กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 14 ไม่เข้าใจเธอแล้ว



บทที่ 14 ไม่เข้าใจเธอแล้ว

“เรื่องอะไรเหรอ?” หลินซินเหยียนสับสน

จงจึงห้าวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินต้านแสงไฟเข้ามา ย่างก้าวของเขานั้น

มั่นคงและเชื่องช้า สุดท้ายก็ยืนอยู่ตรงหน้าของหลินซินเหยียน แล้วก็มอง เธอจากมุมสูง “ตอนที่อยู่ในสถานะความสัมพันธ์สามีภรรยากับฉัน อย่าไป กับผู้ชายคนอื่นมั่วซั่ว ไม่ว่าจะแต่งงานกับเพราะเหตุผลอะไร แต่ห้ามสวมเขาให้เขาในระหว่าง

การแต่งงาน!

นี่คือเส้นตายของเขา และก็เป็นศักดิ์ศรีของผู้ชาย

หลินซินเหยียนไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน เธอไปกับใครกัน?

เธอตอบโต้โดยสัญชาตญาณ “แต่ว่าคุณก็ค้างคืนที่นี่กับผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่เหรอ? ถ้ายังงั้นฉันต้องขอคุณเรื่องนี้ในฐานะภรรยาด้วยรึเปล่า? “

จงจึงห้าวขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ฉันไม่ได้นอนกับเธอ

หลินซินเหยียนอึ้งไป ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อคืนไปจเวยค้างคืนที่นี่

ไม่ได้นอนด้วยกัน แล้วใครจะเชื่อ?

เดี๋ยวก่อนนะ จะนอนหรือไม่นอน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ?

สีหน้าของจงจึงห้าวเปลี่ยนไป นี่เขากำลังทำอะไรอยู่?

หลินซินเหยียนไม่อยากมีปัญหากับเขา น้ำเสียงก็อ่อนลง “ฉันจะ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำตามที่คุณบอก ถ้ายังงั้นฉัน……

เธอเขย่าเอกสารในมือ ความหมายนั้นชัดเจนมาก

จงจึงห้าวตอบรับอย่างนิ่งเรียบ ในน้ำเสียงนั้นมีความขุ่นเคืองอยู่ ไม่ใช่ขุ่นเคืองหลินซินเหยียนนะ แต่ว่าเป็นตัวเองต่างหาก!

ตัวเองเป็นอะไร ทำไมต้องไปอธิบายให้เธอฟังด้วย!?

บ้าไปแล้ว!

พฤติกรรมที่ผิดปกตินี้ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก

รังเกียจเสียด้วยซ้ำ!

เพราะว่าหลินซินเหยียนได้งานในร้านอาหาร ก็เลยอยากจะแปลเอกสาร ให้เสร็จไวๆ

จนถึงเที่ยงคืน เธอทำเสร็จไปครึ่งหนึ่ง ก็รู้สึกง่วงมากแล้ว

เพื่อที่จะให้ตัวเองรู้สึกสดชื่น เธอถือเอกสารไปที่ห้องนั่งเล่น ในเวลานี้ทั้ง คฤหาสน์นั้นเงียบมาก จงจึงห้าวกับป้าหน่าจะหลับปุ๋ยไปแล้ว เธอวางเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟ ไปเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วในครัว วางแก้วลง

กลับไปที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนพรม แล้วก็นั่งทำงานต่อไป

จงจึงห้าวหิวน้ำ ลงมาเทน้ำจะดื่มกลางดึก ก็เห็นว่าหลินซินเหยียนยังนั่ง แปลเอกสารอยู่ คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดเข้าหากัน

แต่ว่าไม่ได้พูดอะไร หลินซินเหยียนเห็นเขาก็ไม่ได้ทักทายก่อน

จงจึงห้าวเคยชินกับการไม่มีคนนอกอยู่ที่บ้าน พอเห็นว่ามีน้ำวางอยู่บน

โต๊ะ ก็ยกขึ้นมาดื่ม

“นั่นมัน

หลินซินเหยียนอยากจะเตือนว่านั่นคือแก้วที่เธอได้ใช้ไปแล้ว แต่ยังไง ก็ตาม จงจึงห้าวดื่มมันไปแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดต่อไปยังไงดี

จงจึงห้าวมองเธอแวบหนึ่ง เหมือนกับเข้าใจว่าเธอมีอะไรจะพูดแต่ว่า สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา จ้องไปที่ใบหน้าของเธอสักครู่ แล้วก็ก้มหน้าลงภายใต้แสงไฟสีขาวสว่างวาบ เขาก็พบว่ามีรอยริมฝีปากที่ทับซ้อนกันอยู่

รอยครึ่งหนึ่งนั้นเป็นตำแหน่งที่เขาดื่มน้ำเมื่อกี้นี้

เห็นได้ชัดว่าตรงที่ริมฝีปากเขาแตะโดนเมื่อกี้นี้ ถูกคนใช้มาก่อนหน้านี้ แล้ว บวกกับปฏิกิริยาของหลินซินเหยียนเมื่อกี้นี้ ก็แน่ใจได้เลยว่าเป็นเธอ

หลินซินเหยียนก้มหน้า ทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไรทั้งนั้น และก็ไม่มีอะไร

เกิดขึ้นทั้งนั้น

แต่ว่าใบหน้าของเขา กลับรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด

พวกเขาเป็นคนไม่คุ้นเคยกันมาก มาใช้แก้วเดียวกัน มันค่อนข้าง เป็นการกระทําที่ใกล้ชิดกันเกินไป

ถึงแม้จะบอกว่าเขาไม่ได้เจตนา แต่ว่าหลินซินเหยียนยังคงรู้สึกเขินอาย จงจิ่งห้าวขยับริมฝีปาก แล้วก็เลียริมฝีปากล่างของตนเอง เขาไม่รู้ว่าตัว เองกำลังคิดอะไรอยู่ ดื่มน้ำที่เหลือในแก้วลงไป

เขาวางแก้วเปล่าในมือลง แล้วก็เดินไปมองนาฬิกา นี่มันตีหนึ่งแล้ว ยัง

ไม่นอนเหรอ?”

หลินซินเหยียนก้มหน้าลง เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “ฉันยังไม่ ง่วง”

จงจึงห้าวเงียบและมองเธออยู่สองวินาที หลังจากนั้นก็เดินขึ้นชั้นบนไป

พอเดินขึ้นไปถึงชั้นบนจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่เธอบอกว่าเคยไปสมัครงานที่ บริษัท แต่ว่าไม่ผ่าน เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมาก เขากลับไปที่ห้อง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็โทรไปหากวนจิ้ง

กวนจิ้งในกลางดึกแบบนี้นอนสะลึมสะลืออยู่ ตื่นขึ้นมาเพราะเสียง โทรศัพท์ อารมณ์ของเขาไม่ดีอย่างมาก คว้าโทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงด้วย ความโกรธ คําด่าทอได้ก่อตัวขึ้นในอกของเขาแล้ว แต่ว่าพอเห็นบนหน้าจออย่างชัดเจนแล้วนั้น ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เขาขยี้ตาแล้วรับ สาย ประธานจ

“นายไปสืบเกี่ยวกับแผนกบุคคลมาหน่อย ว่าทำไมต้องปฏิเสธที่จะจ้าง

สาม”

“หา? “กวนจึงยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ปลายสายก็ได้วางสายไปแล้ว

เขามอง โทรศัพท์ การโทรมากลางดึกขนาดนี้ ทำไมถึงเป็นเรื่องที่เล็กแค่ นี้ล่ะ?

ใบหน้าของกวนจิ้งแทบจะบิดเบี้ยวแล้ว

นี่มันเป็นการรบกวนฝันดีของคนอื่นอยู่รึเปล่า?

เขาบ่นกับตัวเอง แต่ก็ไม่กล้าเมินเฉย

วันรุ่งขึ้น ป้าหนูตื่นขึ้นมา ก็พบว่าหลินซินเหยียนนอนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ กองกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าเธอ เธอเองก็อ่านไม่เข้าใจ แต่ว่ารู้ว่ามันน่า จะเป็นเรื่องงาน ในใจก็ถอนหายใจออกมา “ทำงานก็ไม่ต้องพยายามสุด ชีวิตแบบนี้ก็ได้มาก ไม่หลับไม่นอน

ไม่เข้าใจจริงๆ ป้าหยูเข้าไปที่ห้องแล้วเอาผ้าห่มมาห่มให้เธอ

ตอนนี้เองจงจึงห้าวก็ลงมาจากชั้นบน เห็นว่าป่าหยูกำลังห่มผ้าให้หลิน นเหยียนอยู่ ริ้วรอยเล็กๆ ที่มุมตาดูลึกขึ้น

เยอะขึ้น ท่าทางของอายุที่เพิ่มขึ้น

เขาเดินเข้าไป ก้มตัวไปหยิบเอกสารที่เธอแปล เอกสารทั้งหมด 22 หน้า เธอเขียนแปลด้วยมือจนเสร็จหมด

ทำทั้งหมดนี้จนเสร็จ เกรงว่าน่าจะตอนรุ่งสางแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้นอน ทั้งคืนเลยเหรอ?
จงจิ่งห้าวอดไม่ได้ที่จะมองเธอ

ป้าหนูถอนหายใจออกมา เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะพูดว่าอะไรดี

หันหลังเดินเข้าห้องครัวไปเตรียมอาหารเช้า

ตอนที่หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมานั้น จงจึงห้าวก็กำลังกินอาหารเช้าอยู่ เธอขยี้ตาแล้วเอามือโต๊ะเพื่อลุกขึ้น ก็พบว่าชาชาไปแล้ว

เธอพักอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะสามารถเดินได้

เธอเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็อาบน้ำไปด้วยเลย เพื่อให้ตัว เองมีชีวิตชีวา

หลินซินเหยียนแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมาวางเอกสารไว้ตรงหน้าจงจึง ห้าว “เสร็จหมดแล้ว แล้วเธอก็กลับไปนั่งที่เดิมและกินข้าว คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าเกิด

ว่าสะดวก ก็เอาเงินให้ฉันเลยก็ได้นะ”

หลินซินเหยียนกลัวว่าเขาจะลืม

จงจึงห้าววางแก้วกาแฟ ในมือ แล้วก็มองเธออยู่สองวินาที “ฉันไม่ค่อย พกเงินสด ตอนเย็นเธอไปหาฉันที่บริษัทนะ

เขาพูดจบแล้วก็ลุกขึ้น

หลินซินเหยียนดื่มนม ก็ไม่ได้สับสนอะไรมากมาย เขายอมรับก็พอแล้ว

ที่หลินซินเหยียนพยายามสุดชีวิตเพื่อให้งานเสร็จ ก็เพราะว่าไม่อยาก

ให้งานวันนี้ล่าช้า

จงจึงห้าวออกจากบ้านไปได้ไม่นาน หลินซินเหยียนเองก็ออกจากบ้าน

มาเหมือนกัน

ในร้านอาหารมีชุดยูนิฟอร์ม หลินซินเหยียนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กสีดา มีโบว์ที่คอเสื้อ กระโปรงทรงเอ เผยให้เห็นขาเรียวยาวทั้งสองข้าง

ตำแหน่งริมหน้าต่าง ไปจคู่เวณนั้นอารมณ์ดีเป็นพิเศษ วันนี้จงจึงห้าวเป็น คนนิตเธอให้ออกมากินข้าวด้วยกัน ถึงแม้ว่าจงจึงห้าวจะยอมรับความสัมพันธ์ขอทั้งสองคน และยังบอกอีก

ว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่ว่าเขาไม่เคยนัดเธอมาก่อนเลย ดูเหมือนกับว่าเธอ จะเป็นคนเริ่มในทุกครั้ง

“อะห้าว—”

“ฉันได้ยินมาว่า หลินซินเหยียนไปสมัครเป็นล่าม แต่ว่าเธอไม่ให้รับเข้า ทํางานงั้นเหรอ? “ตอนที่เขาเข้าไปบริษัทตอนเช้า กวนจิ้งก็รายงานเรื่องนี้ ให้เขารู้

เรื่องสมัครงาน ไปจเวยเป็นคนขัดขวาง

มือของไปจเวยกำแน่น เขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

จงจึงห้าวเอนหลังพิงเก้าอี้ แดดข้างนอกอบอุ่นมาก สาดส่องมาที่ ร่างกายของเขา เขาเชิดคางขึ้นอย่างเกียจคร้าน ดวงตาของเขาลึกซึ้งและ เต็มไปด้วยการสอบถาม

สำหรับผู้หญิง ใจดีคนนี้ที่ช่วยเขาตั้งแต่เด็กและกลายเป็นยาถอนพิษของ

เขา ตอนนี้ เขาไม่เข้าใจเธอแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ