กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 305 คุณกับฉันเคยมีความสัมพันธ์เก่าตั้งแต่เมื่อไหร่



บทที่ 305 คุณกับฉันเคยมีความสัมพันธ์เก่าตั้งแต่เมื่อไหร่

ซูจ้านอึ้งไปทันที นี่เป็นการแสดงจะส่งไปโรงพยาบาลยังไง ส่ง

โรงพยาบาลแผนไม่แตกพอดีเหรอ?

ยิ่งทัศนคติของฉินยาที่กำลังสงสัยอยู่ตอนนี้

ซูจ้านลังเล

คุณย่ารู้สึกปวดหัวรุนแรง ร่างเริ่มกระตุกขึ้นมาทันที

ซูจ้านนึกว่าเธอแกล้งป่วย ในใจไม่รู้สึกห่วง ยังพยายามรั้งตัว ฉินยา “ผมส่งคุณย่าไปโรงพยาบาลคุณก็เชื่อแล้วใช่ไหม?”

ฉินยา “……”

เธออึ้งจนพูดไม่ออก

คุณย่ากระตุกรุนแรงขึ้น จนพูดไม่ออก หายใจก็เริ่มหอบ ปากเริ่มเอียง เริ่มพูดไม่ชัด “ซู ซูจ้าน..….…………. มุม

ฉินยาเริ่มดูออก “รีบส่งคุณย่าไปโรงพยาบาล ฉันว่าคุณย่า

อาการไม่ดี”

ตอนนี้ซูจ้านเริ่มสังเกตเห็นร่างของเธอกระตุกไม่หยุด ตั้งสติได้ รีบอุ้มคุณย่าขึ้นมาวิ่งออกไปข้างนอก

“ไม่ได้ใส่เสื้อ” บนร่างคุณย่ามีแค่ชุดนอนบางๆตัวเดียว ข้าง นอกอากาศหนาว สถานการณ์ฉุกเฉิน เธอวางกระเป๋าในมือ วิ่ง เข้าไปในบ้านอาเสื้อคลุมขนสัตว์ออกมาวิ่งตามซูจ้านไป
จํานวางคุณวางไว้ด้านหลัง ฉินยาเอาเสื้อคลุมห่มบนตัว คุณย่า “คุณไปขับรถ ฉันมาดูคุณย่า”

ซูจ้านมองฉินยา อารมณ์ความรู้สึกในใจเต็มไปหมด “ฉินยา

“รีบไปขับรถ” ฉินยาพูดเสียงต่ำ เธอรู้สึกว่าอาการของคุณย่า ไม่ค่อยดี เริ่มน้ำลายฟูมปาก

ซูจ้านรู้สึกกังวล นี่ไม่ได้แกล้ง เขารีบสตาร์ทรถขับออกไปทาง โรงพยาบาล

ฉันยากอดร่างคุณย่าไว้ เริ่มไม่มีสติ ฉินยาเรียกเธอก็ไม่ตอบ

รับ

ซูจ้านก็รีบร้อน ฝ่าไฟแดงไปหลายครั้ง จนเกือบเกิดอุบัติเหตุ หลายครั้ง

จากเดิมถึงโรงพยาบาลต้องใช้เวลายี่สิบนาที ซูจ้านขับถึงใน เวลาเพียงสิบนาที

ซูจ้านอุ้มคุณย่าลงจากรถ ฉินยาเดินตามอยู่ข้างหลัง ล็อบบี้ โรงพยาบาลคนเยอะมาก เขาอุ้มตัวคุณย่าวิ่งเข้าห้องฉุกเฉิน คุณย่าถูกรับเข้าการรักษาทันที “ย่าผมเป็นอะไรครับ?

หมอให้พยาบาลเป็นตัวคุณย่าเข้าห้องผ่าตัด หันไปพูดกับ จํานว่า “วินิจฉัยขั้นต้น น่าจะเป็นอาการเลือดคั่งในสมอง คุณรอ ข้างนอกก่อน” พูดจบประตูห้องผ่าตัดก็ถูกปิด
ซูจ้านอึ้งอยู่พักใหญ่ตั้งสติไม่ได้ เลือดคั่งในสมอง นี่เป็นโรคร้าย อาการหนักอาจถึงชีวิตได้

ตอนแรกเขาคิดว่าคุณย่าแค่แกล้ง ไม่รู้ว่าเข้ารับการรักษา ล่าช้าหรือเปล่า ซูจ้านโมโหจนต่อยเข้าไปที่กำแพง เสียงดังปัง

ฉันยาฟังอยู่ข้างๆ อย่างตื่นเต้น

เวลาเดียวกันมีพยาบาลเดินมา “ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติ คะ?”

ฉันยาเห็นซูจ้านกำลังอยู่ในอาการโทษตัวเองและกังวล เธอ เดินเข้าไป “ฉันเองค่ะ”

พยาบาลยื่นใบเสร็จมาให้ “คุณไปชำระเงินเลยค่ะ”

ฉินยารับมา “ฉันไปเดี๋ยวนี้”

เธอก็กลัวทำให้การรักษาล่าช้า ในมือยังถือเสื้อคลุมของ คุณย่า เธอไม่ทันได้วางก็รีบวิ่งลงไปชั้นล่าง

จุดชำระเงินอยู่ชั้นหนึ่ง

เธอหยิบบัตรของตัวเอง ชำระค่ารักษา

กลับไปถึงห้องผ่าตัด เห็นแค่ชูจ้านนั่งกุมหัวอยู่บนเก้าอี้ยาว มี เลือดซึมออกจากหลังมือ น่าจะเป็นเพราะหมัดที่ชกไปที่กำแพง เมื่อกี้ที่ทําให้บาดเจ็บ

ฉินยาเดินเข้าไป ดูมือของเขา บาดเจ็บหนักเล็กน้อย โดย เฉพาะตรงข้อนิ้วมือ หนังถลอก มีเลือดซึมอย่างรุนแรง
“ไปทำแผลหน่อยเถอะ คุณค่าออกมาเห็นจะกังวล”

ซูจ้านเงยหน้ามองเธอ ตาของเขาแดงเล็กน้อย “ย่าเลี้ยงผมมา

จนโต ท่านเป็นญาติคนเดียวของผมบนโลก ถ้าท่านเป็นอะไร “ไม่หรอก คุณย่าต้องไม่เป็นไร” ฉินยาพูดตัดเขา แต่น้ำเสียง

หนักแน่น

ซูจ้านถาม “ท่านจะไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม?”

ในใจเขาอ้างว้าง แค่อยากหาใครสักคน เพื่อให้คําตอบเขา

ฉินยาพูดปลอบ “จริงค่ะ”

ซูจ้านลุกขึ้น กอดเธอไว้ น้ำเสียงสะอื้น “ขอบคุณ”

ฉินยาร่างเกร็งไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ผลักเขาออก “ได้รู้จักกัน อีกอย่างคุณย่าก็ดีกับฉันมาก คุณไม่ต้องขอบคุณ อีกอย่างฉันไม่ ได้ทําอะไรเลย”

ซูจ้านไม่ได้พูด แค่กอดเธอไว้แน่น มีแค่เวลาที่กอดเธอไว้ เขา ถึงรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิต หัวใจยังอุ่นอยู่

นานแค่ไหน ที่เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้แล้ว?

เขาจําไม่ได้แล้ว

นานมาก

เสียงของเขา มาก “หลิวเฟยเฟยเป็นรักแรกของผม รู้จัก ตอนเรียนมหาลัยปีสอง ก่อนเรียนจบ เขาจากผมไป เคยมีอยู่พักหนึ่ง เพราะเธอ ผมรู้สึกผิดหวังลุกไม่ขึ้น เสื่อมโทรมจนต้องพึ่ง เสิ่นเผยชวนกับจิ่งห้าวเพื่อใช้ชีวิต ผมยอมรับ เมื่อก่อนผมรักเธอ มาก แต่ว่าเธอจากไปสิบปีแล้ว ความสัมพันธ์นี้มันจบไปตั้งนาน แล้ว”

ฉินยาเกร็งร่าง ในใจเริ่มรู้สึกหวั่นไหว แต่ว่าไม่นานความหวั่น ไหวนี้ ก็ถูกเธอดันลงไปแล้ว

เธอจะลดขีดจํากัดของตัวเองเพราะคำสารภาพของซูจ้านไม่ ได้ เขาไม่กลับมาทั้งคืนคือความจริง หลิวเฟยเฟยเป็นแฟนเก่ารัก แรกของเขา ก็เป็นความจริง

เขาว่ากันว่า รักแรกลืมยาก เพราะว่าความไร้เดียงสาและ ความสวยงาม ล้วนได้มาจากรักแรกทั้งนั้น

ไม่ว่าอะไรที่เป็นครั้งแรก ต่างก็ลืมยาก เธอเชื่อในจุดนี้

ผ่านไปนานแค่ไหน ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ในใจ เขาบอกว่าหลิวเฟยเฟยงเขาไว้ แล้วทำไมเขาไม่บอกเธอ? ทําไมไม่บอกเธอ?

ทําไมต้องรอเกิดเรื่องแล้วถึงมาอธิบายให้เธอ

“ซูจ้าน คุณไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน ฉันตัดสินใจแล้ว คุณ ให้ความมั่นคงกับฉันไม่ได้ คุณไม่สามารถให้ความหนักแน่นกับ ฉัน เราสองคนไม่เหมาะสมกัน ตอนนี้ยังไม่สาย คุณกับฉันยัง อายุน้อย อาจจะเจอคนที่เหมาะสมกว่าก็ได้
ซูจ้านเบิกตากว้าง เขาจับไหล่ของฉินยาแล้วมองตาเธอ “คุณ จะเด็ดขาดขนาดนี้เหรอ? ไม่เห็นแต่ความสัมพันธ์เก่าเลย? ฉันยายิ้ม “คุณกับฉันเคยมีความสัมพันธ์เก่าเหรอ?”

ซูจ้านอึ้ง “คุณหมายความว่ายังไง?

“คุณกับฉันรู้จักกันนานแค่ไหน?” ฉินยามองเขา “คุณกับฉัน รู้จักกันแค่สามเดือน มีความสัมพันธ์เหรอ?” เธอหัวเราะเยาะตัว เอง “คุณหมายถึงความสัมพันธ์คู่นอนคืนเดียวเหรอ?”

“จะพูดถึงความสัมพันธ์เก่า น่าจะเป็นคุณกับคุณหลิว ความ จริง ฉันจากไปแล้ว ก็ถือว่าให้โอกาสคุณ คุณน่าจะขอบคุณฉัน

ทันใดนั้นจ้านพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว ผ่านไปสักพักถึง พูดว่า “เวลาที่เรารู้จักกันอาจจะสั้น แต่ความรู้สึกนั้นใช้เวลาเป็น เครื่องวัดเหรอ?”

“แล้วใช้อะไร?” ฉินยาถามกลับ

และในเวลาเดียวกัน ห้องผ่าตัดถูกเปิดออก การสนทนาของ ทั้งสองถูกตัดขาด ซูจ้านและฉินยารีบเดินไปที่หน้าประตู หมอยัง ใส่เสื้อคลุมสีฟ้าอยู่ เขาถอดผ้าปิดปากออก “ผู้ป่วยมีอาการ เลือดคั่งในสมองเฉียบพลัน โชคดีที่ส่งมาทันเวลา พ้นขีด อันตรายแล้ว แต่ว่า ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักพัก

“ขอบคุณครับหมอ” คุณย่าพ้นขีดอันตรายแล้ว นี่คือข่าวดี ที่สุดสําหรับซูจ้าน

“เดี๋ยวผู้ป่วยจะถูกเข็นออกมา ตอนนี้ผู้ป่วยอายุมากแล้ว อาจจะต้องการคนดูแลตลอด” หมอพูด

“ผมรู้ครับ” ซูจ้านคิดในใจเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่คุณย่าไม่ สบาย เขาจะอยู่ดูแลเอง

ตอนนี้เขามีเงินแล้ว ไม่จำเป็นต้องวิ่งหาเงินอยู่ข้างนอก อีก อย่างตอนนี้สำนักงานก็บริหารได้ดีแล้ว ถึงแม้เขาไม่ได้เข้าไป ก็ สามารถดำเนินการได้ปกติ เขายังคงมีรายได้เหมือนเดิม

ไม่นานคุณย่าก็ถูกเข็นออกมา ถึงแม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้ว แต่ว่าปากก็เบี้ยวไปนิดหนึ่ง

ปกติคุณย่าใส่ใจเรื่องใบหน้าของตัวเองมาก ปากเบี้ยวแล้ว หากคุณย่าตื่นมาต้องรับไม่ได้แน่

“คุณหมอ ปากของย่าผม หายเป็นปกติได้ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ