กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 203 ฉันไม่อาจเป็นกาฝากของดอกรุ่งอรุณ



บทที่ 203 ฉันไม่อาจเป็นกาฝากของดอกรุ่งอรุณ

พวกคุณคือ….. ”

” อาจารย์เฉิงพวกเราเพื่อมาขอเรียนวิธีทำผ้าไหมกวางตุ้ง ครับ ” ไป๋ นหนิงเริ่มเปิดปากเกริ่นจุดประสงค์ของการมาคน แรก

ผู้อาวุโสเบี่ยงสายตาสำรวจแต่ละคนที่ยืนกระจุกกันอยู่ตรง ประตู สายตาของเขากดต่ำลง ริ้วรอยมันหน้าที่ดูลึก สายตาที่ดู ลึกลับนั้น ใช่แก่หันตัวเข้าไปในบ้านก่อนจะพูดว่า ” เข้ามาสิ ”

ห้องรับแขก ในบ้านใหม่นั้นไม่ใหญ่มาก จึงคนทั้งหมดไว้ไม่ ได้ บอดี้การ์ดเลยเข้ามาไม่ได้จึงต้องคอยรักษาความปลอดภัย จากหน้าประตูด้านนอกแทน

เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเขาที่เหลือก็เดินเข้าบ้านไป และทำให้ พื้นที่ในบ้านที่เคยกว้างขวางกลายเป็นแออัดขึ้นมาทันที เฟอร์นิเจอร์ในบ้านนั้นดูตกแต่งไว้อย่างง่ายดาย มีเก้าอี้แปดตัว ที่แสดงถึงสไตล์จีนถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ซ้ายขวาเสมอ กัน บนกำแพงถูกแขวนไว้ด้วยรูปทิวทัศน์หลายใบ และยังมีของ ที่พึ่งถูกสานจากต้นไผ่ เมื่อวางรวมกันแล้วจึงทำให้ดูไม่ค่อยเข้า กันเท่าไหร่ ส่วนตรงกลางห้องก็เป็นโต๊ะยาว ผู้อาวุโสนั่งตรงหัว โต๊ะพอดี

เขาเอาบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนก่อนจะจุดไฟ ” พวกเธอนะ ใคร อยากขอให้สอนล่ะ !!
หลินซินเหยียนจูงมือหลินเงินแล้วก้าวไปข้างหน้า ก่อนจะ ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา “ฉันอยากขอให้คุณสอนวิธีทำผ้า ไหมกวางตุ้ง ถ้าคุณยอม ฉันอยากเชิญคุณไปเป็นอาจารย์ประจำ ร้าน ส่วนเรื่องราคาเรา ฉันให้คุณเต็มที่เลยค่ะ ”

ผู้อาวุโสใช้แรงสูดควันแล้วพ่นออกมา ควันขาวพุ่งออกมาและ ลอยคละคลุ้ง ห้องที่ขนาดไม่ใหญ่นักเต็มไปด้วยกลิ่นเฉพาะของ ควันบุหรี่ มันไม่เหมือนกลิ่นควันบุหรี่ที่พบได้กับบุหรี่ทั่วไป จะ กลับเป็นกลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆเสียอย่างงั้น

จงจึงห้าวเลิกคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะหลินซินเหยียน เขาว่า

ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่มาในที่แบบนี้อีกแล้ว

มองผ่านควันขาวที่ลอยฟัง ผู้อาวุโสค่อยๆ สำรวจพิจารณา หลินซินเหยียน สุดท้ายแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กำไลหยกบน ข้อมือของเธอ จากนั้นก็หันไปมองตาไปยื่นหนึ่งอย่างมีเลศนัย ก่อนเขาจะพยักหน้าให้ผู้อาวุโสนั้นหนึ่งที่

ผู้อาวุโส เก็บสายตากลับมาเป็นดังเดิม ” ฉันสอนเธอได้ แต่ ฉันจะไม่ยอมไปจากที่นี่ ”

สิ่งที่พวกเขาสื่อสารต่อกันมันเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ แต่จงจึง ห้าวที่พยายามมองการกระทำนี้ยังไม่ละสายตา ก็รู้สึกได้อย่าง ชัดเจน

มุมปากของเขาก็ยกขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุมีผล

เขาแค่อยากจะรู้ว่าไปยื่นหนังหลอกหลินซินเหยียนมาที่นี่ เพราะคิดจะทําอะไรกันแน่
แต่เขาก็เลือกที่จะสงบจิตสงบใจไว้

เหมือนว่าตอนนี้เขาจะเป็นแค่คนนอก ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ คนเหล่านั้น

” ไต้ค่ะ ” หลินซินเหยียนตอบรับ ถ้าอยากสําเร็จวิชา ก็ต้องลำบาก เธอรับได้ไหม ” ผู้อาวุโส

ถาม

11 พี่หลิน งั้นให้ฉันเรียนแทนไหม ” ฉินยาเดินออกมา ” ‘พี่ยัง ต้องดูแลลูกสองคน ที่ร้านก็ยังต้องการ ไม่งั้นก็ยกหน้าที่นี้ให้ ฉันแทนดีไหม ” ” พูดจบเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองพูดอะไรที่ไม่ เหมาะออกไป ก่อนจะรีบอธิบายเป็นพัลวัน ” ฉันไม่ได้อยากจะ เอาวิชานี้ไว้ที่ตัวเอง…..

“ฉันรู้ ”

หลินซินเหยียนเชื่อเธอและไม่เคยสงสัยในสิ่งที่เธอทำเลยสัก ครั้ง

ผู้อาวุโสไม่สนใจฉินยา ก่อนจะตอบอย่างชัดเจน ” ฉันจะสอน แค่เธอคนเดียวเท่านั้น ”

ณ นาทีนั้น คนทั้งห้องก็เงียบลง

” ถ้างั้นก็หมายความว่าคุณจะเลือกศิษย์แค่คนเดียวงั้นเหรอ ” ซูจ้านรู้สึกว่ามันจะน่าตลกเกินไปแล้ว อายุอานามปูนนี้แล้วยังมี คนแบบนี้อยู่อีก นี่มันก็ไม่ใช่สมัยก่อนแล้วเหมือนพวกมีพลัง เหนือคนที่สืบทอดวิชาอะไรนั่น เขาก็แค่อาจารย์คนหนึ่งที่มีความสามารถและรู้กรรมวิธีการทำผ้าก็เท่านั้น จะสอนลูกศิษย์ยังต้อง เลือกคนอีกเหรอ

อีกอย่างยังชี้เป้าไปที่หลินซินเหยียน หรือว่า เค้าจะเห็นความ สามารถอะไรบางอย่างจากตัวหลินซินเหยียน

ท่าทีของผู้อาวุโสชัดเจน ว่าเขาไม่ได้สนใจในตัวฉันยาเลย แม้แต่น้อย แต่กลับมองไปที่หลินซินเหยียน ” ถ้าเธออยากเรียน ก็ไหว้ของฉันเป็นครูเสีย แล้วฉันจะถ่ายทอดวิธีการทำให้กับเธอ

หลินซินเหยียนไม่ได้ข้องใจอะไรเกี่ยวกับการไหว้ครู แต่ที่เธอ เอะใจคือทําไมเขาถึงเลือกเธอ

เรื่องนี้ทําให้เธอแปลกใจเป็นอย่างมาก

แต่ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เธอจึงไม่ได้ตกปาก รับค่าในทันที

” ไม่รู้ว่าคุณเห็นอะไรในตัวภรรยาของผม ทำไมถึงเลือกเธอ ” 11 เสียงหนึ่งลอยออกมาจากบุคคลที่เงียบมาโดยตลอดดังออกมา จากหลังห้อง เหมือนกับว่าเขาไม่ได้มองใครอื่น เหมือนอยากจะ หยอกล้อเด็กสาว ราวกับว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดึงดูดความสนใจ ของเขาได้นอกเสียจากผู้หญิงสาวๆ อีกแล้ว

สายตาของผู้อาวุโสมองตามต้นเสียง แสงจันทร์ด้านนอกที่ สาดเข้ามา เป็นเส้นแสงที่สะท้อนฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ ผู้ อาวุโสค่อยๆ หรี่ตามองผ่านแสงไปยังใบหน้าที่เด่นชัดนั้น ก่อน จะเคาะบุหรี่ในมือแล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ ” ก็เธอมีคุณสมบัติ น

เหรอ ” จงจิ่งห้าวซ้อนสายตาขึ้นมา ผสานเข้ากับสายตาที่ดู เจ็บปวดของผู้อาวุโสเข้าพอดี โดยที่ผู้อาวุโสไม่รู้ตัวเลยว่า จงจึง ห้าวเห็นมันเข้าแล้ว

เขาเลยกระแอมเสียงเพื่อทำลายบรรยากาศนั้นแทน

” ดูเหมือนพวกเธอจะไม่ค่อยเชื่อในตัวฉันเท่าไหร่ พอดี เหมือนกันกับฉันก็ไม่อยากจะสอนคนที่ไม่จริงใจกับฉัน พวก เธอไปเสียเถอะ

” ช้าก่อนค่ะ ” หลินซินเหยียนเรียกมื้อ เธอรู้สึกว่าคนที่จะ สามารถทำงานฝีมือได้เช่นนี้ นิสัยก็จะแปลกๆ แบบนี้เป็น ธรรมดา

ในฐานะคนออกแบบเสื้อผ้า ไม่ว่าจะเคร่งครัดกับสไตล์การ ออกแบบเสื้อผ้ายังไง แต่วัสดุในการทำผ้าที่สำคัญเช่นเดียวกัน

ถ้าเธอเรียนรู้มันได้ ก็คงจะดีกับการพัฒนาร้านในอนาคตไม่ น้อย

ถึงแม้ตอนนี้หลินซีเฉินกับหลินลุยซีจะรู้จักจงจิ้งห้าวแล้ว ตัว เขาเองก็คงจะมีความเป็นธรรมและเห็นใจต่อเด็กทั้งสองคนอยู่ บ้าง เธอคงจะวางแผนเรื่องอนาคตให้ลูกทั้งสองขอ งของเธอตลอด เวลาอย่างเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว แต่ว่านั่นก็เป็นงานของเธอเช่น กัน เธอไม่อาจใช้ข้ออ้างที่ว่าเธอมีความสัมพันธ์กับจงจิ่งห้าว จึง ละทิ้งความฝันของตัวเอง
เธอมีแค่ความขยันและมุมานะ ถึงจะสามารถเป็นผู้หญิงที่ยืน อยู่เคียงข้างเขาได้ แต่เธอจะไม่ยอมเป็นผู้หญิงที่เอาแต่จะพึ่ง บารมีของเขาแล้วมีชีวิตต่อไปได้

เธอไม่อาจเป็นกาฝากของดอกรุ่งอรุณ ที่จะเอาแต่ยืมกิ่งก้านที่ ยาวสูงของเขานั้นทำให้ตัวเองเจิดจรัส และยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ ได้รู้สึกว่าการที่คลอดลูกสองคนให้เขา แล้วเธอจะพึ่งพาเขาใน ทุกๆ เรื่องได้

ยังไงเธอก็ยังเป็นตัวของตัวเอง เธอจะไม่ทำตัวแบบแม่เด็ด ขาด ที่แต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วก็ละทิ้งความตัวเอง ไร้งาน ไร้สังคม ก็เลยถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ชีวิตต้องทุกข์ทรมานอยู่แบบนั้น

น่าจะเป็นเพราะในวัยเด็กเธอลำบากมากๆ ถึงแม้ตอนนี้ชีวิต จะมั่งคั่งและสมบูรณ์ แต่เธอก็ยังคงจดจําชีวิตที่เคยมืดมนเหมือน อย่างขึ้นใจ

“ฉันยอมไหว้คุณให้เป็นครูของฉันค่ะ ”

ใช่แก่ชะงักไป ก่อนจะหันมามองเธอ ” เธอแน่ใจนะ ”

ฉันแน่ใจค่ะ ” เธอไม่ได้หันไปมองจงจึงห้าวเลย

นี่เป็นเรื่องของเธอ เธอก็จะตัดสินด้วยตัวเอง

สายตาของผู้อาวุโสมองผ่านเธอไป เขามองไปยังร่างสูงที่ยืน อยู่ข้างหลังตัวเธอก่อนจะตอบออกมาเรื่อยๆ ” ถ้าจะเรียนงาน ฝีมือกับฉันก็ต้องใช้เวลาเกือบๆ ครึ่งเดือน เธอแน่ใจเหรอว่าจะ ว่าไหว้ฉันเป็นครู ”
หลินซินเหยียนลังเลไม่ใช่เพราะว่าต้องอยู่ที่นี่อีกครึ่งเดือน แต่ เป็นเพราะเธอกังวลใจเรื่องลูกทั้งสองของเธอ

“แต่ถ้าเธอยังกังวลอยู่ก็ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากฝืนใจใคร อันที่จริงการเรียนวิชาพวกนี้ก็ต้องลำบากอยู่แล้ว มีไม่กี่คนหรอก ที่จะทนกับความลำบากพวกนี้ได้ ”

เห็นได้ชัดว่าค่าพูดของเขากำลังเสียดสีหลินซินเหยียนอยู่ที่

อยากจะเรียนวิธีทําผ้าไหมกวางตุ้งแต่ก็ไม่ยอมจะลำบาก

ก็เลยลังเลไม่ยอมตกลงสักที

ฉินยาไม่ค่อยชอบใจนัก เธอเลยเดินออกมาประจันหน้ากับผู้ อาวุโสเพื่อจะถูกถาม

แต่สุดท้ายก็ถูกหลินซินเหยียนรั้งเอาไว้ ใส่หัวเป็นเชิงว่าห้าม ไม่ให้ฉินยาทำสิ่งนั้นลงไป เธอหันไปทางผู้อาวุโส ” ฉันตกลงค่ะ

ผู้อาวุโสชะงักไปอีกครั้ง ” จัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วค่อยมาหาฉัน ”

พูดจบเขาก็กลับเข้าห้องไป

ประตูถูกปิดลง ราวกับถูกตัดออกจากโลกข้างนอกและทุกสิ่ง

ไปยื่นหนังดันล้อรถเข้ามาใกล้ๆ ” เขาก็นิสัยแบบนี้แหละ ผมก็ ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ครั้งที่แล้วผมก็ให้เขาทำผ้าผืนนั้นให้ ผมเหมือนกัน ผมต้องใช้เวลาไปมากเหมือนกันกว่าจะพูดให้เขา ยอมทําให้ ”
” ประธานไป ช่างมีความพยายามเสียจริง ” จงจิ้งห้าวอุ้มหลิน ลุยขึ้นมา ก่อนจะมองไปยื่นหนึ่งอย่างลอยหน้าลอยตา เหมือนประธานไปจะวางแผนอะไรอยู่เลยนะ ”

สีหน้าของไปยื่นหนังยังคงปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ นั้นดังเดิม ประธานจง ที่พูดมานี้หมายความว่ายังไงเหรอ ผมแค่แนะนำ อาจารย์ที่ทำงานฝีมือนี้ให้คุณหลินก็เท่านั้นเอง จะเป็นแผนอะไร ไปได้ ”

จงจิ่งห้าวถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ คำพูดหมาย หัวอย่างเจาะจง ” ใครที่คิดไม่ดีคนของผม คนคนนั้นไม่มีทาง กลับไปยังสมบูรณ์ครบสามสิบสองเท่าไหร่ ที่มาวันนี้ มีเป้าหมาย อะไร ประธานไปก็คงจะรู้ดีแก่ใจ ”

พูดจบเขาก็จูงมือหลินซินเหยียนแล้วเดินออกไปจากบ้านไม้ หลินซินเหยียนก็เดินตามเขาไปอย่างง่ายดาย เพราะเธอก็มี อะไรจะบอกเขาเหมือนกัน

ทั้งสองยืนอยู่ตรงหัวสะพานที่มีลำธารน้อยๆ ไหลผ่าน หลินซินเหยียน ก็เริ่มเปิดบทสนทนา ” คุณโกรธเหรอ ” จงจิ่งห้าว ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย ” คุณต้องการเงิน ผมก็ให้มันกับคุณ…. ”

“เงินของคุณก็คือของคุณ ถึงคุณจะมีมันมากมายแต่มันก็ ไม่ใช่ของฉันอยู่ดี ” หลินซินเหยียนพูดตัดบทเขา ด้วยท่าทีที่ จริงจัง เพราะรู้ว่าต่อไปจงจึงห้าวจะพูดอะไร ” คุณอยากจะพูดใช่ไหม ว่าคุณเลี้ยงฉันได้ แล้วเรื่องเงินก็ไม่ต้องกังวลอย่างงั้นเหรอ

จงจิ่งห้าวมองเธอนิ่งๆ ยังไม่ละสายตา

ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าเขาคิดแบบนั้น แค่เธออยากได้มัน อะไรๆ เขาก็ให้เธอได้หมด

เงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ ฐานะทางสังคม

หลินซินเหยียนยิ้มๆ ” ฉันก็มีฝันของฉันเหมือนกัน ตอนนี้ไม่มี คุณฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ พอมีคนแล้ว ฉันก็ไม่อยากละทิ้งตัวเอง เช่นกัน ถ้าเปลี่ยนตัวฉันกลายเป็นคนที่ไม่ใช่ฉันแล้ว ฉันไม่มีอะไร ปิดบังคุณ คุณมอบสิ่งเรานั้นให้ฉัน ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นี่ฉัน กลัวคือมันจะเป็นแค่ความฝัน เป็นแค่จินตนาการ ที่เมื่อตื่นขึ้นมา ก็กลายเป็นแค่เมฆหมอกและควันที่เลือนหายไปก็เท่านั้น ”

เธอหันไปไปยังเขาที่มีไร่องุ่นยาวทอดไปอย่างไร้จุดหมาย ความคิดของเธอ โลดแล่นไปไกล ” ฉันเคยยากแค้นแสนเข็ญมา ก่อน เคยหมดตัว ตัวฉันเองก็เคยตกอยู่ในฐานะที่ไร้ที่พึ่งและไร้ ซึ่งกำลัง……

ถ้าเธอมีความสามารถนั้น น้องชายของเธอก็คงไม่จากตั้งแต่ แรก ถ้ากลัวว่า เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นอีก แล้วเธอก็ยังคงเป็นคน ที่อับจนไม่มีทางสู้เหมือนเมื่อก่อน

จงจิ่งห้าวได้ฟังก็กัดฟันแน่น ” คุณดูไม่ออกหรอว่าอาจารย์กับ ไปยื่นหนึ่งนั่นมีแผนจะทำอะไร “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ