กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 283 ล่อแหลมจนดูไม่ได้



บทที่ 283 ล่อแหลมจนดูไม่ได้

การจาบจ้วงอย่างบ้าดีเดือด ณ วินาทีนี้ สมองของเธอพูดคำนี้ ออกมา

ทว่าเขาที่เป็นแบบนี้ ต่างก็มีเสน่ห์ในอีกแบบหนึ่ง

เวลานี้เอง บอดี้การ์ดที่คอยเฝ้าหน้าลิฟต์มีการผลัดเปลี่ยนเวร ยามพอดี พลันมีเสียงก๊อกแก๊กดัง จากนั้นก็มีเสียงคนพูด “ข้าง นอกมันหนาวจริงๆ แต่ข้างในห้องมันอบอุ่น…”

คนคนนั้นเพิ่งพูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียว ก็ค้างเติ่งทันที คนที่เป็นคนพูดออกมา พลันเหลือบมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็ เห็นจงจึงห้าวอยู่ตรงทางเดิน…

จากนั้นก็มองจนลืมว่าจะพูดอะไรออกไปแล้ว

อีกสามคนก็รู้สึกอึดอัด เพราะเขาเอาแต่จ้องอะไรอยู่ก็ไม่รู้จน ตาค้าง จนเกิดความแปลกใจ พลางยื่นศีรษะออกไปดูทางนั้น จากนั้นก็….

หลินซินเหยียนเหมือนจะรู้ว่ามีคน เธอรีบผลักจงจึงห้าวออก

“อื้อ?”

หลินซินเหยียนกระซิบพูด “เมื่อกี้นี้เหมือนมีคนคุยกันอยู่หรือ

เปล่า?”

จงจิ่งห้าวหันศีรษะไปทันที
พวกเขาไม่คิดว่าจงจึงห้าวจะหันกลับมาทันที เวลาฉับพลันเช่น นั้นต่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี ต่างยืนอึ้งกันไปทั้งหมดเพราะกลัว ว่าเขาจะโมโหใส่ อยากจะอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่ก็ไม่รู้ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี

สีหน้าของหลินซินเหยียนแดงแจ๋ รายกับถูกไฟเผามา เธอก้ม

หน้าลง พลางจับชายเสื้อของจงจึงห้าวเอาไว้

นี่มันช่างขายหนาชะมัดเลย

ตอนที่เขาก้มหน้าลงมาก็เห็นใบหน้าของหลินซินเหยียนแดง แจ เขาดึงคนเข้าสู่อ้อมอกทันที จากนั้นก็พูดเสียงเข้ม “หันศีรษะ กลับไปทั้งหมด”

เขารู้ว่าหลินซินเหยียนเป็นคนหน้าบางมาก

เดี๋ยวต้องรู้สึกเขินอายตอนที่จ้องมองคนเหล่านี้

ชายหนุ่มทั้งสี่คน เหมือนกับนัดหมายกันเช่นนั้น ยืนเป็นแถว และรีบหันตัวไปพร้อมกันทันที

หลินซินเหยียนก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปด้าน ในห้องแล้ว เธอก็รีบผลักจงจึงห้าวออกทันที

“ผิดที่คุณนั่นแหละ”

ไม่ดูกาลเทศะเลย

จงจึงห้าวโน้มตัวลงมามองเธอ จนใบหน้าของเธอแดงแจ๋ทําไมถึงได้อายถึงขนาดนี้เนี่ย?

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก เหมือนกับสาวน้อยแรกรุ่น เพิ่งจะมี ความรักจนอายม้วนตัวน

ใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้ม พร้อมทั้งยื่นมือออกไปจับ ใบหน้ารูปไข่ของเธอ “ผมให้พวกเขาหันหลังไปแล้ว ไม่มีคนเห็น

คุณแล้ว”

“เห็นกันหมดแล้วนะสิ” หลินซินเหยียนจ้องมองเขาตาเขม็ง ด้วยความโกรธเคือง

เขาใช้มือเหนี่ยวรั้ง เพื่อโอบให้คนเข้ามาอยู่ในอ้อมอก “มอง เห็นก็มองเห็นไป

“ปล่อยนะ” หลินซินเหยียนผลักเขาออก

จงจิ่งห้าวไม่ยอมปล่อย ในทางกลับกันยังกอดซะแน่นมาก แถมยังพูดหยอกล้อ ใส่ “ผมชอบตอนเวลาที่หน้าคุณแดงแบบนี้”

คนคนนี้ทำไมถึงน่ารังเกียจถึงขนาดนี้เนี่ย?

“พ่อกับหม่ามีพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?” เด็กน้อยสองคน ที่อยู่บนเตียง หยุดเล่นกันด้วยความสนุกสนานทันที พร้อมทั้ง จ้องมองจงจิ่งห้าวและหลินซินเหยียนในเวลาเดียวกัน

หลินลุยเอามือปิดตาไว้ แต่ก็แยกช่องนิ้ว เพื่อแอบมองและ พูดว่า “คุณพ่อกับหม่ามีจะเล่นจูจุ๊บกัน จนหน้าแดงแจ๋เลย หน้า แดงแจ๋เลย”
“ล่อแหลมเกินดูไม่ได้นะ ดูไม่ได้” หลินเฉินเอามือมาปิดติด ตาน้อสาวเอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ปิดตาตนเองแทน “พวกคุณต่อ กันเลย ต่อเลย พวกเราไม่มีแอบดูแน่นอน”

หลินซินเหยียนสบตาจงจึงห้าว จากนั้นก็มองไปทางเด็กสอง คนที่ยืนอยู่บนเตียง จนเคอะเขินขึ้นมาทันที

หลินซีเฉันคิดอยู่ในใจ คุณพ่อกับหม่ามีความรู้สึกที่มีต่อกันดี

ขนาดนี้กันแล้วเหรอ?

แต่ว่าแบบนี้ก็ดีนะ ต่อไปครอบครัวของพวกเขาทั้งสี่คนก็จะอยู่ ด้วยกันแล้ว

“หม่ามีน้องชายหรือน้องสาวให้กับผมกับน้องสาวสิ” น้ำ เสียงของหลินซีเฉินดังเล็ดลอดออกมาจากช่องนิ้วมือ

หลินซินเหยียน “…”

หางตาของจงจิ้งห้าวปรากฏร่องรอยยิ้ม คำพูดนี้เขาพอใจมาก พอใจเป็นอย่างมาก

เลือดเนื้อเชื้อไขที่มาจากเขา เข้าใจความคิดของเขา ไม่เสีย

แรงที่เป็นลูกชายของเขา “คุณได้ยินแล้วใช่ไหม?” จงจิ่งห้าวกอดคอเธอเอาไว้แน่น

ใบหน้าเพิ่งจะหายแดงของหลินซินเหยียน เริ่มกลับมาแดงขึ้น อีกครั้ง พร้อมทั้งกระซิบพูด “คำพูดของเด็กๆ คุณก็อย่าเก็บไป คิดเป็นจริงเป็นจังเลย?”
“แล้วทำไมผมจะคิดเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ล่ะ?” จงจิ่งห้าวพูด อย่างจริงจัง

หลินซินเหยียน “……”

“อย่าก่อกวนเลย” หลินซินเหยียนแกะมือของเขาออก “สอน เด็กผิดๆ นะ”

เธอเดินไปถึงข้างเตียงนอน พร้อมทั้งไปจับมือของหลินเฉิน และพูดอย่างเคร่งขรึม “เป็นเด็กเป็นเล็กอย่างพูดเลอะเทอะนะ”

“หม่ามี้ผมไม่ได้พูดเลอะเทอะ” หลินเฉินดึงต้นคอของหลิน นเหยียนและกระซิบพูดข้างหูเธอ “ผมอยากให้หม่ามีกับคุณพ่อมี ลูกอีกสักคนหนึ่ง แบบนี้หม่ามีกับพ่อก็จะได้อยู่ด้วยกัน ไม่ต้อง แยกจากกันแล้ว”

ที่แท้เจ้าเด็กนี่ก็กลัวการที่พวกเขาต้องแยกจากกันนี่เอง หลิน นเหยียนยื่นมือออกไปลูบคลำศีรษะของเขา “เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ ต้องคิดมาก”

“งั้นหม่ามี คืนนี้หม่ามีมานอนกับพวกเราด้วยได้ไหม” หลินซี เฉินดึงมือของเธอให้ขึ้นไปบนเตียง

“หม่ามี้ยังไม่ได้อาบน้ำ…

“ไม่ต้องอาบหรอกหนูไม่รังเกียจที่หม่ามีสกปรก

หลินซินเหยียน “

“คุณพ่อ คุณพ่อก็นอนกับพวกเรานะ” หลินลุยซีกระโดดเด้งดึงอยู่บนเตียงนอนสปริงจนมันสูงมาก จนจงจึงห้าวกลัวว่าเธอจะ ตกลงมา จึงได้คว้าเธอเอาไว้ “ช้าๆ หน่อย

เด็กสาวอารมณ์มาก พลันโอบเขาเอาไว้ “หนูไม่ล้มหัวทิ่ม หรอกค่ะ คุณพ่อก็นอนกับหนูนะ”

จงจิ่งห้าวเหลือบตามองหลินซินเหยียนอย่างไม่มีใครรู้ จาก นั้นก็ยิ้มให้ถือเป็นการตอบรับ

เตียงนอนภายในโรงแรมมันกว้างมาก แต่นอนกันทั้งสี่คน ถือว่าเบียดกันอยู่ แต่ว่าเด็กทั้งสองคนมีความสุขมาก หลินซินเห ยียนกับจงจิ่งห้าวไม่อยากจะให้เด็กๆ ผิดหวัง เลยเบียดกันนอน

พวกเขาสองคนนอนริมของเตียงทั้งสองข้าง เด็กๆ นอนอยู่ ตรงกลาง

แสงไฟสีส้ม ทอประกายความอบอุ่นออกมา ทำให้บรรยากาศ

ในห้องอบอวลไปด้วยความอบอุ่นทั่วทั้งห้อง

เด็กทั้งสองคนไม่รู้ว่าตื่นเต้น หรือเป็นเพราะว่าอารมณ์ดีกันแน่ จนถึงขั้นนอนไม่หลับ พร้อมทั้งวุ่นวายให้หลินซินเหยียนเล่า นิทานให้พวกเขาฟังอย่างไม่หยุดหย่อน

หลินลุยซีอยู่ในอ้อมกอดของจงจึงห้าว “คุณพ่อ หนูอยากฟัง นิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทรา”

หลินซีเฉิน “…”

น้องสาวยังคงไร้เดียงสาตามประสาเด็กอยู่เช่นนั้น
แต่ว่ายากนักที่ทุกคนจะมารวมตัวด้วยกันในวันนี้ได้ บรรยากาศดีขนาดนี้ เขาเองก็อยากจะฟังด้วยคน

จงจิ่งห้าวเม้มริมฝีปาก เจ้าหญิงนิทราเหรอ?

เมื่อเห็นว่าจงจึงห้าวยังลังเลอยู่หลินลุยซีเลยถามกลับ “คุณพ่อ คุณพ่อเล่านิทานไม่เป็นใช่ไหมคะ?”

จงจิ่งห้าวตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะว่าเขาเล่านิทานไม่เป็น จริงๆ ตอนที่เขาเป็นเด็กที่เป็นผู้ชาย ตอนเด็กก็ไม่มีใครเคยมา เล่านิทานแบบนี้ให้เขาฟัง พอโตขึ้นก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสิ่ง นั้นเลย บางครั้งก็ได้ยินมาบ้าง ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระตาม ประสาเด็ก

“เอ่อคือ…”

หลินซินเหยียนแก้ไขความลำบากใจให้เขา “เสี่ยวลุ่ย หม่ามี เล่าให้หนูฟังเองดีไหม?”

หลินลุยซึกะพริบตาปริบๆ พร้อมทั้งมุ่ยปากเล็กๆ “คุณพ่อโง่ จัง ขนาดเจ้าหญิงนิทราก็ไม่รู้จัก

จงจิ่งห้าว “.….

เขาถูกลูกสาวรังเกียจรังงอนเสียแล้วเหรอเนี่ย?

หลินซินเหยียนได้แต่ลูบเส้นผมของลูกสาวอย่างเบื่อหน่าย

“ให้หม่ามีเล่าดีกว่า” สาวน้อยหันศีรษะกลับไปมองจงจึงห้าว “คุณพ่อฟังเอาไว้นะ คราวหน้าคุณพ่อต้องเล่าให้หนูฟัง”
จงจึงห้าวพยักหน้า แถมพูดเออออห่อหมกตามน้ำไป “ได้สิ”

หลินซินเหยียน ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “นานมาแล้ว มีปราสาทหลัง หนึ่ง ในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก มีเสียงเด็กร้องไห้ ดังไปทั่วทั้ง ปราสาท … พระราชินีคลอดองค์หญิงให้กับพระราชา พระราชา ทรงต้อนรับองค์หญิงองค์แรกของพระองค์ ด้วยเหตุที่พระราชา ทรงรักพระราชินีเป็นอย่างมาก ดังนั้นพระราชาหลงรักองค์หญิง เฉกเช่นรักพระราชินี”

ยามเมื่อองค์หญิงมีอายุครงหนึ่งปี พระราชาก็ได้เชื้อเชิญเหล่า มนุษย์กับนางฟ้ามาเพื่ออวยพรให้กับองค์หญิง แต่ไม่ได้เชิญ แม่มดร้าย

นางฟ้าร่ายคาถาให้องค์หญิง นางฟ้าคนที่หนึ่งให้พรให้องค์ หญิงทรงมีศิริโฉมที่งดงาม

นางฟ้าองค์ที่สองให้พรแก่องค์หญิงทรงมีสติปัญญาอันเฉลียว

ฉลาด

นางฟ้าองค์ที่สามให้พรแก่องค์หญิงทรงมีความกล้าหาญ ตอนที่นางฟ้าองค์ที่สี่กำลังร่ายคาถาอยู่นั้น ทั้งปราสาทก็มี คลื่นลมดาทะมึนปกคลุมไปทั่ว แม่มดร้ายแต่งชุดสีดำปกปิด ศีรษะ พร้อมทั้งใส่หมวก ในมือก็มีไม้เท้าอันหนึ่ง

เธอค่อยๆ เดินเข้ามาในปราสาท เพราะว่าพระราชาไม่ได้เชิญ เธอมาร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดขององค์หญิง ความ เคียดแค้นคับอก จนสาปแช่งองค์หญิงทันที “องค์หญิงจะถูกเข็ม ปั่นด้ายทิ่มนิ้วมือและเสียชีวิตทันที…
หลินซินเหยียนยังไม่ทันเล่าจบเลย หลินลุยซีก็นอนหลับสนิท แล้ว

แถมยังหลับลึกอีกต่างหาก หลินซินเหยียนยื่นมือออกไปลูบ ใบหน้าของเธอ เธอไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่า ลูกสาวนอนหลับด้วยความน่ารักน่าชัง ได้แต่ยิ้มออกมาทันที

ตอนที่เธอดึงมือกลับมา มือของจงจึงห้าวก็ประกบลงบนด้าน หลังฝ่ามือของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมา จนหลอมสายตาเข้ากับเขา พอดี

“พวกคุณอยากทําอะไรก็ทำนะ คิดว่าผมไม่อยู่ก็แล้วกัน” หลิน ซีเงินดึงผ้าห่มขึ้นมา เพื่อปิดตนเอง แถมยังหลับตาอีกต่างหาก ราวกับเป็นการส่งสัญญาณให้พวกเขาว่า เขาหลับไปแล้ว

จงจิ่งห้าว “.……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ