กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่132ความมุทะลุคือปีศาจร้าย



บทที่132ความมุทะลุคือปีศาจร้าย

เหอรุ่ยหลินหันศีรษะมาจ้องมองเหอรุ่ยสิง พลาง ยิ้มอย่างเย็นชา”พี่อยากให้ฉันกับพี่สองตายแล้วพี่ก็ได้ฮุบ สมบัติของตระกูลคนเดียวใช่ไหม? ”

“ถึงเวลานี้แล้ว ยังไม่รู้จักสำนึก ยังจะทะเลาะ กันเองอีก? “เดิมทีเหอเหวินหวยไม่อยากจะโกรธไปกว่านี้ แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเธอก็อดไม่ได้ที่จะโมโห

เขาใช้มือตบที่โต๊ะอย่างแรงเสียงดังเพี้ยะเพี้ยะจน โต๊ะสั่น เขาจ้องมองไปที่ลูกสาวพลางหายใจลึก “เรื่องนี้ ลูกเป็นคนก่อก็ต้องเป็นคนจบมันด้วยตนเอง”

เมื่อถึงเวลานี้เหอเหวินหวยก็ตัดสินใจ

“มีสิทธิ์อะไรถึงทำแบบนี้? “เหอรุ่ยหลินไม่ยอมแพ้ เธอหวังดีกับวงศ์ตระกูลด้วยใจจริง เพียงแต่เรื่องที่เธอทำ นั้นไม่สําเร็จ ก็สมควรตายงั้นเหรอ? “พ่อ ตอนนั้นที่พ่อยอมรับฉัน เป็นเพราะว่าฉันเป็น

คนที่อยู่ข้างกายจงจิ่งห้าวใช่ไหม ตอนนี้เห็นว่าฉันไม่มี

ประโยชน์แล้ว ก็คิดที่จะข้ามแม่น้ำทุบสะพานงั้นเหรอ?

เมื่อถูกพูดแทงใจ สีหน้าของเหอเหวินหวยก็ เปลี่ยนไป”ลูกมีคุณค่าอะไรให้ต้องหลอกใช้ด้วยเหรอ?

ตอนแรกที่เหอรุ่ยหลินอ้างว่าตนนั้นเป็นลูกสาว ของตระกูลเหอที่ถูกพลัดพราก เขาก็รู้สึกลังเลว่าจะ ยอมรับเธอดีไหม เพราะว่าเธอเติบโตมาจากที่อื่น และไม่ ได้รู้สึกผูกพันกันกับเธอด้วย

เพราะในตระกูลใหญ่จะมีการแบ่งการถือครอง ทรัพย์สมบัติ

ต่อมาเมื่อรู้ว่าเธออยู่ข้างกายของจงจิ่งห้าว อีกทั้ง จงจิ่งห้าวก็ชอบเธอมาก เขาจึงเต็มใจที่จะยอมรับเธอและเปิดเผยสถานะของเธอสู่สาธารณะ

ใครจะไปรู้ว่า เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้ช่วยวงศ์ตระกูล เลยแม้แต่น้อย แต่กลับนำหายนะเข้ามาสู่วงศ์ตระกูล แต่ก่อนแม้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อจะไม่สนใจเรื่องภายใน บ้าน แต่ก็ไม่เคยก่อเรื่องวุ่นวายมาก่อน

แต่ตอนนี้กลับก่อเรื่องวุ่นวายตามเธอไปด้วย และ กำลังจะทำให้ตระกูลเหอตกอยู่ในสถานการณ์ยาก ลำบาก

“มีหรือไม่ในใจเธอน่าจะรู้ดี! “เหอรุ่ยหลินรู้สึก เพียงว่าหัวใจของตนแตกเป็นเสี่ยงๆ และไม่สามารถที่จะ ต่อได้เหมือนเดิมแล้ว”เมื่อกลับมายังตระกูลเหอ ฉันคิดว่า ฉันมีบ้าน มีครอบครัว มีที่หลบภัย แต่ว่าฉันก็ไม่เคยรับรู้ ถึงความอบอุ่นที่พ่อมอบกับฉัน ตอนที่คิดจะใช้ประโยชน์ จากฉันก็ทำดีกับฉัน พอไม่คิดจะใช้ประโยชน์ก็เขียฉันทิ้ง เห็นฉันเป็นตัวอะไรๆ ทำจากเหล็กไม่รู้สึกถึงความเจ็บ ปวดงั้นเหรอ? ”

หรือว่าโลกของคนรวย เป็นโลกที่ไร้ความรู้สึก มี เพียงผลประโยชน์เท่านั้น?

“ฉันไม่อยากปรารถนาดีกับครอบครัวงั้นเห รอ? “เธอถามขึ้นเสียงแข็ง

“ฉันรู้ว่าความสามารถของฉันสู้คนอื่นไม่ได้ ทำให้ ครอบครัวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ความยากลำบากนี้ แต่ว่า….พวกคุณไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์ฉันบ้างเลยเหรอ?”

“พ่อไม่ได้ให้น้องไปตายสักหน่อย ความผิดที่น้อง ทำก็ไม่ได้มีโทษถึงตาย ก็แค่รับผิดชอบในสิ่งที่น้องทำลง ไป แล้วทำไมน้องจะต้องมาพูดจาร่ายยาวอะไรขนาดนี้ ด้วย? “เหอรุ่ยสิงยิ้มอย่างเย็นชา“น้องพูดเสียงแข็งว่าพี่ ต้องการยึดอำนาจของวงศ์ตระกูล แต่ว่าในครอบครัว พวกเรานี้นอกจากพี่แล้ว มีใครบ้างที่ทุ่มเทกายใจเท่าพี่บ้าง? มีแค่ คนเดียวที่กตัญญูกับพ่อแม่อย่างสุดจิต สุดใจ และดูแลบริษัทด้วย”

“พูดได้น่าฟังจริงๆ…”

“เลิกทะเลาะกันได้แล้ว! “เหอรุ่ยเจ๋อพูดขัดจังหวะ ของเหอรุ่ยหลิน แล้วเดินมายังเบื้องหน้าของเหอเหวิน หวยแล้วคุกเข่าลงดังก๊อก

เขามองไปยังพ่อและแม่ มือทั้งสองข้างยันอยู่ที่พื้น คำนับพ่อแม่ ไม่ยอมลุกขึ้น”พ่อแม่ครับ เรื่องนี้เป็นความ ผิดของผมเอง ผมขอรับผิดชอบเพียงคนเดียวครับ”

ไม่นาน ทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบสงัด

เซี่ยเจินหยูเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าจนหมด ยื่น มือออกไปคว้าลูกชาย พลางพูดอย่างสะอื้น”ใต้เข่าลูก ผู้ชายมีทองคำ จะมาคุกเข่าง่ายๆได้ยังไงกัน

โตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว

“พวกคุณเป็นพ่อเป็นแม่ของผม ทำไมจะคุกเข่าให้ ไม่ได้ล่ะครับ พวกคุณให้กำเนิดผม ผมไม่เคยกตัญญูต่อ พวกคุณ แต่กลับทำให้ครอบครัวต้องมาเจอกับหายนะ เป็นความผิดของผมเอง”เหอรุ่ยเจ๋อไม่คุกเข่าก็คงจะรู้สึก ผิด “พวกคุณยอมให้ผมใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ เพื่อทำใน สิ่งที่ผมชอบ ให้เงินในการสนับสนุนผม ผมรู้ว่านั้นคือ ความรักที่พวกคุณมอบให้กับผม แต่ว่าผมกลับ…ทำให้ พวกคุณต้องผิดหวัง”

เขาเงยหน้าขึ้นมามองไปยังเหอรุ่ยหลิน“สำหรับ น้องสาวของผม ผมรู้สึกละอายใจ ตอนเธอยังเล็กผม เป็นคนทำให้เธอต้องหายตัวไป ทำให้เธอต้องไปลำบาก อยู่ข้างนอก ความผิดของเธอ ผมขอเป็นคนรับผิดชอบ

แทนเธอเองครับ” “ลูกแน่ใจนะ? “ยังไม่ทันรอให้เหอเหวินหวยพูดจบเหอรุ่ยสิงก็พูดขึ้นอย่างร้อนอกร้อนใจว่า” น้องรับผิดชอบ แทน? จงจิ่งห้าวจะเห็นด้วยเหรอ? ”

“เรื่องนี้พี่ไม่ต้องเป็นกังวลหรอก”ไม่ใช่ว่าเหอรุ่ย เจ๋อจะไม่รู้ว่าเหอรุ่ยสิงเป็นคนทะเยอทะยาน อยากรวบ อำนาจไว้ในมือเพียงคนเดียว แต่ว่าเขาเป็นลูกคนโตของ ครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเขามีสิทธิ์ที่จะทำได้

เขาไม่ต้องการที่จะแย่งชิงอะไรกับใคร

เขามองไปยังเหอรุ่ยสิง”ถึงยังไงหลินหลินก็เป็น น้องของผม พี่น้องแม่เดียวกัน สายเลือดเดียวกัน พี่ก็ทํา ดีกับเธอหน่อย อย่าทำอะไรรุนแรงเกินไป เรื่องที่พี่ทำเพื่อ ครอบครัว ทุกคนต่างรับรู้ ไม่มีใครแทนที่พี่ได้หรอกครับ”

“ไม่ต้องทำเป็นซาบซึ้งไป”เหอรุ่ยสิงเอียง ศีรษะ”แน่นอนว่าเรื่องที่น้องก่อน้องก็ต้องรับผิดชอบ ส่วน เรื่องของการปฏิบัติดีต่อน้องสาวนั้น ไม่ต้องมาพูดหรอก ขอเพียงแค่เธอทำตัวเหมือนน้องสาว ผมจะต้องดูแลเธอ อย่างดีแน่นอน”

“พี่ไม่จำเป็นต้องมาดูแลฉัน”เหอรุ่ยหลินเงยหน้า ขึ้น แม้ว่าตอนนี้เธอก็ยังเอาตัวไม่รอดก็ตาม

เหอเหวินหวยหลับตาลง ภายในหนึ่งคืนเขาแก่ไป ไม่น้อย เขามองไปยังลูกชายนั่งคุกเข่าอยู่ใต้ฝ่าเท้าของ เขา “เรื่องๆนี้ ไม่ใช่ว่าลูกเป็นคนรับผิดชอบคนเดียวแล้ว จะสามารถแก้ไขปัญหาได้…”

“ผมมีวิธี ผมขอรับผิดชอบเพียงคนเดียวนะครับ เห

อรุ่ยเจ๋อคิดอุบายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้เขาต้องการเพียงคำพูดรับปากประโยค เดียวของเหอเหวินหวยเท่านั้น

ต่อให้โมโหแค่ไหน สุดท้ายเขาก็เป็นลูกชายของ ตนเอง หากจะผลักเขาออกไปจริงๆในใจของตนก็คงรู้สึกทุกข์ทรมานไม่น้อย

“นี่มันเคราะห์กรรมอะไรกัน! “เหอเหวินหายโกรธ จนทุกหน้าอกของตนเอง

เซี่ยเจินหยูเช็ดน้ำตาพลางลูบหลังของสามี“ระวัง สุขภาพด้วย เป็นเพราะฉันไม่ดีเอง ที่ไม่ได้ให้กำเนิด ลูกชายที่ดีให้กับคุณ

กลิ่นอายของความโกรธอบอวลไปทั่วบ้าน

ในที่สุดเหอเหวินหวยก็คลายลมหายใจลง เรื่องนี้ จําเป็นต้องหาทางแก้ไขและจะต้องมีคนรับผิดชอบ เขาก็ยังไม่วางใจ จึงถามเหอรุ่ยเจ๋อขึ้นว่า “ลูกมีวิธี แล้วจริงๆเหรอ? ”

“ครับ”เหอรุ่ยเจ๋อเม้มริมฝีปาก เซี่ยเจินหยูพยุงเขา ให้ลุกขึ้น”ลูกลุกขึ้นเถอะ”

ครั้งนี้เหอรุ่ยเจ๋อลุกขึ้นตามคำขอของแม่

“พี่”เหอรุ่ยหลินรู้ว่า เหอรุ่ยเจ๋อดีกับเธอจริงๆ เธอ รู้สึกเสียใจมาก ตอนแรกบีบบังคับเขาให้รับมือกับหลินซิ นเหยียน ทำให้เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เธอกลับคืนมาอีกต่อ ไป “น้องขอโทษนะคะ”

“ครอบครัวเดียวกัน จะขอโทษทำไม”เหอรุ่ยเจ๋อไม่ ได้รู้สึกเสียใจภายหลังที่เขาตัดสินใจทำเช่นนั้น ในเมื่อ หลินซินเหยียนไม่รักเขา

ฉะนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่เธอก็คงจะไม่รัก

ความพยายามในครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้หัวใจของ เธอ แต่ก็อาจจะได้ตัวของเธอ

ก็คงจะดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เขาหันตัวแล้วเดินขึ้นไปบนตึก

เหอเหวินหวยรู้สึกเหนื่อย
“แยกย้ายกันเถอะ”

คฤหาสน์

เมื่อคืนนี้ขณะที่หลินซินเหยียนหนีไปได้ไม่นาน

หลินลุยซีก็ตื่นขึ้น เธอตามหาทุกหนทุกแห่งก็หาไม่พบ กระทั่งเดินมายังห้องโถงพบว่าบนโซฟามีเสื้อผ้าของจงจิ่ง ห้าวอยู่ เมื่อตอนกลางวันเธอได้ยินแม่พูดว่าห้องของจง จิ่งห้าวอยู่ด้านบน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไม่ตามหาหลินซิน เหยียนแล้ว แต่กลับวิ่งขึ้นไปด้านบนเพื่อเคาะประตูห้อง ของเขา

เธอยืนอยู่ที่หน้าประตู มองไปยังด้านในของห้อง ดูเหมือนว่าบนเตียงจะมีคนอยู่ “แด๊ดดี้คะ ตอนกลางคืน หนูขอนอนด้วยได้ไหมคะ? ”

จงหิ่งห้าว”……”

ขอบตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆกลิ้งไปกลิ้งมา ที่บริเวณของนัยน์ตา ในที่สุดก็ไหลลงมา ท่าทางดูน่า สงสารเป็นอย่างมาก

เขาหันกลับไป เมื่อเห็นท่าทีของหลินซินเหยียนที่

หวังว่าเขาจะรับปากคำขอของลูกสาว

จงจิ่งห้าวจนปัญญา ทำได้เพียงรับปาก เขากลัวว่า หากปฏิเสธเธอ ต่อไปหลินซินเหยียนจะปฏิเสธเขา เขาอดทนตลอดทั้งคืน!

เขาอุ้มหลินลุยซีพลางพูดขึ้นว่า”เดี๋ยวแด๊ดดี้จะ กอดหนูนอนนะ”

ดังนั้น โลกของเราสองคนที่จงจิ่งห้าวจินตนาการ ไว้ กลายเป็นโลกของสามคน

จดทะเบียนสมรสมาเจ็ดปีแล้ว ตั้งแต่เป็นสามี ภรรยากันตามกฎหมาย เขาก็ไม่เคยได้แตะเนื้อต้องตัว ภรรยาตามกฎหมายของเขาเลย
เขาคิดว่า เขานั้นเป็นสามีที่น่าสงสารที่สุดในโลก

หลินซินเหยียนลุกขึ้นแต่เช้า ไม่อยากให้จวงจื่อ จิ่นเห็นว่าเมื่อคืนนี้เธอลงมานอนข้างล่าง

เธอเตรียมอาหารเช้าอยู่ในห้องครัว เมื่อนึกถึง สภาพที่เมื่อคืนนี้เธอเป็นฝ่ายจูบจงจิ่งห้าวก่อน ใบหูก็เริ่ม ร้อนผ่าวและรู้สึกหงุดหงิด

ทำไมเธอถึงได้จูบเขาก่อนล่ะ?

“ความวู่วามคือปีศาจร้าย ความวู่วามคือปีศาจร้าย คุณใจร้อนเกินไป อย่าคิดแต่จะให้คนอื่นมารักลูกของ คุณ จนยอมขายตัวเองซะงั้น”

“คุณบ่มพึมพรำอะไรกับตัวเองอยู่เหรอคะ? ”

จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากทางด้านหลัง หลินซินเหยียน ตกใจ เธอจึงรีบหันตัวไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ