กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่296 เห็นคุณร้องไห้แล้วผมไม่สบายใจ



บทที่296 เห็นคุณร้องไห้แล้วผมไม่สบายใจ

ท่าทางของซูจ้านซะงักไว้ ค่อยๆดึงตัวกลับ ไม่รู้เพราะอะไร เขาถึงไม่กล้าสารภาพกับฉันยาว่าเขาไปเจอหลิวเฟยเฟยมา

แทบจะพูดโกหกด้วยสัญชาตญาณ “ผมไปเจอลูกค้าคนนึง เลยลืมครับ”

ฉันยากำลังรอคำสารภาพของเขา แต่แล้วกลับรอมาซึ่งคำ

โกหกของเขา

หัวใจเธอตกลงไปในก้นบึงทะเลสาบ เธอว้าวุ่นมาก และ ลนลานมาก ความสัมพันธ์เธอไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี

เธอลุกขึ้น เดินไปหยิบเสื้อที่หน้าตู้เสื้อผ้า ซูจ้านกอดมาจาก ด้านหลัง “คุณเป็นอะไรไปครับ? ผมดูคุณอารมณ์ไม่ดีเลย

ฉันยาขัดขืนออกจากเขา “ฉันไปนอนที่ห้องอื่น ซูจ้านดึงเธอไว้ “คุณทำอะไรครับ?”

เพิ่งแต่งงานก็แยกกันนอน ถ้าท่านย่ารู้เข้าจะต้องเป็นห่วงอีก แน่เลย

“วันนี้ฉันเหนื่อยมาก” น้ำเสียงของจินยาแฝงด้วยเสียงสะอื้น

ในใจเธอกล้ำกลืน
ซูจ้านรู้สึกใจไม่ดี เขายื่นมือกุมแก้มของเธอไว้ เธอไม่อยาก ร้องไห้ออกมา แต่ก็อดไม่ได้ นาทีที่บ้านสัมผัสเธอ ความ กล้ำกลืนที่เธอระงับไว้ในใจได้พุ่งขึ้นไปจุดสูงสุด เธออดไม่ได้

เห็นเธอร้องไห้ ซูจ้านชักจะลนลานใจแล้ว เขายื่นมือไปเช็ด น้ำตาให้เธอ “คุณเป็นอะไรไป? บอกผมมา ได้รับความกล้ำกลืน จากที่ร้านเหรอ? หรือว่าถูกลูกค้ากลั่นแกล้ง?”

ฉันยายิ่งร้องไห้ยิ่งหนัก

“หยุดร้องได้แล้ว เห็นคุณร้องไห้ผมไม่สบายใจเลย ถ้าได้รับ ความกล้ำกลืนก็ไม่ต้องทำแล้ว ผมเลี้ยงคุณเอง” ซูจ้านเช็ดน้ำตา

ให้เธอทีแล้วที่เล่า

ฉินยาหลุบตาลง “ไม่ต้องให้คุณมาเลี้ยง ฉันเลี้ยงตัวเองได้ ฉัน แค่นึกถึงเรื่องที่เศร้าใจบางอย่าง ถึงควบคุมตัวเองไม่ได้…….

ซูจ้านกอดเธอเข้ามาในอ้อมกอด “อย่าไปคิดเลยนะ”

“คุณจะโกหกฉันหรือเปล่าคะ?” ฉันยาถาม

ร่างกายของซูจ้านเกร็งไปทั้งตัว ไม่นานก็กลับมาปกติพร้อม พูดว่า “ไม่ครับ”

ฉินยาหายใจลึกๆ “ฉันให้โอกาสฉันสองครั้ง

และให้โอกาสซูจ้านสองครั้ง ถ้ามีอีกครั้งนึง พวกเขาก็หย่ากัน ก็ถือซะว่า ให้เกียรติกับชีวิตคู่นี้

“ทำไมคุณต้องให้โอกาสคุณสองครั้ง?” ซูจ้านฟังแล้วค่อนข้างมึนงง

“ไม่มีอะไรค่ะ” เธอขัดขืนออกจากอ้อมกอดของซูจ้าน

“ฉันอยากอยู่คนเดียว ฉันไปนอนที่ห้องอื่น

ซูจ้านดึงตัวเธอไว้ “คุณไปนอนที่ห้องอื่น ให้คุณย่าเห็นเข้าจะ ต้องเป็นห่วงพวกเราแน่นอน คิดว่าความรักของเราสองคนมี ปัญหา เอาอย่างนี้ วันนี้คุณอารมณ์ไม่ดีผมไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณ คุณอย่าไปได้มั้ย?”

ฉินยาปากแข็ง เธอไม่อยากเห็นหน้าบ้าน เห็นหน้าเขาทีไรก็ จะทำให้นึกถึงหลิวเฟยเฟยทุกที

“หรือไม่เอาอย่างนี้ ผมนอนบนพื้น ไม่นอนบนเตียงกับคุณ คุณ อย่าไปได้มั้ยครับ?” ซูจ้านพูดเสียงต่ำ

“คุณดูคุณย่าอายุปูนนี้แล้ว ผมไม่อยากให้ท่านเป็นห่วงผม”

พูดถึงตอนท้าย น้ำเสียงของซูจ้านก็นอบน้อมถ่อมตนลง

ฉินยาหันมามองซูจ้าน ปากบอกว่ากลัวคุณย่าเสียใจตลอด แล้วในใจไม่อยากให้เธออยู่ต่อเหรอ?

เธอยิ้มอย่างขมขื่น “โอเค”

ในเมื่อตัดสินใจจะให้โอกาสเขาอีกครั้งแล้ว ถ้าอย่างนั้น ก็ ต้องทนกับความเจ็บปวดเศร้าโศกของครั้งนี้ไปให้ได้

เธอเป็นคนใจอ่อนเกินไปเอง ตอนนั้นตกลงแต่งงานกับเขา ตอนนี้ความทุกข์ที่เธอก่อขึ้นมาเองก็ต้องรับไว้เอง
เธอถือเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำ

ซูจ้านรู้สึกได้ว่ามีปัญหา แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าตรงไหนมี ปัญหา ทันใดนั้นสมองเขาปิ้งขึ้นมา เขาล้วงมือถือออกมาเช็ค ประวัติการโทร เธอไม่ได้โทรมาหาเขา นั่นก็หมายความว่าเธอ ไม่มีทางรู้ว่าวันนี้เขาได้เจอกับหลิวเฟยเฟย

แต่อารมณ์ของฉินยาผิดสังเกตอย่างเห็นได้ชัด หรือจะเพราะ เรื่องที่เจอหลิวเฟยเฟยเมื่อช่วงกลางวัน

จนถึงตอนนี้เธอก็ยังจำฝังใจ

ฉินยาเป็นแบบนี้ ทำให้ซูจ้านกระวนกระวายใจมากๆ เขาหยิบ มือถือ โทรหาหลินซินเหยียน

อยากถามดูว่าวันนี้ฉินยาอยู่ที่ร้านก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือ

เปล่า

วันนี้หลินซินเหยียนได้ไปที่ร้านอยู่ เธอออกไปนานขนาดนั้น กลับมายังไงก็ต้องไปดูสถานการณ์ของในร้านดู ค่อนข้าง เงียบเหงา

ช่วงที่เธอไม่อยู่ ไอรอนเคยรับไปหลายออเดอร์ มีลูกค้าที่มา เพราะชื่อเสียงของเธอ แต่เพราะเธอไม่อยู่ เลยรักษาลูกค้าเอาไว้ ไม่ได้

หลินซินเหยียนอยู่ในร้านทั้งวัน ด้านนึงคือเพื่อให้ตัวเองสงบ สติอารมณ์กับเรื่องของจวงจื่อจีน ที่สองคือ อยากคิดหาวิธีให้ ธุรกิจของร้านดีขึ้น แบบนี้รายรับของไอรอน ฉินยาและพนักงานของร้านถึงจะสามารถกระเตื้องขึ้น

อีกอย่าง ค่าใช้จ่ายรายวันของร้านค้า พวกนี้ล้วนต้องใช้เงิน ทั้งนั้น

จงจิ่งห้าวมี แต่เธอไม่อยากพึ่งพาผู้ชาย

เธอตัดสินใจหลังตรุษจีนจะจัดแฟชั่นโชว์งานนึงเพื่อดึงดูด ลูกค้า อีกด้านนึง คือ ให้คนมาดูความสามารถของดีไซน์เนอร์ใน ร้านพวกเธอด้วย

เธอสงบสติอารมณ์มาหนึ่งวัน ตกดึกถึงตัดสินใจไปตระกูล หลินพร้อมกับจงจึงห้าว

ตอนลงจากรถมือถือของเธอดังขึ้น ในสายโชว์ว่าเป็นสาย เรียกเข้าจากซูจ้าน

ซูจ้านโทรมาหาเธอทำไม?

เธอเงยหน้ามองจงจึงห้าว

จงจิ่งห้าวปิดประตูรถแล้วเดินมาทางนี้ “ใครโทรมา?”

“ซูจ้านค่ะ” หลินซินเหยียนตอบ

“เขาโทรมาทำไม?” จงจึงห้าวมองหน้าจอมือถือเธอแว๊บนึง

หลินซินเหยียนส่ายหัว “ไม่รู้ค่ะ”

พอพูดจบ เธอก็ได้กดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล”

“พี่สะใภ้ ผมเองครับ ”
หลินซินเหยียนตอบว่าอึม

“วันนี้ฉินยาอยู่ที่ร้าน อารมณ์ค่อยไม่ดีใช่หรือเปล่าครับ?” ซู

จํานถาม

หลินซินเหยียนขังตัวเองอยู่ในออฟฟิศตลอด ช่วงเวลาทาน ข้าวเที่ยงได้เจอฉินยา ดูแล้วก็อารมณ์ดีอยู่หน้

“เปล่านะ” แต่ซูจ้านถามคำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าฉันยาอารมณ์ ไม่ดี “พวกนายงอนกันเหรอ?”

ซูจ้านรีบปฏิเสธ “เปล่าครับ ผมเห็นเธออารมณ์ไม่ค่อยดี ผมก็ เลยครุ่นคิดอยู่ว่าเธอเจอเรื่องที่ไม่สบอารมณ์ในร้านหรือเปล่า”

“ไม่มีนะ” หลินซินเหยียนพูด

“อ๋อ งั้นไม่เป็นไรครับ ผมวางสายก่อนนะ”

หลินซินเหยียนตอบลืมเสร็จก็ได้วางสาย

จงจึงห้าวที่อยู่ใกล้เธอ ได้ยินสนทนาของเธอกับซูจ้าน จึงไม่ได้ ถามอะไร แต่ได้กอดเธอไว้ “ทุกอย่างมอบให้ผมจัดการเอง

หลินซินเหยียนพยักหน้า

เธอก็ยังรู้สึกว่าจวงจื่อจีนไม่ควรแต่งงานกับหลินกั๋วอันอีกครั้ง

อยู่ดี

จู่ๆจวงจื่อนยอมแต่งงานกับหลินกั๋วอันอีกครั้ง จะต้องเพราะ หลินกั๋วอันข่มขู่หรือว่าอย่างอื่นแน่เลย สรุปก็คือ จวงจื่อจีนไม่ได้ สมัครใจเอง
วันนี้เธอมา ก็เพื่อมาถามให้รู้แน่ชัดไปเลย

“ไปกันเถอะ” จงจึงห้าวกอดหลินซินเหยียนเดินผ่านพื้นหิน กรวดมายังหน้าวิลล่า

ก่อนหน้านี้ได้ขายวิลล่าหลังนี้ไปแล้ว ต่อมาหลินกั๋วอันได้ซื้อ คืนมาใหม่อีกครั้ง

ตอนนี้ ยังคงเป็นวิลล่าของตระกูลหลินอีกเช่นเคย

ดึงด่อง

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น

ที่บ้านมีแม่บ้านอยู่ แม่บ้านเป็นคนมาเปิดประตูให้ เพราะเป็น แม่บ้านที่เพิ่งมาใหม่ จึงไม่รู้จักจงจึงห้าวกับหลินซินเหยียน เลย ถามว่า “พวกคุณมาหาใครคะ?”

หลินซินเหยียนมองเข้าไปในบ้าน จวงจื่อจีนกับหลินกั๋วอัน กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกพอดี บนโต๊ะมีผลไม้วางอยู่ ดู รักใคร่ปรองดองกัน เหมือนสามีภรรยาที่รักกันหวานชื่นจริงๆ

“ใครมา?” หลินกั๋วอันมองมาที่หน้าบ้าน เห็นว่าเป็นหลินซินเห ยียนกับจงจิ่งห้าว ได้ลุกขึ้นมาจากโซฟาทันทีพร้อมสีหหน้ายิ้ม แย้ม “เหยียนเหยียนกลับมาแล้วเหรอ

เขาตำหนิแม่บ้านคำนึง “นี่มันอะไรกัน? เหยียนเหยียนกลับมา ทำไมไม่ให้คนเข้ามา

แม่บ้านก้มหน้าแล้วถอยไปข้างๆ
หลินกั๋วอันยิ้มอย่างประจบประแจง “ต้องขอโทษประธานจง ด้วยนะครับ แม่บ้านคนนี้เพิ่งมาใหม่ เลยไม่รู้จักคนครับ

แม่บ้านก่อนหน้านี้ของตระกูลหลิน ตอนที่ตระกูลหลินเจอ ความล่ามากครั้งนั้นก็ได้เลิกจ้างไปหมดแล้ว

จูงจึงห้าวไม่ได้ตอบอะไรเขา ถ้าไม่ใช่หลินซินเหยียน เขาก็ไม่

มาหรอก

ยิ่งไม่อยากคบค้าสมาคมกับอย่างคนหลินกั๋วอันหรอก หลินกั๋วอันก็ไม่อึดอัด ได้พูดด้วยรอยยิ้ม “รีบเข้ามาเร็ว หลินซินเหยียนเดินเข้ามา จวงจื่อจีนตื่นเต้นและได้ลุกขึ้นมาตาม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ