กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่ 511 ให้พ่ออุ้มลูกด้วยไหม



บทที่ 511 ให้พ่ออุ้มลูกด้วยไหม

จงจึงห้าวกอดเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ลูบ หลังของเธอ ค่อยๆ ลูบไปเรื่อยๆ

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ กลิ่นจางๆแต่ว่าก็ไม่ได้ เหม็นอะไร เขาขยับเข้าไปใกล้หูของลูกสาวตัวเอง น้ำเสียงของ เขาเต็มไปด้วยความปวดใจและความทะนุถนอม เขาอ่อนโยน เป็นอย่างมาก “หนูร้องไห้แบบนี้ เดี๋ยวก็ขี้เหร่หมดหรอก”

จงเหยียนซีนั้นใส่ใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเองมาก เธอ ชมมาตั้งแต่เด็กๆ ทนไม่ได้ที่จะต้องหน้าตาขี้เหร่หรอก เธอถาม อย่างสะอึกสะอื้นพร้อมกับน้ำตาที่นองเต็มหน้า “ขี้เหร่ตรง ไหน? ”

“ถ้าเกิดว่าลูกร้องไห้อีกก็จะขี้เหร่แล้ว” จงจึงห้าวยื่นมือออกมา ยื่นนิ้วไปเช็ดน้ำตาที่มุมตาของเธอ “เสี่ยวลุ่ยต้องเป็นเด็กดีนะ ไม่ ต้องร้องไห้แล้ว”

เขาเรียกชื่อนี้จนชินแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ซื้อหลินลุยซีแล้ว เขาก็ยังคงชอบชื่อนี้อยู่ ลุ่ย ฮวาลุ่ย เป็นชื่อที่ดูมีเสน่ห์ที่สุด เหมาะสมกับลูกสาวสุดที่รักของเขา

จงเหยียนซีสูดน้ำมูก มองหน้าจงจึงห้าวผ่านม่านน้ำตา ร้องไห้ สะอึกสะอื้นพลางถามว่า “แด๊ดดี้คะ หรือว่าแด๊ดดี้ไม่ชอบที่หนู ขี้เหร่ ก็เลยไม่ต้องการพวกเราแล้ว……..
พอเธอพูดออกมานั้นน้ำตาก็ไหลออกมา กว่าจะได้มีพ่อนั้นไม่ ง่ายเลย แต่ว่าเพิ่งจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานก็ต้องแยกจากกันแล้ว ในช่วงเวลานี้เธอรู้สึกคิดถึงพ่อมาก

ฮือฮือ—

ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเศร้าใจ

คำพูดของเธอแทงเข้าไปในป้อมปราการในหัวใจของจงจึง ห้าว ไม่ว่าจะตอนไหนเขาก็ไม่เคยต้องไม่การพวกเขาเลย จะทุกข์ ใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เขาเอาหน้าผากชนกับลูกสาว จูบไปที่จมูก และปากของเธอ “ไม่เลย เสี่ยวลุยไม่ได้ขี้เหร่ เสี่ยวลุ่ยเป็นเด็กผู้ หญิงที่สวยที่สุดในโลกใบนี้แล้ว เป็นที่รักของพ่อ

“แด๊ดดี้คะ”จงเหยียนซีกอดคอของเขาแน่น ใบหน้าเล็กๆ ที่ฝัง อยู่ในบ่าของเขาก็ร้องไห้ จงจึงห้าวปลอบใจเธอด้วยความอดทน เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเศร้าโศก

ชาวหยุนที่อยู่ด้านข้างนั้นสตั้นไปทันที เขาจ้องมองไปที่ผู้ชายที่ อุ้มจงเหยียนซีอยู่ ในใจก็คิดว่านี่มันเรื่องอะไรกัน? ไอ้ ไอ้ ปัญญาอ่อนคนนี้ไม่ใช่สิ ผู้ชายคนนี้คือพ่อของจงเหยียนซี อย่างนั้นเหรอ?

เขาก้มหน้ามองจงเหยียนเฉินที่อยู่ด้านข้าง ใช้สายตาในการ สอบถามว่า นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

เขาขมวดคิ้ว สีหน้าดูตลกมาก “คนคนนี้คือพ่อของพวกเธอ จริงๆ เหรอ?
จงเหยียนเฉินพยักหน้าอย่างแน่วแน่มาก “ใช่ครับ”

ชาวหยุน”.………….

วันนั้นเห็นเขานั่งอยู่ที่นี่ นั่งยิ้มเหมือนคนโง่ มันเป็นเพราะว่า อะไรกัน?

สายตาของชาวหยุนมองมาอีกครั้ง พอดีกับที่จงจึงห้าวหันมา มองเขาพอดีเหมือนกัน เพิ่งจะออกมาจากประตูคอนโด ก็เห็นเขา พาเด็กทั้งสองคนออกมา เขาเป็นใครกัน? เกี่ยวข้องอะไรกับหลิน ซินเหยียน?

ไม่ใช่คนสนิท หลินซินเหยียนก็ไม่มีทางให้เขาพาเด็กทั้งสอง คนออกมาหรอก ท่าทางที่เป็นกังวลของเขาเมื่อกี้นี้ ไม่ได้เหมือน เป็นการแสดง เขาเป็นห่วงเด็กทั้งสองคนนี้จริงๆ

ชาวหยุนหัวเราะแฮ่ๆ “สวัสดีครับ มาแล้วทำไมไม่เข้าไปล่ะ เห็นว่าคุณนั่งยิ้มอยู่ข้างถนนเหมือนคนบ้า ผมก็นึกว่า…….

เขาไม่ได้พูดคำว่าคนปัญญาอ่อนออกมา ดูท่าทางแล้วเขาไม่ เหมือนกับคนปัญญาอ่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

ต่อให้เขาไม่ได้พูดออกมา จงจึงห้าวก็รู้ว่าคำพูดที่จะมาต่อจาก นั้นไม่ใช่คำที่ดีเท่าไหร่ เสียงของเขาไม่เบาและไม่ดังเกินไป แต่ ว่าเต็มไปด้วยการสืบสวนสอบสวน “คุณเป็นใคร? ”

เขาไม่เคยเห็นคนคนนี้อยู่ข้างหลินซินเหยียนมาก่อน แล้วก็ไม่ เคยได้ยินว่าเธอมีเพื่อนหรือญาติอยู่ที่เมือง

เขาหรี่ตา ไม่ใช่ญาติของเหวินเสียน หรือว่า……..
เขามีการคาดเดาอยู่ในใจอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้จวงจื่อจีนกับ หลินกั๋วอันคือญาติของเธอ ตอนนี้ก็เป็นเหวินเสียนกลับจวงจื่อ ญาติของเหวินเสียนก็อยู่ที่เมืองทั้งหมด หรือว่าเขาเป็นญาติ ของจวงจื่อ ที่อยู่ที่นี่?

ข่าวหยุนยิ้ม “ผมก็ว่าพูดไปแล้วจะยาว เดี๋ยวเคลียร์ปัญหา เสร็จแล้ว พวกเราไปหาที่นั่งคุยกันหน่อยดีไหมครับ?

จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบอะไร ถือว่าเป็นการตกลง

ข่าวหยุนตบไหล่ของจงเหยียนเฉินเบาๆ “ทำตัวดีๆ นะ เดี๋ยว ฉันไปแป๊บเดียวเดี๋ยวกลับมา

คนขับรถที่เกือบจะชนคนยังยืนอยู่ตรงนั้นอยู่เลย เขาต้องไป สั่งสอนสักหน่อย ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าก็อาจจะยังประมาทเลินเล่อ แบบนี้ ไปทำให้คนอื่นบาดเจ็บเข้าก็เป็นบาปกรรมอีก

“อืม”จงเหยียนเฉิน พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง หลังจากที่ชาวหยุ นออกไปแล้ว จงจึงห้าวก็มองเขาแล้วก็ถามว่า “ช่วงนี้พวกลูก สบายดีใช่ไหม? ”

จงเหยียนเฉินพยักหน้า อารมณ์ตกเล็กน้อย “ดีมากครับ ผมกับน้องสาวไปโรงเรียน หม่ามีก็ยุ่งมาก ชีวิตสมบูรณ์แบบ มาก”

พอพูดจบเขาก็หันหน้าหนีไป เหมือนกับว่ารู้สึกอึดอัดใจ จงจิ่งห้าวลูบหัวเขาเบาๆ “โกรธแด๊ดดี้เหรอ? จงเหยียนเฉินเอี้ยวตัวหลบ แล้วก็ปัดมือของเขาออกพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา “เปล่า”

“หรือว่าหึงน้องสาว? ให้พ่ออุ้มลูกด้วยดีไหม? ” พอเขา อารมณ์เสีย จงจิ้งห้าวก็รู้แล้วว่าเขาเป็นอะไรไป

จงเหยียนเฉินเบะปาก “ผมเปล่าสักหน่อย! ”

“งั้นเหรอ?

“ใช่”

ที่จริงเขาก็แอบอิจฉานิดหน่อย สายตาของจงจึงห้าวมองแต่ น้องสาวของเขา เหมือนกับว่าลืมเขาไปเลย

เรื่องนี้มันทำให้เขาไม่แฮปปี้

โอ๊ย!

เสียงร้องดังออกมาจากอีกฝั่งนึง ขัดขวางการเผชิญหน้า ระหว่างคนสองคน ชาวหยุนไม่ได้เก็บความโกรธเอาไว้ เขาต่อย คนขับรถคนนั้น มือของเขาแรงเยอะมาก จนคนขับที่โดนเขาต่อย ก็ล้มลงไปกับพื้น

“ครั้งหน้าระวังให้ดีนะ ถ้ามีครั้งต่อไปฉันคงไม่พูดง่ายๆ แบบนี้ อีก” ชาวหยุนสีหน้าเย็นชา “ไสหัวไป คนขับรถรีบลุกขึ้นและปีนขึ้นรถไปในทันที

จงเหยียนเฉินมองดูสีหน้าที่โหดร้ายของชาวหยุน ก็กลืน น้ำลายลงคอ ปกติเขามีนิสัยเหมือนเด็ก แถมยังชอบยิ้ม เป็นคน ที่เข้าถึงได้ง่ายมาก ดังนั้นก็เลยสนิทกับเขาได้เร็ว รู้จักกันมาเดือนแต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่จงเหยียนเฉินเห็นเขาใช้ความรุนแรง แบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวเล็กน้อย นี่มันเหมือนคนละคนกัน เลย ตอนที่ข่าวหยุนเดินเข้ามานั้น เขาก็ถอยหลังโดยอัตโนมัติ จงจิ้งห้าวก้มตัวลงไปกับมือของเขาไว้

มือน้อยๆอยู่ในฝ่ามือของเขา

จงเหยียนเฉินเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร และก็ ไม่ได้สะบัดออก ถือว่ายอมคืนดีกับเขาแล้ว

“ผมรู้จักที่นึง เงียบสงบมาก พวกเราไปนั่งที่นั่นกันดีไหม? ชาวหยุนพูด

จงจิ่งห้าวกำลังอยากจะหาที่เงียบๆ เพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกทั้ง สองคนอยู่พอดี ยืนอยู่ริมถนนก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนด้วยครับ”

ข่าวหยุนรีบโบกมือทันที “ไม่รบกวนอะไรเลยครับ

เขากลับมามีรอยยิ้มที่ดูไม่อันตรายอีกครั้ง “ที่นั่นไม่ค่อยไกล เท่าไหร่ พวกเราเดินไปเอาแล้วกัน”

เขาเดินทางไป สถานที่นั้นก็คือร้านกาแฟ เพราะว่าที่นั่นมี ห้องส่วนตัวก็เลยเงียบสงบมาก ก่อนจะเข้าไปที่ห้องส่วนตัวชาว หยุนก็สั่งไอติม2 ก้อนจากพนักงาน เพราะว่าอากาศเริ่มร้อนขึ้น แล้ว ร้านกาแฟก็เลยเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆ

ห้องส่วนตัวไม่ค่อยใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ว่ายังโชคดีที่เงียบ ใน ห้องนั้นมีเครื่องปรับอากาศก็เลยไม่รู้สึกว่าร้อน จงจึงห้าวอุ้มลูกสาวแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ ข่าวหยุนก็นั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม

ตอนนี้เอง พนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามาพร้อมกับไอติมสองก้อน ไอติมถูกวางไว้ในถ้วยคริสตัลที่สวยงาม แถมเนื้อเนียนละเอียด มาก ตอนที่เสิร์ฟบนโต๊ะนั้น พนักงานก็เอ่ยปากถามเพิ่ม “ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ ? ”

จงจึงห้าวไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา พูดอย่างเรียบง่ายว่า “ผมขอน้ำ

เย็นแก้วนึงครับ”

พนักงานยิ้มและตอบว่า “ได้ค่ะ” หลังจากนั้นก็หันไปมองชาว หยุนแล้วถามว่า ” แล้วคุณล่ะคะรับอะไรเพิ่มไหม?

“ผมไม่เอาครับ ชาวหยุน โบกมือ

ใบหน้าของพนักงานยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอถือถาดและ ถอยออกไป

พอพนักงานออกไปแล้ว ชาวหยุนก็แทบรอไม่ไหวที่จะถาม

“คุณเป็นคนเมืองBเหรอ”

ไม่ใช่เพียงแค่จงจึงห้าวที่คาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของชาวหยุน ข่าวหยุนเองก็คาดเดาเกี่ยวกับจงจึงห้าวเหมือนกัน

จงจิ่งห้าวตอบรับ แล้วเขาก็พยายามพูดอ้อม “พวกเขายังเด็ก” ความหมายก็คือไม่อยากจะพูดเรื่องของผู้ใหญ่ต่อหน้าเด็ก แล้วอีกอย่าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับตัวตนของกัน และกัน แต่ว่าต่างฝ่ายต่างก็สามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย
ข่าวหยุนเองก็เป็นคนที่สายตาแหลมคมเหมือนกัน เขาเข้าใจ

ความหมายของเขาในทันที แล้วก็พูดอย่างรู้จักวางตัว ผมมีธุระ ให้ต้องจัดการ เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่นะ “ขอบคุณ” ทุกคนต่างก็เป็นคนฉลาด จงจึงห้าวรู้ว่าเขากำลัง

ให้เวลากับเขาอยู่

จงเหยียนเฉินมองดูไอติมที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วก็มีน้องสาว เบาๆ “เธออยากกินไอติมอยู่ไหม? ”

จงเหยียนซีถึงได้เงยหน้าขึ้นมาจากอ้อมแขนของจงจึงห้าว แล้วก็ถามว่า “ไอติมอยู่ไหน? “

จงจึงห้าวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี เด็กคนนี้ ยังเห็นแก่ กินขนาดนี้ เขาเช็ดใบหน้าของลูกสาวของตัวเอง แล้วก็อุ้มเธอ วางที่โซฟา ตอนนี้เองเธอก็เห็นไอติมที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นมือออก ไปหยิบซ้อน ตักขึ้นมา 1 คำแล้วก็ยื่นมาป้อนจงจึงห้าว “พ่อลอง ชิมดูสิคะ มันอร่อยนะ หม่ามีไม่ยอมให้หนูกินเยอะ หนูพยายาม หาวิธีอย่างมากกว่าคุณปู่ข่าวจะพาออกมาซื้อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ