กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 502 ทีหลังฟังแค่ผมก็พอ



บทที่ 502 ทีหลังฟังแค่ผมก็พอ

เส้นเผยชวนขมวดคิ้วน้อยๆ เสียงนี้เหมือนจะคุ้นหูอยู่ แต่ก็นึก ไม่ออกว่าเป็นเสียงใคร

เหมือนปลายสายพอจะรู้แล้วว่าเป็นเผยชวนไม่รู้ว่าตัวเองคือ

ใคร ก็เลยพูดด้วยน้ำเสียงดูผิดหวัง ” ฉันคือซางหยูไงคะ ”

เสิ่นเผยชวนถึงกับบางอ้อ ” อ๋อ โทรหาผมมีเรื่องอะไรเหรอ

” ค่ะ คุณว่างไหมคะ ตอนเที่ยงฉันพักพอดี คุณมาหาฉันแบบ หนึ่งได้ไหมคะ ” ตามมาด้วยเสียงตอบกลับของซางหยู

เส้นเผยชวนเงยหน้ามองนาฬิกาที่ติดอยู่บนกำแพง ก่อนจะ ตอบกลับไป ” ได้สิ ”

” ถ้างั้นฉันรอคุณที่หน้าประตูโรงเรียนนะคะ ”

” โอเค ”

ซางหยขมวดคิ้วเล็กน้อย คิ้วที่ดูสวยงามนั้นเลิกขึ้น ผู้ชายคนนี้ ช่างเย็นชาเฉยเหลือเกิน จะพูดให้มากอีกสักคำสองคำก็ยังยาก มันจะเสียเวลาชีวิตเขามากนักหรือไง

” ถ้างั้นฉันวางแล้วนะคะ ” ก็เป็นซางหยูเช่นเคยที่เป็นคนถามยิ้ม ”

ซางหมูหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายมาดู แล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าสนใจจริงๆ
ที่จริงตอนนั้นเธอมีโทรศัพท์ แต่ตอนนั้นที่เสิ่นเผยชวนต้องการ แล้วถามเธอ เธอไม่ได้เอามันออกมา เพราะยังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อใจ เงินเผยชวนเท่าไหร่ เธอยอมที่จะลำบาก ถึงแม้จะไม่มีครอบครัว เธอก็สามารถใช้ชีวิต โดยที่พึ่งพาตัวเองได้

โทรศัพท์ก็ไม่ได้มีราคาแพงอะไรมาก เพียงแค่มันพอที่จะใช้ งานได้สําหรับเธอ เธอเป็นคนมีผลการเรียนที่ดี เทอมนี้จึงได้ทุน การศึกษามา กลัวกับการที่เธอทํางานพัดไทม์ข้างนอก ดังนั้นการ ที่จะใช้ชีวิตเลี้ยงดูตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก

เธอรออีกสองปี ให้ตัวเองเรียนจบแล้ว หางานการที่มั่นคง แค่

นี้ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมั่นคงได้แล้ว

เสิ่นเผยชวนขับรถSUV มาจอดที่ประตูมหาวิทยาลัย วชิง เมื่อรถกระจกลงก็เห็นซางหมูที่ยืนอยู่ข้างประตูโรงเรียน เธอใส่ เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนสีเข้มขาตรง ที่ถูกออกแบบให้เป็นเอว สูง ทำให้ขาทั้งสองข้างดูยาวขึ้น ส่วนเท้าทั้งสองนั้นใส่เป็นผ้าใบ สีขาว แล้วยังสะพายกระเป๋าเป้สีดำอีกด้วย ผมของเธอถูกมัด รวบเป็นหางม้าให้ความรู้สึกดูเป็นวัยรุ่นและมีชีวิตชีวา เมื่อเห็น เสิ่นเผยชวนเธอก็รีบวิ่งเข้ามาหา ก่อนจะยืนอยู่หน้ากระจกข้างรถ และถามว่า ” ขอโทษนะคะ ฉันคงให้คุณลงมาไม่ได้ พอเพื่อนที่ โรงเรียนนี้รู้ว่าฉันไม่มีคนสนิทและญาติอยู่ที่นี่ ถ้าจู่ๆ มา ปฏิสัมพันธ์กับคนอย่างคุณแล้วล่ะก็ ฉันกลัวว่าจะมีคนครหาค่ะ ”

ขึ้นมาสิ ” เสิ่นเผยชวนปลดล็อกประตู 11 ซางหยูเปิดประตูรถแล้วขึ้นมานั่ง งั้นเธอก็ไปข้างหน้า ” ตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาค่ะ ”

เส้นเผยชวนก็ไม่ได้ถามว่าจะไปที่ไหน แต่ก็ขับไปตามที่เธอ บอก ก่อนเขาจะถามขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ” ที่จะเจอฉันมีเรื่อง อะไรเหรอ ”

ซางหมูหันหน้ามามองเขา แล้วพูดเชิงล้อเล่น ” แล้วถ้าไม่มี เรื่องอะไร จะเจอคุณไม่ได้หรือคะ ”

” เปล่า ” เสิ่นเผยชวนยิ้มแห้งๆ ” ฉันเป็นคนตรงๆ นะ อย่า ใส่ใจเลย

” ฉันรู้ค่ะ ฉันไม่ได้สนใจหรอก ” เธอคิดในใจว่า ผู้ชายคนนี้ เหมือนกับที่เพื่อนเขาพูดไว้ไม่มีผิด อารมณ์สักนิดก็ไม่มี คนแบบ นี้จะมีความสุขในการใช้ชีวิตได้ยังไง

ไม่นานรถก็ขับมาถึงที่ที่ซางหยูต้องการจะมา เธอบอกไม้ โบกมือ ” จอดตรงนี้แหละค่ะ ”

เสิ่นเผยชวนจอดรถชิดริมถนน ซางหยูจึงเปิดประตูลงไปจาก รถ ” คุณก็ลงมาสิคะ ”

แล้วเธอก็เดินเข้าไปร้านร้านหนึ่งที่อยู่ริมถนน ร้านนี้มีชื่อว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวซอสผัดถ้าอร่อยค่อยมาอีก ‘ เสิ่นเผยซวนสํารวจด้วย สายตา เพราะอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่มากนะ ถนนเส้นนี้ก็เลยเต็ม ไปด้วยร้านขายของกิน เขาเปิดประตูรถลงมา แล้วเดินเข้าไปใน ร้านก๋วยเตี๋ยว ก็เห็นซางหยูกำลังสั่งอาหารพอดี เขาขมวดคิ้วยัง ไม่เข้าใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ที่แท้เรียกเขาออก มาเพราะมากินก๋วยเตี๋ยวยังงั้นเหรอ
” มีเท่านี้ค่ะ ” ซางหยูพูดกับเจ้าของร้านเสร็จ ก็เดินเข้ามา เลือกที่นั่ง จากนั้นก็พูดกับเสิ่นเผยชวนว่า ” พ่อเรานั่งตรงนี้แล้ว กันค่ะ”

เสิ่นเผยซวนไม่ได้พูดอะไร แต่ก็นั่งลงตามที่เธอบอก

คุณคงไม่รังเกียจที่นี่หรอกใช่ไหม ” ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ได้ ใหญ่โตนะ แต่ถูกปัดกวาดยังสะอาด แจ้งแค่กระจกข้างกำแพง คราบมันอยู่บ้างมันไม่ได้เช็ดมาหลายวัน

” อย่าคิดว่าที่นี่จะธรรมดาทั่วไปนะคะ แต่ที่นี่น่ะก๋วยเตี๋ยวซอส ผักอร่อยมาก ที่นี่ชื่อเสียงร้านนั้นธรรมดา แต่รสชาติอร่อยจน หยุดไม่อยู่เลยล่ะ ” ซางหยูยิ้ม ” คุณช่วยฉันทั้งสองคนแล้ว ฉันก็ เลยเชิญ เท่านี้ก็ถือว่าเสมอภาคแล้วนะคะ คุณคงไม่หักหน้าฉัน หรอก ใช่ไหม ”

” เรื่องเล็กน้อยไม่ต้องเกรงใจหรอก อย่าเก็บมาใส่ใจเลย ” เสิ่นเผยชวนตอบเนิบๆ

ซางหยูแอบเบ้ปากในใจ ผู้ชายคนนี้น่าเบื่อจริงๆ ตั้งแต่ต้นจน ปลายอารมณ์คำพูดที่ใช้ก็นิ่งๆ เนิบๆ ตลอด เหมือนจะไม่อยาก ปฏิสัมพันธ์ยังไงยังงั้น

เมื่อถึงเวลาเจ้าของร้านก็เอาก๋วยเตี๋ยวยกมาวางไว้ที่โต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวใช้ชามเคลือบดินเผา ในนั้นมีเส้นหมี่เป็นเส้นหนา กลมๆ อวบๆ และยังมีจานหกมุม ที่ในนั้นประกอบด้วยช่องหก ช่อง แล้วแต่ละช่องก็ใส่เครื่องเคียงที่แตกต่างกันไป ในช่อง สุดท้ายก็เป็นน้ำเกรวี่คล้ายซอสที่ราดบนก๋วยเตี๋ยว ตะเกียบก็จะยาวกว่ากับตะเกียบที่ใช้กันปกติ

ซางหยูชี้ไปที่พวกผักเล็กๆ ” พวกนี้ก็คือเครื่องเคียงค่ะ ถ้าคุณ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ว่าน้ำซอสนี้ต้องใส่นะ ” เส้นเผยชวนพยักหน้า เขาเป็นคนไม่เรื่องมากเรื่องกินอยู่แล้ว

ก็จับเครื่องเคียงทั้งหมดเทเข้าชามก๋วยเตี๋ยวไป จากนั้นก็ใช้ ตะเกียบคนให้มันเข้ากัน ซางหมองเขาแล้วก็ยิ้ม ” เอ๊ะ ว่าแต่ คุณชอบผู้หญิงยังไงเหรอคะ เสิ่นเผยชวนที่กำลังจะลิ้มรสของอร่อยตรงหน้า เมื่อได้ยินก็

มองซางหยอย่างแปลกใจ

“อย่าเข้าใจผิดนะคะ ครั้งนั้นที่ร้านขายอาหารเช้า เพื่อนคุณ คนนั้นบอกฉันว่า คุณไม่เคยมีความรัก และคุณก็ไม่เคยมีแฟนมา ก่อน เขาเลยอยากให้ฉันแนะนำแฟนให้กับคุณ ฉันก็เลยต้องรู้ว่า คุณชอบคนแบบไหนก่อนถึงจะแนะนำคุณถูกใช่ไหมล่ะ ” ซางหยู ก้มหน้าก้มตาเอาก๋วยเตี๋ยวยัดเข้าปาก

เสิ่นเผยชวนสุดท้ายได้เข้า ตอนนี้เขารู้สึกว่าอยากจะซัดจ้าน แรงๆ สักที ทำไมมันถึงเอาเรื่องพวกนี้มาพูดกับเด็กได้นะ

จะให้เขาขายหน้าต่อหน้าเธอไง

” เขาคงจะล้อเล่นกับเธอนะ ไม่ต้องเก็บไปใส่ใจหรอก แล้วก็ 11 อย่าไปสนใจเลย ”

” อ้อ ” ซางหยูกลืนเส้นบะหมี่ในปากแล้วก็ถามต่อ ” งั้นก็ หมายความว่าคุณเคยมีความรัก แล้วตอนนี้มีแฟนแล้วใช่ไหมคะ
เงินเผยชวน”

เขาสะดุ้งเบาๆ ” เอ่อ อันนั้น ความหมายของฉันคือไม่ต้อง แนะนำแฟนให้ฉันหรอก ฉันไม่ชอบเด็ก ”

เธอเป็นแค่เด็กมอปลายเท่านั้น จะแนะนำผู้หญิงรุ่นเราคราว

ไหนกับเขาเขียว

ซูจ้านก็พูดออกมาได้

เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้คบเพื่อนดีหรอก นี่มันเพื่อนชั่วชัดๆ

” ถ้างั้นคุณเคยมีความรักไหมคะ ” ซางหนูถาม

เส้นเผยชวนสีหน้านิ่งเฉยออกเกร็งๆ ” อย่าถามเรื่องของ

ผู้ใหญ่ ” ซางหมูปากยียวน ” ถ้างั้นฉันก็ไม่ต้องแนะนำแฟนให้คุณแล้วสิ ”

ก่อนหน้านี้เสิ่นเผยชวนได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวก็หอมดี คงจะอร่อย น่าดู แต่ตอนนี้ต่อมรับรส และความอยากอาหารของเขาไม่ ทํางานอีกแล้ว

เขาว่างตะเกียบลง แล้วมองซางหยูจากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง เพื่อนฉันคนนั้นมันชอบปากเปราะ เวลามันพูดจาอะไรก็ไม่ต้อง เก็บไปคิดนักหรอก

‘ยิ้ม งั้นทีหลังฉันต้องเชื่อฟังคุณใช่ไหม ” เธอมองที่เขาแล้วยิ้ม ดวงตาและคิ้วที่งดงาม เวลายิ้มก็จะดูละมุน ราวกับขนนกที่ ลอยล่องอยู่ตรงกลางใจ

เส้นเผยชวนตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบเก็บสายตากลับมา

เดี๋ยวรีบก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยว ” อืม ทีหลังฟังแค่ฉันก็พอ ” ชางหยูเอามือเท้าคางแล้วมองเขายิ้มๆ รู้สึกว่าเขาก็น่ารัก

‘ดีเหมือนกัน

เหมือนกับว่าค่นี้พอใช้สำหรับเขาแล้ว ไม่ได้เหมาะเท่าไหร่ แต่เธอรู้สึกว่าคำนี้ เมื่อใช้กับเธอคงจะเหมาะที่สุด

เมื่อกินเสร็จแล้วเสิ่นเผยชวนก็ส่งเธอกลับเข้าโรงเรียน แล้วขับ รถจากไป ขับไปครึ่งทางแล้วก็เพิ่งพบว่ากระเป๋าเธอยังอยู่บนรถ จึงวนรถกลับไป

เรื่องเขาถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว ก็เห็นหลายคนกำลังมอง อยู่ตรงประตูโรงเรียน เขาจอดรถข้างถนน พลางหยิบกระเป๋า ของซางหยูแล้วลงมาจากรถ

ใช่นางนั่นแหละ ครั้งที่แล้วก็เห็นเดินร่อนกับผู้ชายหลายคน 11 อยู่ในซ่อง พออยู่ในโรงเรียนก็ทำตัวใสๆ ทำไมไม่มีเงิน ฉันไม่ เชื่อหรอกว่าเงินที่แกไปหลับนอนกับคนอื่นจะไม่พอให้ใช้จ่าย ฟุ้งเฟ้อ ชอบทำตัวน่าสงสารเพื่อที่จะดึงดูดเพื่อนผู้ชายเห็นใจ ซางหยู แกนหน้าไม่อายจริงๆ เลยนะ ”

นักเรียนหญิงที่กำลังพูดอยู่ก็เป็นเพื่อนที่นอนห้องเดียวกันกับ ซางหยู และยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นอีกด้วย เธอชื่อลู่หว่านหว่าน ตั้งแต่วันนั้นที่ซางหยูถูกเลือกให้ไป ในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

เธอคิดว่าเธอมีพร้อมทุกอย่างยิ่งกว่าซางหยู ในใจก็รู้สึกอิจฉา นังผู้หญิงคนนั้นหน้าตาก็ไม่เท่าไหร่ และยังไปไหนกับผู้ชายอีก มี สิทธิ์อะไรถึงได้มาอยู่ในสายตาของรุ่นพี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ