กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 392 ลงโทษตัวเองสามแก้ว



บทที่ 392 ลงโทษตัวเองสามแก้ว

เงินเผยชวนตั้งปริศนาให้เขา “นายลองทายดูสิ

ซูจ้านจ้องมองเสิ่นเผยชวนแล้ว หรี่ตายบอกถามยิ้มๆ หรือว่า นายมีแฟนแล้ว วันนากับแฟนเหรอ”

ใบหน้าของเสิ่นเผยชวนทะมึนขึ้นทันที ถ้าการล้อครั้งนี้ถ้าอีก ฝ่ายเป็นคนอื่น เขาคงจะไม่โกรธ แต่ด้านในนั้นคือหลินซินเห ยียน จะมาล้อเล่นง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้

ซูจ้านกะพริบตา “ล้อเล่นไม่ได้ งั้นฉันไม่เล่นก็ได้ ทำไมถึง โกรธล่ะ”

เสิ่นเผยชวนเหลือบมองเขาเล็กน้อย “ด้านในคือพี่สะใภ้

สีหน้าของซูจ้านเปลี่ยนไปทันที ทุกครั้งที่เจอหรือได้ยินชื่อหลิน

ซินเหยียน เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงฉินยาขึ้นมา

เขาก้มหน้ามองพื้น “งั้นฉันไปก่อนนะ

ตั้งแต่ฉันย้ายไป เขาก็ยุ่งอยู่แต่กับงาน มีเวลาก็กลับไปอยู่เป็น เพื่อนคุณย่าบ้าง วันนั้นเจอหลินซินเหยียนที่สนามบิน หลังจาก นั้นก็ไม่เจออีกเลย

เพราะหลินซินเหยียนและฉินยาสนิทกัน เมื่อมองเห็นหลินซิน เหยียนเขาก็นึกถึงฉินยาขึ้นมา

เสิ่นเผยชวนมองซูจ้าน “ไม่ใช่เข้าใจแล้วเหรอ”
ทำไมท่าทางยังโทษหลินซินเหยียนอยู่ล่ะ

“เปล่า ฉัน…”

“เอาล่ะๆ ทุกคนทำเพื่อนาย ไป เข้าไปกับฉัน ทักทายพี่สะใภ้ หน่อย” เสิ่นเผยชวนคล้องคอซูจ้าน ลากเข้าไปด้านใน

ถูกซูจ้านขัดแบบนี้ เขาจึงลืมเรื่องโทรหาจงจึงห้าว

ในห้องวีไอพีมีหลินซินเหยียนอยู่คนเดียว นั่งขดตัวอยู่บน โซฟา ในมือมีเครื่องดื่มอยู่ ปากเล็กจิบไปเรื่อยๆ

ชายหนุ่มสองคนมองตากัน ไม่ได้มองไปที่ร่างของเธอ พวก เขานั่งลงข้างๆ

“พี่สะใภ้” ซูจ้านเอ่ยทักทายก่อน

หลินซินเหยียนเชยตาขึ้นมา จึงมองเห็นทั้งสองคน “เผยชวน เรียกคุณมาเหรอ”

ซูจ้านนั่งลงที่อีกฝั่งของโซฟา “ไม่ใช่ครับ เจอกันตรงหน้า ประตู”

หลินซินเหยียนส่งเสียงตอบรับ ไม่ได้ถามต่อว่าทำไมพวกเขา ถึงไปเจอกันตรงหน้าประตูได้

เสิ่นเผยชวนบอกว่าตัวเองจะไปเข้าห้องน้ำ ตามหลักการแล้ว ไม่มีทางที่จะไปเจอกันหน้าประตูได้เลย แต่ตอนนี้หลินซินเหยีย นมีเรื่องให้ต้องคิดอยู่ในใจ ดังนั้นจึงไม่ทันสังเกตว่ามีอะไรแปลกไป
เสิ่นเผยชวนมองซูจ้านเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก

ซูจ้านเองก็มีเรื่องในใจ ตั้งแต่ฉินยาไปแล้ว เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ กับความเสียใจ เพราะความไม่ทันการของเขาส่งผลร้ายต่อฉิน ยา ทำให้

สูญเสียลูกไป

เขาเทเหล้าให้หลินซินเหยียน น้ำไหลกระทบขอบแก้ว ฟังแล้ว เหมือนเสียงแผ่วเบาของคน

หลินซินเหยียนมองดูแก้วที่ถูกรินจนเต็ม ทว่ากลับไม่ได้ยกขึ้น

มา แต่กลับบอก “ตอนนี้ฉันยาสบายดี ไม่ต้องกังวล

ซูจ้านก้มหน้า น้ำเสียงแหบแห้ง “รู้ว่าเธอสบายดี ผมก็วางใจ

หลินซินเหยียนไม่ได้พูดอะไรมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว เขาควร

โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว

“ผมดื่มให้คุณหนึ่งแก้วครับ” สองมือของซูจ้านยกเหล้าขึ้นมา ยกไปทางหลินซินเหยียน

หลินซินเหยียนยกแก้วขึ้นมา ชนแก้วกับเขา เสียงใสของแก้ว กระทบกันดังขึ้น ทำลายความเงียบในห้อง

ซูจ้านดื่มจนหมด

หลินซินเหยียนดื่มไปเพียงครึ่งแก้ว ลำคอรู้สึกแสบร้อนเพราะ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ฝืนดื่มมันจนหมด

หลอดอาหารร้อนผ่าว
เธอขมวดหัวคิ้ว

ซูจ้านพึ่งสังเกตได้ว่าเหมือนหลินซินเหยียนจะอารมณ์ไม่ดี

เขามองหลินซินเหยียนแล้วถามอย่างระมัดระวัง “พี่สะใภ้ อารมณ์ไม่ดีเหรอครับ”

เธอยกปลายคางขึ้น มองไปยังแสงเทียน ใช่ เธออารมณ์ไม่ดี มองเห็นจวงจื่อนเดินเข้าไปด้วยตาตัวเอง มองเห็นร่างที่ซูบผอม เธอรู้สึกปวดใจ

ในฐานะลูกสาว เธอมองข้ามจวงจื่อจีนมานานเกินไป หลังจาก มีลูกทั้งสองคนแล้ว เธอจับจ้องอยู่แต่กับลูกและงาน เธอใส่ใจ จวงจื่อจิ่นน้อยมาก

คิดมาตลอดว่าเธอยังสาว คิดมาตลอดว่าอาการป่วยของเธอ หายแล้ว เธอปล่อยวางความกังวลในใจ

เธอผิดไปแล้ว สติของจวงจื่อจิ่นนั้นหายแล้ว แต่บาดแผลที่

หลินกั๋วอันทิ้งไว้ในใจของเธอนั้นยังคงอยู่

หากใส่ใจเธอให้มากกว่านี้อีกสักนิด สัมผัสได้ว่าในใจเธอยัง คงยึดติดอยู่กับเรื่องราวในอดีต ช่วยหาทางออกให้เธอคงไม่ เลือกทางเดินเส้นนี้

ดังนั้นเธอไม่เหมาะสมที่จะเป็นลูก

“เพราะจิ่งห้าวเหรอ” ซูจ้านนึกว่าเป็นเพราะเธอทะเลาะกับจง จิ่งห้าว
เส้นเผยชวนมองเขา “นายคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนนายหรือ ยังไง ไม่ชัดเจนอะไรเลย”

ซูจ้านพลันโกรธขึ้นมา ทำไมต้องมาโจมตีเขา

เขาสูญเสียคนรัก สูญเสียลูกยังแย่ไม่พออีกเหรอ “นายไม่ด่าฉันจะได้ไหม” ซูจ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงวิงวอน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขายอมรับไม่ไหว

เงินเผยชวนเทเหล้าให้ตัวเอง “ฉันลงโทษตัวเองหนึ่งแก้ว” เขาดื่มหมดในคราวเดียว

ซูจ้านเทให้เขาอีกแก้ว ดังนั้นลงโทษตัวเองสามแก้ว แก้ว เดียวไม่ได้”

เงินเผยชวน ” ”

เขาไม่ดื่มได้ไหม

“ไม่ดื่ม เราก็ไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกัน” ซูจ้านเอ่ยคำขาด

เสิ่นเผยชวนคลายคอเสื้อออก “ได้ ก็แค่ลงโทษตัวเองสาม แก้ว จะทําอะไรฉันได้”

ซูจ้านนั่งลง ดื่มต่อไป “เพื่อความเป็นพี่น้อง ฉันจะดื่มกับนาย

หนึ่งแก้ว ใจดีไหม”

เสิ่นเผยชวนยกแก้วขึ้นมา “อย่าพูดมาก ดื่ม” หลินซินเหยียนมองพวกเขา ทั้งสองคนเถียงกันอยู่บ่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ก็ยังคงดีมากๆ

โอ๊ะ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เธอยกมือขึ้นปิดปากหมุนตัวเดิน ออกจากห้องวีไอพี

ซูจ้านและเสิ่นเผยชวนหยุดเล่นกัน

“พี่สะใภ้ คุณไม่สบายเหรอครับ

หลินซินเหยียนไม่อยากทําลายความสนุกของพวกเขา เธอ ส่ายหน้า “ฉันจะไปห้องน้ำหน่อย พวกคุณดื่มไปเถอะ”

พูดจบเธอก็สาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

เธออยู่ที่อ่างล้างหน้า ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด เธออาเจียน ออกมา หลังจากอาเจียนแล้วเธอก็รู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว และรู้สึกมีสติ

มากขึ้นไม่น้อย

เธอเปิดก๊อกน้าบ้วนปาก ล้างหน้า

เธอเงยหน้าขึ้น มองตัวเองในกระจก ยกมุมปากขึ้น เผยรอย ยิ้มออกมา เธอบอกตัวเองอยู่ในใจ ต่อไปยังมีเวลา เธอต้องดูแล จวงจื่อจิ่นและลูกๆ ทั้งสองให้ดี

เธอเช็ดหน้า ตั้งใจจะกลับไปบอกซูจ้านและเสิ่นเผยชวนว่าเธอ ควรกลับแล้ว

ขณะเดินกลับ เธอได้เผชิญหน้ากับชายสวมหมวกเบสบอลคน หนึ่ง น้ำเสียงของเขามีแฝงไปด้วยความเยือกเย็น “เหยียนเหขียน

หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น ภายใต้แสงสลัว เธอมองเห็นร่าง คุ้นเคยยืนอยู่ไม่ไกล

ช่องว่างไม่ไกลมาก สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น หลินซินเหยียนก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ “คุณเป็นใคร”

ชายคนนั้นสวมหมวกเบสบอล กดปีกหมวกลง เธอมองไม่ เห็นใบหน้าของเขา

“คุณเป็นใครกันแน่” น้ำเสียงของหลินซินเหยียนเองก็เรียบลง

“จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ” ขณะที่พูด เขาก็ถอดหมวกออก เผยให้ เห็นใบหน้าเต็มๆ ดวงตาของเขาฉายแววร้ายกาจ

หลินซินเหยียนเบิกตาโพลง “คุณ”

เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง เขาควรจะอยู่ข้างในไม่ใช่เหรอ

เขาออกมาได้อย่างไร

เขาเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ “แปลกใจใช่ไหม ฉันมาโผล่อยู่ที่นี่ ได้ยังไง ไม่ได้ถูกขังอยู่ในคุก

หลินซินเหยียนพยายามกดความหวาดกลัวในใจเอาไว้ “อย่า เข้ามานะ”

Mй…

รอยยิ้มร้าย ทำให้เธอหวาดกลัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ