในห้องนี้แม้แต่เก้าอี้ สักตัวก็ไม่มี

ฉินยาไม่รู้เลยว่าตอนนี้กี่โมงยามแล้ว ห้องไอซียูปิดล้อม อย่างแน่นหนา และเปิดไฟตลอดเวลา ถ้าไม่ดูเวลา ก็คงไม่รู้ว่า ตอนนี้โลกภายนอกกี่โมงแล้ว

เธอถามขึ้นมา “เวลานี้ กี่โมงแล้วคะ ”

หลินซินเหยียนเลยหันไปดูเวลา แล้วพูดว่า ” ตอนนี้กลางคืน ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วล่ะ”

” ถ้างั้นพี่รีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ” ฉินยาพูดเชิงรู้สึกผิด ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะเรียกเธอมาที่นี่อีก

หลินซินเหยียนหัวเราะ เพื่อที่จะทำให้เธอผ่อนคลายลงเลยพูด ขึ้นมาว่า ” ปกติฉันอยู่ร้าน การที่จะรับลูกค้าคนหนึ่ง กลับไปฉันก็ ไม่ได้นอนเลยหรอกนะ ยังต้องคิดเค้าโครงภาพอีก ”

” ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่อีกหน่อย ระหว่างที่อยู่นี่ฉันจะได้คิด เค้าโครงรูปด้วยไง ”

ฉินยาเข้าใจดี ปากก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจได้จดจำไปแล้ว หลินซินเหยียนอยู่ที่นี่สักพัก เมื่อฉินยาหลับสนิท หลินซินเหยี ยนถึงออกไป

เมื่อเดินออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาล หลินซินเหยียน หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจงจึงห้าว
ขณะเดียวกัน รถของจงจึงห้าวก็จอดที่สะพานอ่านซื้อเขาลง จากรถมายืนฟังราวจับสะพาน มือทั้งสองข้างล้วงลงไปใน กระเป๋ากางเกง แล้วมองไปยังแม่น้ำที่ทอดออกไป

ซูจ้านกับเส้นเผยชวนนั่งอยู่ตรงบันได

” เรื่องนี้ นายควรจะให้เวลาเธอซะหน่อยนะ นายต้องเข้าใจว่า เธอไม่อยากเจอนาย นายก็อย่าไปก่อความวุ่นวายให้เธอเลย ให้ เวลาเธอหน่อยเถอะ ระหว่างนี้นายก็อยู่เงียบๆ ทำความเข้าใจ ความสัมพันธ์ของพวกนายไง ” เสิ่นเผยชวนแนะนำเขาขึ้นมา

ซูจ้านไม่ปริปาก นั่งฟังเงียบๆ ไม่มีคำพูดสักคำหลุดออกมา

เขาทำแค่กระดกเหล้าเข้าปากเท่านั้น

บนบันไดมีกระป๋องตั้งเรียงรายเต็มไปหมด มีทั้งที่ถูกดื่มแล้ว และอันที่ยังไม่ถูกเปิด

เสิ่นเผยชวนเริ่มจะมีน้ำโห เขาพูดไปครึ่งค่อนวันแล้ว พูดจน

คอแทบจะมีควันพุ่งออกมา แต่ไอ้หนุ่มนี่สักคำก็ยังไม่ปริปากพูด

” ซูจ้าน นี่แกจะทำอะไรกันแน่วะ ” เสิ่นเผยชวนตะคอกออกมา มือข้างหนึ่งบีบกระป๋องแน่น ” เสียใจในสิ่งที่ทำสินะ ”

” เออ กูเสียใจโว้ย! ” จู่ๆ ซูจ้านก็ยืนขึ้นมา ในใจของเขามัน วุ่นวายไปหมด เลยเตะกระป๋องที่วางอยู่บนพื้น เขามองไปยังเส้น เผยซวนที่กำลังตกตะลึงอยู่ ” มึงรู้ไหม ว่าเธอ… เธอท้อง ลูกขอ 11 งกูเนี่ย คุณยังไม่รู้เลย กูเห็นเลือดของเธอที่ไหลเต็มตัว กูนึกว่า…. กูนึกว่าเธอบาดเจ็บ กูเห็นเธอ สละละทิ้งชีวิตหนึ่งไปต่อหน้า ต่อตา… ”
จ้านเอามือกุมที่หน้าอก” ตรงนี้… ” เขากำมือแน่น ก่อนจะ เอากำปั้นทุบลงบนหน้าอกของตัวเอง ” ตรงนี้ มันปวดจนจะตาย อยู่แล้ว ”

เสิ่นเผยชวนเห็นก็รับรู้ได้ถึงความทรมานของเขา แต่ว่า เขา กลับไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้ได้

เขาถึงได้ค้นพบว่าค่าแนะนำที่เพิ่งให้ไปเมื่อกี้ ไม่ได้ส่วนช่วย

อะไรเลย

ความเสียดาย ความเสียใจและโกรธเกลียดของเขา กลัวว่า สองคำนี้จึงไม่สามารถที่จะแนะนำเขาได้

” ฉันรู้ว่านายเสียใจ แต่ฉันดื่มเป็นเพื่อนนายเอง ” เสิ่นเผย ชวนก้มลงไปเก็บกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมา ก่อนที่จะเปิดแล้ว ดื่มเข้าไป ถ้าเอาแขนคล้องคอของซูจ้านเอาไว้ ก่อนจะพูดข้างหู ของเขา ” มันจะผ่านไปเว้ย รอเธอหาย แล้วก็รีบไปชดใช้ พวก นายยังหนุ่มยังสาว ก็พอมีโอกาสอยู่บ้าง ”

ซูจ้านก็ยังคงรู้สึกปวดใจอยู่ แต่เขาก็รู้ว่าการมานั่งเสียใจกับ เรื่องที่ผ่านไปแล้วมันไม่มีประโยชน์

สิ่งที่เขาทำได้ต่อจากนี้ก็คือการชดใช้ในสิ่งที่เคยทำลงไป เขาซ้อนสายตาที่แดงก่ำขึ้นมามองเสิ่นเผยชวน ” ถ้างั้นผมยัง

มีโอกาสไหม ”

” มีสิ นายยังมีโอกาสอยู่ ” เสิ่นเผยชวนให้คำตอบที่แน่นอนกับเขา
บ้านใจนขึ้นมาเล็กน้อย ” วันนี้นายอยู่เป็นเพื่อนฉันที ฉันไม่ อยากอยู่คนเดียว ”

เขากลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่

เงินเผยชวนตอบตกลง

ประจวบเหมาะกับที่เสิ่นเผยชวนถามจงจึงห้าวว่าอยู่ที่นี่ด้วย กันไหม โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

จงจิ้งห้าวหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะรับสาย ปลายสาย ก็ตามมาด้วยเสียงของหลินซินเหยียน “ซูจ้านดีขึ้นหรือยัง

จงจิ่งห้าวช้อนสายตา มองไปที่ชายหนุ่มสองคนที่ยืนโอบกัน อยู่บนถนน ก่อนจะตอบยิ้มเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์

” ถ้างั้นก็ดีเลย ฉันอยู่ทางออกโรงพยาบาล ถ้าคุณไม่ว่างมา 11 รับ ฉันจะได้นั่งรถกลับไปเอง

จงจิ่งห้าวพูด ” ผมว่าง ”

ซูจ้านยังมีเส้นเผยชวนอยู่เป็นเพื่อน เขากลับขึ้นมายืนตัวตรง ก่อนจะเดินไปทางรถ ” ฉันไปก่อนล่ะ

ใจของซูจ้านไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ เขาเสียทั้งลูก แถมยังถูกผู้ หญิงที่ตัวเองชอบปฏิเสธที่จะเจอหน้าอีก ในใจเขาเต็มไปด้วย ความขมขื่น จงจิ่งห้าวยังจะกลับไปตอนนี้อีก มีเมีย พี่น้องก็ไม่คิด จะเอาแล้วหรือไง
” เห็นเมียดีกว่าเพื่อนเหรอ! “ซูจ้านตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง มือของจงจึงห้าวที่กำลังจะเปิดประตูชะงักลง ก่อนจะหันกลับ มามองเขา ” ยังอยากที่จะให้หน้าของฉินยากลับมาเป็นเหมือน เดิมอยู่ไหม ”

ซูจ้านรู้สึกท้อแท้ เขาอยาก อยากมาก กินยาในตอนนี้ยอมเจอ แค่หลินซินเหยียนเท่านั้น หลินซินเหยียนจัดการเรื่องพวกนี้ไม่ ไหวก็ต้องให้จงจึงห้าวช่วย

” ผมไม่ได้จะหมายความว่าอย่างนั้น ผมมันไม่ดี คุณก็อย่าไป ใส่ใจในสิ่งที่ผมทำเลยนะ ” ตาแดงๆ ของซูจ้านมองพลางยิ้ม อย่างไม่สู้ดีนัก

“วางใจเถอะ ” ไม่มีคำพูดที่มากมายหรือคำสัญญา การที่เป็น พี่น้องกันมาหลายปี เขาจะต้องหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุดสำหรับ ฉินยาให้ได้

ซูจ้านสะอื้นไห้ พลางตอบ ” ขอบคุณนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ