กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 176 พรหมลิขิต



บทที่ 176 พรหมลิขิต

“ครั้งแรก?”

กลิ่นไอที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนเพศชายอบอวลอยู่ข้างหู ทั้งๆที่ เป็นการสอบถาม แต่ก็ดูมีความเร่งรีบขนาดนั้น

เหมือนผู้ชายได้หยุดไปครู่หนึ่ง ทรวงอกแน่นปึกแนบชิดอยู่ แผ่นหลังเธอเร่าร้อนจนจะพุ่งออกมาจากเนื้อหนัง ริมฝีปากเย็น เฉียบของเขาประกบอยู่กับผิวกายของเธอ คลุมเครือแต่รีบร้อน เห็นได้ชัดว่าอยากครอบครองผู้หญิงคนนี้ทันที แต่ก็ยังยับยั้ง ชั่งใจไว้ “เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”

“ฉันไม่เปลี่ยนใจค่ะ”

เธอเพิ่งพูดจบ ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังโอบเอวเธอไว้ และถือ โอกาสกดทับเธอไปที่บนเตียง ในความมืดมิดเธอมองไม่เห็น ใบหน้าเขา รู้แค่ว่าเขารีบร้อนมาก ร้อนรุ่มไปทั้งตัว มือของเขา เหมือนมีเวทย์มนต์ ทุกอณูรูขุมขนที่เคยลูบไล้ผ่านผิวเธอ ล้วน เหมือนถูกไฟแผดเผา

เธอกลัวและตื่นเต้น อยากผลักเขาออก แต่พอนึกถึงแม่กับน้อง ชายที่นอนอยู่โรงพยาบาล เธอก็ได้ดึงมือกลับ ใช้แรงจับ ผ้าปูที่นอนใต้ร่างไว้แน่น

ทันใดนั้น ร่างกายของเธอเหมือนถูกฉีกขาด เจ็บ ไม่ได้เจ็บเพียงกายเท่านั้น แต่ยังเจ็บทางใจด้วย เพื่อไม่ส่งเสียง ครวญ ครางน่าอาบอายออกมาจากใต้ร่างของผู้ชาย เธอกัดริมฝีปากไว้ แน่น ไม่ส่งเสียงออกมาเลย

ผู้ชายแรงเยอะมาก มีอยู่หลายครั้งที่เธอทนรับไม่ไหวอยากจะ ผลักเขาออก

“อย่า…”

หลินซินเหยียนสะดุ้งตื่นจากความฝันทันที เธอลืมตาแล้วก ลอกตาไปมา สุดท้ายได้หยุดอยู่ที่สายตาพราวเสน่ห์คู่นั้น

เธอตกใจ

ลุกขึ้นมานั่งด้วยท่าสปริงตัว พูดจาก็สะเปะสะปะไปหมด “คุณ คุณ คุณคือใครคะ?”

“คำถามนี้น่าจะผมถามคุณมากกว่ามั้งครับ?” เสียงของผู้ชาย ทุ้มต่ำ ผมสั้นที่เรียบร้อย ดวงตาคู่สีน้ำตาล แพรวพราวราวกับ ดวงดาวยามค่ำคืน เวลายิ้มดูน่ามองมาก เขามองคราบน้ำตาที่ ยังไม่แห้งบนใบหน้าเธอ “เมื่อฝันร้ายเหรอครับ?”

หลินซินเหยียนจับผ้าห่มไว้แน่น สำหรับเธอแล้วนั่นไม่ได้เป็น เพียงแค่ฝันร้าย

หลายปีมานี้ เธอไม่เคยฝันถึงเรื่องของคืนนั้นเลย ในฝัน เหมือนจริงขนาดนั้น เรื่องที่ปิดผนึกอยู่ลึกๆ ในใจไม่อยากไป สัมผัสที่สุด จู่ๆได้โผล่ขึ้นมาในหัวอย่างสมจริงขนาดนี้ ก็เหมือน บาดแผลในอดีตที่ถูกดึงสะเก็ดแผลออก เลือดไหลไม่หยุด
“คุณเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอคะ?” เธอจำได้ว่าเธออยู่ในน้ำ หายใจไม่ออกจนหมดสติไป ต่อมาเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอล้วนไม่รู้ เลย

“อืม พูดอย่างแม่นยำกว่าคือผมให้คนช่วยคุณไว้ครับ” ตั้งแต่ ต้นจนจบใบหน้าของผู้ชายล้วนประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ

แต่ก็รู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจจริง ตอนนี้ หลินซินเหยียนถึงพบว่าผู้ชายคนนี้นั่งอยู่บนรถเข็น ใส่ ชุดลำลอง มีผ้าห่มบางๆ ห่มขาไว้

แววตาที่ผู้ชายมองหลินซินเหยียนลึกซึ้งขึ้น เขาไม่เห็นความ ดูถูกจากแววตาเธอ มีแค่ความตื่นตะลึง นี่ทำให้สีหน้าแววตาเขา ผ่อนคลายลงไม่น้อยเลย

“เมื่อคืนผมกลับมาจากข้างนอก เห็นคนโดดลงไปในแม่น้ำ จึง ได้ให้คนช่วยคุณไว้ครับ” เสียงของผู้ชายอ่อนโยน “มีคนจ้องจะ ทําร้ายคุณเหรอครับ?”

เขาเห็นเธอโดดลงไปในแม่น้ำ ก็ย่อมเห็นคนวิ่งตามเธออยู่ แล้ว

หลินซินเหยียนไม่ได้ตอบ แต่ได้หดตัวไปที่หัวเตียง พอขยับตัว ปุ๊บก็ปวดขามาก เธอขมวดคิ้ว

ผู้ชายดูออกว่าหลินซินเหยียนกำลังระแวดระวังเขาอยู่ ยังไงก็ เป็นคนแปลกหน้า ในใจเกิดความระแวดระวังเขาก็สามารถ เข้าใจได้ เขาจึงไม่ได้พูดประเด็นนี้ต่อ “คุณวางใจได้ครับ อยู่ที่นี่ไม่มีทางถูกจับหรอกครับ ผมได้ให้คนดูแผลที่ขาคุณแล้ว ไม่พัก ฟื้นสักสิบวันถึงครึ่งเดือน คุณคงลงจากเตียงไม่ได้หรอกครับ

หลินซินเหยียนรู้ว่าขาของตัวเองได้รับบาดเจ็บ ไม่นึกเลยว่า เขาจะให้คนดูให้เธอ อันนี้ทำเธอแปลกใจมาก “ขอบคุณค่ะ” “ไม่ต้องขอบคุณครับ ก็แค่เจอเรื่องไม่เป็นธรรมชักดาบช่วย เหลือ เชื่อว่าถึงไม่ใช่ผม คนอื่นเห็นก็คงไม่นิ่งดูดายหรอก

ครับ…….แถมยังเป็นคนสวยซะด้วย

ผู้ชายแกล้งหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นหยอกเล่น

หลินซินเหยียนย่อมฟังออกอยู่แล้วว่าเขาหยอกเล่น แต่เขา ช่วยชีวิตตัวเองไว้ ถึงไม่พอใจกับคำพูดของเขา ก็ไม่ได้ แสดงออกมาทางสีหน้า

“ที่นี่คือที่ไหนคะ ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณใช้หน่อยได้มั้ยคะ?” ตอนนี้เธอหลุดพ้นจากการควบคุมของเหอยเจ๋อแล้ว อยากโทร หาหลินซีเฉินด่วน เธออยากโทรบอกพวกเขาว่าเธอปลอดภัยดี อยากถามว่าหลายวันที่เธอไม่อยู่เขากับหลินลุยซีเป็นยังไงบ้าง

สายตาของผู้ชายหล่นอยู่ที่ข้อมือของหลินซินเหยียน ข้อมือ เรียวสวยใส่กำไลหยกเกรดน้ำงามไว้วันหนึ่ง กำไลหยก……… แววตาเขาระยิบระยับเล็กน้อยพร้อมกับพูดปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ ต่อไปเธอรับผิดชอบดูแลคุณ ต้องการอะไรคุณสามารถบอกเธอ ได้เลย”

พูดจบเขาก็ได้หมุนรถเข็นออกจากห้อง พอถึงหน้าห้องเขาได้ หยุดลงมา แล้วหันมามองเธอ “คุณชื่ออะไรครับ?”
หลินซินเหยียนเบิกตากว้าง ไม่ได้ตอบอย่างซื่อตรง “หลินเหยี บนค่ะ”

เธอรู้สึกอยู่เรื่อยเลยว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ลึกจนไม่อาจคาด เคา

ผู้ชายยิ้ม “หลินเหยียน? เหยียนเหยียน? เพราะดี ผมชื่อไปยื่น หนิงครับ”

รถเข็นกลิ้งอยู่บนพื้นส่งเสียงออกมาเล็กน้อย เสียงแบบนี้ได้ ค่อยๆหายไปจากห้องนอน ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าห้องตลอดได้เดิน เข้ามาและทักทายหลินซินเหยียน “สวัสดีค่ะ คุณเรียกดิฉันเสียว หลิวก็พอค่ะ คุณต้องการอะไรก็บอกกับดิฉันได้เลยค่ะ”

หลินซินเหยียนส่ายหัว ตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไร เธอไม่เชื่อ ใจผู้ชายคนนี้เลย รู้สึกอยู่เรื่อยเลยว่าเธอได้ออกจากคอกหมาป่า แล้วตกเข้าไปในถ้ำเสื้อ

“ที่นี่คือที่ไหน? คนเมื่อกี้นี้คือ?”

“ไปเฉิงค่ะ คนเมื่อก็คือคุณชายของบ้านหลังนี้ค่ะ” เสี่ยวหลิว ตอบ

หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว คำตอบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอ

เลย

แต่ว่าไป๋เฉิง?

ที่นี่เป็นสถานที่อะไร ทำไมไม่เคยได้ยินเลย?
“คุณวางใจได้ค่ะ คุณชายเป็นคนดีค่ะ เหมือนเสี่ยวหลว ความข้องใจของหลินซินเหยียนออก จึงได้อธิบายว่า “เขาแค่ขา ไม่ดีเฉยๆ ไม่ใช่คนเลวอะไรค่ะ”

เด็กผู้หญิงอายุยังไม่เยอะ ตอนที่พูดถึงคุณชายของเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความนับถือ ยังปะปนด้วยความเขินอายของ เด็กผู้หญิง

หลินซินเหยียนพอจะรู้แล้วว่าเธอปลื้มคุณชายไปคนนั้น

“ฉันอยากนอนพักผ่อนสักพัก” ช่วงที่ถูกเหอยเจ๋อจับตัวไป ไม่มีวันไหนที่เธอหลับสนิทเลย ร่างกายเหนื่อยล้าสุดๆ อย่างน้อย ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นยังไม่ทำอะไรเธอหรอก

เธอระแวงเกินไป มีแต่จะทำให้คนอ่านความคิดเธอออก สู้ เงียบสงบลงมาก่อน จากนั้นค่อยคิดหาวิธีติดต่อกับโลกภายนอก ดีกว่า

“ได้ค่ะ มีอะไรคุณก็เรียกดิฉันเลยนะคะ” เสี่ยวหลิวออกจาก ห้องนอน และปิดประตู

หลินซินเหยียนนอนลงไป ด้านนอกมีเสียงนกร้องจิ๊บๆ แต่กลับ

ขวางความง่วงของเธอไม่ได้

เธอนอนลง ขนตาขยับอยู่ไม่กี่ครั้งก็ไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว ผ่านไปสักพักก็ได้ส่งเสียงหายใจที่สม่ำเสมอออกมา

เสี่ยวหลิวปิดประตูแต่ไม่ได้จากไปในทันที เธอยืนฟังความ เคลื่อนไหวของด้านในอยู่หน้าห้องนอน พอแน่ใจแล้วว่าหลินซินเหยียนหลับไปแล้วจริงๆ เธอถึงหันหลัง

ในห้องรับแขก ไปยื่นหนิงเอนตัวอยู่ที่ริมหน้าต่าง เขาหลับตา ไว้ ได้ยินเสียงฝีเท้าจึงถามว่า “เธอทําอะไรอยู่?

“หลับไปแล้วค่ะ”เสี่ยวหลิวยืนห่างจากข้างหลังเขาไม่ไกล

แอบมองผู้ชายที่ถึงแม้นั่งอยู่บนรถเข็น แต่ยังคงสง่าผ่าเผยอีก เช่นเคย เธอรู้สึกฟ้าเบื้องบนช่างไม่ยุติธรรมกับเขาซะเลย เขา เป็นคนจิตใจดีขนาดนี้ ทำไมฟ้าเบื้องบนต้องช่วงชิงความ สามารถในการเดินของเขาไปด้วย

“เธอต้องการอะไร ก็สนองความพอใจเธอให้หมดไปยื่นหนัง พูดอย่างละมุน

เสี่ยวหลิวไม่เข้าใจ ในปากได้ถามออกมาว่า “คุณชายคะ คุณชายรู้จักเธอเหรอคะ? ทำไมคุณชายได้ช่วยชีวิตเธอไว้ ยังดี กับเธอขนาดนี้อีกคะ?”

ไปยื่นหนึ่งมองนอกหน้าต่าง บนกิ่งไม้มีนกติดอยู่ตัวหนึ่ง คอย ร้องจิ๊บๆอย่างไม่หยุด มีใบไม้หมุนวนอยู่เป็นบางครั้ง ล่องลอย อยู่เป็นบางครั้ง แต่สุดท้ายมันก็ต้องร่วงหล่นลงมาบนพื้นอยู่ดี ก็ เหมือนโชคชะตา

“พรหมลิขิต” เขาพูดออกมาอย่างราบเรียบ

พรหมลิขิต?

เสี่ยวหลิวรู้สึกคำอธิบายนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย ถ้าอธิบายตาม แบบนี้ งั้นเธอกับคุณชายก็คือพรหมลิขิตเหมือนกันนะ?
เธอถูกขายมาที่ตระกูลไปตั้งแต่เด็ก หลังจากรู้เดียงสาก็รับผิด

ชอบคอยดูแลเขา นี่ก็คือพรหมลิขิตที่เขาพูดถึงหรือเปล่า? “งั้นดิฉันกับคุณชายคือพรหมลิขิตหรือเปล่าคะ?” เสี่ยวหลิว

ถามด้วยความคาดหวัง

ไปยื่นหนึ่งขยับรถเข็น หันหลังมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ใต้แสงไฟ แล้วยิ้มอ่อนๆ “อะไรคือพรหมลิขิต?”

เสี่ยวหลิวส่ายหัว

ไปยื่นหนิง โบกมือ “ไปทํางานเถอะ”

เสี่ยวหลิวอยากถามให้แน่ชัด พรหมลิขิตที่เขาพูดคืออะไร แต่ ก็ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ได้แต่ไปทำงานแต่โดยดี

สายตาของไปยื่นหนิงมองไปทางห้องที่หลินซินเหยียนหลับอยู่ แววตาลุ่มลึก พอนึกถึงกำไลหยกที่ข้อมือเธอแล้ว ได้กำมือแน่น ขึ้นทันที……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ